เนย์มาร์
เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซังตุส ฌูนีโยร์ (โปรตุเกส: Neymar da Silva Santos Júnior; เกิดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลชาวบราซิล ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีฝีเท้าดีที่สุดในปัจจุบัน เขาเล่นให้กับสโมสรปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และทีมชาติบราซิลในตำแหน่งกองหน้า ภายหลังจากการย้ายทีมจากบาร์เซโลนาไปปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ทำให้เนย์มาร์เป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก 222 ล้านยูโร หรือ 198 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,910 ล้านบาท)
เนย์มาร์ในปี ค.ศ. 2018 | ||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลส่วนตัว | ||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซังตุส ฌูนีโยร์ | |||||||||||||||||||||||||||
วันเกิด | 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992 (29 ปี) | |||||||||||||||||||||||||||
สถานที่เกิด | โมฌีดัสกรูซิส บราซิล | |||||||||||||||||||||||||||
ส่วนสูง | 1.75 m (5 ft 9 in) | |||||||||||||||||||||||||||
ตำแหน่ง | กองหน้า | |||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | ||||||||||||||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง | |||||||||||||||||||||||||||
หมายเลข | 10 | |||||||||||||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | ||||||||||||||||||||||||||||
1999–2003 | โปร์ตูเกซาซังติสตา | |||||||||||||||||||||||||||
2003–2009 | ซังตุส | |||||||||||||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | ||||||||||||||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | |||||||||||||||||||||||||
2009–2013 | ซังตุส | 103 | (54) | |||||||||||||||||||||||||
2013–2017 | บาร์เซโลนา | 123 | (68) | |||||||||||||||||||||||||
2017– | ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง | 70 | (56) | |||||||||||||||||||||||||
ทีมชาติ‡ | ||||||||||||||||||||||||||||
2009 | บราซิล อายุไม่เกิน 17 ปี7 | 3 | (1) | |||||||||||||||||||||||||
2011 | บราซิล อายุไม่เกิน 20 ปี | 7 | (9) | |||||||||||||||||||||||||
2012–2016 | บราซิล อายุไม่เกิน 23 ปี | 14 | (8) | |||||||||||||||||||||||||
2010– | บราซิล | 110 | (68) | |||||||||||||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| ||||||||||||||||||||||||||||
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2021 ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2021 |
ในฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ ในการแข่งขันรอบแรกนัดสุดท้าย เนย์มาร์เป็นผู้ยิงประตูแรกให้แก่บราซิล ที่พบกับแคเมอรูนในนาทีที่ 17 ซึ่งประตูนี้นับเป็นประตูที่ 100 ของทีมชาติบราซิล และนับเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดที่ 100 ของบราซิลอีกด้วยแต่ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่บราซิลพบกับโคลอมเบีย แม้บราซิลจะเป็นฝ่ายชนะไป 2-1 แต่ก็ต้องได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังถึงขั้นร้าวเมื่อปะทะกับฮวน กามิโล ซุญญิกา กองหลังของโคลอมเบียที่กระโดดเข้าใส่ที่หลัง ทำให้ต้องหยุดเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ ซึ่งในรอบต่อมาบราซิลก็เป็นฝ่ายแพ้ต่อเยอรมนีไปถึง 1-7 ประตู ทำให้หมดสิทธิที่จะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ
เนย์มาร์เริ่มมีชื่อเสียงกับสโมสรซานโตสในบราซิล ซึ่งเขาเซ็นสัญญากับทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ เมื่ออายุ 17 ปี เขาช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์คัมเปโอนาโตเปาลิสตา 2 สมัยติดต่อกัน เนย์มาร์ได้รับการเสนอชื่อเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของอเมริกาใต้ถึงสองครั้งในปี 2011 และ 2012 และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ย้ายไปยุโรปเพื่อเข้าร่วมทีมบาร์เซโลนา ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสามประสานตัวหลักของทีม ร่วมกับ ลิโอเนล เมสซิ และลุยส์ ซัวเรส เนย์มาร์คว้าถ้วยโกปาเดลเรย์และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกร่วมกับสโมสร และ ได้อันดับสามในการประกาศรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์ในปี 2015 จากนั้นเขาก็คว้าแชมป์ลาลิกาในประเทศได้สองครั้งในปี 2015–16 ต่อมาในปี 2017 เนย์มาร์ย้ายไปปารีแซงต์ - แชร์กแมงด้วยมูลค่า 222 ล้านยูโรทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ตลอดการค้าแข้งที่ฝรั่งเศส เนย์มาร์คว้าแชมป์ลีก 3 สมัย แชมป์บอลถ้วยคูเป้เดอฟรองซ์ 2 สมัย และ คูเป้ดอลาลีก อีก 2 สมัย และได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นแห่งปีของลีกเอิงในฤดูกาลแรกของเขา เนย์มาร์พาทีมปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง คว้าแชมป์ 4 รายการได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2020-21 รวมทั้งผ่านเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกก่อนจะพ่ายให้กับ ไบเอิร์นมิวนิก
เนย์มาร์เป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นทีทำประตูให้ทีมชาติบราซิลสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ตลอดกาล จำนวน 68 ประตู เป็นรองเพียง เปเล่ ยอดตำนานรุ่นพี่ที่ทำไว้ 77 ประตู เขาคว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขันรายการ ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ ร่วมกับทีมชาติในปี 2013 โดยเขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในรายการดังกล่าวด้วย เขาประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บในรายการใหญ่สองรายการถัดมาได้แก่ ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ รวมทั้งรายการโกปาอเมริกา ปี 2015 ทำให้ไม่สามารถพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ได้ เนย์มาร์เป็นกัปตันทีมชาติบราซิลอย่างเป็นทางการในการแข่งขันฟุตบอลชายในโอลิมปิกเกมส์ปี 2016 รวมทั้งเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2018 ที่ ประเทศรัสเซีย
เนย์มาร์ถือเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่มีชื่อเสียงนอกสนามมากที่สุดคนหนึ่งของโลก SportsPro ยกให้เขาเป็นนักกีฬาที่โด่งดังในแง่การตลาดมากที่สุดในในปี 2012 และ 2013 และ อีเอสพีเอ็น ยกให้เขาเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดอันดับเป็นอันดับที่ 4 ของโลกในปี 2016 และ ในปี 2017 นิตยสารไทม์ได้จัดอันดับให้เขามีชื่ออยู่ใน 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก ในปี 2018 นิตยสาร France Football จัดอันดับให้เขาเป็นนักฟุตบอลที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก และในสองปีต่อมา (ค.ศ. 2019 - 2020) นิตยสารฟอบส์ ได้จัดอันดับให้เนย์มาร์เป็นนักกีฬาที่ได้รับค่าจ้างสูงทีสุดเป็นอันดับที่ 3 และ 4 ของโลกตามลำดับ
ชีวิตในช่วงต้น
เนย์มาร์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1992 ที่ โมกี ดาส ครูเซส เมืองเซาเปาลู ประเทศบราซิล โดยมีพ่อแม่ชื่อว่า เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซีเนียร์ อดีตนักฟุตบอล และ นาดิเน ซานโตส โดย ปัจจุบันพ่อของเขากลายเป็นที่ปรึกษาและผู้ดูแลเขาในเรื่องฟุตบอล (เอเย่นต์) เนย์มาร์ เติบโตมาพร้อมกับความรักในการเล่นฟุตซอล และ สตรีทฟุตบอล ซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่เด็กชาวอเมริกาใต้
เขาได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของซานโตส ในปี 2003 ก่อนที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่และประเดิมสนามเป็นครั้งแรกใน เกมที่ชนะ โอเอสเต้ 2001 เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2009 ในขณะที่อายุได้เพียง 17 ปี
สโมสรอาชีพ
ซานโตส
เนย์มาร์เริ่มเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรเยาวชนซานโตสในปี 2003-2009 จากนั้นก็ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของซานโตสตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2010 เนย์มาร์สร้างความฮือฮาด้วยการยิงคนเดียว 5 ประตูในเกมที่ช่วยให้ทีมชนะ ตือ กัวรานี่ 8-1 ก่อนที่ ซานโตส จะคว้าแชมป์เปาลิสต้า 2010 ไปครองหลังจากที่ชนะซานโต อังเดร ในรอบชิงชนะเลิศ และ เนย์มาร์ก็คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง เมื่อทำได้ถึง 14 ประตูจากการแข่งขัน 19 เกม ตลอดการลงเล่นทุกรายการให้กับซานโตส เนย์มาร์ลงเล่นไป 103 นัดยิงไป 54 ประตู
บาร์เซโลนา
วันที่ 24 พ.ค. 2013 ซานโตสออกมาประกาศว่าได้รับข้อเสนอซื้อตัวเนย์มาร์จากสองสโมสร ซึ่ง 3 วันถัดมาดาวยิงทีมชาติบราซิลก็ตกลงไปย้ายไปร่วมทัพบาร์เซโลน่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2013 ด้วยสัญญาระยะยาว 5 ปี โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2013 หลังจากผ่านการตรวจร่างกายกับทางทีมแพทย์ ค่าตัวการย้ายทีมอยู่ที่ราว 48.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2187 ล้านบาท) นับเป็นค่าตัวสูงที่สุดเป็นอันดับ 9 ในประวัติศาสตร์การซื้อขายผู้เล่น พร้อมกับค่าฉีกสัญญา 190 ล้านยูโร (ประมาณ 7,600 ล้านบาท)
ฤดูกาล 2013-2014
เขาทำประตูแรกให้กับทีมได้ในการแข่งขันกระชับมิตรกับทีมชาติไทย ณ สนามราชมังคากีฬาสถาน กรุงเทพมหานคร โดยบาร์เซโลนาเอาขนะทีมชาติไทยไปได้ 7-1 และ ได้ลงสนามในการแข่งขันทางการนัดแรกในเดือน สิงหาคม 2013 ในนัดที่พบกับเลบันเต โดยถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองแทนอาเลกซิส ซันเชส ในนาทีที่ 63 ซึ่งผลการแข่งขัน บาร์เซโลนาสามารถเอาชนะไปได้ 7-0 ต่อมาเขาสามารถประเดิมประตูแรกอย่างเป็นทางการให้กับทีมได้ ในการทำประตู อัตเลติโกเดมาดริด ในการแข่งขันนัดแรกรายการ ซูเปอร์โกปาเดอเรย์ โดยใช้เวลาเพียง 7 นาทีหลังจากถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ เปโดร โรดริเกซ และ ในวันที่ 18 กันยายน เขาได้ลงสนามในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นนัดแรกอย่างเป็นทางการในชีวิตการค้าแข้ง ในนัดที่บาร์เซโลนาเปิดบ้านเอาชนะ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ไป 4-0
6 วันต่อมา เนย์มาร์ทำประตูแรกในลาลิกาได้สำเร็จ ในนัดที่ เอาชนะ เรอัลโซซิเอดัด 4-1 และ ในวันที่ 26 ตุลาคม เขาลงสนามในศึก เอลกลาซิโก ซึ่งเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างบาร์เซโลนา และ เรอัล มาดริด เป็นครั้งแรก โดยสามารถทำได้ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ ช่วยทีมคว้าชัยชนะไปได้ 2-1 ที่สนาม กัม นอว์ และ ในเดือนธันวาคมปีเดียกันนั้น เขาสามารถทำแฮตทริกหรือการยิง 3 ประตูให้บาร์เซโลนาได้เป็นครั้งแรก ในนัดที่ชนะ กลาสวโกว์ เซลติก ทีมจากสก็อตแลนด์ ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกไป 6-1 ในฤดูกาลแรกของเขา บาร์เซโลนาจบฤดูกาลด้วยการคว้าถ้วยชนะเลิศ ซูเปอร์โกปาเดลเรย์ ได้เพียงรายการเดียว และ คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศในลาลิกา และ โคปา เดอเรย์
ฤดูกาล 2014-2015
ในวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 2014 เนย์มาร์ ได้ยิง 2 ประตูแรกในลาลิกา ฤดูกาล 2014–15 ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ อัตเลติกเดบิลบาโอ 2-0 ต่อมา ในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2014 เนย์มาร์ ทำประตูที่ 3 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ เลบันเต 5-0 ต่อมา ในวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 2014 เนย์มาร์ ทำแฮตทริกให้กับบาร์เซโลนา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ กรานาดา 6-0 ต่อมา ในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2014 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2014–15 เนย์มาร์ ทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ บาร์เซโลนา พ่ายแพ้ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ที่ปาร์กเดแพร็งส์ 2-3
ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เนย์มาร์ ทำประตูที่ 7 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ ไบเอินมิวนิก 3-0 ต่อมา ในวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ ทำประตูที่ 22 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ เรอัลโซเซียดัด 2-0 ต่อมา ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 เนย์มาร์ ได้ยิง 2 ประตู ในนัดที่ บาร์เซโลนา พ่ายแพ้ บาเยิร์นมิวนิก ที่อัลลีอันทซ์อาเรนา 2-3 ประตูรวม บาร์เซโลนา เอาชนะ ไบเอิร์นมิวนิก 5-3 ช่วยให้ บาร์เซโลนา ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ ต่อมา ในวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 โกปาเดลเรย์ รอบชิงชนะเลิศ 2015 บาร์เซโลนา เจอกับ อัตเลติกเดบิลบาโอ ที่สนามกัมนอว์ ของบาร์เซโลนา เนย์มาร์ ทำประตูที่ 7 ในโกปาเดลเรย์ ช่วยให้ บาร์เซโลนา เอาชนะ อัตเลติกเดบิลบาโอ 3-1 คว้าแชมป์โกปาเดลเรย์ สมัยที่ 27 มาครอง พาทีมคว้าแชมป์ที่สองได้สำเร็จ
ในวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2015 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ บาร์เซโลนา เจอกับ ยูเวนตุส ที่สนามโอลึมพีอาชตาดีอ็อนในเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เนย์มาร์ ทำประตูที่ 10 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ช่วยให้ บาร์เซโลนา เอาชนะ ยูเวนตุส 3-1 คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 5 มาครอง พาทีมคว้าทริปเปิลแชมป์ได้สำเร็จ จบฤดูกาล 3 ประสาน MSN (เมสซิ, ซัวเรซ และเนย์มาร์) ยิงประตูรวมทั้งหมด 122 ประตู ทำลายสถิติ 118 ประตูของ เรอัลมาดริด (คริสเตียโน โรนัลโด, กอนซาโล อิกัวอิน และ การีม แบนเซมา ในฤดูกาล 2011-12)
ฤดูกาล 2015-2016
เนย์มาร์ป่วยเป็นคางทูม ทำให้ไม่ได้ลงสนามในนัดที่ บาร์เซโลนา ลงเล่นในยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2015และซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 2015 ต่อมา ในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ทำประตูแรกในลาลิกา ฤดูกาล 2015–16 ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ อัตเลติโกเดมาดริด ที่สนามกีฬาบีเซนเตกัลเดรอน 2-1 ต่อมา ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ทำประตูที่ 2 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ เลบันเต 4-1 ต่อมา ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ทำประตูที่ 3 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา พ่ายแพ้ เซลตาบีโก 1-4 ต่อมา ในวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ทำประตูที่ 4 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา พ่ายแพ้ เซบิยา 1-2 ต่อมา ในวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ทำแฮตทริกยิง 4 ประตูให้ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ ราโยบาเยกาโน 5-2 ต่อมา ในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ทำประตูที่ 9 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ เฆตาเฟ 2-0 ต่อมา ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ ยิง 2 ประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ บาเต บอรีซอฟ 3-0 ต่อมา ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ ยิง 2 ประตู ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ บิยาร์เรอัล 3-0 ต่อมา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ทำประตูที่ 12 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ เรอัลมาดริด คู่ปรับตลอดกาล ที่ซานเตียโก เบร์นาเบว 4-0 ต่อมา ในวันที่ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ ยิง 2 ประตู ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ เรอัลโซซิเอดัด 4-0 ต่อมา ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 เนย์มาร์ มีชื่อ 1 ใน 3 คนสุดท้ายเข้าชิงรางวัล 2015 ฟีฟ่าบาลงดอร์ ร่วมกับ เมสซิ และ โรนัลโด สุดท้ายเป็น เมสซิ ที่คว้ารางวัลนี้ไปครอง
ในวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2016 โกปาเดลเรย์ รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เนย์มาร์ทำประตูแรกในโกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2015–16 ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ อัสปัญญ็อล 4-1 ต่อมา ในวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ทำประตูที่ 15 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ กรานาดา 4-0 ต่อมา ในวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ทำประตูที่ 16 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ อัตเลติกเดบิลบาโอ 6-0 ต่อมา ในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2016 โกปาเดลเรย์ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เนย์มาร์ทำประตูที่ 2 ในโกปาเดลเรย์ ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ อัตเลติกเดบิลบาโอ ที่ซานมาเมส 2-1 ต่อมา ในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2016 โกปาเดลเรย์ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่สอง เนย์มาร์ทำประตูที่ 3 ในโกปาเดลเรย์ ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ อัตเลติกเดบิลบาโอ 3-1 รวมผลสองนัด บาร์เซโลนา เอาชนะ อัตเลติกเดบิลบาโอ 5-2 ช่วยให้ บาร์เซโลนา ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ โกปาเดลเรย์ได้สำเร็จ
ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ทำประตูที่ 17 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ เซลตาบีโก 6-1 ต่อมา ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ทำประตูที่ 18 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ ลัสปัลมัส 2-1 ต่อมา ในวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ ยิง 2 ประตู ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ เฆตาเฟ 6-0 ต่อมา ในวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2016 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เนย์มาร์ทำประตูที่ 3 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1 รวมผลสองนัด บาร์เซโลนา เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1 ช่วยให้ บาร์เซโลนา ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ ต่อมา ในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ ทำประตูที่ 21 ในลาลิกาด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ บาร์เซโลนา เสมอกับ บิยาร์เรอัล 2-2 ต่อมา ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ ทำประตูที่ 22 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา 8-0 ต่อมา ในวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ ทำประตูที่ 23 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ สปอร์ติงเดคีคอน 6-0 ต่อมา ในวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ ทำประตูที่ 24 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ อัสปัญญ็อล 5-0 ต่อมา ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 ลาลิกา นัดปิดฤดูกาล บาร์เซโลนา เจอกับ กรานาดา เป็นนัดตัดสินแชมป์ลาลิการะหว่าง บาร์เซโลนา กับ เรอัลมาดริด ในนัดนี้ บาร์เซโลนา จะต้องชนะ กรานาดา บาร์เซโลนา ก็จะได้แชมป์ลาลิกา เนย์มาร์จ่ายบอลให้ ซัวเรซ ทำแฮตทริก โดย บาร์เซโลนา เอาชนะ กรานาดา 3-0 ช่วยให้ บาร์เซโลนา คว้าแชมป์ลาลิกามาครอง ต่อมา ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 โกปาเดลเรย์ รอบชิงชนะเลิศ 2016 บาร์เซโลนา เจอกับ เซบิยา ที่สนามกีฬาบีเซนเตกัลเดรอน เนย์มาร์ทำประตูช่วยให้ บาร์เซโลนา เอาชนะ เซบิยา ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-0 คว้าแชมป์โกปาเดลเรย์ สมัยที่ 28 มาครอง พาทีมคว้าดับเบิลแชมป์ได้สำเร็จ
ฤดูกาล 2016-2017
ในวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 2016 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2016–17 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี เนย์มาร์ทำประตูแรกในฤดูกาล 2016-17 และจ่ายบอลให้เพื่อนทำได้ถึง 4 ประตู ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ เซลติก จากสกอตแลนด์ 7-0 ต่อมา ในวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ทำประตูแรกในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ เลกาเนส 5-1 ต่อมา ในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ ยิง 2 ประตู ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ สปอร์ติงเดคีคอน 5-0 ต่อมา ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ทำประตูที่ 4 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา พ่ายแพ้ เซลตาเดบิโก 3-4 ต่อมา ในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2016 เนย์มาร์ทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี จากอังกฤษ 4-0
ในวันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2017 โกปาเดลเรย์ รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เนย์มาร์ทำประตูแรกในโกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2016–17 ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ อัตเลติกเดบิลบาโอ 3-1 และประตูแรกของเขาในรอบเกือบ 3 เดือน รวมผลสองนัด บาร์เซโลนา เอาชนะ อัตเลติกเดบิลบาโอ 4-3 ช่วยให้ บาร์เซโลนา ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ โกปาเดลเรย์ได้สำเร็จ ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2017 โกปาเดลเรย์ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เนย์มาร์ทำประตูชัยด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ เรอัลโซซิเอดัด 1-0 ต่อมา ในวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2017 เนย์มาร์ทำประตูที่ 5 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ เออิบาร์ 4-0 ต่อมา ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 เนย์มาร์ทำประตูที่ 6 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ เดปอร์ติโบอาลาเบส 6-0 ต่อมา ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2017 เนย์มาร์ทำประตูที่ 7 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ สปอร์ติงเดคีคอน 6-1 ต่อมา ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2017 เนย์มาร์ทำประตูที่ 8 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ เซลตาเดบิโก 5-0 ต่อมา ในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เจอกับ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง โดยนัดแรก บาร์เซโลนา พ่ายแพ้ที่ฝรั่งเศส 0-4 ในนัดนี้ บาร์เซโลนา จะต้องชนะ 5-0 ถึงจะผ่านเข้ารอบต่อไป โดย เนย์มาร์ยิง 2 ประตูให้ บาร์เซโลนา เอาชนะไป 6-1 รวมผลสองนัด บาร์เซโลนา เอาชนะ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 6-5 ช่วยให้ บาร์เซโลนา ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ ต่อมา ในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 2017 เนย์มาร์ทำประตูที่ 9 ในลาลิกา และเป็นประตูที่ 100 ให้กับ บาร์เซโลนา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ กรานาดา 4-1
ในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2017 เนย์มาร์โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ในนัดที่ บาร์เซโลนา พ่ายแพ้ มาลากา 0-2 ทำให้ เนย์มาร์โดนแบน 3 นัด ส่งผลให้เขาหมดสิทธิ์ลงเล่นในศึกเอลกลาซิโก กับ เรอัลมาดริด อีกด้วย ต่อมา ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 เนย์มาร์ทำประตูที่ 10 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ บิยาร์เรอัล 4-1 ต่อมา ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 เนย์มาร์ทำแฮตทริกยิง 3 ประตู ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ ลัสปัลมัส 4-1 ต่อมา ในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 ลาลิกา นัดปิดฤดูกาล 2016–17 บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เจอกับ เออิบาร์ เป็นนัดตัดสินแชมป์ลาลิการะหว่าง บาร์เซโลนา กับ เรอัลมาดริด ในนัดนี้ บาร์เซโลนา จะต้องชนะ เออิบาร์ และต้องลุ้นให้ มาลากา เอาชนะ เรอัลมาดริด บาร์เซโลนา ก็จะได้แชมป์ลาลิกา โดย บาร์เซโลนา เอาชนะ เออิบาร์ 4-2 แต่สุดท้าย เรอัลมาดริด เอาชนะ มาลากาไปได้ 2-0 ทำให้ บาร์เซโลนาพลาดโอกาสคว้าแชมป์ลาลิกา อย่างน่าเสียดาย ต่อมา ในวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 โกปาเดลเรย์ รอบชิงชนะเลิศ 2017 บาร์เซโลนา เจอกับ เดปอร์ติโบอาลาเบส ที่สนามกีฬาบีเซนเตกัลเดรอน เนย์มาร์ ทำประตูที่ 3 ในโกปาเดลเรย์ ช่วยให้ บาร์เซโลนา เอาชนะ เดปอร์ติโบอาลาเบส 3-1 คว้าแชมป์โกปาเดลเรย์ สมัยที่ 29 มาครองได้สำเร็จ
ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อนกลางปี ค.ศ. 2017 มีกระแสข่าวลือว่าเนย์มาร์จะออกจากบาร์เซโลนาและย้ายไปยังสโมสรใดสโมสรหนึ่งระหว่างเชลซี, แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีกของประเทศอังกฤษ หรือปารีแซ็ง-แฌร์แม็งในลีกเอิงของประเทศฝรั่งเศส หากตกลงค่าเหนื่อยได้ที่ 515,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่มีค่าตัวหรือค่าฉีกสัญญาที่สูงถึง 222 ล้านยูโร (198 ล้านปอนด์) โดยจุดชนวนการย้ายทีมของเนย์มาร์เริ่มที่การทะเลาะเบาะแว้งกันของเนย์มาร์กับทีมสตาฟฟ์โค้ชของลุยส์ เอนริเกและมีกระแสที่จะออกจากทีมหนักขึ้นจนกระทั่งต้องยกเลิกงานพบปะกับแฟนคลับที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และเกิดกระแสว่าจะทำให้ทางสโมสรปลายทางจะผิดกฎไฟแนนเชียลแฟร์เพลย์หรือกฎทางการเงินของยูฟ่า จนกระทั่งลาลิกาต้องขอหยุดการเจรจาชั่วคราว แต่ทางยูฟ่าก็ออกมาอนุญาตให้ทางสโมสรปลายทางซื้อเนย์มาร์ได้ และพ่อของเนย์มาร์ซึ่งเป็นตัวแทนของเขาหยุดการสนับสนุนบาร์เซโลนาเมื่อรู้ว่าลูกชายถูกคณะกรรมการบริหารของสโมสรปฏิเสธการจ่ายโบนัสต่อสัญญามูลค่า 26 ล้านยูโร จนกระทั่งเริ่มมีความชัดเจนขึ้นเมื่อเนย์มาร์เดินทางไปตรวจร่างกายที่โปร์ตู และเดินทางไปที่ปารีสทันที และบาร์เซโลนาได้ออกแถลงการณ์การย้ายทีมของเนย์มาร์ จนกระทั่งวันที่ 3 สิงหาคม ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ก็ได้แถลงข่าวเปิดตัวเนย์มาร์ด้วยค่าตัว 222 ล้านยูโร (198 ล้านปอนด์) เป็นการทำลายสถิตินักฟุตบอลค่าตัวแพงที่สุดในโลกของปอล ปอกบา ลง โดยเนย์มาร์จะเซ็นสัญญากับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งหมายความว่าเขาจะหมดสัญญาอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2022 และจะสวมเสื้อหมายเลข 10 แทนที่ฆาบิเอร์ ปัสโตเร
ฤดูกาล 2017-2018
เนย์มาร์เปิดตัวให้กับสโมสร เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2017 โดยยิงประตูและชแอสซิสต์ให้เพื่อนอีกประตูหนึ่งในเกมเยือนแก็งก็อง และ สามารถเอาชนะไปได้ 3-0 เขาทำเพิ่มได้อีกสองประตูในการแข่งขันลีกเอิงนัดถัดไปกับทีมตูลูส เนย์มาร์ พร้อมด้วย กีลียาน อึมบาเป ดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส และ เอดินซอน กาบานิ ยอดกองหน้าชาวอุรุกวัย ช่วยกันทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนัดเปิดสนามสองเกมแรกของปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 2017–18 โดยทีมสามารถบุกไปชนะ กลาวโกว์ เซลติก 5-0 และ 3–0 เหนือไบเอิร์นมิวนิกตามลำดับ ในการแข่งขันกับทีมคู่แข่งตลอดกาลอย่างออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2018 เนย์มาร์ได้รับบาดเจ็บกระดูกฝ่าเท้าขวาแตก เขาไม่สามารถกลับมาลงเล่นให้กับทีมได้อีกในการแข่งขันนัดที่เหลือของฤดูกาล ทำให้ฤดูกาลแรกของเขาในฝรั่งเศสจบลงด้วยผลงาน 28 ประตูจากการลงแข่งขัน 30 นัด รวมทุกรายการ
ฤดูกาล 2018-2019
ถัดมาในฤดูกาลที่สองของเขาในฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2018 เนย์มาร์ยิงประตูในลีกได้ในนัดเปิดฤดูกาลของ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ด้วยการชนะก็อง 3-0 ที่สนามปาร์กเดแพร็งส์ และ เนย์มาร์สามารถยิงจุดโทษได้ในเกมถัดไปขณะที่ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งบุกชนะแก็งก็อง 3–1 ในลีกเอิง ในเกมลีกถัดมาสามประสานแดนหน้าของทีม ได้แก่ เนย์มาร์ อึมบาเป และ กาบานิ ทำประตูได้ในเกมชนะอองเช่ร์ 3–1 ในบ้าน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม เนย์มาร์ยิงแฮตทริกได้ในเกมชนะเรดสตาร์เบลเกรด 6–1 ในการแข่งขันแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม ต่อมา เขาได้รับบาดเจ็บที่เท้าอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมกราคม 2019 ซึ่งทำให้เขาต้องออกจากเกมในระหว่างการแข่งขันแชมเปียนส์ลีกรอบ 16 ทีมที่เสมอกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยหลังจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเอาชนะปารีแซ็ง-แฌร์แม็งและผ่านเข้ารอบไปได้นั้น เนย์มาร์ได้ใช้คำพูดเชิงตำหนิผู้ตัดสินที่ทดเวลาการแข่งขันเกินในนัดดังกล่าวผ่านทางอินสตาแกรม ทำให้เจ้าตัวโดนแบนจากการแข่งขันเป็นจำนวน 3 นัด โทษฐานใช้วาจาดูหมิ่นผู้ตัดสิน
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2019 เนย์มาร์สามารถทำประตูได้ในการแข่งขันรายการ Coupe de France รอบชิงชนะเลิศประจำปี 2019 กับ แรนส์ แต่ทีมได้พ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษ และ ในการแข่งขันนัดดังกล่าว เนย์มาร์ได้ถูกบันทึกภาพเอาว้ได้ในขณะที่เขาชกหน้าของกองเชียร์ทีมแรนส์ ต่อมาภายหลังเนย์มาร์ออกมายอมรับว่าผิด แต่เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าทั้งเขาและใครก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้ โทมัส ทูเคิลโค้ชของ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง กล่าวว่า: "มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะควบคุมอารมณ์หลังความพ่ายแพ้โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับแฟนบอลที่ไม่เคารพคุณ"
ฤดูกาล 2019-2020
ในเดือนกรกฎาคม 2019 เนย์มาร์ไม่มาทำการฝึกซ้อมในช่วงพรีซีซั่นกับสโมสร โดยสโมสรมีการหารือถึงการลงโทษทางวินัยท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าเจ้าตัวต้องการย้ายทีมก่อนกำหนดเส้นตาย ต่อมาในช่วงปลายเดือนสิงหาคม เนย์มาร์ตกลงที่จะอยู่กับทีมต่อไปหลังจากการเจรจาเพื่อกลับไปร่วมทีมบาร์เซโลนาต้องยุติลง เนย์มาร์ลงเล่นให้ทีมเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2019–20 ในวันที่ 14 กันยายน 2019 ด้วยชัยชนะเหนือสตราสบูร์ก 1-0 ในการแข่งขันลีกเอิง ซึ่งเขาสามารถยิงประตูชัยได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งหลังจากยิงลูกจักรยานอากาศอย่างสวยงาม หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเขาเป็นผู้ทำประตูชัยให้กับทีมในช่วงท้ายเกมส์อีกครั้ง ในนัดที่ทีมเอาชนะลียง 1-0 ณ สนาม ปาร์กเดแพร็งส์
เนย์มาร์ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวายในเดือนตุลาคมขณะเล่นให้ทีมชาติบราซิล และ กลับมาเล่นให้กับสโมสรได้อีกครั้งในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มแชมเปียนส์ลีกกับเรอัลมาดริดในวันที่ 26 พฤศจิกายน ซึ่งเสมอกันไป 2–2 ต่อมา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2020 ในแชมเปียนส์ลีกรอบ 16 ทีมที่พบกับโบรุสซีอาดอร์ทมุนด์ เขายิงประตูทีมเยือนลูกสำคัญได้ในัดแรกที่เยอรมัน โดยทีมของเขาเป็นฝ่ายพ่าแพ้ไป 1-2 และ ในนัดที่สองที่ฝรั่งเศส ทีมของเนย์มาร์สามารถเอาดอร์ทมุนด์ไปได้ 2–0 (ประตูรวมสองนัดรวม 3–2) โดยเขาทำได้ 1 ประตู และ อีก 1 แอสซิสต์
เนย์มาร์คว้าแชมป์ลีกกับ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ได้เป็นสมัยที่ 3 หลังจากที่ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ได้รับรางวัลชนะเลิศเมื่อประเทศฝรั่งเศสสั่งยุติการแข่งขันกีฬาทุกรายการเนื่องจากสถานการณ์โควิด และ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2020 ในเกมแรกหลังจากการกลับมาแข่งขันหลังจากช่วงโควิด เนย์มาร์ยิงประตูชัยพาทีมชนะแซงต์เอเตียนไป 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศรายการคูเป้เดอฟรองซ์ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์คูเป้เดอฟรองซ์สมัยที่สองของเขาด้วย ต่อมา เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งชนะการแข่งขันรายการ คูเป้เดอลาลีกเอิง ประจำปี 2020 ในรอบชิงชนะเลิศจากการดวลจุดโทษเหนือลียงไป 6-5 ภายหลังจากเสมอกัน 0–0 หลังจากช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยเนย์มาร์เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิงจุดโทษเข้าในช่วงตัดสิน ในการแข่งขันแชมเปียนส์ลีกรอบก่อนรองชนะเลิศพบกับอตาลันตาเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม เนย์มาร์ช่วยทำประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และทำให้ทีมเอาชนะอตาลันตาไปได้ด้วยประตูรวม 2–1 และ ในรอบรองชนะเลิศกับ แอร์เบ ไลพ์ซิช เขาทำได้หนึ่งประตูในนัดที่ทีมคว้าชัยชนะไปได้ 3-0 ซึ่งทำให้ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนจะเข้าไปพ่ายให้แก่ ไบเอิร์นมิวนิก 0-1 ทำได้เพียงคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศ
2020-ปัจจุบัน
เนย์มาร์พลาดการแข่งขันนัดในแรกของฤดูกาล 2020–21 เนื่องจากเขาถูกตรวจพบว่าได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งในนัดแรกของฤดูกาล ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งแพ้ให้กับแลนส์ไป 0-1 อย่างไรก็ตามเขากลับไปฝึกซ้อมได้อีกครั้งก่อนเกมพบกับมาร์แซย์ในวันที่ 13 กันยายน 2020 ซึ่งปารีแซ็ง-แฌร์แม็งพ่ายแพ้ให้แก่มาร์แซย์ในศึกแห่งศักดิ์ศรี (เลอ กลาซิก) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 ในเกมที่มารแซย์ชนะไปได้ 1–0 ในนัดที่มีใบเหลือง 14 ใบและใบแดงถึง 5 ใบ โดยเนย์มาร์ได้รับใบแดงในนาทีที่ 97 หลังจากทะเลาะกับ อัลบาโร่ กอนซาเลซ ซึ่งเนย์มาร์กล่าวว่ากอนซาเลซนั้นได้ใข้วาจาเชิงเหยียดผิวเขาทำให้เขาคุมอารมณ์ไม่อยู่ เนย์มาร์สามารถยิงสองประตูแรกของตนเองได้ในเกมที่ชนะอองเช่ร์ 6–1 เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่ทำประตูให้กับสโมสรได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 10 ตลอดกาล ต่อมาในวันที่ 28 ตุลาคม เนย์มาร์ได้รับบาดเจ็บในเกมพบกับอิสตันบูลบาอาคเชฮีร์ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและออกจากสนามหลังจากเล่นไปเพียง 26 นาที เขากลับมาลงสนามได้อีกครั้งในเกมที่แพ้โมนาโก 2-3 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน และ ทำประตูแรกได้หลังจากหายจากอาการบาดเจ็บในเกมชนะ แอร์เบไลพ์ซิช 1–0 ในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน
ในวันที่ 28 พฤศจิกายน เนย์มาร์ยิงประตูที่ 50 ของเขาในลีกเอิง 1 ได้สำเร็จ โดยเป็นการยิงจุดโทษในเกมที่ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง เสมอกับบอร์กโดซ์ 2–2 ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่ทำสถิติยิง 50 ประตูในลีกให้กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็งได้เร็วที่สุด โดยลงสนามไปเพียง 58 นัด 4 วันต่อมาในวันที่ 2 ธันวาคม เขาทำ 2 ประตูในนัดที่ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งบุกไปชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ต่อมาในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายของปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง เนย์มาร์ทำแฮตทริกในการเล่นแชมเปียนส์ลีกของเขาได้เป็นครั้งที 3 ในเกมกับอิสตันบูลบายัคเชฮีร์ และ พาทีมผ่านเข้ารอบต่อไปในฐานะผู้ชนะของกลุ่ม เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ถ้วยยุโรปและแชมเปียนส์ลีกที่ยิง 20 ประตูให้กับสองสโมสรต่างกัน โดยทำประตูให้บาร์เซโลนาจำนวน 21 ประตูจาก 40 นัด และ 20 ประตูให้กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง จาก 25 เกม
วันที่ 13 ธันวาคมเนย์มาร์ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าหลังจากโดนติอาโกเมนเดสของลียงเข้าสกัดและต้องถูกหามออกจากสนาม ผลการสแกนพบว่าข้อเท้าของเขาไม่แตกหรือหัก แต่เขาต้องพักฟื้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์จากอาการข้อเท้าแพลง เขากลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ในวันที่ 13 มกราคม 2021 ในเกมชนะมาร์แซย์ 2-1 ในรายการโทรฟีเดส์แชมเปียนส์ เขาได้รับบาดเจ็บอีกครั้งในเกมที่ชนะก็อง 1-0 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์และต้องพักฟื้นอีกเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ เขากลับมาลงสนามได้อีกครั้งในวันที่ 21 มีนาคม ในเกมลีกเอิงนัดที่ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง เอาชนะลีงยงไปได้ 4-2
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา เนย์มาร์ได้ตัดสินใจต่อสัญญาฉบับใหม่กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ส่งผลให้เขาจะอยู่เล่นให้กับสโมสรไปจนถึงปี 2025 เป็นอย่างน้อย
ทีมชาติบราซิล
เนย์มาร์ ติดทีมชาติบราซิลชุด U17 ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา จากนั้นก็ติดชุด U20 ในปี 2011, ชุด U23 ในปี 2012 และติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ตั้งแต่ 2010 โดยมีโอกาสได้ลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
สถิติอาชีพ
สโมสร
- ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2017.
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วย | Continental | Intercontinental | State League | รวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
บราซิล | Brasileirão | Copa do Brasil | Continental | ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก | Paulista | รวม | |||||||
Santos | 2009 | 33 | 10 | 3 | 1 | – | – | 12 | 3 | 48 | 14 | ||
2010 | 31 | 17 | 8 | 11 | 2 | 0 | – | 19 | 14 | 60 | 42 | ||
2011 | 21 | 13 | – | 13 | 6 | 2 | 1 | 11 | 4 | 47 | 24 | ||
2012 | 17 | 14 | – | 14 | 9 | – | 16 | 20 | 47 | 43 | |||
2013 | 1 | 0 | 4 | 1 | – | – | 18 | 12 | 23 | 13 | |||
รวม | 103 | 54 | 15 | 13 | 29 | 15 | 2 | 1 | 76 | 53 | 225 | 136 | |
สเปน | ลาลิกา | โกปาเดลเรย์ | ยุโรป | ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก | ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา | รวม | |||||||
บาร์เซโลนา | 2013–14 | 26 | 9 | 3 | 1 | 10 | 4 | – | 2 | 1 | 41 | 15 | |
2014–15 | 33 | 22 | 6 | 7 | 12 | 10 | – | – | 51 | 39 | |||
2015–16 | 34 | 24 | 5 | 4 | 9 | 3 | 1 | 0 | 0 | 0 | 49 | 31 | |
2016–17 | 30 | 13 | 6 | 3 | 9 | 4 | 0 | 0 | 0 | 0 | 45 | 20 | |
รวม | 123 | 68 | 20 | 15 | 40 | 21 | 1 | 0 | 2 | 1 | 186 | 105 | |
รวมทั้งหมด | 226 | 122 | 35 | 28 | 69 | 36 | 3 | 1 | 78 | 54 | 411 | 241 |
- All appearances in Copa Sudamericana
- All appearances in Copa Libertadores
- Twelve appearances and 8 goals in Copa Libertadores, Two appearances and one goal in Recopa Sudamericana
- ↑ ลงเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ทีมชาติ
ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2021
ทีมชาติ | ปี | ทางการ | กระชับมิตร | รวม | |||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
บราซิล | 2010 | 0 | 0 | 2 | 1 | 2 | 1 |
2011 | 4 | 2 | 9 | 5 | 13 | 7 | |
2012 | 0 | 0 | 12 | 9 | 12 | 9 | |
2013 | 5 | 4 | 14 | 6 | 19 | 10 | |
2014 | 5 | 4 | 9 | 11 | 14 | 15 | |
2015 | 4 | 1 | 5 | 3 | 9 | 4 | |
2016 | 6 | 4 | 0 | 0 | 6 | 4 | |
2017 | 6 | 2 | 2 | 1 | 8 | 3 | |
2018 | 5 | 2 | 8 | 5 | 13 | 7 | |
2019 | 0 | 0 | 5 | 1 | 5 | 1 | |
2020 | 2 | 3 | 0 | 0 | 2 | 3 | |
2021 | 4 | 4 | 0 | 0 | 4 | 4 | |
รวม | 41 | 26 | 66 | 42 | 107 | 68 |
ประตูในนามทีมชาติ
- เรียงเอาจำนวนประตูและคะแนนของบราซิลขึ้นก่อน:
# | วันที่ | สนาม | คู่แข่งขัน | ประตู | ผล | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 10 สิงหาคม 2010 | MetLife Stadium, East Rutherford, United States | สหรัฐ | 2–0 | 2–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
2 | 27 มีนาคม 2011 | Emirates Stadium, London, England | สกอตแลนด์ | 1–0 | 2–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
3 | 2–0 | |||||
4 | 13 กรกฎาคม 2011 | Estadio Mario Alberto Kempes, Córdoba, Argentina | เอกวาดอร์ | 2–1 | 4–2 | โกปาอาเมริกา 2011 |
5 | 4–2 | |||||
6 | 10 สิงหาคม 2011 | Mercedes-Benz Arena, Stuttgart, Germany | เยอรมนี | 2–3 | 2–3 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
7 | 28 กันยายน 2011 | Estádio Olímpico do Pará, Belém, Brazil | อาร์เจนตินา | 2–0 | 2–0 | 2011 Superclásico de las Américas |
8 | 8 ตุลาคม 2011 | Estadio Nacional, San José, Costa Rica | คอสตาริกา | 1–0 | 1–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
9 | 30 พฤษภาคม 2012 | FedExField, Landover, United States | สหรัฐ | 1–0 | 4–1 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
10 | 10 กันยายน 2012 | Estádio José do Rego Maciel, Recife, Brazil | จีน | 2–0 | 8–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
11 | 5–0 | |||||
12 | 6–0 | |||||
13 | 19 กันยายน 2012 | Estádio Serra Dourada, Goiânia, Brazil | อาร์เจนตินา | 2–1 | 2–1 | 2012 Superclásico de las Américas |
14 | 11 ตุลาคม 2012 | Swedbank Stadion, Malmö, Sweden | อิรัก | 5–0 | 6–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
15 | 16 ตุลาคม 2012 | Stadion Miejski, Wrocław, Poland | ญี่ปุ่น | 2–0 | 4–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
16 | 3–0 | |||||
17 | 15 พฤศจิกายน 2012 | MetLife Stadium, East Rutherford, United States | โคลอมเบีย | 1–1 | 1–1 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
18 | 6 เมษายน 2013 | Estadio Ramón Tahuichi Aguilera, Santa Cruz, Bolivia | โบลิเวีย | 2–0 | 4–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
19 | 3–0 | |||||
20 | 24 เมษายน 2013 | Estádio Mineirão, Belo Horizonte, Brazil | ชิลี | 2–1 | 2–2 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
21 | 15 มิถุนายน 2013 | Estádio Nacional, Brasília, Brazil | ญี่ปุ่น | 1–0 | 3–0 | ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2013 |
22 | 19 มิถุนายน 2013 | Estádio Castelão, Fortaleza, Brazil | เม็กซิโก | 1–0 | 2–0 | ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2013 |
23 | 22 มิถุนายน 2013 | Itaipava Arena Fonte Nova, Salvador, Brazil | อิตาลี | 2–1 | 4–2 | ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2013 |
24 | 30 มิถุนายน 2013 | Estádio do Maracanã, Rio de Janeiro, Brazil | สเปน | 2–0 | 3–0 | ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2013 นัดชิงชนะเลิศ |
25 | 7 กันยายน 2013 | Estádio Nacional, Brasília, Brazil | ออสเตรเลีย | 3–0 | 6–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
26 | 10 กันยายน 2013 | Gillette Stadium, Foxborough, United States | โปรตุเกส | 2–1 | 3–1 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
27 | 12 ตุลาคม 2013 | Sangam Stadium, Seoul, South Korea | เกาหลีใต้ | 1–0 | 2–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
28 | 5 มีนาคม 2014 | FNB Stadium, Johannesburg, South Africa | แอฟริกาใต้ | 2–0 | 5–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
29 | 3–0 | |||||
30 | 5–0 | |||||
31 | 3 มิถุนายน 2014 | Estádio Serra Dourada, Goiânia, Brazil | ปานามา | 1–0 | 4–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
32 | 12 มิถุนายน 2014 | Arena de São Paulo, São Paulo, Brazil | โครเอเชีย | 1–1 | 3–1 | ฟุตบอลโลก 2014 |
33 | 2–1 | |||||
34 | 23 มิถุนายน 2014 | Estádio Nacional, Brasília, Brazil | แคเมอรูน | 1–1 | 4–1 | ฟุตบอลโลก 2014 |
35 | 2–1 | |||||
36 | 5 กันยายน 2014 | Sun Life Stadium, Miami Gardens, United States | โคลอมเบีย | 1–0 | 1–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
37 | 14 ตุลาคม 2014 | National Stadium, Kallang, Singapore | ญี่ปุ่น | 1–0 | 4–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
38 | 2–0 | |||||
39 | 3–0 | |||||
40 | 4–0 | |||||
41 | 12 พฤศจิกายน 2014 | Şükrü Saracoğlu Stadium, Istanbul, Turkey | ตุรกี | 1–0 | 4–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
42 | 4–0 | |||||
43 | 26 มีนาคม 2015 | Stade de France, Saint-Denis, France | ฝรั่งเศส | 2–1 | 3–1 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
44 | 14 มิถุนายน 2015 | Estadio Municipal Germán Becker, Temuco, Chile | เปรู | 1–1 | 2–1 | โกปาอาเมริกา 2015 |
45 | 8 กันยายน 2015 | Gillette Stadium, Foxborough, United States | สหรัฐ | 2–0 | 4–1 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
46 | 4–0 | |||||
47 | 1 กันยายน 2016 | Estadio Olímpico Atahualpa, Quito, Ecuador | เอกวาดอร์ | 1–0 | 3–0 | ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก |
48 | 6 กันยายน 2016 | Arena da Amazônia, Manaus, Brazil | โคลอมเบีย | 2–1 | 2–1 | |
49 | 6 ตุลาคม 2016 | Arena das Dunas, Natal, Brazil | โบลิเวีย | 1–0 | 5–0 | |
50 | 10 พฤศจิกายน 2016 | Estádio Mineirão, Belo Horizonte, Brazil | อาร์เจนตินา | 2–0 | 3–0 | |
51 | 23 มีนาคม 2017 | Estadio Centenario, Montevideo, Uruguay | อุรุกวัย | |||
52 | 27 มีนาคม 2017 | Arena Corinthians, São Paulo, Brazil | ปารากวัย |
- หมายเหตุ
เกียรติประวัติ
สโมสร
- ซังตุส
- กังเปโอนาตูเปาลิสตา: 2010, 2011, 2012
- โกปาดูบราซิล: 2010
- โกปาลีเบร์ตาโดริส: 2011
- เรโกปาซูดาเมริกานา: 2012
- บาร์เซโลนา
- ลาลิกา: 2014–15, 2015–16
- โกปาเดลเรย์: 2014–15, 2015–16, 2016–17
- ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา: 2013, 2016
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2014–15
- ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2015
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก: 2015
- ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
- ลีกเอิง: 2017–18, 2018–19, 2019–20
- กุปเดอฟร็องส์: 2017–18, 2019–20, 2020-21
- กุปเดอลาลีก: 2017–18, 2019–20
- ทรอเฟเดช็องปียง: 2018, 2020
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รองชนะเลิศ: 2019–20
ทีมชาติ
- บราซิล
- เซาท์อเมริกันยูทแชมเปียนชิป (1): 2011
- ซูเปร์กลาซีโกเดลัสอาเมรีกัส (1): 2011, 2012, 2014
- เหรียญเงิน โอลิมปิกฤดูร้อน 2012 (1): 2012
- ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ: 2013
- เหรียญทอง โอลิมปิกฤดูร้อน 2016 (1): 2016
รางวัลอื่น ๆ
- World Soccer Young Player of the Year: 2011
- Campeonato Brasileiro Série A Best Player: 2011
- Campeonato Brasileiro Série A Championship Squad: 2010, 2011, 2012
- Brazilian Silver Ball: 2010, 2011
- Brazilian Golden Ball: 2011
- Bola de Ouro : 2012
- Young Player of the Year (1): 2011
- Campeonato Brasileiro Série A Championship Squad (3): 2010, 2011, 2012
- Copa Libertadores Championship Squad (1): 2012
- Arthur Friedenreich Award (2): 2010, 2012
- Armando Nogueira Trophy (2): 2011, 2012
- Golden Ball (1): 2011 – Best Player in Brazilian League by magazine Placar
- Silver Ball (2): 2010, 2011 – Best Forward in Brazilian League by magazine Placar
- Silver Ball hors concours (1): 2012
- Golden Boot (2): 2010, 2011, 2012 – Most goals in all competition in Brazil
- Copa do Brasil Top scorer (1): 2010
- South American Youth Championship Top scorer (1): 2011
- นักเตะยอดเยี่ยมในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก (1): 2011
- South American Footballer of the Year (1): 2011
- FIFA Puskás Award (1): 2011
- Campeonato Paulista Top scorer (1): 2012
- Copa Libertadores Top scorer (1): 2012
- FIFA Confederations Cup Golden Ball (1): 2013
- FIFA Confederations Cup Bronze Shoe (1): 2013
- FIFA Confederations Cup Dream Team (1): 2013
- FIFA World Cup Bronze Boot (1): 2014
- FIFA World Cup Dream Team (1): 2014
- Golden Year Award: 2014.
- Samba Gold: 2014
- UEFA Champions League Top Goalscorer: 2014–15 (tied with Cristiano Ronaldo and Lionel Messi)
- UEFA Champions League Team of the Season: 2014–15
- FIFA FIFPro World XI: 2015
ชีวิตส่วนตัว
ในปี 2016 คุณแม่ของเนย์มาร์ตัดสินใจแยกทางกับคุณพ่อหลังจากที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมานานถึง 25 ปี แต่เนย์มาร์ก็ยังคงสนิทกับมารดาอยู่เสมอและเขามักจะแชร์ภาพกับวีดิโอที่อยู่ด้วยกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์เป็นประจำ รวมทั้งยังสักใบหน้าของแม่เอาไว้ที่แขนอีกด้วย เขาและน้องสาว (ราฟาเอลลา ซานโตส) สนิทสนมกันมาก ราฟาเอลลาเป็นทั้งน้องสาวและเพื่อนสนิทของเนย์มาร์ โดยเขาไม่เคยพลาดงานฉลองวันเกิดของน้องสาวเลย แม้ในช่วงที่บาดเจ็บหรือโดนแบนจากสโมสร เจ้าตัวก็ยังขึ้นเครื่องบินเพื่อมาพบกับเธอ และ ราฟาเอลลา ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีชื่ออยู่บนรอยสักที่แขนของเนย์มาร์
เนย์มาร์ เป็นคุณพ่อตั้งแต่อายุ 19 ปี โดย ณ ตอนนั้น คาโรลิน่า อดีตแฟนสาวได้ให้กำเนิด ดาวี่ ลุกก้า ลูกชายของทั้งคู่ในปี 2011 ที่โรงพยาบาลในนครเซา เปาโล โดยเวลานั้นเธอก็เพิ่งจะอายุ 17 ปีเท่านั้นโดยที่ทั้งคู่ได้เลิกรากันแล้วก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ตาม เนย์มาร์ ยังคงเป็นเพื่อนทีดีกับ คาโรลิน่า อยู่เสมอจนกระทั่งปัจจุบันนี้ นอกจากนี้เขายังอนุญาตให้อดีตแฟนสาวร่วมดูแลลูกชายของเขาด้วย
เนย์มาร์เป็นชาวบราซิลคนแรกและคนเดียวจนถึงปัจจุบันที่ได้รับเกียรติให้ขึ้นปกในนิตยสาร ไทม์ ในปี 2013 หลังจากการย้ายทีมจากบราซิลมาเล่นในลาลิกาได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก เขาชื่นชอบการดูการ์ตูนและเป็นแฟนตัวยงของคอมมิค โดยเนย์มาร์มีฮีโร่ในดวงใจได้แก่ แบทแมน, สไปเดอร์แมน, เดอะ แฟลช, ซูเปอร์แมน และ เดอะ ฮัลค์ นอกจากนี้เขายังชื่นชอบการกินเลี้ยงและงานปาร์ตี้มาก โดยสื่อได้เคยโจมตีเขาในการให้สัมภาษณ์ก่อนการแข่งขันของทีมชาติบราซิลถึงความเหมาะสมในการไปงานปาร์ตี้ในช่วงที่มีการแข่งขัน ซึ่งทำให้เนย์มาร์อารมณ์เสียอย่างมาก โดยเขาตอบว่า "ผมเป็นนักกีฬา แต่ผมก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีมุมผ่อนคลายของตนเองเช่นกัน คุณเคยเห็นผมไปเที่ยวกลางคืนแล้วตื่นมาซ้อมหรือแข่งขันไม่ไหวหรือเปล่า"
อ้างอิง
- ↑ "Player Profile: Neymar". Santos FC.
- https://www.squawka.com/en/neymar-stats-worlds-best-player-lionel-messi/
- "Neymar is the most decisive player in the world". MARCA in English (ภาษาอังกฤษ). 2020-08-18.
- "เนย์มาร์ โชว์! แซมบ้าฆ่าหมอผีขาดลอย 4-1 ลิ่วชน ชิลี รอบสอง บอลโลก 2014.... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1ir8Ovu". โพสต์ทูเดย์. 24 June 2014. สืบค้นเมื่อ 24 June 2014. External link in
|title=
(help)[ลิงก์เสีย] - "เดือด!! แฟนเผา'เสื้อเนย์มาร์-ธงชาติ'เซ่นพ่าย'อินทรี'ยับ". ไทยรัฐ. 9 July 2014. สืบค้นเมื่อ 11 July 2014.
- https://www.givemesport.com/1601936-messi-suarez-neymar-tribute-to-barcelonas-msn-resurfaces-now-trio-is-completely-split-up
- https://www.bbc.com/sport/football/53867676
- https://edition.cnn.com/2020/10/14/football/brazil-peru-neymar-var-spt-intl/index.html
- https://bleacherreport.com/articles/2794634-tite-confirms-neymar-is-brazils-new-captain-on-a-full-time-basis
- "Neymar". FAMOUS SOCCER PLAYERS (ภาษาอังกฤษ).
- MKOMard (2017-04-20). "Neymar Is Among Time's '100 Most Influential People'; David Beckham Explains Why". NESN.com (ภาษาอังกฤษ).
- "Messi is highest paid athlete in world". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.
- "The World's Highest-Paid Athletes 2021". Forbes.
- "Learn about Neymar". Famous Birthdays (ภาษาอังกฤษ).
- https://www.barcablaugranes.com/2013/8/7/4597620/fc-barcelona-7-1-thailand-match-review
- https://www.givemesport.com/1601936-messi-suarez-neymar-tribute-to-barcelonas-msn-resurfaces-now-trio-is-completely-split-up
- https://www.bbc.com/sport/football/37688076
- http://sport.bt.com/football/champions-league/barcelona-4-0-manchester-city-101364085140981
- ปาฏิหาริย์มีจริง! บาร์ซาถล่มเปแอสเช 6-1 (6-5) ลิ่ว UCL
- เรียงหน้าซัด! บาร์ซาบุกถล่มกรานาด้าสิบคน 4-1
- เนย์มาร์แฮตทริค! บาร์ซาฟอร์มร้อนไล่ต้อนลาส พัลมาส 4-1
- ได้แค่รองแชมป์! บาร์ซาเฮไม่สุดแม้รัวเออิบาร์ 4-2
- "ผี-สิงห์ !? 'เนย์มาร์' เตรียมย้ายทีมหากได้ค่าเหนื่อย 4 แสนต่อวีก". ไทยรัฐ. 2 เมษายน 2560. สืบค้นเมื่อ 6 สิงหาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "แคมป์ระอุ! เนย์มาร์ทะเลาะมือขวาเอ็นริเก้กลางสนามซ้อม". Goal Thailand. 9 พฤษภาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 6 สิงหาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "น่าสงสัย! งานอีเว้นท์'เนย์มาร์'ในจีนถูกยกเลิกกะทันหัน". Goal Thailand. 28 กรกฎาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 6 สิงหาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "ดีลชะงัก! ลาลิกาปัดรับเช็คฉีกสัญญาเนย์มาร์ 222 ล้านยูโร". Goal Thailand. 3 สิงหาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 6 สิงหาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "ทางสะดวก! ยูฟ่าไฟเขียวPSGเซ็นเนย์มาร์ 222 ล.ยูโร". Goal Thailand. 28 กรกฎาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 6 สิงหาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "จุดแตกหัก! พ่อเนย์มาร์เปิดปากปมขัดแย้งบอร์ดบาร์ซา". Goal Thailand. 5 สิงหาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "สื่อฝรั่งเศสเผย "เนย์มาร์" ถึงปารีสวันนี้พร้อมสวมเสื้อเบอร์10". สยามกีฬารายวัน. 3 สิงหาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 6 สิงหาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "BREAKING: บาร์ซาแถลงเนย์มาร์แจ้งย้ายทีมค่าตัว 222 ล.ยูโร". Goal Thailand. 2 สิงหาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 6 สิงหาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "Neymar Jr signs with Paris Saint-Germain!". Paris Saint-Germain. 3 August 2017. สืบค้นเมื่อ 6 August 2017.
- https://www.france24.com/en/20170813-neymar-scores-debut-match-psg
- "Neymar out for 'six to eight weeks'". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.
- "Mbappe scores twice on Ligue 1 return". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.
- "Neymar scores hat-trick as PSG thrash Red Star". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.
- Mather, Victor (2019-01-28). "P.S.G.'s Neymar Joins Growing Champions League Injury List". The New York Times (ภาษาอังกฤษ). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.
- https://bleacherreport.com/articles/2823862-neymar-on-instagram-after-manchester-uniteds-win-vs-psg-go-f-k-yourselves
- "Will Neymar be banned for fan punch? PSG star's possible sanctions | Goal.com". www.goal.com.
- https://www.theguardian.com/football/video/2019/apr/28/neymar-appears-to-punch-at-a-fan-goading-him-after-psgs-shock-cup-final-defeat-video
- "Neymar appears to aim punch at fan goading him after defeat". AP NEWS. 2019-04-28.
- https://bleacherreport.com/articles/2844717-neymar-absent-from-psg-training-amid-barcelona-transfer-rumours
- "'Neymar can leave for the right offer'". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.
- "Neymar: Paris Saint-Germain forward agrees to stay after Barcelona talks break down". Sky Sports (ภาษาอังกฤษ).
- "Late Neymar goal sees PSG beat Lyon". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.
- Clark, Gill. "Neymar out 4 Weeks with Hamstring Injury; Expected to Miss PSG's Next 6 Matches". Bleacher Report (ภาษาอังกฤษ).
- UEFA.com. "Paris-Dortmund 2020 History | UEFA Champions League". UEFA.com (ภาษาอังกฤษ).
- "PSG edge ASSE for Coupe de France win!". Ligue1 (ภาษาอังกฤษ).
- "Paris Saint-Germain vs. Bayern Munich - Football Match Report - August 23, 2020 - ESPN". ESPN.com (ภาษาอังกฤษ).
- https://www.lequipe.fr/Football/Actualites/Coronavirus-neymar-teste-positif/1167224
- "Neymar reaches 50 Ligue 1 goals in record time in 21st century". beIN SPORTS (ภาษาอังกฤษ).
- "Man Utd beaten at home by PSG". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.
- "Neymar Jr. Official". Neymar Jr. (ภาษาอังกฤษ).
- Zavala, Steve (2020-12-10). "Neymar is the First Player Ever to Score 20 Champions League Goals for Two Different Teams". PSG Talk (ภาษาอังกฤษ).
- https://psgtalk.com/2020/12/video-neymar-leaves-fixture-against-lyon-due-to-serious-injury/
- https://www.sportbible.com/football/news-neymars-new-psg-deal-includes-a-secret-contract-clause-20210511
- https://www.ligue1.com/Articles/OPINION/2021/05/11/neymar-contract-mbappe-psg-champions-league
- https://www.thesun.co.uk/sport/football/14889571/neymar-ready-sign-new-psg-contract/
- "Brazil omit Ronaldinho from squad" (ภาษาอังกฤษ). 2010-05-11. สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.
- "Neymar ESPN Stats". ESPN FC. สืบค้นเมื่อ 3 December 2013.
- ข้อมูลของ เนย์มาร์ ที่ ซ็อกเกอร์เวย์. เรียกข้อมูลเมื่อ 12 February 2015.
- Includes cup competitions such as Copa Libertadores, Copa Sudamericana,and Recopa Sudamericana
- "Neymar da Silva Santos Júnior - Goals in International Matches". RSSSF. Retrieved 28 June 2014
- http://fittingtattoo.com/celebrity/neymar
- http://fittingtattoo.com/celebrity/neymar
- https://www.besoccer.com/new/what-kind-of-relationship-does-neymar-have-with-his-son-s-mother
- https://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%A7-%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%8A%E0%B8%94%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95/kgo4tj88s9me10n3kcphfrn0l
- https://www.espn.com/soccer/paris-saint-germain/story/4304838/psgs-neymar-i-will-never-stop-partying-im-not-immature
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: เนย์มาร์ |
- เว็บไซต์ทางการ (โปรตุเกส)
- เนย์มาร์ ที่เฟซบุ๊ก
- Santos FC profile
- Transfermarkt profile
- เนยมาร์ นักเตะหน้าหล่อ FootballDaily365
- สถิติของ เนย์มาร์ ที่ Soccerbase
- Profile at ESPN
- เนย์มาร์ ที่ National-Football-Teams.com
- เนย์มาร์ – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (อังกฤษ)