ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
สไปเดอร์-แมน (อังกฤษ: Spider-Man) เป็นตัวการ์ตูนยอดมนุษย์สัญชาติอเมริกัน สร้างโดย สแตน ลี และ ของสังกัดมาร์เวลคอมิกส์ (Marvel Comics) ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกใน ฉบับที่ 15 (สิงหาคม พ.ศ. 2570) ในปัจจุบันนี้ ไอ้แมงมุมถือเป็นหนึ่งในตัวละครยอดมนุษย์ที่โด่งดังที่สุดในโลก และยังคงประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์
สไปเดอร์-แมน | |
---|---|
![]() หน้าปกหนังสือการ์ตูน "" ฉบับที่ 15 ที่ซึ่งไอ้แมงมุมปรากฏตัวเป็นครั้งแรก | |
ข้อมูลการจัดพิมพ์ | |
มาร์เวลคอมิกส์ | |
#15 (สิงหาคม 1962) | |
สแตน ลี | |
ข้อมูลในเรื่อง | |
ชื่อจริง | ปีเตอร์ เบนจาบิน ปาร์คเกอร์ |
นามแฝง | ,,Prodigy,,, ,,, The Liar |
สปีชี่ส์ | |
สังกัดทีม | อเวนเจอร์ส แฟนแทสติกโฟร์ |
พลพรรค | สไปเดอร์-แมน (ไมล์ โมราเลส) เดดพูล กัปตันอเมริกา ไอรอนแมน |
ความสามารถ |
|
ในตอนที่ไอ้แมงมุมได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 60 ในเวลานั้น ตัวละครที่เป็นวัยรุ่นในหนังสือการ์ตูนยอดมนุษย์ของอเมริกา มักจะมีบทบาทเทียบเท่าตัวประกอบเท่านั้น แต่การ์ตูนชุดไอ้แมงมุมได้พังกรอบเหล่านี้ออกไป โดยให้ตัวไอ้แมงมุม ซึ่งยังเป็นวัยรุ่นอยู่ มีบทบาทของวีรบุรุษตัวเอก ที่มี "ความสนใจเฉพาะตัว พร้อมกับการถูกปฏิเสธ ความขัดสน และความอ้างว้าง" ด้วยลักษณะเช่นนี้เอง ไอ้แมงมุมจึงสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านอายุน้อยได้
นอกจากจะเป็นตัวละครในหนังสือการ์ตูนแล้ว ไอ้แมงมุมยังปรากฏตัวในสื่ออื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแอนิเมชัน ละครชุดทางโทรทัศน์ คอลัมภ์การ์ตูนในหนังสือพิมพ์ วิดีโอเกม และภาพยนตร์ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง
มาร์เวลได้ตีพิมพ์หนังสือการ์ตูนชุดไอ้แมงมุมออกมาจำนวนหนึ่ง โดยชุดแรกมีชื่อว่า "" (The Amazing Spider-Man) ในหนังสือการ์ตูนแต่ละชุด จะแสดงให้เห็นพัฒนาการของตัวละครปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ตั้งแต่เป็นนักเรียนขี้อาย นักศึกษามีปัญหา ครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ จนถึงสมาชิกของคณะยอดมุนษย์ที่ชื่อ "อเวนเจอร์ส" (Avengers) ส่วนในการ์ตูนชุด "" (Spider-Girl) ปาร์คเกอร์ยังมีสถานะเป็นนักวิทยาศาสตร์และพ่ออีกด้วย
สไปเดอร์-แมนปรากฏตัวในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ซึ่งรับบทโดยทอม ฮอลแลนด์ ในภาพยนตร์ได้แก่กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก, สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง, อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล และสไปเดอร์-แมน ฟาร์ ฟรอม โฮม
ประวัติการตีพิมพ์การ์ตูนไอ้แมงมุม
หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับการ์ตูนชุดแฟนแทสติกโฟร์ (Fantastic Four) และอื่น ๆ ในปี พ.ศ. 2505 แล้ว สแตน ลี บรรณาธิการและหัวหน้านักเขียนของมาร์เวล ก็คิดจะสร้างตัวการ์ตูนยอดมนุษย์ตัวใหม่ขึ้นมาอีก ซึ่งตัวการ์ตูนที่เขาคิดได้ในตอนนั้นก็คือ "สไปเดอร์แมน" หรือ "ไอ้แมงมุม" ในภาษาไทย ตัวไอ้แมงมุมนี้ เกิดขึ้นมาจากความต้องการบริโภคหนังสือการ์ตูนของวัยรุ่นชาวอเมริกันที่เพิ่มมากขึ้น และความปรารถนาของลีที่จะสร้างตัวการ์ตูนที่วัยรุ่นมีส่วนร่วมด้วยได้ ลีได้กล่าวเอาไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขาว่า เขาได้รับอิทธิพลในการสร้างตัวไอ้แมงมุมมาจากนิตยสารเกี่ยวกับนักสู้อาชญากรที่ชื่อ "" (The Spider) และการได้เห็นความสามารถของที่สามารถไต่กำแพงได้
ในเรื่องของชื่อ "สไปเดอร์แมน" นั้น นักวาดการ์ตูน ได้กล่าวถึงที่มาของมันว่า:
ตอนที่ถกกันเกี่ยวกับไอ้แมงมุมครั้งหนึ่ง สแตนได้พูดว่า เขาชอบชื่อ (Hawkman) แต่ทางสังกัด (DC Comics) ได้ใช้ชื่อนี้และสร้างตัวละครตัวนี้ไปแล้ว ทางมาร์เวลก็มี (Ant-Man) กับ (Wasp) แล้ว เพราะฉะนั้นตัวการ์ตูนตัวนี้ก็ควรจะอยู่ในหมวดแมลงด้วย จากคำพูดนี้เอง ผมก็เชื่อว่าในตอนนั้นสแตนมีชื่อที่จะตั้งให้กับตัวการ์ตูนตัวนี้แล้ว
![image](https://www.wiki3.th-th.nina.az/image/aHR0cHM6Ly93d3cud2lraTMudGgtdGgubmluYS5hei9pbWFnZS9hSFIwY0hNNkx5OTFjR3h2WVdRdWQybHJhVzFsWkdsaExtOXlaeTkzYVd0cGNHVmthV0V2WTI5dGJXOXVjeTkwYUhWdFlpODBMelF5TDBSeVlXZHZia052Ymw4eU1ERXlYeTFmVFdGeWRtVnNYMkZ1WkY5QmRtVnVaMlZ5YzE5d2FHOTBiM05vYjI5MFh5VXlPRGd3T0RJeE5Ua3hNakVsTWprdWFuQm5Mekl5TUhCNExVUnlZV2R2YmtOdmJsOHlNREV5WHkxZlRXRnlkbVZzWDJGdVpGOUJkbVZ1WjJWeWMxOXdhRzkwYjNOb2IyOTBYeVV5T0Rnd09ESXhOVGt4TWpFbE1qa3VhbkJuLmpwZw==.jpg)
ต่อมา ลีได้เข้าไปตีสนิทกับฝ่ายการพิมพ์ของมาร์เวลที่ชื่อ (Martin Goodman) เพื่อที่จะให้เขาเห็นพ้องกับการกำเนิดการ์ตูนไอ้แมงมุมขึ้นมา หลังจากที่มีการโต้แย้งกันในเรื่องนี้ สุดท้าย กู๊ดแมนก็ตกลงว่าจะให้ลีลองเอาเรื่องไอ้แมงมุมไปลงไว้ในหนังสือ "" (Amazing Adult Fantasy) ฉบับสุดท้ายดู ซึ่งฉบับดังกล่าวนั้นเป็นฉบับที่ 15 และได้มีการเปลี่ยนชื่อหนังสือเป็น "อแมซซิงแฟนตาซี" อีกด้วย
ในปี พ.ศ. 2525 แจ็ก เคอร์บี (Jack Kirby) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในความเป็นจริงแล้ว ลีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรตัวไอ้แมงมุมน้อยมาก นอกจากนั้นเขา (เคอร์บี) ยังอ้างว่า ตัวไอ้แมงมุมนี้มีต้นแบบมาจากตัวการ์ตูนอีกตัวหนึ่งที่ชื่อ "" (The Silver Spider) ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาโดยตัวเคอร์บีเองร่วมกับโจ ไซมอน (Joe Simon) เพื่อจะนำไปเสนอให้ตีพิมพ์ลงหนังสือการ์ตูน (Black Magic) ในสังกัด (Crestwood) แต่ทางผู้ตีพิมพ์หนังสือการ์ตูนดังกล่าวได้ยุติกิจการไปเสียก่อน
แต่จากอัตชีวประวัติของไซมอน ซึ่งตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2533 นั้น ได้ให้ข้อมูลที่ต่างออกไปจากคำกล่าวข้างต้นของเคอร์บี โดยไซมอนได้ยืนยันว่า เขาไม่ได้สร้างตัวการ์ตูนเดอะซิลเวอร์สไปเดอร์ขึ้นมาเพื่อที่จะตีพิมพ์ในแบล็คแมจิคเท่านั้น นอกจากนั้น ในตอนแรกเขาก็ตั้งชื่อให้ตัวการ์ตูนตัวนี้ว่า "สไปเดอร์แมน" เหมือนกับชื่อภาษาอังกฤษของไอ้แมงมุมในปัจจุบัน แต่ภายหลังได้เปลี่ยนมาเป็นเดอะซิลเวอร์สไปเดอร์แทน ส่วนตัวเคอร์บีนั้น ก็มีหน้าที่วางโครงเรื่องและลายละเอียดเกี่ยวกับพลังพิเศษต่าง ๆ ของตัวการ์ตูน ไซมอนได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ฐานคติหรือคอนเซ็ปเกี่ยวกับเดอะซิลเวอร์สไปเดอร์ของทั้งเขาและเคอร์บีนั้น สุดท้ายแล้วก็ได้นำไปใช้เป็นพื้นฐานในการสร้างตัวการ์ตูนยอดมนุษย์อีกตัวหนึ่งที่ชื่อ "เดอะฟราย" (The Fly) ซึ่งอยู่ในสังกัด (Archie Comics) ของไซมอนเอง โดยเดอะฟรายนั้นเปิดตัวครั้งแรกในช่วงต้นปี พ.ศ. 2502
(Greg Theakston) นักประวัติศาสตร์ด้านหนังสือการ์ตูน ได้กล่าวว่า หลังจากที่กู๊ดแมนได้ให้ความเห็นชอบกับการใช้ชื่อสไปเดอร์แมน และคอนเซ็ปท์ "วัยรุ่นธรรมดา ๆ" กับตัวการ์ตูนไอ้แมงมุมแล้ว ลีก็ได้ไปพบกับเคอร์บี โดยในการพบกันครั้งนั้น เคอร์บีได้เล่าที่มาของซิลเวอร์สไปเดอร์ ตัวการ์ตูนของเขา ให้ลีฟังว่า ซิลเวอร์สไปเดอร์เป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่กับญาติสูงอายุของเขา และวันหนึ่งเมื่อเขาได้ไปพบแหวนวิเศษ เขาก็ได้รับพลังพิเศษมาจากแหวนวงนั้น ลีกับเคอร์บีนั่งประชุมกันในประเด็นเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของไอ้แมงมุม ซึ่งหลังจากการประชุมสิ้นสุด ลีก็ได้มอบหมายให้เคอร์บีเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับตัวไอ้แมงมุมให้ และลองวาดตัวอย่างมาให้ลีดู หลังจากนั้น 1 หรือ 2 วัน เคอร์บีได้นำการ์ตูนตัวอย่างจำนวน 6 หน้ามานำเสนอให้ลีดู เมื่อลีได้ดูแล้วเขาก็ได้กล่าวว่า “ผมไม่ชอบวิธีที่เขาสร้างมันขึ้นมา ไม่ใช่เพราะฝีมือเขาไม่ดี แต่มันยังไม่ใช่ตัวการ์ตูนที่ผมต้องการ มันออกแนวฮีโร่มากเกินไป” ทางด้านของไซมอนเอง ก็ยืนยันด้วยเหมือนกันว่า เคอร์บีได้นำเอาไอ้แมงมุมแบบดั้งเดิม (เดอะซิลเวอร์สไปเดอร์) ไปเสนอให้แก่ลี ผู้ซึ่งชอบแนวความคิดของเขา และมอบหมายให้เขาวาดตัวอย่างมาให้ดู แต่สุดท้ายลีก็ไม่ชอบผลงานที่เขาวาดออกมา ซึ่งไซมอนได้พรรณนาถึงตัวการ์ตูนที่เคอร์บีวาดเอาไว้ว่า เหมือน “กัปตันอเมริกาที่มี”
หลังจากนั้นมา ลีก็ได้หันความสนใจไปที่ดิตโก และให้ดิตโกออกแบบองค์ประกอบต่าง ๆ ของไอ้แมงมุม ทั้งเสื้อผ้าที่ใส่ และลักษณะของพลังพิเศษต่าง ๆ แทนเคอร์บี ส่วนในเรื่องของนั้น ก็เป็นหน้าที่ของดิตโกอีกเช่นกัน โดยดิตโกได้สร้างร่วมกับ (Eric Stanton) เพื่อนร่วมชั้นเรียนในโรงเรียนศิลปะ โดยสแตนตันได้ให้สัมภาษณ์กับธีคสตันในปี พ.ศ. 2531 เกี่ยวกับเรื่องการทำงานกับดิตโกว่า เขาทั้งสอง “ได้ทำงานเกี่ยวกับสตอรีบอร์ดร่วมกัน และผมก็ได้เสริมความคิดของผมลงไปนิดหน่อย แต่เนื้องานส่วนใหญ่นั้น ได้รับการสร้างสรรค์มาจากตัวสตีฟเอง...ผมคิดว่าสิ่งที่ผมคิดเอาไว้ในเรื่องนี้ก็คือ ประเด็นที่ไอ้แมงมุมสามารถพ่นใยออกมาจากมือของเขาได้”
ความสำเร็จเชิงพาณิชย์
ไม่กี่เดือนหลังจากที่ไอ้แมงมุมได้ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูน ฉบับที่ 15 (สิงหาคม พ.ศ. 2505) จากฝ่ายการพิมพ์ของ ก็ได้พบว่า หนังสือการ์ตูนฉบับดังกล่าวนั้นได้กลายเป็นหนึ่งในหนังสือการ์ตูนของมาร์เวลที่มียอดขายสูงที่สุด ต่อมา ไอ้แมงมุมก็ได้มีหนังสือการ์ตูนชุดเป็นของตนเอง โดยเริ่มต้นที่ “” ฉบับที่ 1 (มี.ค. 2506) เป็นอันดับแรก ซึ่งต่อมาหนังสือการ์ตูนชุดนี้ก็ได้กลายเป็นหนังสือการ์ตูนชุดที่มียอดขายสูงที่สุดของมาร์เวลไปอีกเช่นกัน และจากการสำรวจคะแนนเสียงนักศึกษามหาวิทยาลัยของสำนักเอสไควร์ (Esquire) เมื่อปี พ.ศ. 2508 ว่าใครเป็นสัญลักษณ์ในดวงใจที่มี “ความขบถ” อยู่ในตัว ของพวกเขามากที่สุด ก็ปรากฏว่า อันดับที่ 1 ก็คือไอ้แมงมุม ส่วนอันดับถัดลงมานั้น ก็คือ มนุษย์ยักษ์จอมพลัง (The Hulk) ที่เป็นจากสังกัดมาร์เวลเหมือนกัน นอกจากนั้นยังมีบ็อบ ดีแลน และเช เกบารา ติดอันดับอยู่ด้วย นักศึกษาผู้หนึ่งได้กล่าวถึงเหตุผลที่ลงคะแนนให้ไอ้แมงมุมว่า เพราะเขาถูก “ห้อมล้อมด้วยความทุกข์ ปัญหาทางด้านการเงิน และความสงสัยเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่ ซึ่งพิจารณาให้ดีแล้ว เขาก็คือหนึ่งในพวกเรานั่นเอง”
หลังจากที่ดิอแมซซิงสไปเดอร์แมนวางจำหน่ายถึงฉบับที่ 39 ก็ได้ยุติการวาดการ์ตูนชุดนี้ไป โดยผู้ที่มารับหน้าที่นี้ในระยะต่อมาก็คือ (John Romita, Sr.)
ในปี พ.ศ. 2513 แม้ว่าจะมีกฎห้ามไม่ให้พรรณนาเนื้อหาที่เกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ว่าจะในแง่บวกหรือลบ ผ่านสื่อหนังสือการ์ตูนก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข ศึกษาธิการ และสวัสดิการของสหรัฐอเมริกา ก็ได้ขอร้องให้สแตน ลี ช่วยเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวกับการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดลงไปในหนังสือการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จด้านการขายเรื่องใดเรื่องหนึ่งของมาร์เวลให้ ซึ่งลีก็ตอบรับ และได้เลือกดิอแมซซิงสไปเดอร์แมน ฉบับที่ 96 ถึง 98 (พ.ค. – ก.ค. 2514) ในการเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับผลเสียของการเสพยาเสพติดลงไป โดยในเนื้อเรื่องส่วนนี้ เป็นการกล่าวถึง (Harry Osborn) เพื่อนของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ (ไอ้แมงมุม) ที่ไปติดยาเสพติดจนทำให้ร่างกายทรุดโทรมลง ในขณะเดียวกันนั้น ก็เป็นช่วงที่ไอ้แมงมุมต้องต่อสู้กับ (Green Goblin, หรือ (Norman Osborn) บิดาของแฮรี) อยู่พอดี สุดท้ายไอ้แมงมุมก็สามารถเอาชนะกรีนกอบลินได้ด้วยการให้นอร์แมนได้เห็นลูกชายของตนเองที่กำลังเจ็บป่วยเพราะพิษยาเสพติดอยู่
ในปี พ.ศ. 2515 ไอ้แมงมุมได้ปรากฏตัวร่วมกับตัวการ์ตูนอื่น ๆ ของมาร์เวลในหนังสือการ์ตูนชุด “” (Marvel Team Up)
ในปี พ.ศ. 2519 มาร์เวลได้ออกหนังสือการ์ตูนชุดของไอ้แมงมุมมาเป็นชุดที่สอง โดยใช้ชื่อว่า “” (Peter Parker, The Spectacular Spider-Man) ซึ่งได้วางจำหน่ายไปพร้อมกับดิอแมซซิงสไปเดอร์แมน ซึ่งเป็นผลงานชุดแรก
ในปี พ.ศ. 2528 มาร์เวลก็สร้างหนังสือการ์ตูนชุดของไอ้แมงมุมมาเป็นชุดที่สาม โดยใช้ชื่อว่า “เว็บออฟสไปเดอร์แมน” (Web of Spider-Man) ซึ่งได้นำมาจำหน่ายแทนชุดมาร์เวลทีมอัพที่ยุติการสร้างไป
ในปี พ.ศ. 2533 ก็มีการวางจำหน่ายหนังสือการ์ตูนชุดของไอ้แมงมุมเป็นชุดที่สี่ โดยคราวนี้ผู้ที่มาเขียนบทและวาดให้คือศิลปินผู้โด่งดังที่ชื่อ (Todd McFarlane) ซึ่งการ์ตูนชุดนี้ สามารถเปิดตัวด้วยยอดขายที่สูงถึง 3 ล้านเล่มด้วยกัน นอกจากนั้น ยังมีการ์ตูนไอ้แมงมุมอีกอย่างน้อย 2 ชุดที่วางจำหน่ายตลอด
นอกจากจะเป็นตัวละครเอกในชุดของตนเองแล้ว ไอ้แมงมุมยังได้ปรากฏตัวอยู่ในหนังสือการ์ตูนที่ตีพิมพ์ออกมาแบบจำกัดจำนวน และยังได้เป็นแขกรับเชิญในหนังสือการ์ตูนของขอดมนุษย์ตัวอื่นอีกด้วย
เมื่อดิอแมซซิงสไปเดอร์แมนวางจำหน่ายถึงฉบับที่ 441 (พฤศจิกายน พ.ศ. 2541) นักประพันธ์และศิลปิน (John Byrne) ก็ได้นำเอาต้นกำเนิดของไอ้แมงมุมมาปรับปรุงใหม่ และนำไปสร้างเป็นหนังสือการ์ตูนชุดพิเศษที่ชื่อ “” (Spider-Man: Chapter One, ธันวาคม พ.ศ. 2541 – ตุลาคม พ.ศ. 2542)
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2542 ดิอแมซซิงสไปเดอร์แมนก็ได้เริ่มวางจำหน่ายชุดที่ 2 มาเป็นฉบับแรก ซึ่งเมื่อวางจำหน่ายถึงฉบับที่ 59 ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 จำนวนหนังสือการ์ตูนดิอแมซซิงสไปเดอร์แมนทั้งชุดที่ 1 และ 2 ก็มีจำนวนรวมกันถึง 500 ฉบับพอดี
![image](https://www.wiki3.th-th.nina.az/image/aHR0cHM6Ly93d3cud2lraTMudGgtdGgubmluYS5hei9pbWFnZS9hSFIwY0hNNkx5OTFjR3h2WVdRdWQybHJhVzFsWkdsaExtOXlaeTkzYVd0cGNHVmthV0V2ZEdndmRHaDFiV0l2Tmk4Mk15OGxSVEFsUWpnbFFURWxSVEFsUWpnbFFqSWxSVEFsUWpnbFFUTWxSVEFsUWprbE9FTWxSVEFsUWprbE9EQWxSVEFsUWpnbFFUY2xSVEFsUWpnbFFUVWxSVEFsUWprbE9ERWxSVEFsUWpnbFFVUWxSVEFsUWpnbE9UUWxSVEFsUWprbE9EQWxSVEFsUWpnbFFUY2xSVEFsUWpnbE9Ua2xSVEFsUWprbE9EQWxSVEFsUWpnbE9EZ2xSVEFsUWpnbFFVUWxSVEFsUWpnbFFUTWxSVEFsUWprbE9FTmZKVVV3SlVJNUpUZ3dKVVV3SlVJNEpUazBKVVV3SlVJNEpVRkVKVVV3SlVJNEpVSXdKVVV3SlVJNEpVRkJKVVV3SlVJNUpUZzBKVVV3SlVJNEpUbENKVVV3SlVJNUpUZ3dKVVV3SlVJNEpUazBKVVV3SlVJNEpVRkVKVVV3SlVJNEpVRXpKVVV3SlVJNUpUaERMU1ZGTUNWQ09TVTRNU1ZGTUNWQ09DVkJNU1ZGTUNWQ09DVTVPVjhsUlRBbFFqZ2xPRGtsUlRBbFFqZ2xPVUVsUlRBbFFqZ2xRakVsUlRBbFFqZ2xPVUVsUlRBbFFqZ2xPVGNsUlRBbFFqZ2xRalVsUlRBbFFqa2xPRGhmTVM1cWNHY3ZNakl3Y0hndEpVVXdKVUk0SlVFeEpVVXdKVUk0SlVJeUpVVXdKVUk0SlVFekpVVXdKVUk1SlRoREpVVXdKVUk1SlRnd0pVVXdKVUk0SlVFM0pVVXdKVUk0SlVFMUpVVXdKVUk1SlRneEpVVXdKVUk0SlVGRUpVVXdKVUk0SlRrMEpVVXdKVUk1SlRnd0pVVXdKVUk0SlVFM0pVVXdKVUk0SlRrNUpVVXdKVUk1SlRnd0pVVXdKVUk0SlRnNEpVVXdKVUk0SlVGRUpVVXdKVUk0SlVFekpVVXdKVUk1SlRoRFh5VkZNQ1ZDT1NVNE1DVkZNQ1ZDT0NVNU5DVkZNQ1ZDT0NWQlJDVkZNQ1ZDT0NWQ01DVkZNQ1ZDT0NWQlFTVkZNQ1ZDT1NVNE5DVkZNQ1ZDT0NVNVFpVkZNQ1ZDT1NVNE1DVkZNQ1ZDT0NVNU5DVkZNQ1ZDT0NWQlJDVkZNQ1ZDT0NWQk15VkZNQ1ZDT1NVNFF5MGxSVEFsUWprbE9ERWxSVEFsUWpnbFFURWxSVEFsUWpnbE9UbGZKVVV3SlVJNEpUZzVKVVV3SlVJNEpUbEJKVVV3SlVJNEpVSXhKVVV3SlVJNEpUbEJKVVV3SlVJNEpUazNKVVV3SlVJNEpVSTFKVVV3SlVJNUpUZzRYekV1YW5Cbi5qcGc=.jpg)
ในปี พ.ศ. 2550 ไอ้แมงมุมได้ปรากฏตัวอยู่ในหนังสือการ์ตูนชุดต่าง ๆ ของมาร์เวลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดิอแมซซิงสไปเดอร์แมน, นิวอเวนเจอร์ส (New Avengers), (The Sensational Spider-Man), (Friendly Neighborhood Spider-Man) , (Spider-Man Family) , (The Amazing Spider-Girl), อัลทิเมต สไปเดอร์-แมน (Ultimate Spider-Man), (Spider-Man Loves Mary Jane), (Marvel Adventures Spider-Man) และ (Marvel Adventures: The Avengers) นอกจากนั้น ยังรวมไปถึงหนังสือการ์ตูนชุดอื่น ๆ ที่ขายอย่างจำกัดจำนวนของมาร์เวลอีกด้วย
ในปัจจุบันนี้ ไอ้แมงมุมได้กลายมาเป็นตัวการ์ตูนที่สำคัญของมาร์เวล และมักจะถูกนำมาใช้เป็นตัวนำโชคประจำบริษัทอยู่บ่อย ๆ โดยในครั้งที่มาร์เวลได้เข้าสู่ตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2534 (Wall Street Journal) ก็ได้ตั้งหัวข้อข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า “ไอ้แมงมุมบุกวอลล์สตรีทแล้ว” (Spider-man is coming to Wall Street) และในวันที่มีการโปรโมทหุ้นของบริษัท สแตน ลี พร้อมด้วยนักแสดงที่ใส่ชุดไอ้แมงมุมก็ได้เดินทางไปร่วมโปรโมทกันที่ตลาดหุ้นด้วย
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ก่อความไม่สงบในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 มาร์เวลก็ต้องการจะตีพิมพ์เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ผ่านทางการ์ตูนเรื่องหนึ่งของสังกัด ซึ่งสุดท้ายพวกเขาก็ได้เลือกการ์ตูนเรื่องไอ้แมงมุมเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านั้น โดยที่เนื้อเรื่องดังกล่าวอยู่ในหนังสือการ์ตูนชุดดิอแมซซิงสไปเดอร์แมน ฉบับเดือนธันวาคม 2544
ในปี พ.ศ. 2549 หลังจากที่มีข่าวว่า ไอ้แมงมุมจะถอดหน้ากากของตนเองออก เพื่อเผยว่าผู้ที่อยู่ใต้หน้ากากนั้นก็คือปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ในหนังสือการ์ตูนชุด "" (Marvel: Civil War) สื่อมวลชนในโลกแห่งความจริงหลาย ๆ แห่งต่างก็ลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ หนังสือพิมพ์ของสหรัฐอเมริกาที่ลงข่าวดังกล่าวนี้หนึ่งหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์เต็ม ๆ โดยได้ลงเอาไว้ก่อนที่หนังสือการ์ตูนตอนดังกล่าวจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเสียอีก
ชีวประวัติปีเตอร์ ปาร์คเกอร์/ไอ้แมงมุม
ในครั้งที่ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูน ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เป็นเพียงวัยรุ่นเด็กเรียนคนหนึ่งจาก (Forest Hills) นครนิวยอร์ก ที่ต่อมาถูกแมงมุมอาบกัมมันตภาพรังสีกัดในระหว่างที่เขากำลังศึกษาการทดลองทางวิทยาศาสตร์อยู่ เขาได้รับพลังพิเศษต่าง ๆ จากแมงมุมตัวนั้น และหลังจากนั้น เขาก็พยายามที่จะเป็นดาราโทรทัศน์ด้วยการไปสมัครเป็น แต่แล้ววันหนึ่ง ก็ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเขาได้พลาดการหยุดยั้งอาชญากรคนหนึ่งเอาไว้ทั้งที่มีโอกาส จนเป็นเหตุให้อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา อาชญากรคนเดียวกันนั้นได้ทำร้าย (Uncle Ben) ซึ่งเป็นผู้ที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กจนเสียชีวิต หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ปาร์คเกอร์ก็ได้เรียนรู้ว่า พลังอันยิ่งใหญ่ที่เขาได้รับมานั้น มันจะต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ด้วย เขาจึงกลายมาเป็นไอ้แมงมุมหรือสไปเดอร์แมนและใช้พลังพิเศษที่เขามีทำหน้าที่ปกป้องความสงบสุขของประชาชนในที่สุด
หลังจากลุงของเขาถึงแก่กรรมไป ปาร์คเกอร์และ (Aunt May) ผู้ที่เขาอาศัยด้วยและเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กอีกคนหนึ่ง ก็เริ่มขัดสนด้านเงินทองมากขึ้น เขาจึงต้องไปทำงานเป็นช่างถ่ายภาพให้กับสำนักหนังสือพิมพ์ (Daily Bugle) และขายภาพให้กับ (J. Jonah Jameson) ผู้ที่ชอบนำเอาความรู้สึกส่วนตัวใส่ลงในหัวข่าวหนังสือพิมพ์เสมอ
หลังจากที่เขาได้ต่อสู้กับศัตรูของเขาครั้งแรก ปาร์คเกอร์ได้พบว่าการดำเนินชีวิตระหว่างชีวิตส่วนตัวกับชีวิตภายใต้ชุดแมงมุมนั้นเป็นสิ่งที่ยากลำบาก จนบางครั้งเขาก็พยายามจะเลิกสิ่งที่เขาทำ
ทางด้านศัตรูของเขานั้น ก็มักจะเข้าทำร้ายคนรอบกายที่เขารักอยู่เสมอ โดยครั้งที่สำคัญที่สุดก็คือ ครั้งที่ได้ฆาตกรรม (Gwen Stacy) คนรักคนแรกของเขา แต่ถึงแม้ว่าความตายของเธอจะคอยหลอกหลอนเขาตลอดเวลา ในเวลาต่อมาปาร์คเกอร์ก็ได้เข้าพิธีวิวาห์กับ (Marry Jane Watson) โดยเนื้อเรื่องต่อจากนั้น ก็มีการเปิดเผยให้เห็นถึงของเขาในฐานะของบุคคลธรรมดาคนหนึ่ง และปัญหามากมายที่เขาต้องประสบมากขึ้น
พลังพิเศษและอุปกรณ์ต่าง ๆ
พลังพิเศษ
หลังจากที่ถูกแมงมุมกัมมันตภาพรังสีกัดในระหว่างที่เขากำลังศึกษาการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ในชั้นเรียนอยู่นั้น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ก็ได้พบกับสิ่งแปลกใหม่บางอย่างที่เข้ามาในร่างกายของเขา นั่นก็คือพลังพิเศษที่เขาได้รับจากแมงมุมตัวนั้นนั่นเอง
ในเนื้อเรื่องดั้งเดิมของสแตน ลี และ นั้น ไอ้แมงมุมมีความสามารถในการเกาะไต่กำแพงได้ มีความแข็งแกร่งที่เหนือวิสัยมนุษย์พึงมี มีสัมผัสที่ 6 ที่เรียกว่า “สัมผัสแมงมุม” (spider-sense) ที่คอยเตือนเขาถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา มีความสมดุลของร่างกายที่ดีเยี่ยม และมีความเร็วกับความคล่องตัวเกินมนุษย์ทั่วไป เมื่อมาถึงเนื้อเรื่องที่ได้รับการตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2548 และ พ.ศ. 2549 ความสามารถของไอ้แมงมุมก็ยิ่งมีความใกล้เคียงกับแมงมุมจริง ๆ มากขึ้น นั่นคือเขาสามารถพ่นจริงออกมาจากมือได้ มีเหล็กในพิษที่งอกมาจากแขน มีความสามารถที่จะติดยึดสิ่งของต่าง ๆ กับหลังของเขาได้ สามารถควบคุมสัมผัสแมงมุมเพื่อใช้ในการสืบค้นร่องรอยต่าง ๆ ได้ สามารถมองเห็นในที่อับแสงได้ และยังมีความแข็งแกร่งกับความเร็วที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม
นอกจากพลังพิเศษที่เขาได้รับแล้ว ร่างกายในระดับองค์รวมและอวัยวะภายในของเขา ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบของกระดูก เนื้อเยื่อที่ยึดกระดูกเข้าหากัน และระบบประสาทต่าง ๆ ก็ยังมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนั้น กล้ามเนื้อของเขาก็ยังพัฒนาเพิ่มขึ้น
อุปกรณ์เสริม
ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เป็นตัวการ์ตูนที่มีพรสวรรค์และเป็นอัจฉริยะในการประยุกต์ใช้ความรู้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ เคมี หรือฟิสิกส์ เพื่อเสริมให้พลังของเขาแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากพลังพิเศษแล้ว เขายังได้สร้างอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อใช้ควบคู่กับพลังของเขาอีกด้วย โดยอุปกรณ์ที่ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของไอ้แมงมุมก็คือ เครื่องยิงใยแมงมุม (web-shooter) ที่เขาพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่เขาเป็นวัยรุ่น อุปกรณ์นี้สามารถปล่อยสารประกอบที่มีความเหนียวอย่างมากคล้ายใยแมงมุม ซึ่งจะสลายตัวไปหลังจากที่ถูกปล่อยออกมาแล้ว 2 ชั่วโมง ไอ้แมงมุมจะติดเครื่องยิงใยแมงมุมนี้เอาไว้บริเวณข้อมือด้านในทั้งสองข้าง โดยจะมีสวิทช์ควบคุมการปล่อยอยู่บริเวณฝ่ามือ ซึ่งรูปแบบของสารประกอบที่ปล่อยออกมานั้น ก็มีรูปร่างที่ต่างกันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้ ไม่ว่าจะเป็นแบบสายยาวที่ใช้แทนเชือกในการโหนตัว แบบตาข่าย หรือแบบลูกกลมที่ใช้ในการยิงอาวุธในมือของศัตรูหรือยิงใส่ตาของศัตรู ทำให้ศัตรูมองไม่เห็นไปชั่วขณะ นอกจากนั้นแล้ว เขายังสามารถทอสารประกอบดังกล่าวให้กลายเป็นรูปทรงกลมหรือครึ่งทรงกลมมาห่อหุ้มร่างกายเพื่อป้องกันตนเองหรือห่อหุ้มบริเวณมือเพื่อใช้แทนนวม หรือเป็นปีกขนาดใหญ่เพื่อใช้แทนเครื่องร่อน
นอกจากเครื่องยิงใยแมงมุม ปาร์คเกอร์ยังได้ประดิษฐ์เครื่องนำร่องแมงมุม (spider-tracer) ซึ่งเป็นอุปกรณ์รูปร่างคล้ายแมงมุมติดสัญญาณไฟที่สามารถฉายภาพ “สัญญาณแมงมุม” (Spider-Signal) ได้ โดยต่อมาปาร์คเกอร์ยังได้ปรับแต่งเครื่องนำร่องแมงมุมนี้ให้มีกล้องถ่ายภาพติดเอาไว้เพื่อถ่ายภาพได้แบบอัตโนมัติ
ปาร์คเกอร์ยังได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งประดิษฐ์ของ (Ben Reilly, มนุษย์เทียมที่มาจากตัวของปาร์คเกอร์เอง) ที่เรียกว่า “อิมแพ็คท์เว็บบิง” (impact-webbing) ซึ่งใช้ยิงกระสุนลูกปรายที่สามารถแผ่ออกมาเป็นใยแมงมุมหนา ๆ เพื่อห่อหุ้มร่างของผู้ที่ถูกยิงได้
ความสามารถด้านการต่อสู้
ไอ้แมงมุมเป็นตัวการ์ตูนยอดมนุษย์ที่มีประสบการณ์การต่อสู้มากที่สุดตัวหนึ่งในจักรวาลของมาร์เวล ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยได้รับการฝึกฝนโดยตรงทางด้านนี้เลยก็ตาม แต่เขาก็ได้รับมันจากการร่วมงานกับยอดมนุษย์ตัวอื่น ๆ จากประสบการณ์เหล่านี้เอง ทำให้ไอ้แมงมุมสามารถเอาชนะศัตรูของเขาได้ด้วยพลังและความสามารถอันมหาศาล
รูปแบบการต่อสู้ของเขาจะเป็นแบบที่ไร้รูปแบบ โดยใช้ประโยชน์จากความคล่องแคล่ว ความแข็งแกร่ง ความเร็ว และความสมดุล ที่ผสมกับประโยชน์จากสัมผัสแมงมุมที่เขามี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการต่อสู้ส่วนใหญ่ของเขามาจากไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าผสมกับการใช้สติปัญญาและสงครามจิตวิทยา ไม่ว่าจะเป็นการพูดเล่นมุขตลก เล่นลิ้น และเย้ยหยัน เพื่อให้คู่ต่อสู้โมโหคลุ้มคลั่ง และช่วยให้ตนเองสามารถรับมือกับความกลัวและความกังวลต่าง ๆ ที่มีสิทธิ์เกิดขึ้นระหว่างการต่อสู้ได้
เครื่องแบบ
ไอ้แมงมุมมีเครื่องแบบประจำตัวไม่มากนัก ชุดที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด นั่นคือ ชุดแมงมุมสีแดง-น้ำเงินที่ใส่เป็นประจำแทบจะทุกตอน ชุดสีขาว-ดำคล้ายมนุษย์ต่างดาว (ภายหลัง ชุดนี้ได้ถูกพัฒนาไปเป็นเครื่องแบบที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวไอ้แมงมุม) และชุดไอออน สไปเดอร์ (iron spider) ที่สร้างขึ้นมาโดยเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งออกแบบโดย (Tony Stark) หรือไอร์ออนแมน (Ironman) เพื่อนยอดมนุษย์อีกตัวหนึ่ง นอกจากนั้นแล้ว ในชุดปกติแดงน้ำเงินของไอ้แมงมุม บางครั้งจะมีใยแมงมุมเชื่อมระหว่างต้นแขนกับข้างลำตัวด้วย ขึ้นอยู่กับการตีความของศิลปินที่วาดแต่ละคน
(Axel Alonso) บรรณาธิการของหนังสือการ์ตูนไอ้แมงมุม ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ว่า ไอ้แมงมุมในหนังสือการ์ตูนจะกลับมาใส่ชุดเครื่องแบบสีดำอีกครั้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป เพื่อสอดรับกับชุดสีดำที่ไอ้แมงมุมในภาพยนตร์เรื่อง “ไอ้แมงมุม 3” (Spider-Man 3) ที่ได้เข้าฉายทั่วโลกในช่วงเวลานั้น ใส่พอดี
ศัตรู
ไอ้แมงมุมเป็นยอดมนุษย์อีกตัวหนึ่งที่มีศัตรูจำนวนมาก และศัตรูหลาย ๆ ตัวของเขาก็เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยศัตรูตัวสำคัญของเรื่องนี้ที่ถือว่ามีความเลวทรามและอันตรายที่สุดก็ได้แก่ ดอกเตอร์ออกโทปุส (Doctor Octopus) และ (Venom) ส่วนศัตรูตัวอื่น ๆ ที่มีความสำคัญพอ ๆ กัน ก็ได้แก่ ลิซาร์ด (Lizard) คาเมเลียน (Chameleon) (Hobgoblin) (Kraven the Hunter) (Scopion) แซนด์แมน (Sandman) (Rhino) (Mysterio) (Vulture) (Electro) คาร์เนจ (Carnage) (Kingpin) และ (Shocker) เป็นต้น ศัตรูเหล่านี้ส่วนใหญ่ได้รับพลังพิเศษมาจากอุบัติเหตุจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์หรือการนำเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์มาใช้ในทางที่ผิด และศัตรูบางตัวยังมีเครื่องแบบและพลังพิเศษเหมือนสัตว์คล้ายกับไอ้แมงมุมอีกด้วย นอกจากนั้นศัตรูบางตัวยังตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับไอ้แมงมุมด้วย เช่น กลุ่มซินนิสเตอร์ซิกซ์ (Sinister Six) เป็นต้น
ตัวละครสมทบ
เมื่อมองจากด้านตรงข้าม ไอ้แมงมุมก็คือมนุษย์ผู้หนึ่งที่ได้รับพลังพิเศษมาจากตัวแปรภายนอกเท่านั้น เพราะฉะนั้น การ์ตูนเรื่องนี้จึงมีส่วนที่เล่าถึงเรื่องราวของเขาในฐานะที่เป็นสามัญชนคนหนึ่งด้วย ซึ่งเรื่องราวในส่วนดังกล่าวนี้ก็หมายรวมไปถึงเพื่อนฝูง ครอบครัว และความรักของเขาด้วย
![image](https://www.wiki3.th-th.nina.az/image/aHR0cHM6Ly93d3cud2lraTMudGgtdGgubmluYS5hei9pbWFnZS9hSFIwY0hNNkx5OTFjR3h2WVdRdWQybHJhVzFsWkdsaExtOXlaeTkzYVd0cGNHVmthV0V2ZEdndmRHaDFiV0l2TXk4ek9DOGxSVEFsUWprbE9EUWxSVEFsUWpnbFFVUWxSVEFsUWprbE9Ea2xSVEFsUWprbE9ERWxSVEFsUWpnbFFURWxSVEFsUWpnbE9EY2xSVEFsUWpnbFFURWxSVEFsUWpnbFFqZ2xSVEFsUWpnbFFURmZNaTB5TlRVd0xtcHdaeTh5TWpCd2VDMGxSVEFsUWprbE9EUWxSVEFsUWpnbFFVUWxSVEFsUWprbE9Ea2xSVEFsUWprbE9ERWxSVEFsUWpnbFFURWxSVEFsUWpnbE9EY2xSVEFsUWpnbFFURWxSVEFsUWpnbFFqZ2xSVEFsUWpnbFFURmZNaTB5TlRVd0xtcHdadz09LmpwZw==.jpg)
(วาดโดย )
ในบทบาทสมทบของไอ้แมงมุมที่มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ได้แก่
- – ป้าผู้น่ารักของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ที่รับเขามาเลี้ยงดูหลังจากที่บิดาและมารดาของเขาถึงแก่กรรม และเมื่อ (Benjamin Parker) สามีของเธอ หรือลุงเบนของปีเตอร์ เสียชีวิตไปอีกคนหนึ่ง ป้าเมย์ก็กลายเป็นครอบครัวที่เหลืออยู่ของปีเตอร์เพียงคนเดียว ทำให้ทั้งเขาและเธอสนิทสนมกันมาก
- – คนรักของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ สมัยที่เรียนอยู่ในวิทยาลัย ถูกสังหารโดย ด้วยการโยนร่างของเธอลงมาจากสะพาน
- (Betty Brant) – เลขานุการที่ทำงานในสำนักหนังสือพิมพ์ ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยหลงรักกับปีเตอร์
- – ผู้บริหารเจ้าอารมณ์ประจำสำนักเดลีบูเกิล ที่ได้จ้างปีเตอร์มาทำงานในตำแหน่งช่างถ่ายภาพของสำนัก เขาเป็นผู้ที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์ไอ้แมงมุมและมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้สาธารณชนไม่ไว้ใจไอ้แมงมุมด้วย
- (Joseph “Robbie” Robertson) – หัวหน้ากองบรรณาธิการของสำนักเดลีบูเกิล ผู้ที่คอยทำให้อำนาจของเจมสันอ่อนลง สำหรับปีเตอร์ หลังจากที่ลุงเบนของเขาจากไปแล้ว โรเบิร์ตสันก็ถือเป็นตัวแทนของบิดาของเขา
- (เอ็มเจ (MJ)) – เคยเป็นคู่แข่งหัวใจของเกว็น สแตซี ซึ่งต่อมาเธอก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทและภรรยาของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์
- (Flash Tompson) – เด็กเกเรที่ชอบแกล้งปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ สมัยที่ศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษา ซึ่งต่อมาเขาทั้งสองก็ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน หลังจากจบมหาวิทยาลัย แฟลชได้เข้าเป็นทหารและเข้าร่วมรบจนเสียขาทั้ง2ข้าง แฟลชได้เข้าโครงการ รีเบิร์ท2.0 ซึ่งเป็นการผสานร่างกายเข้ากับ วีน่อมซิมไบโอต แฟลชจึงได้กลายเป็น เอเจนท์วีน่อม
- – เพื่อนสนิทของปีเตอร์สมัยที่เรียนอยู่ในวิทยาลัย ผู้ซึ่งต่อมาได้ดำเนินตามรอยของบิดาของเขา (/กรีนกอบลิน) และกลายมาเป็นกรีนกอบลินตัวที่ 2 ที่คอยจ้องทำลายไอ้แมงมุม
- (Felicia Hardy) หรือ แบล็คแคท (Black Cat) – หัวขโมยที่มีความสามารถและการแต่งตัวคล้ายแมว ผู้ซึ่งเป็นคนรักและคู่หูของไอ้แมงมุมในระดับหนึ่งจนมี "การร่วมเพศ" กับสไปเดอร์แมน
ไอ้แมงมุมในรูปแบบอื่น
นอกจากจะเป็นหนึ่งในหนังสือการ์ตูนกระแสหลักของสังกัดมาร์เวลคอมิกส์แล้ว เรื่องของไอ้แมงมุมก็ยังถูกนำมาเล่าในเนื้อเรื่องอื่น ๆ
ชุดของสไปเดอร์แมน
ชื่อชุดไอ้แมงมุม | ลักษณะ | หมายเหตุ |
---|---|---|
ชุดเดอะเวสเลอร์ (the wrestler suit) | ชุดที่ปีเตอร์ใส่ใช้ในสังเวียนมวยปล้ำ เพื่อทดสอบพลังของตนเอง | |
ชุดเดอะสไปเดอร์แมน (the spider man suit) | ชุดแรกที่ปีเตอร์สร้างขึ้นมาหลังจากได้รับชัยชนะจากสังเวียนมวยปล้ำปีเตอร์จึงออกแบบชุดของตัวเองเองใหม่ทั้งหมดโดยแต่งแต้มแมงมุมทั้งหมดเพิ่มสีสาร แดง-ดำ พร้อมทั้งประดิษฐ์เครื่องพ่นใยขึ้นมา เพื่อใช้ในการยิงใยได้ถนัด | |
ชุดต้นแบบ (classic costume suit) | ชุดที่ถูกออกแบบใหม่ที่ลบแต้มแมงมุมออกทั้งหมดที่ร่องแขนและเพิ่มสีน้ำเงินเข้าไปแทนและเป็นชุดที่สไปเดอร์แมนใช้มาตลอด | |
ชุดสีดำหรือชุดซิมไปโอต (black suit & symbiote suit) | ในขณะที่สไปเดอร์-แมนกำลังต่อสู้บนดาวประหลาด (เนื้อเรื่องย่อยภาคซีเคร็ท วอร์ส) เขาต้องยอมเสียสละเครื่องยิงใยแมงมุมอาวุธหลักของเขาไปในการช่วยเหลือเพื่อนพ้องจากการโดนหินทับที่โมเลกุล-แมนทุ่มใส่ ทำให้สไปเดอร์-แมนต้องหาอาวุธใหม่มาทดแทน โดยได้ข่าวจากฮีโร่คนอื่นๆมาว่ามีเครื่องยนต์ประหลาดในห้องแลปทดลองใกล้ๆซึ่งสามารถซ่อมชุดของเขาได้ สไปเดอร์แมน จึงเริ่มตามหาเครื่องที่ว่านี้ แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ไปเปิดผิดเครื่อง และปลดปล่อย“สสารเอเลี่ยนประหลาด” หลุดออกมาจากที่กักขังโง่ๆ ด้วยความประมาทของสไปเดอร์แมน ทำให้สสารเอเลี่ยนนั้นครอบคลุมร่างกายของเขา ทำให้ชุดสไปเดอร์แมนกลายเป็นร่างใหม่สีดำ ซึ่งค้นพบภายหลังว่ามันตอบสนองต่อสมองของเขา ซึ่งสามารถพรางกายให้เป็นชุดคนธรรมดา และสามารถพ่นใยแมงมุมอาวุธหลักได้อย่างไม่จำกัด พอกลับมาที่โลก สไปเดอร์แมนก็ได้ค้นพบความจริงที่น่าสะพรึงกลัวของชุดใหม่นี้ และพบว่า “มัน” ต้องการจะรวมร่างกับเขา โดยมันเข้าครอบงำร่างของเขาในเวลากลางคืน ในเวลาที่เขาหลับ ออกไปท่องราตรีต่อสู้กับเหล่าอธรรมอย่างโหดเหี้ยม ต่อมาด้วยความช่วยเหลือจาก (1 ใน แฟนแทสติก โฟร์) สไปเดอร์แมนจึงแยก"มัน"ออกจากตัวเขาได้ด้วยคลื่นโซนิค ซึ่งสามารถทำร้ายมันได้ แต่มันก็แหกกรงขังออกจากกลุ่มแฟนแทสติก โฟร์ได้ในที่สุด มันติดตามและพยายามจะรวมร่างกับสไปเดอร์-แมนอีกครั้งในหอระฆังโบสถ์ ด้วยพลังต่อต้านจากตัวสไปเดอร์-แมน และเสียงระฆัง ทำให้มันอ่อนแรงและหนีไปโดยทำท่าเหมือนจะตายแต่ก็หลบหนีไปได้และต่อมามันได้ไปรวมร่างกับ เอ็ดดี้ บร็อค จนกลายเป็น | ชุดที่เกิดจากการรวมเข้ากับซิมไบโอต เวนอม |
ไอ้แมงมุมหกแขน (spider man six arms) | เกิดจาการที่ปีเตอร์ดื่มยาลบผลข้างเคียงจาการถูกแมงมุมกัดแต่แทนที่เซรุ่มจะไปทำให้พลังของปีเตอร์หายไปแต่ผลดันผิดพลาดเพราะแขนเพิ่มออกมาสี่แขนจนกลายเป็นไอ้แมงมุมหกแขนต่อมาดร.เคริด์ คอนเนอร์ หรือ ริซาร์ด ผลิตยานต้านในภายหลังจนหายดี | |
แบค-แมน (bag man suit) | ชุดที่สมาชิกของ (แฟนแทสติก โฟร์) ทั้งสี่มอบให้เพราะหลังจากปีเตอร์แยกซิมไบโอตออกมาแล้วก็อยู่ในสภาพเปลือยกายเลยไปขอยืมชุดของเหล่าแฟนแทสติก โฟร์ มายืมใส่และใช้เป็นชุดปฏิบัติการอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะกลับมาใส่ชุดเดิม | |
คอสมิคสไปเดอร์แมน (cosmic spider-man) | เกิดจากการที่ปีเตอร์ถูกระเบิดในห้องทดลองแทนที่มันจะฆ่าปีเตอร์แต่แรงระเบิดไปหลอมรวมเข้ากับปีเตอร์เข้ากับพลังงานคอสมิคจนกลายเป็น กัปตันยูนิเวิรส์ ทำให้ปีเตอร์มีพลังพิเศษที่สามารถยิงลำแสงทำลายล้างออกมาจากมือได้และสามารถยิงใยให้ออกมาตามรูปแบบที่ใจของของปีเตอร์ปรารถนา | |
ชุดไซบอร์คสไปเดอร์แมน (cybrog spider-man suit) | ชุดที่ปีเตอร์สวมใส่ในตอนที่ปีเตอร์บาดเจ็บจากการต่อสู้ส่วนแขนเหล็กไม่ได้เชื่อมต่อกับร่างกายจริงๆเป็นเพียงเครื่องมือที่สวมไว้ให้ปีเตอร์รักษาอาการบาดเจ็บ หลังจากปีเตอร์หายดีแขนกลก็ถูกถอดออก | |
สไปเดอร์อาร์เมอร์ มาร์ค 1 (spider-armor Mark i) | ชุดเกราะที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยปีเตอร์เพื่อรับมือกับเหล่าวายร้ายนามว่า นิวเอนฟอร์ซเซอร์ ( New enforcers) | |
ชุดอ็อคโต้สไปเดอร์ (Octo-spider suit) | เกิดจากการที่ปีเตอร์สวมอุปกรณ์แขนกลของด็อคเตอร์อ็อคโตปุสเพื่อรับมือกับกลุ่ม ซินนิสเตอร์ซิกซ์ | |
ชุดไอเดนทิตี้ ไคลซิส ริโคลเช็ท (identity crisis:ricochet) | ชุดที่ปีเตอร์ใส่เนื่องจากถูกใส่ร้ายว่าเป็นฆาตกรปีเตอร์จึงเปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนชุดเพื่อรอคอยให้เรื่องคลี่คลายก่อนจะกลับมาเป็นสไปเดอร์แมนอีกครั้ง | |
ชุดไอเดนทิตี้ ไคลซิส: เดอะฮอร์เน็ท (identity crisis:The hornet) | ชุดที่ปีเตอร์ใส่มีต้นแบบมาจากตัวต่อ มีเจ็ทแพ็คติดอยู่ที่หลังใช้โบยบินไปบนท้องฟ้าและมีอาวุธลับเป็นเข็มยาสลบ | |
ชุดดัสค์ (dusk suit) | ชุดที่ปีเตอร์ไดรับมาจากดินแดนเนกาทีฟโซนมีความสามารถพิเศษคือ สามารถแฝงกายไปกับเงามืดและมีปีกร่อนที่ใช้ในการบิน ชุดจะมีสีดำทั้งหมด | |
ชุดโพรดิจี้ (prodigy suit) | ชุดที่ถูกออกแบบโดย เป็นชุดเกราะกันกระสุนทั่วทั้งตัวและมีพลังทำให้ปีเตอร์สามารถกระโดดไปตึกหนึ่งไปอีกตึกหนึ่งได้ในระยะไกล | |
ชุดอัลลิมิเตท (unlimited suit) | ชุดที่ปีเตอร์ใส่มีลักษณะสีแดง-น้ำเงินเข้ม ตาสีเหลือง | |
ชุดสุดท้าย (the final costume) | ชุดที่ปีเตอร์ใส่ในอนาคตหลังหมดหน้าที่ซุปเปอร์ฮีโร่โดยมีลักษณะใส่หน้ากาก ถุงมือ แจ็คเก็ต โดยมันเป็นแค่นิมิตแต่เป็นชุดของจักรวาล 312500 ต่อมาปีเตอร์ในจักรวาลหลักก็ได้รับชุดนี้จริงจากช่างตัดเสื้อที่ชื่อว่า เดอะโอลซีดิงกี้ | |
เกราะไอรอนสไปเดอร์ (iron-spider armor) | ชุดเกราะใหม่ของใหม่ของปีเตอร์ที่โทนี่สร้างขึ้นมาและติดตั้งอุปกรณ์มากมาย เช่น ขากลของแมงมุม เครื่องสแกนเนอร์ อุปกรณ์ขยายเสียงและภาพ เป็นต้น มีสีแดงลายเหลือง | |
สไปเดอร์อาร์เมอร์ มาร์ค 2 (บิ๊ก ไทม์) (spider-armor Mark ii (Big Time) | ชุดเกราะที่ถูกสร้างโดยปีเตอร์มีความสามารถในการซ่อนเร้นหายตัวโดยขึ้นอยู่กับสีสว่างบนชุดโดยสีของชุดแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ สีเขียว ทำให้อุปกรณ์ตรวจจับเสียงและภาพไร้ผล สีแดง ทำให้การทำงานของกับดักถูกยกเลิก | |
ชุดฟิวเจอร์ฟาวเดชั่น (future foundation suit) | ชุดที่ปีเตอร์ใส่ได้รับมาจากจอห์นนี่ สตรอม์ หรือ ฮิวแมนทอร์ช ในช่วงที่ปีเตอร์เข้าร่วมกลุ่มฟิวเจอร์ฟาวเดชั่น ชุดสีขาวลายดำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำกลุ่ม | |
สไปเดอร์อาร์เมอร์มาร์ค 3 (spider-armor Mark iii) | ชุดเกราะที่ถูกสร้างโดยปีเตอร์โดยเป็นชุดเกราะที่ปีเตอร์ตั้งใจประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อรับมือกับกลุ่มซินนิสเตอร์ซิกซ์โดยเฉพาะภายในชุดติดตั้งอุปกรณ์ไฮเทคมากมายซึ่งทำให้ปีเตอร์รับมือกับเหล่าศัตรูได้อย่างสบายๆ | |
สไปเดอร์อาร์เมอร์มาร์ค 4 (spider-armor Mark iv) | ชุดเกราะที่ถูกสร้างโดยปีเตอร์โดยมีลักษณะเหมือนชุดดั้งเดิมแต่สัญลักษณ์แมงมุมมีสีเขียว-ดำ โดยปีเตอร์ได้ติดตั้งระบบการยิงใยใหม่ ให้สามารถสั่งการได้ด้วยเสียงและชุดยังสามารถกันความร้อนและกันกระสุนปืนได้อีกด้วย | |
ชุดแอดวานส์ (advanced suit) | ชุดที่ปรากฏในเกมส์เท่านั้นโดยเป็นชุดที่ด็อคเตอร์อ็อคเตเวียสออกแบบขึ้นมาเพราะเข้าใจว่าปีเตอร์แอบช่วยสไปเดอร์แมนโดยปีเตอร์ได้สวมชุดนี้ออกปฏิบัติการและชุดมีพลังพิเศษที่เรียกว่า แบทเทิลโฟกัส (Battle focus) จะทำให้เกจโฟกัสเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและจะกดอินแสตนท์เท็คดาวน์ของศัตรูได้ทันที | |
ชุดซีเคร็ทวอร์ (secrect war suit) | ชุดเกราะที่ปีเตอร์ใส่ไปช่วยนิค ฟิวรี่จากด็อคเตอร์ดูม มีความสามารถในการปล่อย EMP | |
ชุดเนกาทีฟ (Negative suit) | ชุดที่เกิดจากการที่ปีเตอร์เข้าไปในเนกาทีฟโซน (Negative zone) จนชุดดูดซับพลังของมันมาทำให้มีความสามารถล่องหนและมีความสามารถในการปล่อยคลื่นช็อคเวฟสีขาว-ดำออกมาได้ | เกิดจากการดูดพลังงานจากเนกาทีฟโซนมา |
ชุดดำพลังไฟฟ้า (Electrically insulated suit) | ชุดที่ปีเตอร์ใส่ในการต่อสู้ร่วมกับทีม เอ็กซ์เมน และยังสามารถต่อกรกับอีเล็คโตรได้เพราะชุดสามารถกันไฟฟ้าได้ | |
ชุดเฟียร์อิทเซลฟ์ (Fear itself suit) | ชุดที่อัพเกรดถูกสร้างโดย โทนี่ สตาร์ค และ กลุ่มคนแคระ โดยใช้แร่อูรูในการสร้าง มีอาวุธคือใบมีดที่ออกมาจากปลอกแขนทั้งสองข้าง หลังจบเหตุการณ์ Fear itself โอดินได้สั่งทำลายอาวุธและรวมชุดนี้ด้วย | |
ชุดเวโรซิตี้ (verocity suit) | ชุดที่ปรากฏในเกมส์เท่านั้น ชุดที่ปีเตอร์ใส่มีความสามารถในการเพิ่มความเร็วในการวิ่ง | |
ชุดสไตล์คอมมิค (vintage comic book suit) | ชุดที่มีต้นแบบมาจากคอมมิคมีลวดลายเส้นการ์ตูน | |
ชุดลำลอง (ESU suit) | ชุดที่ปีเตอร์ใส่ในชีวิตประจำวันมีแค่หน้ากากและเครื่องยิงใยเท่านั้น | |
ไม่มีชุด (undies suit) | ปีเตอร์ที่ไม่ได้ใสเสื้อกับกางเกงใส่แค่หน้ากากและกางเกงในเท่านั้น | |
ชุดแอนตี้อ็อค (Anti-ock) | ชุดที่ปรากฏในเกมส์ช่วงสุดท้ายเท่านั้น ชุดที่ปีเตอร์ใส่มีความสามารถในการเพิ่มพลังให้ชุด | |
ชุดมืด (dark suit) | ชุดที่ปีเตอร์ใส่หลังจากกลับมาจากความตายจากการช่วยเหลือของเดดพูลที่ฆ่าปีเตอร์เพราะถูกว่าจ้าง |
ชุดของสไปเดอร์แมนที่ปรากฏในภาพยนตร์
ชื่อชุดไอ้แมงมุม | ลักษณะ | หมายเหตุ |
---|---|---|
ชุดดิอะเมซิ่งสไปเดอร์แมน รุ่นปี 1970 (the amazing spider-man suit (1970)) | ชุดสไปเดอร์แมนของปี 1970 โดยชุดมีสีแดง-น้ำเงิน ลักษณะชุดคือ เข็มขัดและเครื่องยิงใยเที่ใหญ่ป็นพิเศษโดยตาของสไปเดอร์แมนรุ่นนี้จะแหลมเป็นพิเศษ ปรากฏตัวใน ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน ปี 1970 | |
ชุดสไปเดอร์แมนโตเอะ (spider-man toei suit) | ชุดสไปเดอร์แมนของทางญี่ปุ่นหรือโตเอะที่จับมือร่วมกับมาร์เวลโดยชุดมีสีแดง-น้ำเงินเหมือนเดิมโดยชุดมีลักษณะคือ จะไม่มีเครื่องยิงใยแต่จะเป็นกำไลข้อมือที่เรียกชุดออกมาใส่และสามารถพ่นใยแมงมุมออกมาได้และสไปเดอร์แมนเวอร์ชันนี้มีหุ่นยนต์ประจำตัวคือ ลีโอพาดอน ปรากฏในทีวีโทรทัศน์ปี 1978 | |
ชุดเวสเลอร์ เวอร์ชัน โทบี้ แม็คไกวร์ (the wrestler suit ver.Tobey macguire) | ชุดที่ปีเตอร์สร้างขึ้นมาเองเพื่อในการประลองมวยปล้ำเพื่อชิงเงินรางวัลและทดสอบความสามารถของตัวเองว่าเก่งแค่ไหนปรากฏในไอ้แมงมุม ภาค 1 | |
ชุดดั้งเดิม เวอร์ชัน โทบี้ แม็คไกวร์ (classic suit ver. Tobey macguire) | ชุดที่สร้างขึ้นมาเองทำมาจากหนังโดยมีสีแดง-น้ำเงินและชุดมีลักษณะเหมือนในคอมมิคแต่จะไม่มีเครื่องยิงใยเพราะปีเตอร์สามารถยิงใยได้ด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งเครื่องยิงใยแมงมุมปรากฏใน ไอ้แมงมุม ภาค 1 2 3 | |
ชุดดั้งเดิม เวอร์ชัน โทบี้ แม็คไกวร์ รูปแบบเสียหาย(classic suit ver. Tobey macguire (Damgned)) | เกิดจากการที่ปีเตอร์ต่อสู้กับเหล่าวายร้ายจนทำให้ชุดขาดบางส่วนหรือมีลอย | |
ชุดดำ (black suit) | ชุดที่เกิดจากการรวมตัวของซิมไบโอต เวน่อม โดยชุดจะมีลักษณะสีดำและทำให้ปีเตอร์มีพลังมากขึ้นแต่ปีเตอร์จะสูญเสียบุคลิกของตนเองไปเพราะยิ่งเวน่อมครอบงำปีเตอร์มากเท่าไหร่ปีเตอร์จะกลายเป็นไม่ดีและก้าวร้าว ปีเตอร์จึงเลยถอดชุดออกมาและเวน่อมมันก็ได้ไปรวมกับเอ็ดดี้ บร็อคจนกลายเป็น เวน่อม ปรากฏใน ไอ้แมงมุมภาค 3 | |
ชุดศาลเตี้ย ( vigilante suit) | ปีเตอร์ใส่แค่หน้ากากและแว่นส่วนเสื้อเป็นชุดลำลองและใส่หมวกไหมพรม ปรากฏใน ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน | |
ชุดแรก (first suit) | ชุดแรกที่ปีเตอร์ออกแบบขึ้นมาเองโดยชุดมีสีแดง-น้ำเงินและมีเครื่องยิงใยแมงมุมเนื่องจากปีเตอร์ไม่สามารถยิงใยควบคุมได้ สัญลักษณ์แมงมุมจะมีขายาว โดยหน้ากากตรงตาจะมีสีเหลือง ปรากฏใน ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน | |
ชุดที่สอง (second suit) | ชุดที่สองของปีเตอร์ที่ออกแบบโดย เกว็น สเตซี่ โดยสีตาจะถูกเปลี่ยนเป็นสีขาวให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและสีของชุดถูกปรับให้สดใสขึ้น เครื่องยิงใยแมงมุมถูกเปลี่ยนเป็นอันใหม่ ปรากฏใน ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน ภาค 2 |
ชุดของสไปเดอร์แมนที่ปรากฏใจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล
ชื่อชุดไอ้แมงมุม | ลักษณะ | หมายเหตุ |
---|---|---|
ชุดโฮมเมด (homemade suit) | ชุดที่ปีเตอร์ทำเองที่บ้านหลังจากโดนแมงมุมอาบรังสีกัดโดยตาจะเป็นแว่น ความสามารถของชุดนี้คือ โดยตัวแว่นมันทำให้ปีเตอร์มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่เห็น เครื่องยิงใยแมงมุมถูกสร้างโดยปีเตอร์โดยสร้างจากวัสดุที่ไม่แพงและหาได้ง่าย โดยมีตัวบรรจุกระสุนใยแมงมุมอยู่ โดยมีสี่อันต่อเครื่องยิงใย | ในภาพยนตร์เรื่อง กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก ปีเตอร์ตั้งใจจะใส่ชุดนี้ไปลุยแต่โทนี่ส่งชุดใหม่มาก่อน |
ชุดแดง&น้ำเงิน หรือ ชุดดั้งเดิมของสตาร์ค (Red&blue suit หรือ original stark suit) | ชุดที่โทนี่สร้างให้ปีเตอร์ใส่เพื่อจับกุมกลุ่มแคปในเหตุการณ์กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก ก่อนโทนี่จะมอบชุดให้ปีเตอร์ไปใช้โดยมีสีแดง-น้ำเงิน ชุดนี้ปีเตอร์สามารถใช้ช่วงช่วยคนแถวบ้านของตนเองและปกป้องผู้คนจากภัยอันตราย โดยชุดทอขึ้นมาด้วยเส้นใยชนิดพิเศษที่มี ความแข็งแกร่ง ทนทาน และ ยากที่การฉีกขาดโดยตัวชุดมีการติดตั้งระบบ Auto fit suit (ระบบศูนย์ยากาศ) ที่สามารถปรับขนาดของชุดให้ใหญ่-เล็กลงก็ได้เพื่อให้พอดีกับผู้สวมใส่ได้โดยอัตโนมัติ อาวุธสำคัญที่ติดตั้งมาคือ เครื่องยิงใยแมงมุม (web-shootes) ที่อัพเกรดใหม่หากเกิดใยหมดระหว่างทำภารกิจสามารถติดตั้งใยสำรองบริเวณเอวถึง 6 กรัม โดยเครื่องยิงใยและใยสำรองมาใช้กับชุดลำลองได้ในกรณีที่ปีเตอร์ไม่ได้พกชุดมา โดยชุดดูเหมือนจะเป็นชุดซุปเปอร์ฮีโร่ธรรมดาทั่วไป แต่ความจริงโทนี่แอบซ่อนความสามารถต่างๆเอาไว้ เพื่อบล็อกไม่ให้ปีเตอร์ใช้งานจนกว่าจะผ่านการประเมิณจากโทนี่ แต่ปีเตอร์ก็ดันไปพบกับความลับนี้จนได้และขอให้เน็ท ลีด ปลดล็อกความสามารถทั้งหมดออกมา โดยชุดสร้างมาจากผลิตด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยโดยมีการติดตั้งเลนส์ชนิดพิเศษที่บริเวณดวงตาสามารถใช้คลื่นแสสเป็คตรั้มและสแกนหาเป้าหมายได้ทุกพิกัดแม้จะมีสิ่งกีดขวางบดบังอยู่ก็ตาม เวฟวิงค์ หรือ ปีกแมงมุม (web-wings) สามารถทำให้ปีเตอร์ร่อนอยู่ในที่สูงกรณีที่อยู่ในพื้นที่กว้างที่ไม่มีตึกให้ปีเตอร์โหนตัวลงมา โลโก้ที่หน้าอกชุดมันมีชื่อว่า โดรนนี่ (droney) โดรนลาดตระเวนที่สามารถสอดแนมและส่งข้อมูลมาให้ปีเตอร์ เครื่องยิงใยสามารถปล่อยแมงมุมจิ๋วติมตามเป้าหมายและส่งข้อมูลผ่าน GPS แพตกิ้ง ซึ่งจะแสดงพิกัดแผนที่แบบโฮโลแกรม โดยชุดมีระบบปฏิบัติการอัจฉริยะโดยปีเตอร์ตั้งชื่อว่า คาเรน(K.A.R.E.N)โดยคาเรนเชื่อมต่อกับข้อมูลส่วนกลางทำให้สามารถนำข้อมูลต่างๆมาแสดงผลได้อย่างรวดเร็วและสามารถวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมต่างๆว่าในแต่ละสถานการณ์ปีเตอร์ควรใช้โหมดไหนในการต่อสู้โดยเครื่องยิงใยสามารถยิงใยได้ 576 รูปแบบ เช่น ใยลูกกระดอน ใยแยกสลาย ใยลูกระเบิด ฯลฯ โดยชุดสามารถใช้โหมด instanct kills หรือ โหมดสังหารได้ ปรากฏตัวใน กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก , สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง , อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล ,สไปเดอร์-แมน ฟาร์ ฟรอม โฮม | |
เกราะไอรอนสไปเดอร์ (iron-spider armor) | หลังจบเหตุการณ์ปราบวัลเจอร์ลงไปได้ โทนี่ได้ตอบแทนน้ำใจปีเตอร์โดยการสร้างชุดนี้ขึ้นมาโดยมีต้นแบบมาจากชุดเกราะ ไอรอนแมน มาร์ค 46 โดยโทนี่ได้ให้ปีเตอร์ใส่เพื่อเปิดตัวฮีโร่คนใหม่อย่างสไปเดอร์แมนแต่ปีเตอร์ปฏิเสธเพราะปีเตอร์ขอเป็นสไปเดอร์แมนเพื่อนบ้านที่แสนดีไปก่อน ในช่วงเหตุการณ์ชิงมณีจาก ดร.สเตรนจ์ ในนิวยอร์ก โดยปีเตอร์ได้เกาะยาน Q-ship โดยชุดแดง&น้ำเงินไม่มีอากาศถ่ายเทบนอวกาศ เลยทำให้โทนี่สั่งการจรวดขนาดเล็กที่บรรจุเกราะอยู่ให้ปีเตอร์ใส่ โดยเมื่อใส่เข้าไปทำให้ชุดผลิตออกซิเจนให้ปีเตอร์มีอากาศหายใจและเป็นชุดที่เหมาะกับการทำภารกิจบนอวกาศ โดยชุดสามารถกันกระสุนได้เนื่องจากเป็นเกราะ ชุดมีซอฟแวร์ที่เชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ F.R.I.D.A.Y ทำให้โทนี่ควบคุมชุดไอรอนสไปเดอร์ได้อย่างเต็มที่ โดยบรรจุเตาปฏิกรณ์ขนาดเล็ก โดยมีความมารถมากมาย เช่น ระบบร่มชูชีพ ขาแมงมุมที่เป็นอาวุธหลักของชุดในการต่อสู้และเป็นแขนขาในการปีนป่ายหรือใช้เดินบนพื้นผิวขรุขระ ถ้าหากต้องการใช้ฟังก์ชัน Full option ต้องสั่งการโหมด instant kills หรือ โหมดสังหาร มันจะทำให้ขาแมงมุมโจมตีศัตรูได้อย่างรวดเร็วและทำให้สไปเดอร์กลายเป็นผู้ต่อสู้ที่น่ากลัวไปในที่สุด ในช่วงที่ปีเตอร์ไปทัศนศึกษาได้เผยว่า ชุดยังต้องชาร์จพลังงาน ปรากฏตัวใน สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง , อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล ,สไปเดอร์-แมน ฟาร์ ฟรอม โฮม | |
ชุดสเตล็ท หรือ ชุดไนท์มังกี้ (stealth suit หรือ night monkey suit) | ปีเตอร์ต้องไปทัศนศึกษากับเพื่อนๆ ชีลด์จึงได้ให้ชุดนี้กับปีเตอร์เพื่อปกปิดตัวตนไม่ให้เพื่อนๆสงใสในตัวเขา | |
ชุดแดง&ดำ(red&black suit หรือ upgrade suit) | ชุดที่ปีเตอร์สร้างขึ้นตอนอยู่บนเครื่องบินของโทนี่ เพื่อสู้กับมิสเตอริโอ | |
ไอ้แมงมุมในสื่ออื่น
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง
- Amazing Spider-Man #434
- Spider-Man #91
- The Spectacular Spider-Man #257
- Sensational Spider-Man #27
- Amazing Spider-Man Annual #36
- The Amazing Spider-Man #149-151
- The Amazing Spider-Man #529
- "What If? Vol 2 #31
- "Amazing Spider-Man Vol.05" #6
- Bradford W. Wright. Comic Book Nation (Johns Hopkins, 2001.) p. 210 (อังกฤษ)
- J. Michael Straczynski (เขียนบท,) John Romitar Jr., Scott Hana (วาด.) "Coming Home" (คืนถิ่น,) The Amazing Spider-Man (Marvel Comics, Bongkoch Comics.)
- Cynthia O'Neill, Tom DeFalco, and Stan Lee. Spider-Man: The Ultimate Guide (DK CHILDREN, 2001.) p.1 (อังกฤษ)
- Stan Lee, and George Mair. Excelsior!: The Amazing Life of Stan Lee (Fireside, 2002.) p.130 (อังกฤษ)
- "Comic Book Creatures," รายการ Animal Icons (ปี 2.) ทรูวิชั่นส์ ช่อง Animal Planet (20.00-23.00 น., 19 พฤษภาคม 2550.)
- ในทางเทคนิค แมงมุมไม่ใช่สัตว์จำพวกแมลง
- Les Daniels. Marvel: Five Fabulous Decades of the World's Greatest Comics (Harry N. Abrams, New York, 1991.) p. 95 (อังกฤษ)
- Greg Theakston. The Steve Ditko Reader (Pure Imagination, Brooklyn, NY, 2002.) p. 12 (อังกฤษ)
- Joe Simon, with Jim Simon. The Comic Book Makers (Crestwood/II, 1990.) (อังกฤษ)
- "Ditko & Stanton เก็บถาวร 2010-09-24 ที่ ." เว็บไซต์ Ditko Looked Up (http://www.ditko.comics.org 2009-02-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน).
- Greg Theakston. เพิ่งอ้าง. p. 14 (อังกฤษ)
- Les Daniels. เพิ่งอ้าง. p. 97 (อังกฤษ)
- Bradford W. Wright. เพิ่งอ้าง. p. 211 (อังกฤษ)
- Bradford W. Wright. เพิ่งอ้าง. p. 223 (อังกฤษ)
- Bradford W. Wright. เพิ่งอ้าง. p. 239 (อังกฤษ)
- Bradford W. Wright. เพิ่งอ้าง. p. 279 (อังกฤษ)
- มาร์เวลคอมมิคส์ถือเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการหนังสือการ์ตูนบริษัทแรกที่ได้เข้าสู่ตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกา
- Bradford W. Wright. เพิ่งอ้าง. p. 254 (อังกฤษ)
- Beau Yarbrough. "Marvel to Take on World Trade Center Attack in 'Amazing Spider-Man' 2007-10-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน," หน้า CBR News. เว็บไซต์ Comic Book Resources (http://www.comicbookresources.com). (อังกฤษ)
- "Spider-Man removes mask at last," หน้า Entertainment. เว็บไซต์ BBC News (http://news.bbc.co.uk). (อังกฤษ)
- "New York Post Spoils Civil War #2." เว็บไซต์ Newsarama.com (http://www.newsarama.com). (อังกฤษ)
- Amazing Fantasy (ชุดที่ 1, ฉบับที่ 15, สิงหาคม 2505) (อังกฤษ)
- The Amazing Sider-Man (ชุดที่ 1, ฉบับที่ 1, พ.ศ. 2506) (อังกฤษ)
- The Amazing Sider-Man (ชุดที่ 1, ฉบับที่ 50) (อังกฤษ)
- The Amazing Sider-Man (ชุดที่ 1, ฉบับที่ 100) (อังกฤษ)
- Kit Kiefer and Jonathan Couper-Smart. Marvel Encyclopedia Volume 4: Spider-Man (Marvel Comics, 2003.) (อังกฤษ)
- "Spider-Man," หน้า Individuals. เว็บไซต์ Marvel Directory (http://www.marveldirectory.com). (อังกฤษ)
- Hilary Goldstein. "Spider-Man Villains Tournament 2007-05-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน," หน้า Features, Comics, Entertainment. เว็บไซต์ IGN (http://uk.comics.ign.com 2007-05-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน). (อังกฤษ)
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
![image](https://www.wiki3.th-th.nina.az/image/aHR0cHM6Ly93d3cud2lraTMudGgtdGgubmluYS5hei9pbWFnZS9hSFIwY0hNNkx5OTFjR3h2WVdRdWQybHJhVzFsWkdsaExtOXlaeTkzYVd0cGNHVmthV0V2WTI5dGJXOXVjeTkwYUhWdFlpOWxMMlZqTDFkcGEzUnBiMjVoY25rdGJHOW5ieTV6ZG1jdk5EQndlQzFYYVd0MGFXOXVZWEo1TFd4dloyOHVjM1puTG5CdVp3PT0ucG5n.png)
![image](https://www.wiki3.th-th.nina.az/image/aHR0cHM6Ly93d3cud2lraTMudGgtdGgubmluYS5hei9pbWFnZS9hSFIwY0hNNkx5OTFjR3h2WVdRdWQybHJhVzFsWkdsaExtOXlaeTkzYVd0cGNHVmthV0V2WTI5dGJXOXVjeTkwYUhWdFlpOW1MMlpoTDFkcGEybHhkVzkwWlMxc2IyZHZMbk4yWnk4ek5IQjRMVmRwYTJseGRXOTBaUzFzYjJkdkxuTjJaeTV3Ym1jPS5wbmc=.png)
![image](https://www.wiki3.th-th.nina.az/image/aHR0cHM6Ly93d3cud2lraTMudGgtdGgubmluYS5hei9pbWFnZS9hSFIwY0hNNkx5OTFjR3h2WVdRdWQybHJhVzFsWkdsaExtOXlaeTkzYVd0cGNHVmthV0V2WTI5dGJXOXVjeTkwYUhWdFlpODBMelJoTDBOdmJXMXZibk10Ykc5bmJ5NXpkbWN2TXpCd2VDMURiMjF0YjI1ekxXeHZaMjh1YzNabkxuQnVadz09LnBuZw==.png)
- เว็บไซต์ทางการ
- Spider-Man ที่เดอะคอมิกส์บุ๊กดีบี
- "Venom: The Sordid History of Spider-Man's Black Costume" at Marvel.com
- Spider-Man at
- SpiderFan
- Spider-Man ที่เว็บไซต์ Curlie