โบอิง 737
เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ |
โบอิง 737 เป็นเครื่องบินโดยสารที่มีพิสัยบินระยะปานกลาง ลำตัวแคบ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ผลิตโดยฝ่ายผลิตเครื่องบินพาณิชย์โบอิง โดยนับตั้งแต่วันที่ได้ทดสอบการบินครั้งแรกเมื่อ 9 เมษายน พ.ศ. 2510 เครื่องรุ่น 737 มียอดสั่งผลิตมากกว่า 8,000 ลำ และมียอดส่งมอบไปแล้วมากกว่า 6,000 ลำ ถือได้ว่าเป็นเครื่องบินโดยสารที่มียอดสั่งและส่งมอบสูงสุดตลอดกาล
โบอิง 737-400 พระราชพาหนะ | |
บทบาท | อากาศยานไอพ่นลำตัวแคบ |
---|---|
ชาติกำเนิด | สหรัฐอเมริกา |
บริษัทผู้ผลิต | เครื่องบินพาณิชย์โบอิง |
บินครั้งแรก | 9 เมษายน พ.ศ. 2510 |
เริ่มใช้ | 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2511 |
สถานะ | ในประจำการ |
ผู้ใช้งานหลัก | เซาท์เวสต์แอร์ไลน์ ไรอันแอร์ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ อเมริกันแอร์ไลน์ |
ช่วงการผลิต | พ.ศ. 2509-ปัจจุบัน |
จำนวนที่ผลิต | 10,614 ลำ ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 |
มูลค่า | 737-100: 3.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (พ.ศ. 2511), 26.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ตอนนี้ 737-200: 4.0 ล้านเหรียญสหรัฐ (พ.ศ. 2511), 28.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ตอนนี้ 737-200: 5.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (พ.ศ. 2515), 30.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ตอนนี้ |
แบบอื่น | โบอิง ที-43 |
พัฒนาต่อเป็น | โบอิง 737 คลาสสิก โบอิง 737NG โบอิง 737MAX |
737 Original
แรกเริ่มนั้น ตลาดเส้นทางระยะสั้นมีบีเอซี 1-11, ซัด อาวิเอชั่น คาราเวลล์ และแมคดอนเนลล์ ดักลาส ดีซี-9 ครองส่วนแบ่งอยู่ โบอิงจึงหยิบเอาโครงสร้างและระบบการทำงานของ727มาต่อยอดเพื่อลดเวลาการพัฒนาเครื่องบินใหม่ และให้เข้าแข่งขันได้ทันตามคู่แข่งรายอื่น โบอิงจึงได้ส่งรุ่น -100 และ -200 ออกมาเป็นุร่นแรกในปีพ.ศ. 2511
737-100
รุ่น 100 เป็นรุ่นแรกของ 737 เปิดตัวครั้งแรกในพ.ศ. 2508 โดยสายการบินลุฟต์ฮันซา ก่อนที่จะเริ่มการผลิตอย่างเป็นทางการในพ.ศ. 2510 และเริ่มให้บริการในพ.ศ. 2511 เครื่องรุ่น 100 เป็นเครื่องที่เล็กที่สุดในบรรดา 737 ทั้งหมด มียอดการส่งมอบเพียง 30 ลำก่อนการเลิกผลิต และต่อมาก็เริ่มถูกปลด ในปัจจุบัน ไม่มีการใช้เครื่องรุ่น 100 ขึ้นบินอีกแล้ว โดยองค์การสุดท้ายที่ใช้เครื่องรุ่น 100 คือ องค์การนาซา
737-200
รุ่น 200 เป็นรุ่นพิเศษของรุ่น 100 โดยจะมีลำตัวเครื่องกว้างกว่า เปิดตัวครั้งแรกใน พ.ศ. 2508 โดยสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ก่อนจะเริ่มสายการผลิตใน พ.ศ. 2510 และเริ่มให้บริการใน พ.ศ. 2511 ในปัจจุบัน ยังมีธุรกิจพาณิชย์จำนวนมากที่ยังใช้เครื่องรุ่น 200 แต่ในด้านธุรกิจเครื่องบินโดยสาร รุ่น 200 เสียเปรียบรุ่นที่ใหม่กว่า เพราะรุ่น 200 ค่อนข้างจะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และมีเสียงเครื่องยนต์รบกวนดัง เมื่อเทียบกับรุ่นใหม่ ดังนั้น ธุรกิจเครื่องบินโดยสารจึงลดการใช้รุ่น 200 ลงไป และในที่สุด รุ่น 200 ก็หายไปจากวงการเครื่องบินโดยสารใน พ.ศ. 2551 โดยสารการบินสุดท้ายที่ใช้คือ อโลฮ่าแอร์ไลน์ (Aloha Airlines)
การพัฒนา
จนกระทั่งปีพ.ศ. 2523 โบอิงได้พัฒนาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งรุ่น 737 คลาสสิก ได้แก่ -300, -400 และ -500 และต่อมาในปีพ.ศ. 2536 โบอิงพัฒนารุ่น 737 เนกซ์ เจเนอเรชั่น ได้แก่ -600, -700, -800 และ -900 โดยเพิ่มขนาดของตัวเครื่อง และประสิทธิภาพการบินให้มากขึ้นเพื่อตอบโต้เอ320รุ่นใหม่ของแอร์บัส ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดไป
737 Classic
737-300
รุ่น 300 เริ่มให้บริการครั้งแรกใน พ.ศ. 2524 โดยสายการบินยูเอสแอร์เวย์ และ เซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์ และผลิตต่อไปจนถึง พ.ศ. 2542 โดยสายการบินสุดท้ายที่สั่งซื้อรุ่น 300 คือ แอร์นิวซีแลนด์
737-400
รุ่น 400 เปิดตัวในพ.ศ. 2528 ในช่วงแรกออกแบบมาเพื่อสายการบินแบบเช่าเหมาลำ สายการบิน Piedmot Airlines เป็นสายการบินแรกที่สั่งซื้อเครื่องรุ่น 400 พร้อมกันถึง 25 ลำ และออกให้บริการครั้งแรกในพ.ศ. 2531 และเครื่องบินรุ่น 400 ลำสุดท้ายถูกส่งมอบให้สายการบิน Czech Airlines ในพ.ศ. 2543
ในบางสายการบิน เช่น Alaska Airlines มีการนำเครื่องรุ่น 400 ไปดัดแปลง โดยนำที่นั่งผู้โดยสารออกส่วนหนึ่ง แล้วทำเป็นที่บรรทุกสินค้าขนาด 10 พาเลต(pallets) ทำให้แต่ละเที่ยวบิน สามารถบรรทุกสินค้าและรับส่งผู้โดยสารได้พร้อมกัน
737-500
เครื่องรุ่น 500 เปิดตัวครั้งแรกใน พ.ศ. 2530 โดยสายการบิน Southwest Airlines และออกให้บริการครั้งแรกใน พ.ศ. 2533 รุ่น 500 ออกแบบมาเพื่อทดแทนรุ่น 200 โดยตรง มีประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันกว่ารุ่น 200 เครื่องรุ่น 500 ลำสุดท้ายถูกส่งมอบให้สายการบิน All Nippon Airways เมื่อ พ.ศ. 2542
รุ่น 500 เป็นที่นิยมในวงการสายการบินรัสเซีย สายการบินสัญชาติรัสเซียจำนวนมากรับซื้อเครื่องรุ่น 500 มือสอง เพื่อนำไปทดแทนเครื่องบินที่ผลิตในประเทศ หรือบ้างก็เพื่อทดแทนเครื่องรุ่น 200 ที่มีอยู่เดิม
737 Next Generation
ในช่วงหลังการเปิดตัวรุ่น 500 แอร์บัส เอ 320 ได้เข้ามาเป็นที่นิยมในวงกว้างแทนโบอิง 737 ทำให้โบอิงต้องปรับปรุง 737 ครั้งใหญ่ เพื่อตีตื้นแอร์บัส หลังการทดลองและวิจัย ก็ได้ออกเครื่องรุ่นใหม่กว่าออกมา มีคุณสมบัติเหนือกว่ารุ่นเดิม เช่น
- ใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ CFM56-7 เทอร์โบแฟน ประหยัดเชื้อเพลิงกว่าเดิมประมาณ 6.5%
- พิสัยการบินไกลกว่ารุ่น 500 ถึง 1200 กิโลเมตร
- เพิ่มความจุถังเชื้อเพลิง และน้ำหนักบรรทุกสูงสุด
- เกจบนห้องนักบินเปลี่ยนเป็นหน้าปัทม์ดิจิตอลLCD เป็นต้น
737-600
รุ่น 600 เปิดตัวครั้งแรกใน พ.ศ. 2538 โดยสายการบิน Scandinavian Airlines System และเปิดให้บริการในพ.ศ. 2541
737-700
รุ่น 700 เป็นรุ่นแรกของ 737 Next Generation เปิดตัวใน พ.ศ. 2536 เปิดให้บริการครั้งแรกใน พ.ศ. 2541 โดยสายการบิน Southwest Airlines
737-800
รุ่น 800 เปิดตัวใน พ.ศ. 2537 โดยสายการบิน Hapeg-Lloyd Flug เปิดให้บริการใน พ.ศ. 2541
737-900
รุ่น 900 เป็นรุ่นที่ลำตัวเครื่องยาวที่สุด และทรงพลังมากที่สุด เปิดตัวเมื่อ พ.ศ. 2540 โดยสายการบิน Alaska Airlines และได้รับมอบเครื่องบินใน พ.ศ. 2544
ขณะนี้โบอิงกำลังศึกษาวิจัยเครื่องต้นแบบใหม่ที่เพื่อทดแทนเครื่อง 737 (โดยใช้เรียกว่า Y1/737RS) ที่จะออกตามหลัง 787 ซึ่งเป็นรุ่นหนึ่งในโครงการทดแทนรุ่นปัจจุบัน
ข้อมูลจำเพาะ
ข้อมูล | 737-100 | 737-400 | 737-500 | 737-600 | 737-700 | 737-800 | |
---|---|---|---|---|---|---|---|
นักบิน | 2 | ||||||
ความจุผู้โดยสาร | 118 (ชั้นประหยัด) | 168 (ชั้นประหยัด) | 132 (ชั้นประหยัด) | 149 (ชั้นประหยัด) | 189 (ชั้นประหยัด) | ||
ความยาว | 28.6 เมตร (94 ฟุต) | 36.5 เมตร (119 ฟุต 6 นิ้ว) | 31.1 เมตร (101 ฟุต 8 นิ้ว) | 31.2 เมตร (102 ฟุต 6 นิ้ว) | 33.6 เมตร (110 ฟุต 4 นิ้ว) | 39.5 เมตร (129 ฟุต 6 นิ้ว) | |
ความกว้างของปีก | 28.3 เมตร (93 ฟุต) | 28.9 เมตร (94 ฟุต 8 นิ้ว) | 34.3 เมตร (112 ฟุต 7 นิ้ว) | 34.3 เมตร (112 ฟุต 7 นิ้ว) | 34.3 เมตร (112 ฟุต 7 นิ้ว) | ||
ความสูง | 11.3 เมตร (37 ฟุต) | 11.1 เมตร (36 ฟุต 5 นิ้ว) | 12.6 เมตร (41 ฟุต 3 นิ้ว) | 12.5 เมตร (41 ฟุต 2 นิ้ว) | |||
ความกว้างของลำตัวเครื่อง | 3.76 เมตร (12 ฟุต 4 นิ้ว) | ||||||
ความสูงของลำตัวเครื่อง | 4.11 เมตร (13 ฟุต 6 นิ้ว) | ||||||
ความกว้างของห้องนักบิน | 3.54 เมตร (11 ฟุต 7 นิ้ว) | ||||||
ความสูงของห้องนักบิน | 2.20 เมตร (7 ฟุต 3 นิ้ว) | ||||||
น้ำหนักบรรทุกเปล่า | 28,120 กิโลกรัม (61,864 ปอนด์) | 33,200 กิโลกรัม (73,040 ปอนด์) | 31,300 กิโลกรัม (68,860 ปอนด์) | 36,378 กิโลกรัม (80,031 ปอนด์) | 38,147 กิโลกรัม (84,100 ปอนด์) | 41,413 กิโลกรัม (91,108 ปอนด์) | |
น้ำหนักสูงสุดขณะนำเครื่องขึ้น | 49,190 กิโลกรัม (108,218 ปอนด์) | 68,050 กิโลกรัม (149,710 ปอนด์) | 60,550 กิโลกรัม (133,210 ปอนด์) | 66,000 กิโลกรัม (145,500 ปอนด์) | 70,080 กิโลกรัม (154,500 ปอนด์) | 79,010 กิโลกรัม (174,200 ปอนด์) | |
น้ำหนักสูงสุดขณะนำเครื่องลง | 44,906 กิโลกรัม (99,000 ปอนด์) | 56,246 กิโลกรัม (124,000 ปอนด์) | 49,895 กิโลกรัม (110,000 ปอนด์) | 55,112 กิโลกรัม (121,500 ปอนด์) | 58,604 กิโลกรัม (128,928 ปอนด์) | 66,361 กิโลกรัม (146,300 ปอนด์) | |
น้ำหนักบรรทุกโดยไม่บรรจุเชื้อเพลิง | 40,824 กิโลกรัม (90,000 ปอนด์) | 53,070 กิโลกรัม (117,000 ปอนด์) | 46,720 กิโลกรัม (103,000 ปอนด์) | 51,936 กิโลกรัม (114,500 ปอนด์) | 55,202 กิโลกรัม (121,700 ปอนด์) | 62,732 กิโลกรัม (138,300 ปอนด์) | |
ความจุห้องสินค้า | 18.4 ตร.ม. (650 ตร.ฟ.) | 38.9 ตร.ม. (1,373 ตร.ฟ.) | 23.3 ตร.ม. (822 ตร.ฟ.) | 21.4 ตร.ม. (756 ตร.ฟ.) | 27.3 ตร.ม. (966 ตร.ฟ.) | 45.1 ตร.ม. (1,591 ตร.ฟ.) | |
เพดานบิน | 10,510 เมตร 35,000 ฟุต | 11,000 เมตร 37,000 ฟุต | 12,300 เมตร 41,000 ฟุต | ||||
ความเร็วปกติ | 0.77 มัก | 0.78 มัก | 0.785 มัก | ||||
ความเร็วสูงสุด | 0.82 มัก | ||||||
พิสัยบิน เมื่อบรรทุกเต็มลำ | 3,440 กิโลเมตร (1,860 ไมล์ทะเล) | 4,005 กิโลเมตร (2,165 ไมล์ทะเล) | 4,444 กิโลเมตร (2,402 ไมล์ทะเล) | 5,648 กิโลเมตร (3,050 ไมล์ทะเล) | 6,230 กิโลเมตร (3,365 ไมล์ทะเล) (5,510 ไมล์ทะเล สำหรับรุ่น อีอาร์) | 5,665 กิโลเมตร (3,060 ไมล์ทะเล) | |
ผู้ผลิตเครื่องยนต์ | แพร็ต และ วิตนีย์ | ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชั่นเนล | |||||
ชนดเครื่องยนต์ (x2) | JT8D-7 | 56-3B-2 | 56-3B-1 | 56-7B20 | 56-7B26 | 56-7B27 | |
แรงผลักดัน สูงสุด | 19,000 ปอนด์ฟอร์ซ | 22,000 ปอนด์ฟอร์ซ | 20,000 ปอนด์ฟอร์ซ | 20,600 ปอนด์ฟอร์ซ | 26,300 ปอนด์ฟอร์ซ | 27,300 ปอนด์ฟอร์ซ |
การส่งมอบ
2551 | 2550 | 2549 | 2548 | 2547 | 2546 | 2545 | 2544 | 2543 | 2542 | 2541 | 2540 | 2539 | 2538 | 2537 | 2536 | 2535 | 2534 | 2533 | 2532 | 2531 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
120 | 330 | 302 | 212 | 202 | 173 | 223 | 299 | 281 | 320 | 281 | 135 | 76 | 89 | 121 | 152 | 218 | 215 | 174 | 146 | 165 |
2530 | 2529 | 2528 | 2527 | 2526 | 2525 | 2524 | 2523 | 2522 | 2521 | 2520 | 2519 | 2518 | 2517 | 2516 | 2515 | 2514 | 2513 | 2512 | 2511 | 2510 |
161 | 141 | 115 | 67 | 82 | 95 | 108 | 92 | 77 | 40 | 25 | 41 | 51 | 55 | 23 | 22 | 29 | 37 | 114 | 105 | 4 |
- ข้อมูล ณ วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2551
เครื่องบินที่ใกล้เคียงกัน
เครื่องบินที่คล้ายกัน
- แดซซอลต์ เมอร์เคียวร์
- ตูโปเลฟ ตู-124
- ตูโปเลฟ ตู-134
- บอมบาร์ดิเออร์ ซีซีรีส์
- บริติช แอโรสเปซ 146
- เอ็มเบรเออร์ อี-เจ็ตส์
- แอร์บัส เอ 320
- โบอิง 727
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: โบอิง 737 |
- ช้อมูล 737 ในเว็บไซต์โบอิง