พรรคกิจสังคม
พรรคกิจสังคม (อังกฤษ: Social Action Party) ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2517 โดย หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช โดยให้ชื่อว่า "กิจสังคม" โดยแปลตรงตัวจากภาษาอังกฤษ โดยนำชื่อพรรคมาจากพรรคการเมืองนี้ในประเทศอังกฤษ พรรคมีสมาชิกที่ได้แจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองไว้ จำนวน 27,413 คน และมีสาขาพรรคจำนวน 4 สาขา
พรรคกิจสังคม | |
---|---|
หัวหน้า | ทองพูล ดีไพร |
เลขาธิการ | สยมภู เกียรติสยมภู |
ผู้ก่อตั้ง | หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช |
ก่อตั้ง | 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2517 |
ยุบ | 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561 (43 ปี) |
ที่ทำการ | อาคารไอทาวเวอร์ 2 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร |
เว็บไซต์ | |
http://www.socialactionparty.org | |
นโยบาย | พรรคกิจสังคมมีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทุกกลุ่ม พรรคจะดำเนินนโยบายกองทุนหมู่บ้าน ส่งเสริมด้านเกษตรกรรมโดยใช้ชลประทานระบบท่อ ด้านเศรษฐกิจจะส่งเสริมให้เอกชนเป็นผู้นำ และพรรคจะพัฒนาเมืองหลวงโดยการกระจายความเจริญออกสู่เมืองบริวาร |
ประธานที่ปรึกษา | สุวิทย์ คุณกิตติ |
โฆษก | แววดาว ดีไพร |
การเมืองไทย รายชื่อพรรคการเมือง การเลือกตั้ง |
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้ก่อตั้งพรรค และหัวหน้าพรรคคนแรกให้เหตุผลว่า
อยู่ที่ความรู้สึก ว่าบ้านเมืองของเราเริ่มจะเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนปรารถนา ที่นี้ผมเองและพวกพ้อง ลูกศิษย์ ลูกหาที่เขาทำการงานไปแล้วหลายคน มาคิดกันว่า ประชาธิปไตย นี่ความจริงก็เป็นสิ่งที่ เราต้องการกันทุกคนในเมืองไทย
แต่เมื่อมีประชาธิปไตยแล้ว มันก็ไม่ควรจะคิดว่า เราจะได้อะไรจากประชาธิปไตย เราควรจะคิดว่าเราจะให้อะไรแก่ ประชาธิปไตย ซึ่งเราทุกคนปรารถนานั้นได้ เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว เราก็อยากให้เท่าที่เรามีจะให้ได้คือ ก็เรียกว่าประสบการณ์ของเรา ความสามารถของเรา ความเสียสละ และความจริงใจของเราที่จะ ทำประโยชน์ต่อบ้านเมือง
เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว เรายังเห็นว่า บ้านเมืองนี้ ยังต้องการคนที่พร้อมจะเสียสละ ทำการงานอีกมาก โดยที่ไม่หวังอะไรตอบแทน ก็เลยตั้งพรรค (กิจสังคม) นี้ขึ้น เพื่อที่จะมีส่วนเข้าส่งเสริม แล้วก็รักษาระบอบประชาธิปไตย แล้วก็ทำการงานให้บ้านเมืองตามระบอบประชาธิปไตยจะอำนวยให้
การลงเลือกตั้งครั้งแรก
พรรคกิจสังคมลงเลือกตั้งครั้งแรกในปี พ.ศ. 2518 ได้ ส.ส.เพียง 18 คน แต่สร้างประวัติศาสตร์ ให้แก่วงการการเมืองไทยทันที ด้วยการสามารถ พลิกกลับเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ แทนที่ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้จำนวน ส.ส. สูงสุด โดยอภิปรายตอบโต้นโยบายของ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ของหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช จนในที่สุดสภามีมติไม่ให้นโยบายของรัฐบาลผ่าน พรรคประชาธิปัตย์ และ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้แสดงความรับผิดชอบ ด้วยการไม่ขอรับตำแหน่ง พรรคกิจสังคมโดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จึงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาเอง โดยร่วมกับพรรคเล็กพรรคน้อยต่างๆ รวมถึง 22 พรรค จัดตั้งรัฐบาลขึ้นมา นับเป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคผสม มากที่สุดในประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน โดยมีจุดเด่นเป็นนโยบายสาธารณะต่างๆ เช่น นโยบายเงินผันสู่ชนบท นโยบายให้รถเมล์วิ่งฟรี เป็นต้น
แต่รัฐบาลเสียงผสมหลายพรรค ก็ไม่สามารถไปรอดตลอดฝั่งได้ เพราะประสบปัญหาหลายอย่าง ประจวบกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ ในขณะนั้นที่ยังรุ่มร้อน ในที่สุด ก็ต้องยุบสภา มีการเลือกตั้งใหม่ และก็เป็นพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาเป็นรัฐบาลอีก แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน เนื่องด้วยความร้อนแรง ของสถานการณ์การเมืองขณะนั้นยังไม่หาย จนในที่สุดก็เกิดเป็นเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519
กิจกรรมทางการเมือง
หลังจากนั้น ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ยังคงเล่นการเมือง และเป็นหัวหน้าพรรคกิจสังคมต่อไป ได้นำพรรคลงเลือกตั้งอีกหลายครั้ง ในการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2526 พรรคกิจสังคมได้คะแนนเสียงมาเป็นลำดับหนึ่งถึง 96 เสียง แต่หัวหน้าพรรคคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กลับไม่ได้รับเลือกตั้งเสียเองในเขต 2 เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร จึงหันร่วมกับพรรคอื่นเช่น พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย สนับสนุน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2
โดยสภาพแล้วพรรคกิจสังคมเป็นพรรคการเมืองขนาดกลางค่อนไปทางเล็ก มีจำนวน ส.ส. ไม่มาก จึงมีบทบาทในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ภายหลังการยุติบทบาททางการเมืองของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช พรรคกิจสังคมก็ได้มี นายมนตรี พงษ์พานิช เป็นหัวหน้าพรรค จากนั้นจึงเป็น นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตสมาชิกพรรคอีกคนหนึ่ง ที่ยังมีบทบาททางการเมืองคือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตเลขาธิการพรรค
พรรคกิจสังคมจดทะเบียนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2525 แต่ในระหว่างปี พ.ศ. 2548 - พ.ศ. 2551 พรรคกิจสังคมมิได้มีบทบาททางการเมืองเหมือนแต่ก่อน เพราะสมาชิกคนสำคัญของพรรค ได้ลาออกหรือไปเข้าร่วมกับพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคไทยรักไทย
พรรคกิจสังคม ได้ฉายาจากสื่อมวลชนว่า "พรรคแสบ" (SAP) ซึ่งย่อมาจากชื่อภาษาอังกฤษของพรรค และประกอบกับลีลาการเล่นการเมือง ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่แสบสันต์เป็นที่รู้จักกันดี
นอกจากนี้แล้ว พรรคกิจสังคม ยังเคยเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ภาคใต้ อันเป็นพื้นที่ ๆ รับรู้กันทั่วว่าเป็นฐานเสียงเข้มแข็งของพรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว ในการเลือกตั้ง ปี พ.ศ. 2522 (กิจสังคมได้ 18 เสียง, ประชาธิปัตย์ได้ 15 เสียง)
ผู้บริหารพรรค
รายนามหัวหน้าพรรค
- หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช (20 สิงหาคม พ.ศ. 2525 – 22 มกราคม พ.ศ. 2529) และ (2 กันยายน พ.ศ. 2533 – 9 มิถุนายน พ.ศ. 2534)
- พลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา (30 มกราคม พ.ศ. 2530 – 2 กันยายน พ.ศ. 2533)
- นายมนตรี พงษ์พานิช (9 มิถุนายน พ.ศ. 2534 – 29 กันยายน พ.ศ. 2541)
- นายบุญพันธ์ แขวัฒนะ (29 ตุลาคม พ.ศ. 2541 – 5 มีนาคม พ.ศ. 2542)
- นายสุวิทย์ คุณกิตติ (5 มีนาคม พ.ศ. 2542 – 9 สิงหาคม พ.ศ. 2543)
- นายพยุง นพสุวรรณ (9 สิงหาคม พ.ศ. 2543 – 26 เมษายน พ.ศ. 2546)
- นายเจษฎา ตันติบัญชาชัย (26 เมษายน พ.ศ. 2546 – 13 ธันวาคม พ.ศ. 2547)
- นายอรรถพล ชัยนันท์สมิตย์ (13 ธันวาคม พ.ศ. 2547 – 29 ตุลาคม พ.ศ. 2550)
- นายทองพูล ดีไพร (23 มีนาคม พ.ศ. 2551 - 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561)
รายนามเลขาธิการพรรค
- นายบุญชู โรจนเสถียร (พ.ศ. 2517)
- นายโกศล ไกรฤกษ์ (20 สิงหาคม พ.ศ. 2525 – 17 มิถุนายน พ.ศ. 2527)
- นายพงส์ สารสิน (17 มิถุนายน พ.ศ. 2527 – 22 มกราคม พ.ศ. 2529)
- ร้อยตำรวจเอก สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ (30 มกราคม พ.ศ. 2530 – 1 มีนาคม พ.ศ. 2532)
- นายมนตรี พงษ์พานิช (1 มีนาคม พ.ศ. 2532 – 9 มิถุนายน พ.ศ. 2534)
- นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ (9 มิถุนายน พ.ศ. 2534 – 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534)
- พลโท เขษม ไกรสรรณ์ (23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 – 10 เมษายน พ.ศ. 2535)
- นายบุญพันธ์ แขวัฒนะ (10 เมษายน พ.ศ. 2535 – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2536)
- ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง (13 ตุลาคม พ.ศ. 2536 – 27 ธันวาคม พ.ศ. 2537)
- นายสุวิทย์ คุณกิตติ (2 ธันวาคม พ.ศ. 2538 – 5 มีนาคม พ.ศ. 2542)
- นายสมศักดิ์ เทพสุทิน (5 มีนาคม พ.ศ. 2542 – 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2542)
- นายระวี หิรัญโชติ (2 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 – 9 สิงหาคม พ.ศ. 2543)
- นายเจษฎา ตันติบัญชาชัย (9 สิงหาคม พ.ศ. 2543 – 26 เมษายน พ.ศ. 2546)
- นายอุทัย นุ่มสุวรรณ (26 เมษายน พ.ศ. 2546 – 15 ธันวาคม พ.ศ. 2546)
- นายปราโมทย์ ตามควร (30 เมษายน พ.ศ. 2547 – 13 ธันวาคม พ.ศ. 2547)
- นายอำนวย ศิริทองสุข (13 ธันวาคม พ.ศ. 2547 – 14 กันยายน พ.ศ. 2548)
- นายสยมภู เกียรติสยมภู (14 กันยายน พ.ศ. 2548 - 19 ตุลาคม 2561)
ผลการเลือกตั้งทั่วไป
การเลือกตั้ง | จำนวนที่นั่ง | คะแนนเสียงทั้งหมด | สัดส่วนคะแนนเสียง | ผลการเลือกตั้ง | สถานภาพพรรค | ผู้นำเลือกตั้ง |
---|---|---|---|---|---|---|
2518 | 18 / 269 | 1,982,168 | 10.8% | 18 ที่นั่ง | ร่วมรัฐบาล | ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช |
2519 | 45 / 279 | 3,272,170 | 17.5% | 27 ที่นั่ง | ฝ่ายค้าน | |
2522 | 82 / 301 | 4,179,174 | 21.1% | 37 ที่นั่ง | ร่วมรัฐบาล | |
2526 | 92 / 324 | 7,103,177 | 26.8% | 10 ที่นั่ง | ||
2529 | 51 / 347 | 4,560,615 | 12.1% | 41 ที่นั่ง | ||
2531 | 54 / 357 | 4,651,161 | 11.8% | 3 ที่นั่ง | พลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา | |
มี.ค. 2535 | 31 / 360 | 3,586,714 | 8.1% | 23 ที่นั่ง | มนตรี พงษ์พานิช | |
ก.ย. 2535 | 22 / 360 | 1,863,360 | 4.0% | 9 ที่นั่ง | ||
2538 | 22 / 391 | 2,201,218 | 4.0% | 0 ที่นั่ง | ||
2539 | 20 / 393 | 3,036,544 | 5.3% | 2 ที่นั่ง | ||
2544 | 1 / 500 | 107,560 | 0.4% | 19 ที่นั่ง | ฝ่ายค้าน | พยุง นพสุวรรณ |
บทาททางการเมือง
ร่วมรัฐบาลนายชวน
พรรคกิจสังคม ได้เข้าร่วมรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย ในปี 2535 โดยมีสมาชิกของพรรคได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี จำนวน 4 คน คือ
- สุวิทย์ คุณกิตติ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
- บุญพันธ์ แขวัฒนะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
- สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
- เชาวน์วัศ สุดลาภา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ต่อมาในเดือนกันยายน พ.ศ. 2536 ได้มีการปรับคณะรัฐมตรีโดยพรรคกิจสังคม ได้ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2536
การกลับมาของบทบาททางการเมือง
พรรคกิจสังคม ได้ถูกรื้อฟื้นอีกครั้ง ในปลายปี พ.ศ. 2551 ภายหลังคดียุบพรรคใหญ่หลายพรรค นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตหัวหน้าพรรคได้นำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กลับมาฟื้นฟูพรรคอีกครั้ง โดยนายสุวิทย์ดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค และเข้าร่วมฝ่ายรัฐบาลซึ่งสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ย้ายมาสังกัด จำนวน 5 คน คือ
- นายเทวฤทธิ์ นิกรเทศ ส.ส.สัดส่วน จากพรรคพลังประชาชน
- นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ส.ส.สุโขทัย จากพรรคชาติไทย
- นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ส.ส.พิษณุโลก จากพรรคพลังประชาชน
- นายชยุต ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี จากพรรคพลังประชาชน
- นายวารุจ ศิริวัฒน์ ส.ส.อุตรดิตถ์ จากพรรคพลังประชาชน
ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ได้ส่งผู้สมัครทั้งในระบบบัญชีรายชื่อ และระบบแบ่งเขต แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้งแม้แต่ที่นั่งเดียวในสภาผู้แทนราษฎร โดยได้รับคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อเพียงร้อยละ 0.31 หรือ 81,824 คะแนน
ยุบพรรคกิจสังคม
พรรคกิจสังคมถูกยุบพรรคตามมติเป็นเอกฉันท์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ในการประชุมคณะกรรมการ กกต. ครั้งที่ ๔๘/๒๕๖๑ (๑๒) เมื่อวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เนื่องจากทางพรรคกิจสังคมมีสมาชิกเหลือไม่ถึง 5,000 คน โดยได้มีหนังสือยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพียง 8 คนและได้มีการประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2561 โดยให้มีผลนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาคือในวันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561
อ้างอิง
- ปิดตำนาน 44 ปี ‘พรรคกิจสังคม’ สมาชิกไม่ถึง 5พันคน สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง
- "พรรคกิจสังคมเปิดที่ทำการใหม่". โพสต์ทูเดย์. 2011-04-27.
- รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมนโยบายของพรรคการเมืองจากเว็บไซต์ สำนักงาน กกต. สืบค้นวันที่ 3 มิถุนายน 2554
- ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจดทะเบียนพรรคการเมืองราชกิจจานุเบกษา เล่ม 92 ตอนพิเศษที่ 193ง หน้า 217 วันที่ 18 กันยายน 2518
- ข้อมูลพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560สืบค้นวันที่ 1 มกราคม 2561
- https://library2.parliament.go.th/ebook/content-er/28_2.pdf
- [1]
- สุวิทย์ โผล่นั่งประธานที่ปรึกษาพรรคกิจสังคม
- ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง พรรคกิจสังคมสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง
แหล่งข้อมูลอื่น
- ข้อมูลจากเว็บไซต์ของรัฐสภาไทย
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพรรค