fbpx
วิกิพีเดีย

ประเทศเวียดนามใต้

ประเทศเวียดนามใต้ หรือเรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐเวียดนาม (เวียดนาม: Việt Nam Cộng Hòa; ฝรั่งเศส: République du Viêt Nam) เป็นรัฐที่ปกครองบริเวณตอนใต้ของเวียดนามระหว่างปี พ.ศ. 2498 ถึง พ.ศ. 2518 ซึ่งต่างชาติโดยเฉพาะรัฐประชาธิปไตยและชาติต่อต้านคอมมิวนิสต์นิยมเรียกในชื่อว่า เวียดนามใต้ คำเรียก เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ ถูกใช้อย่างแพร่หลายในปี พ.ศ. 2497 ในการประชุมที่เจนีวา ซึ่งแบ่งประเทศเวียดนามออกเป็นสองส่วนโดยเส้นขนานที่ 17 ในระหว่างสงครามเวียดนาม เวียดนามใต้ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา

สาธารณรัฐเวียดนาม

Việt-nam Cộng-hòa
พ.ศ. 2498พ.ศ. 2518
ตราแผ่นดิน
คำขวัญTổ quốc - Danh dự - Trách nhiệm (ปิตุภูมิ - เกียรติศักดิ์ - หน้าที่)
เพลงชาติTiếng Gọi Công Dân
(เสียงเรียกถึงปวงชน)
เขตปกครองของเวียดนามใต้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามการประชุมที่เจนีวาปี พ.ศ. 2497
สถานะสาธารณรัฐ
เมืองหลวงไซ่ง่อน
ภาษาทั่วไปเวียดนาม
ศาสนา
พุทธ,คริสต์
การปกครอง
ประธานาธิบดี 
• พ.ศ. 2498–2506
โง ดิ่ญ เสี่ยม (คนแรก)
• พ.ศ. 2518
เซือง วัน มิญ (คนสุดท้าย)
นายกรัฐมนตรี 
• พ.ศ. 2506–2507
เหงียน หง็อก เทอ (คนแรก)
• พ.ศ. 2518
หวู วัน เหมิว (คนสุดท้าย)
ยุคประวัติศาสตร์สงครามเย็น
• เปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นสาธารณรัฐ
26 ตุลาคม พ.ศ. 2498
• ทหารเวียดนามเหนือเข้ายึดเมืองไซ่ง่อน
30 เมษายน พ.ศ. 2518
พื้นที่
พ.ศ. 2516173,809 ตารางกิโลเมตร (67,108 ตารางไมล์)
ประชากร
19370000
สกุลเงินด่งเวียดนามใต้

ในอดีต เวียดนามใต้เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสในชื่อ โคชินไชนา หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เวียดมินห์ซึ่งนำโดยโฮจิมินห์ สถาปนารัฐคอมมิวนิสต์ขึ้นที่ฮานอย ในปีพ.ศ. 2492นักการเมืองที่ไม่ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ ก่อตั้งรัฐบาลขึ้นที่เมืองไซ่ง่อนซึ่งนำโดยอดีตจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย ในปี 2498 บ๋าว ดั่ย ถูกปลดโดยนายกรัฐมนตรีโง ดิ่ญ เสี่ยม และแต่งตั้งตนขึ้นเป็นประธานาธิบดี หลังจากเสี่ยมเสียชีวิตจากการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2506 ได้มีรัฐบาลทหารอายุสั้นหลายสมัยได้ปกครองเวียดนามใต้จนถึงปี พ.ศ. 2510 พลโท เหงียน วัน เถี่ยวได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีและได้ปกครองเวียดนามใต้จนถึงปี พ.ศ. 2518 สงครามเวียดนามเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2502 โดยกองกำลังเวียดกงซึ่งได้รับสนับสนุนโดยเวียดนามเหนือ การรบถึงจุดตัดสินในปีพ.ศ. 2511 แม้จะมีสนธิสัญญาสันติภาพในปีพ.ศ. 2516 แต่การรบยังคงต่อเนื่องจนกระทั่ง กองทัพเวียดนามเหนือยึดกรุงไซ่ง่อนได้ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518

ประวัติศาสตร์

ประวัติศาสตร์เวียดนาม  
ราชวงศ์ห่งบ่าง 2879–258 ปีก่อนคริสต์ศักราช
ราชวงศ์ถุก 257–207 ปีก่อนคริสต์ศักราช
ราชวงศ์เจี่ยว 207–111 ปีก่อนคริสต์ศักราช
การปกครองของจีนครั้งแรก 111 ปีก่อนคริสต์ศักราช – 40
พี่น้องจึง 40–43
การปกครองของจีนครั้งที่สอง 43–544
ราชวงศ์ลี้ยุคก่อน 544–602
การปกครองของจีนครั้งที่สาม 602–938
ราชวงศ์โง 939–967
ราชวงศ์ดิญ 968–980
ราชวงศ์เลยุคก่อน 980–1009
ราชวงศ์ลี้ 1009–1225
ราชวงศ์เจิ่น 1225–1400
ราชวงศ์โห่ 1400–1407
การปกครองของจีนครั้งที่สี่ 1407–1427
ราชวงศ์เล 1428–1788
ราชวงศ์หมัก 1527–1592
• เจ้าตระกูลจิ่ญ 1545–1787
• เจ้าตระกูลเหงียน 1558–1777
ราชวงศ์เต็ยเซิน 1778–1802
ราชวงศ์เหงียน 1802–1945
ลัทธิจักรวรรดินิยมตะวันตก 1883–1945
สาธารณรัฐประชาธิปไตย
 เวียดนาม
1945–1976
• สาธารณรัฐเวียดนาม 1955–1975
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ตั้งแต่ 1976
หัวเรื่องสืบเนื่อง
ราชวงศ์จามปา 192–1471
ราชวงศ์ฟูนาน 1–627
รายชื่อเมืองหลวงของประวัติศาสตร์เวียดนาม
รายพระนามกษัตริย์และจักรพรรดิแห่งเวียดนาม
ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของเวียดนาม
วัฒนธรรมก่อนประวัติศาสตร์ของเวียดนาม

สถาปนา

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เวียดนามใต้ได้เปลี่ยนระบอบการปกครองตนเองเป็นสาธารณรัฐโดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข ตั้งแต่วันที่26 ตุลาคม พ.ศ. 2498 ได้มีการเลือตั้งทั่วไป กษัตริย์องค์สุดท้าย สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย สละราชสมบัติ นับแตได้มีกษัตริย์มา 1,000 กว่าปี

รัฐสภาของเวียดนามใต้มี 123 คน กลุ่มขวาจัดของโง ดิ่ญ เสี่ยมได้รับเลือกตั้งจึงได้เป็นประธานาธิปดี

ตามสนธิสัญญาเจนีวา ในปี 2497 เมื่อยุติสงครามอินโดจีนให้รวมเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้เข้าด้วยกัน แต่โง ดิ่ญ เสี่ยมเห็นว่าเวียดนามเหนือเข้าร่วมกับคอมมิวนิสต์จึงประกาศไม่รับรองสนธิสัญญาเจนีวา โดยอ้างว่ารัฐบาลฝรั่งเศสมิได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาฉบับนี้

สหรัฐอเมริกาก็ยับยั้งไม่ยอมให้เวียดนามเหนือเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหประชาชาติ เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้จึงไม่ได้เป็นสมาชิกสหประชาชาติ

การล่มสลาย

ดูบทความหลักที่: การยึดกรุงไซ่ง่อน

ความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา

 
ประธานาธิบดี Dwight D. Eisenhower และ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศ John Foster Dulles เข้าพบประธานาธิบดี โง ดิ่ญ เสี่ยม เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 1957 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

เวียดนามใต้ได้รับความช่วยเหลืองบประมาณทางการทหารจากสหรัฐอเมริกาปีละ 200 ล้านดอลล่าร์ โดยเฉพาะในปี 1964 ได้รับมา 24,000 ล้านดอลล่าร์

การเมืองการปกครอง

ดูบทความหลักที่: ผู้นำเวียดนามใต้

รัฐประหารในเวียดนามใต้

  1. ปี ค.ศ. 1960 พันเอกเหงียน จัน ธี แห่งหน่วยพลร่ม จะยึดอำนาจจากโง ดิ่ญ เสี่ยม แต่ถูกกองทัพซีไอเอของสหรัฐอเมริกาหักหลัง แจ้งให้กองทัพของโง ดิ่ญ เสี่ยม เตรียมกำลังดักรอไว้ ผลคือทหารที่จะรัฐประหารเสียชีวิตทั้งหมด

2.ความพยามจะก่อรัฐประหาร เป็นความพยายามในการที่จะก่อรัฐประหารโดยกลุ่มทหารอากาศยศนายพันกลุ่มนึง โดยการเอาเครื่องบินไปทิ้งระเบิดที่ทำเนียบประธานาธิบดี แต่ตอนนั้น เสี่ยม ไม่อยู่ก็เลยรอดตัวไปและมาดามนูห์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

3. ปี ค.ศ. 1963 หนักข้อที่สุด เพราะเป็นการบิดเบือนพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง เช่นห้ามพระสวดมนต์ เพราะเป็นการสาบแช่งรัฐบาล และก็เกิดเรื่องเมื่อวันวิสาขบูชาชนกับวันสำคัญของศาสนาคริสต์ คือวันสะบาโต รัฐสั่งห้ามชักธงพระพุทธศาสนา ในขณะที่ศาสนาคริสต์ทำได้เต็มที่ ชาวเวียดนามใต้ทนไม่ได้ก็เลยออกเดินขบวนประท้วง ทหารต้องสลายม็อบด้วยปืนและระเบิด แต่พอมีคนตายก็ไปโทษว่าเป็นฝีมือของมือที่สามหรือไอ้โม่ง ซึ่งก็คือ เวียดกง นั่นเอง ในขณะที่ประชาชนลุกฮือนั้น แทนที่โง ดิ่ญ เสี่ยม จะผ่อนปรนนโยบายกดขี่และสุดโต่ง แต่กลับยิ่งเมินเฉย แต่ผลงานการสั่งปราบชาวพุทธมักจะมาจาก โง ดินห์ นูห์ น้องชายที่ทุจริต และมีอำนาจมาก โง ดินห์ ถึก พี่ชายผู้เป็นพระราชาคณะสูงสุดของศาสนาคริสต์ในเวียดนามใต้ รวมทั้ง โง ดินห์ คาหน์ พวกนี้ได้สั่งให้ทหารคริสต์ล้อมลวดหนามวัด ส่งทหารไปยิงทุบตีชาวพุทธ พระ ชี ที่สวดมนต์กันอยู่ในวัด บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ระเบิดเจดีย์ที่ซาลอย อ้างว่าเจดีย์เป็นที่ซ่อนอาวุธของเวียดกง และโทษเวียดกงว่าอยู่เบื้องหลังความวุ่นวายต่างๆ ทั้งที่ตอนนั้นเวียดกงไม่ได้ทำอะไรเลย นั่งดูอยู่ในชนบท หันไปทำลายสะพาน รางรถไฟ ซุ่มโจมตีทหารตามชนบท และเหตุการณ์เข้าขั้นวิกฤตเมื่อพระนามว่า กวาง ดึ๊ก ได้ทำการประท้วงด้วยการราดน้ำมันจุดไฟเผาตัวเองกลางกรุงไซง่อน โดยเขียนจดหมายก่อนตายขอให้ โง ดิ่ญ เสี่ยม หยุดการรังแกชาวพุทธ เป็นภาพถ่ายที่ทำให้โลกตะลึง จนสหรัฐอเมริกาไม่อยากช่วยเสี่ยมอีกต่อไปแล้ว และยิ่งเกิดกระแสโกรธแค้นของชาวเวียดนาม เมื่อมาดามนูห์ ซึ่งเป็นภรรยาของ โง ดินห์ นูห์ น้องชายของ โง ดิ่ญ เสี่ยม ได้ประกาศว่า "หากพระองค์ใดทำบาร์บีคิวให้เห็นอีก ชั้นก็จะปรบมือให้ พร้อมทั้งบริจาคไฟแช็คและน้ำมันให้" นอกจากนี้ยังเกิดการรบกันระหว่างทหารพุทธกับคริสต์ที่เมืองมีโธ ส่วนเหล่านายทหารสำคัญๆและทหารพุทธเริ่มเห็นว่าจะต้องไล่ โง ดิ่ญ เสี่ยม สักที เพราะประชาชนไม่เอาแล้ว และการกระทำกดขี่พระพุทธศาสนาที่เกิดไป โดยมีหัวหน้ารัฐประหารสำคัญคือหัวหน้าเสนาธิการกองทัพเทียน วัน ดง และนายพลสำคัญๆอย่าง เยื้อง วัน มินห์, ทราน เทียน เคียม, เล วัน คิม และ เหวียน ฮู โก แผนการเริ่มขึ้น 11:00 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963 โดย ทราน วัน ดง ได้เรียกนายทหารสำคัญมาประชุมกันที่กรมเสนาธิการ และได้จับกุมทหารที่เข้าข้าง โง ดิ่ญ เสี่ยม ไว้ทั้งหมด ในเวลา 13:00 น. ได้ส่งรถถัง 36 คันเข้าโจมตีทำเนียบรัฐบาลซึ่งทหารคริสต์ยึดไว้ แต่ต่อมาก็ต้องยอมจำนน และพบว่า โง ดิ่ญ เสี่ยม กับ โง ดินห์ นูห์ ได้หนีไปทางลับ แต่สุดท้าย โง ดิ่ญ เสี่ยม ก็หนีไม่รอด ทั้งคู่ถูกพบหนีไปซ่อนในโบสถ์ย่านคนจีนในไซง่อน เรียกว่าเจ๊อะเลิ่น ในขณะที่กำลังถูกทหารพาไปท้ายรถเกราะเอ็ม 113 ทั้งคู่ก็ถูกยิงทิ้งตายคาที่ตรงนั้นเอง ภายหลังยังได้ถ่ายภาพศพเสี่ยมไปให้สหรัฐอเมริกาดูด้วย ว่ากันว่ารัฐประหารครั้งนี้สำเร็จเพราะสหรัฐอเมริกาสนับสนุนเพราะเห็นว่าเสี่ยมใช้งานไม่ได้แล้ว จึงต้องการเขี่ยทิ้ง โดยนายพล เซือง วัน มิญ ได้ติดต่อกับซีไอเอก่อนว่าอย่าแทรกแซงการรัฐประหารครั้งนี้ เพราะกลัวจะล้มเหลวแบบปี ค.ศ. 1960 ที่ซีไอเอสนับสนุนเสี่ยม แต่คราวนี้ซีไอเอสนับสนุนพวกรัฐประหารจึงทำให้สำเร็จหลังจาก โง ดิ่ญ เสี่ยม ถูกโค่น ประชาชนต่างออกมาแสดงความยินดีทหารที่ออกมาก่อรัฐประหารครั้งนี้กับทั่วบ้านทั่วเมือง ออกมายินดีกับทหารที่นั่งรถถังอยู่ตามจุดต่างๆ เหล่านายทหารที่ก่อรัฐประหารกลายเป็นวีรบุรุษไปในชั่วข้ามคืน ได้มีการแต่งตั้งให้ เซือง วัน มิญ เป็นเป็นผู้นำ ส่วนมาดามนูห์กับ โง ดิน ถึก อยู่ต่างประเทศพอดีทำให้รอดตัวไปได้

4 มกราคม ค.ศ. 1964 การเมืองของเวียดนามใต้ยังไม่นิ่ง รัฐบาลทหารได้ประกาศว่าจะสู้กับเวียดกงให้เต็มที่ แต่ความพ่ายแพ้ก็ปรากฏอยู่เนืองๆ นายพล เซือง วัน มิญ มีคู่แข่งคนหนึ่งคือนายพล เหงียน คานห์ อยากเป็นผู้นำบ้าง ทำให้เกิดรัฐประหารแบบไม่นองเลือด

5.กันยายน ค.ศ. 1964 นายพล เติ่น เตียน เฟียม นายพล แรม วัน พัต นายพล เดือง วัน ดุก พยายามก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากนายกรัฐมนตรี เหงียน คานห์ โดย เดือง วัน ดุ๊ก ไม่พอใจกับการปกครองของนายพล เหงียน คานห์ เพราะนายพลเหงียน คานห์เอาใจกลุ่มศาสนาพุทธมากจนเกินไป ทำให้นายพล แรม วัน พัต กับ เดือง วัน ดุ๊ก ซึ่งเป็นคาทอลิกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ฝ่ายรัฐบาลนำโดยพลอากาศโท เหงียน เกา กี ไดนำเครื่องบินทิ้งระเบิดไปบินวนอยู่รอบคณะรัฐประหารแล้วขู่ว่าจะยิง และสหรัฐอเมริกาประกาศว่าสนับสนุนรัฐบาลของนายพล เหงียน คานห์ ทำให้คณะรัฐประหารต้องถอยไปในที่สุด

6.การล่มสลายของรัฐสภา หลังจากที่มีการตั้งสภาสูงโดยเลือกคนจากหลากหลายอาชีพเข้ามาเป็นสมาชิกเช่น ทหาร นักศึกษา หมอ ครู เป็นต้น เพื่อฟื้นฟูการปกครองในเวียดนามใต้ ทางสภาก็ได้เลือกให้ พาน คัก สื่อ เป็นประธานาธิบดี และเลือก ตรัน วัน ฮวง เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ทั้งคู่ก็ต้องเผชิญหน้ากับการประท้วงของพระภิกษุอย่างต่อเนื่องแต่ทั้งคู่ก็อดกลั้นกับการประท้วงของพระภิกษุ นายพล เหงียน คานห์ จึงนำทหารรุ่น ยังเติร์ก เข้ามาทำลายสภาสูง โดยจับสมาชิกสภาสายพลเรือนและสายทหาร แต่ก็ยังให้ ตรัน วัน ฮวง เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป สหรัฐอเมริกาได้ประณามการกระทำครั้งนี้ของนายพล เหงียน คานห์ เป็นอย่างมาก

7. เดือนมกราคม 1965 หลังจากที่นายพลเหงียนคานห์ได้ทำลายนสภาสูงไปแล้วก็ยังคงให้ ฟานคักสื่อ เป็นประธานาธิบดีต่อไป และให้ ตรัน วัน ฮวง เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ แต่แล้วในเดือนมกราคมปี 1965 นายพลเหงียนคานห์ ได้นำทหราน ยังเติร์ก โค่นอำนาจรัฐบาลของตรันวันฮวง แล้วได้ตั้งให้ เหงียน ซน อัน เป็นนายกรัฐมนตรีแทน

8.กุมภาพันธ์ 1965 เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากรัฐประหารคราวก่อน เนื่องจากเวียดนามใต้ช่วงนี้แม้จะได้ผู้นำและหัวหน้ารัฐบาลเป็นพลเรือนแล้ว แต่อำนาจที่แท้จริงก็ยังอยู่ที่นายพลเหงียนคานห์ เนื่องจากนายพลเหงียนคานห์เป็นที่นิยมในหมู่นายพลทั้งหลาย เลยสามารถกุมอำนาจทั้งหมดไว้ได้เรียกง่ายๆว่ามีโอกาสได้เลือกนายกมาแล้วถึงสามคน คือ ตรัน วัน ฮวงกับเหงียน ซวน อัน และ ฟาน ฮวย ครอส ทั้งหมดนี้สร้างความไม่พอใจให้กับ นายพลเติ่น เฟียน เคียม กับ แรม วัน พัต และ พันเอกท้าว เป็นอย่างยิ่งเพราะทหารเหล่านี้ได้สูญเสียความดีความชอบไปหลังจากที่พยายามทำรัฐประหารนายพลเหงียนคานห์ในปี1964 ทำให้ นายพลเหล่านี้ลุกขึ้นมาทำรัฐประหารอีกครั้ง แต่แล้วนายพลเหงียน คานห์ก็ได้ นายพลเหงียน เกา กี และ พันเอกเหงียน จัน ธีช่วยเอาไว้ ทำให้คณะผู้ก่อการต้องหนีไปในที่สุด แต่แล้วนายพลเหงียน คานห์ก็ถูกนายพลเหงียน เกา กี และพันเอก เหงียน จัน ธี ปลดออกจากอำนาจและให้ลี้ภัยไปอยู่ที่อเมริกา เพราะนายพลเหงียน เกา กี ต้องการจะสร้างให้การเมืองมีเสถียรภาพ หลังจากนั้นไม่กี่วัน ทางเวียดนามเหนือได้ประกาศ ว่านพันเอกท้าวคือพวกคอมมิวนิสต์ ที่ทางเวียดนามเหนือได้ส่งให้มาก่อกวนกองทัพ หลังจากนั้นไม่นาน นายพลท้าวก็เสียชีวิตจากการลอบสังหาร จากเหตุการณ์นี้ทำให้นายพลเหงียน เกา กีกลายเป็นผู้นำทางพฤตินัยของประเทศเวียดนามใต้โดยทันที

9.การลุกฮือของชาวพุทธ ในปี 2509 นั้นหลังจากนายพลเหงียนเกากีได้อำนาจมาแล้วก็ได้แต่งตั้งตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีของเวียดนามใต้โดยการขับไล่รัฐบาลของฟาม ฮวย คอสออกไปและก็ได้แต่งตั้งให้เหงียน วัน เถี่ยว เป็นประธานาธิบดี ตามมาด้วยขับไล่พันเอกเหงียน จัน ธี ออกจากเวียดนามใต้ไปเหตุการณ์ตั้งแต่ขับไล่นายพลเหงียนคาห์น แต่งตั้งเหงียน วัน เถี่ยวซึ่งเคยร่วมงานกับรัฐบาลของเสี่ยมมาแล้วจนมาถึงขับไล่พันเอกเหงียน จัน ธีออกจากเวียดนามใต้ซึ่งชาวพุทธให้การยอมรับพันเอกเหงียน จัน ธีเป็นอย่างมาก เลยสร้างความไม่พอใจให้กับชาวพุทธจำนวนนึงที่นำโดยพระทิจ ทิจ กวางเป็นอย่างมาก ชาวพุทธกลุ่มนี้เลยร่วมมือกับทหารกบฎของเวียดนามใต้จำนวนนึงล้มรัฐบาลของเหงียน เกากี แต่แล้วเหงียนเกากีก็สั่งการให้ตำรวจแห่งชาติและทหารจัดการกับชาวพุทธกลุ่มนี้และจัดการกับทหารกบฏที่ออกมา ทำให้มีชาวพุทธเสียชีวิตจำนวนมากในที่สุดเหงียนเกากีก็ได้รับชัยชนะ แต่แล้วชาวพุทธบางคนก็ต้องถูกตามล่าจากรัฐบาลและรัฐบาลก็ได้มีขู่ว่าใครออกมาประท้วงจะถูกยิง ซึ่งเป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยตรง จากเหตุการณ์นี้พระทิจ ทิจ กวางได้ถูกกักบริเวณอยู่ในวัดของตัวเองโดยไม่ให้ออกมาพบใครทั้งสิ้นจนมาถึงเหตุการณ์ไซง่อนแตกจึงถูกปล่อยตัว

จะสังเกตได้ว่าเวียดนามใต้มีการทำรัฐประหารถึงสี่ครั้งและความพยายามถึงห้าครั้งรวมเป็นเก้าครั้งในรอบหกปีตั้งแต่ปี 2503-2509 ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลขาดเสถียรภาพในการปกครองประเทศและเปิดโอกาสให้เวียดกงฟื้นตัวอย่างรวดเร็วรวมไปถึงทำให้ประชาชนส่วนนึงหลงเชื่อไปกับชาวเวียดนามเหนือที่แอบแฝงมาในเวียดนามใต้ที่ประกาศว่ารัฐบาลเป็นหุ่นเชิดของอเมริกาบ้าง รัฐบาลเป็นเผด็จการบ้าง ส่วนนี้ทำให้ประชาชนจำนวนมากเข้าไปร่วมกับขบวนการเวียดกงรวมไปถึงนักการเมืองของเวียดนามใต้จำนวนนึงที่ไม่พอใจการปกครองของรัฐบาลเวียดนามใต้ ดังนั้นตรงนี้จึงเป็นเหตุปัจจัยส่วนนึงในการล่มสลายของเวียดนามใต้

กองทัพ

ดูบทความหลักที่: กองทัพสาธารณรัฐเวียดนาม

กองทัพเวียดนามใต้ได้รับการสนับสนุนจากชาติพันธมิตรโดยสหรัฐอเมริกาแล้ว กองทัพเวียดนามใต้ถือว่าได้เปรียบทางยุทธศาสตร์อย่างมากแต่กองทัพเวียดนามใต้ไม่สามารถเอาชนะกองทัพกองโจรของเวียดกงได้ ในปี1960 เวียดนามใต้มีกองกำลัง 550000 คน มีรถถัง 200 คัน อาวุธยุทธโนปกรณ์รวม 15000 กระบอก กองทัพเวียดนามใต้เคยมีกฎหมายการเกณฑ์ทหารอยู่จนถึงจบสงคราม

เศรษฐกิจ

ประชาชนเวียดนามใต้ ทำการเกษตร 90% เป็นลูกจ้างทำนา สวนยาง สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงทำนาได้ผลผลิตดี ปลูกข้าวได้ 4,381,000 เมตริก ยาง 75,700 ตัน และยังมีใบชา ข้าวโพด ยาสูบ นุ่น พริกไทย

โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่อยู่ในเมือง เมืองโชลองและกรุงไซ่ง่อน เป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็กของจีน การสีข้าว โรงเลื่อย

ในปี 1960 สินค้าส่วนใหญ่มาจากยางพารา ส่งออกไปยัง ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา ไทย และเขมร

สื่อสารมวลชน

เวียดนามใต้เริ่มระบบสื่อสารมวลชนครั้งแรกตอนปี 2497 ตอนนั้นรัฐบาลของเสี่ยมได้มีการนำวิทยุเข้ามาในประเทศเพื่อให้ประชาชนได้รับฟังข่าวสาร ก่อนหน้านั้นใช้แต่หนังสือพิมพ์

ซึ่งวิทยุนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปี 2503 มีการซื้อขายกันอย่างกว้างขวางดังที่ปรากฏในภาพของเมืองไซง่อนเมื่อปี 1960 ซึ่งวิทยุจะออกอากาศในสองลักษณะคือ 1.คลื่นวิทยุที่ออกอากาศในภาษาเวียดนาม 2.คลื่นวิทยุที่ออกอากาศในภาษาอังกฤษ เพื่อใช้เป็นที่กระจายข่าวสำหรับคนอเมริกาและเพื่อให้ชาวอเมริการวมไปถึงทหารอเมริกาที่อยู่ในเวียดนามใต้ได้รู้ข่าวสาร

แต่ถึงกระนั้นรัฐบาลหลายรัฐบาลก็มีการควบคุมสื่ออย่างเข้มงวด ในปี 2503 รัฐบาลเผด็จการพลเรือนของเสี่ยม ได้มีการควบคุมสื่ออย่างเข้มงวด ในการนำเสนอข่าวนั้นจะต้องถูกกลั่นกรองก่อนเสมอ ทำให้สื่อไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ ตามมาด้วยในปี 2509 ได้มีนักข่าวทางวิทยุท่านนึงไปสัมภาษณ์นายพลเหงียน เกา กี นายพลเหงียน เกา กีได้เอาปืนมาจ่อที่หัวของนักข่าวคนนั้นเลยที่เดียว

ต่อมาในปี 2509 ในรัฐบาลของเหงียน วัน เถี่ยว ได้มีการนำโทรทัศน์เข้าในประเทศเพื่อให้คนได้เข้าถึงข่าวสาร โดยครั้งแรกออกอากาศสองช่องคือช่องทั่วไปและช่องของทหารอเมริกา ช่องทั่วไปนั้นได้มีรายการเกมส์โชว์ต่างๆ ภาพยนตร์จากทั่วโลกนำมาฉาย ส่วนช่องของทหารอเมริกานั้นได้บอกถึงเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ในสงครามเวียดนาม สื่อในเวียดนามใต้นั้นถูกครอบงำโดยรัฐบาลมาโดยตลอดมีแค่รัฐบาลของนายพลเดือง วัน มินห์เท่านั้นที่ไม่ถูกครอบงำเพราะนายพลเดืองวันมินห์ต้องการให้เสรีภาพแก่สื่อ แต่รัฐบาลอื่นมีการควบคุมอย่างเข้มงวดถึงขนาดที่เหงียนวันเถี่ยวประกาศว่าใครต่อต้านรัฐบาลของเขาจะถูกยิง

ดูเพิ่ม

 Vietnam
 Asia
  • แอร์วีเอ็ตนาม
  • ทำเนียบอิสรภาพ

เชิงอรรถ

อ้างอิง

  1. แม่แบบ:อุดม ประมวลวิทย์. (2508). เวียตนามใต้. 135 นานาชาติ, 805-832.

แหล่งข้อมูลอื่น

พิกัดภูมิศาสตร์: 10°45′N 106°40′E / 10.750°N 106.667°E / 10.750; 106.667

ประเทศเว, ยดนามใต, บทความน, อาจต, องปร, บปร, งให, มมองท, เป, นกลาง, เน, องจากนำเสนอม, มมองเพ, ยงด, านเด, ยว, หน, าอภ, ปรายประกอบ, โปรดอย, านำป, ายออกจนกว, าจะม, อสร, หร, อเร, ยกช, ออย, างเป, นทางการว, สาธารณร, ฐเว, ยดนาม, เว, ยดนาม, việt, cộng, hòa, ฝร, งเศส, . bthkhwamnixactxngprbprungihmimummxngthiepnklang enuxngcaknaesnxmummxngephiyngdanediyw duhnaxphiprayprakxb oprdxyanapayxxkcnkwacamikhxsruppraethsewiydnamit hruxeriykchuxxyangepnthangkarwa satharnrthewiydnam ewiydnam Việt Nam Cộng Hoa frngess Republique du Viet Nam epnrththipkkhrxngbriewntxnitkhxngewiydnamrahwangpi ph s 2498 thung ph s 2518 sungtangchatiodyechphaarthprachathipityaelachatitxtankhxmmiwnistniymeriykinchuxwa ewiydnamit khaeriyk ewiydnamehnux aelaewiydnamit thukichxyangaephrhlayinpi ph s 2497 inkarprachumthiecniwa sungaebngpraethsewiydnamxxkepnsxngswnodyesnkhnanthi 17 inrahwangsngkhramewiydnam ewiydnamitidrbkarsnbsnuncakshrthxemrikasatharnrthewiydnamViệt nam Cộng hoaph s 2498 ph s 2518thngchati traaephndinkhakhwy Tổ quốc Danh dự Trach nhiệm pituphumi ekiyrtiskdi hnathi ephlngchati Tiếng Gọi Cong Dan esiyngeriykthungpwngchn source source track track track ekhtpkkhrxngkhxngewiydnamitinexechiytawnxxkechiyngittamkarprachumthiecniwapi ph s 2497sthanasatharnrthemuxnghlwngisngxnphasathwipewiydnamsasnaphuthth khristkarpkkhrxngrthediyw rabbprathanathibdi satharnrthrththrrmnuy 2498 2506 2510 2518 khnaphuyudxanackarpkkhrxng 2506 2510 prathanathibdi ph s 2498 2506ong diy esiym khnaerk ph s 2518esuxng wn miy khnsudthay naykrthmntri ph s 2506 2507ehngiyn hngxk ethx khnaerk ph s 2518hwu wn ehmiw khnsudthay yukhprawtisastrsngkhrameyn epliynrabxbkarpkkhrxngepnsatharnrth26 tulakhm ph s 2498 thharewiydnamehnuxekhayudemuxngisngxn30 emsayn ph s 2518phunthiph s 2516173 809 tarangkiolemtr 67 108 tarangiml prachakr ph s 251619370000skulengindngewiydnamitkxnhna thdiprthewiydnam rthbalptiwtichwkhrawsatharnrthewiydnamitinxdit ewiydnamitekhyepnxananikhmkhxngfrngessinchux okhchinichna hlngsngkhramolkkhrngthi 2 ewiydminhsungnaodyohciminh sthapnarthkhxmmiwnistkhunthihanxy inpiph s 2492nkkaremuxngthiimfkifkhxmmiwnist kxtngrthbalkhunthiemuxngisngxnsungnaodyxditckrphrrdibaw dy inpi 2498 baw dy thukpldodynaykrthmntriong diy esiym aelaaetngtngtnkhunepnprathanathibdi hlngcakesiymesiychiwitcakkarrthpraharinpi ph s 2506 idmirthbalthharxayusnhlaysmyidpkkhrxngewiydnamitcnthungpi ph s 2510 phloth ehngiyn wn ethiywidkhunepnprathanathibdiaelaidpkkhrxngewiydnamitcnthungpi ph s 2518 sngkhramewiydnamerimtninpi ph s 2502 odykxngkalngewiydkngsungidrbsnbsnunodyewiydnamehnux karrbthungcudtdsininpiph s 2511 aemcamisnthisyyasntiphaphinpiph s 2516 aetkarrbyngkhngtxenuxngcnkrathng kxngthphewiydnamehnuxyudkrungisngxnidinwnthi 30 emsayn ph s 2518 enuxha 1 prawtisastr 1 1 sthapna 1 2 karlmslay 1 3 khwamsmphnthkbshrthxemrika 2 karemuxngkarpkkhrxng 2 1 rthpraharinewiydnamit 3 kxngthph 4 esrsthkic 5 suxsarmwlchn 6 duephim 7 echingxrrth 8 xangxing 9 aehlngkhxmulxunprawtisastr aekikhprawtisastrewiydnam rachwngshngbang 2879 258 pikxnkhristskrachrachwngsthuk 257 207 pikxnkhristskrachrachwngseciyw 207 111 pikxnkhristskrachkarpkkhrxngkhxngcinkhrngaerk 111 pikxnkhristskrach 40phinxngcung 40 43karpkkhrxngkhxngcinkhrngthisxng 43 544rachwngsliyukhkxn 544 602karpkkhrxngkhxngcinkhrngthisam 602 938rachwngsong 939 967rachwngsdiy 968 980rachwngselyukhkxn 980 1009rachwngsli 1009 1225rachwngsecin 1225 1400rachwngsoh 1400 1407karpkkhrxngkhxngcinkhrngthisi 1407 1427rachwngsel 1428 1788 rachwngshmk 1527 1592 ecatrakulciy 1545 1787 ecatrakulehngiyn 1558 1777rachwngsetyesin 1778 1802rachwngsehngiyn 1802 1945 lththickrwrrdiniymtawntk 1883 1945satharnrthprachathipity ewiydnam 1945 1976 satharnrthewiydnam 1955 1975satharnrthsngkhmniymewiydnam tngaet 1976hweruxngsubenuxngrachwngscampa 192 1471rachwngsfunan 1 627raychuxemuxnghlwngkhxngprawtisastrewiydnam rayphranamkstriyaelackrphrrdiaehngewiydnamprawtisastresrsthkickhxngewiydnamwthnthrrmkxnprawtisastrkhxngewiydnamdkhksthapna aekikh phayhlngsngkhramolkkhrngthi 2 ewiydnamitidepliynrabxbkarpkkhrxngtnexngepnsatharnrthodymiprathanathibdiepnpramukh tngaetwnthi26 tulakhm ph s 2498 idmikareluxtngthwip kstriyxngkhsudthay smedcphrackrphrrdibaw dy slarachsmbti nbaetidmikstriyma 1 000 kwapirthsphakhxngewiydnamitmi 123 khn klumkhwacdkhxngong diy esiymidrbeluxktngcungidepnprathanathipditamsnthisyyaecniwa inpi 2497 emuxyutisngkhramxinodcinihrwmewiydnamehnuxaelaewiydnamitekhadwykn aetong diy esiymehnwaewiydnamehnuxekharwmkbkhxmmiwnistcungprakasimrbrxngsnthisyyaecniwa odyxangwarthbalfrngessmiidrwmlngnaminsnthisyyachbbnishrthxemrikakybyngimyxmihewiydnamehnuxekharwmepnsmachikshprachachati ewiydnamehnuxaelaewiydnamitcungimidepnsmachikshprachachati 1 karlmslay aekikh dubthkhwamhlkthi karyudkrungisngxn khwamsmphnthkbshrthxemrika aekikh prathanathibdi Dwight D Eisenhower aela rthmntriwakrathrwngkartangpraeths John Foster Dulles ekhaphbprathanathibdi ong diy esiym emuxwnthi 8 phvsphakhm 1957 n krungwxchingtn di si ewiydnamitidrbkhwamchwyehluxngbpramanthangkarthharcakshrthxemrikapila 200 landxllar odyechphaainpi 1964 idrbma 24 000 landxllarkaremuxngkarpkkhrxng aekikhdubthkhwamhlkthi phunaewiydnamit rthpraharinewiydnamit aekikh pi kh s 1960 phnexkehngiyn cn thi aehnghnwyphlrm cayudxanaccakong diy esiym aetthukkxngthphsiixexkhxngshrthxemrikahkhlng aecngihkxngthphkhxngong diy esiym etriymkalngdkrxiw phlkhuxthharthicarthpraharesiychiwitthnghmd2 khwamphyamcakxrthprahar epnkhwamphyayaminkarthicakxrthpraharodyklumthharxakasysnayphnklumnung odykarexaekhruxngbinipthingraebidthithaeniybprathanathibdi aettxnnn esiym imxyukelyrxdtwipaelamadamnuhidrbbadecbelknxy3 pi kh s 1963 hnkkhxthisud ephraaepnkarbidebuxnphraphuththsasnaxyangrayaerng echnhamphraswdmnt ephraaepnkarsabaechngrthbal aelakekideruxngemuxwnwisakhbuchachnkbwnsakhykhxngsasnakhrist khuxwnsabaot rthsnghamchkthngphraphuththsasna inkhnathisasnakhristthaidetmthi chawewiydnamitthnimidkelyxxkedinkhbwnprathwng thhartxngslaymxbdwypunaelaraebid aetphxmikhntaykipothswaepnfimuxkhxngmuxthisamhruxixomng sungkkhux ewiydkng nnexng inkhnathiprachachnlukhuxnn aethnthiong diy esiym caphxnprnnoybaykdkhiaelasudotng aetklbyingeminechy aetphlngankarsngprabchawphuththmkcamacak ong dinh nuh nxngchaythithucrit aelamixanacmak ong dinh thuk phichayphuepnphrarachakhnasungsudkhxngsasnakhristinewiydnamit rwmthng ong dinh khahn phwkniidsngihthharkhristlxmlwdhnamwd sngthharipyingthubtichawphuthth phra chi thiswdmntknxyuinwd badecblmtayepncanwnmak raebidecdiythisalxy xangwaecdiyepnthisxnxawuthkhxngewiydkng aelaothsewiydkngwaxyuebuxnghlngkhwamwunwaytang thngthitxnnnewiydkngimidthaxairely nngduxyuinchnbth hnipthalaysaphan rangrthif sumocmtithhartamchnbth aelaehtukarnekhakhnwikvtemuxphranamwa kwang duk idthakarprathwngdwykarradnamncudifephatwexngklangkrungisngxn odyekhiyncdhmaykxntaykhxih ong diy esiym hyudkarrngaekchawphuthth epnphaphthaythithaiholktalung cnshrthxemrikaimxyakchwyesiymxiktxipaelw aelayingekidkraaesokrthaekhnkhxngchawewiydnam emuxmadamnuh sungepnphrryakhxng ong dinh nuh nxngchaykhxng ong diy esiym idprakaswa hakphraxngkhidthabarbikhiwihehnxik chnkcaprbmuxih phrxmthngbricakhifaechkhaelanamnih nxkcakniyngekidkarrbknrahwangthharphuththkbkhristthiemuxngmioth swnehlanaythharsakhyaelathharphuththerimehnwacatxngil ong diy esiym skthi ephraaprachachnimexaaelw aelakarkrathakdkhiphraphuththsasnathiekidip odymihwhnarthpraharsakhykhuxhwhnaesnathikarkxngthphethiyn wn dng aelanayphlsakhyxyang eyuxng wn minh thran ethiyn ekhiym el wn khim aela ehwiyn hu ok aephnkarerimkhun 11 00 n khxngwnthi 1 phvscikayn kh s 1963 ody thran wn dng ideriyknaythharsakhymaprachumknthikrmesnathikar aelaidcbkumthharthiekhakhang ong diy esiym iwthnghmd inewla 13 00 n idsngrththng 36 khnekhaocmtithaeniybrthbalsungthharkhristyudiw aettxmaktxngyxmcann aelaphbwa ong diy esiym kb ong dinh nuh idhniipthanglb aetsudthay ong diy esiym khniimrxd thngkhuthukphbhniipsxninobsthyankhncininisngxn eriykwaecxaelin inkhnathikalngthukthharphaipthayrthekraaexm 113 thngkhukthukyingthingtaykhathitrngnnexng phayhlngyngidthayphaphsphesiymipihshrthxemrikadudwy waknwarthpraharkhrngnisaercephraashrthxemrikasnbsnunephraaehnwaesiymichnganimidaelw cungtxngkarekhiything odynayphl esuxng wn miy idtidtxkbsiixexkxnwaxyaaethrkaesngkarrthpraharkhrngni ephraaklwcalmehlwaebbpi kh s 1960 thisiixexsnbsnunesiym aetkhrawnisiixexsnbsnunphwkrthpraharcungthaihsaerchlngcak ong diy esiym thukokhn prachachntangxxkmaaesdngkhwamyindithharthixxkmakxrthpraharkhrngnikbthwbanthwemuxng xxkmayindikbthharthinngrththngxyutamcudtang ehlanaythharthikxrthpraharklayepnwirburusipinchwkhamkhun idmikaraetngtngih esuxng wn miy epnepnphuna swnmadamnuhkb ong din thuk xyutangpraethsphxdithaihrxdtwipid4 mkrakhm kh s 1964 karemuxngkhxngewiydnamityngimning rthbalthharidprakaswacasukbewiydkngihetmthi aetkhwamphayaephkpraktxyuenuxng nayphl esuxng wn miy mikhuaekhngkhnhnungkhuxnayphl ehngiyn khanh xyakepnphunabang thaihekidrthpraharaebbimnxngeluxd5 knyayn kh s 1964 nayphl etin etiyn efiym nayphl aerm wn pht nayphl eduxng wn duk phyayamkxrthpraharyudxanaccaknaykrthmntri ehngiyn khanh ody eduxng wn duk imphxickbkarpkkhrxngkhxngnayphl ehngiyn khanh ephraanayphlehngiyn khanhexaicklumsasnaphuththmakcnekinip thaihnayphl aerm wn pht kb eduxng wn duk sungepnkhathxlikimphxicepnxyangmak aetfayrthbalnaodyphlxakasoth ehngiyn eka ki idnaekhruxngbinthingraebidipbinwnxyurxbkhnarthpraharaelwkhuwacaying aelashrthxemrikaprakaswasnbsnunrthbalkhxngnayphl ehngiyn khanh thaihkhnarthprahartxngthxyipinthisud6 karlmslaykhxngrthspha hlngcakthimikartngsphasungodyeluxkkhncakhlakhlayxachiphekhamaepnsmachikechn thhar nksuksa hmx khru epntn ephuxfunfukarpkkhrxnginewiydnamit thangsphakideluxkih phan khk sux epnprathanathibdi aelaeluxk trn wn hwng epnnaykrthmntri aetthngkhuktxngephchiyhnakbkarprathwngkhxngphraphiksuxyangtxenuxngaetthngkhukxdklnkbkarprathwngkhxngphraphiksu nayphl ehngiyn khanh cungnathharrun yngetirk ekhamathalaysphasung odycbsmachiksphasayphleruxnaelasaythhar aetkyngih trn wn hwng epnnaykrthmntritxip shrthxemrikaidpranamkarkrathakhrngnikhxngnayphl ehngiyn khanh epnxyangmak7 eduxnmkrakhm 1965 hlngcakthinayphlehngiynkhanhidthalaynsphasungipaelwkyngkhngih fankhksux epnprathanathibditxip aelaih trn wn hwng epnnaykrthmntritx aetaelwineduxnmkrakhmpi 1965 nayphlehngiynkhanh idnathhran yngetirk okhnxanacrthbalkhxngtrnwnhwng aelwidtngih ehngiyn sn xn epnnaykrthmntriaethn8 kumphaphnth 1965 epnehtukarntxenuxngcakrthpraharkhrawkxn enuxngcakewiydnamitchwngniaemcaidphunaaelahwhnarthbalepnphleruxnaelw aetxanacthiaethcringkyngxyuthinayphlehngiynkhanh enuxngcaknayphlehngiynkhanhepnthiniyminhmunayphlthnghlay elysamarthkumxanacthnghmdiwideriykngaywamioxkasideluxknaykmaaelwthungsamkhn khux trn wn hwngkbehngiyn swn xn aela fan hwy khrxs thnghmdnisrangkhwamimphxicihkb nayphletin efiyn ekhiym kb aerm wn pht aela phnexkthaw epnxyangyingephraathharehlaniidsuyesiykhwamdikhwamchxbiphlngcakthiphyayamtharthpraharnayphlehngiynkhanhinpi1964 thaih nayphlehlanilukkhunmatharthpraharxikkhrng aetaelwnayphlehngiyn khanhkid nayphlehngiyn eka ki aela phnexkehngiyn cn thichwyexaiw thaihkhnaphukxkartxnghniipinthisud aetaelwnayphlehngiyn khanhkthuknayphlehngiyn eka ki aelaphnexk ehngiyn cn thi pldxxkcakxanacaelaihliphyipxyuthixemrika ephraanayphlehngiyn eka ki txngkarcasrangihkaremuxngmiesthiyrphaph hlngcaknnimkiwn thangewiydnamehnuxidprakas wanphnexkthawkhuxphwkkhxmmiwnist thithangewiydnamehnuxidsngihmakxkwnkxngthph hlngcaknnimnan nayphlthawkesiychiwitcakkarlxbsnghar cakehtukarnnithaihnayphlehngiyn eka kiklayepnphunathangphvtinykhxngpraethsewiydnamitodythnthi9 karlukhuxkhxngchawphuthth inpi 2509 nnhlngcaknayphlehngiynekakiidxanacmaaelwkidaetngtngtwexngepnnaykrthmntrikhxngewiydnamitodykarkhbilrthbalkhxngfam hwy khxsxxkipaelakidaetngtngihehngiyn wn ethiyw epnprathanathibdi tammadwykhbilphnexkehngiyn cn thi xxkcakewiydnamitipehtukarntngaetkhbilnayphlehngiynkhahn aetngtngehngiyn wn ethiywsungekhyrwmngankbrthbalkhxngesiymmaaelwcnmathungkhbilphnexkehngiyn cn thixxkcakewiydnamitsungchawphuththihkaryxmrbphnexkehngiyn cn thiepnxyangmak elysrangkhwamimphxicihkbchawphuththcanwnnungthinaodyphrathic thic kwangepnxyangmak chawphuththklumnielyrwmmuxkbthharkbdkhxngewiydnamitcanwnnunglmrthbalkhxngehngiyn ekaki aetaelwehngiynekakiksngkarihtarwcaehngchatiaelathharcdkarkbchawphuththklumniaelacdkarkbthharkbtthixxkma thaihmichawphuththesiychiwitcanwnmakinthisudehngiynekakikidrbchychna aetaelwchawphuththbangkhnktxngthuktamlacakrthbalaelarthbalkidmikhuwaikhrxxkmaprathwngcathukying sungepnkarridrxnsiththiesriphaphkhxngprachachnodytrng cakehtukarnniphrathic thic kwangidthukkkbriewnxyuinwdkhxngtwexngodyimihxxkmaphbikhrthngsincnmathungehtukarnisngxnaetkcungthukplxytwcasngektidwaewiydnamitmikartharthpraharthungsikhrngaelakhwamphyayamthunghakhrngrwmepnekakhrnginrxbhkpitngaetpi 2503 2509 trngnichiihehnwarthbalkhadesthiyrphaphinkarpkkhrxngpraethsaelaepidoxkasihewiydkngfuntwxyangrwderwrwmipthungthaihprachachnswnnunghlngechuxipkbchawewiydnamehnuxthiaexbaefngmainewiydnamitthiprakaswarthbalepnhunechidkhxngxemrikabang rthbalepnephdckarbang swnnithaihprachachncanwnmakekhaiprwmkbkhbwnkarewiydkngrwmipthungnkkaremuxngkhxngewiydnamitcanwnnungthiimphxickarpkkhrxngkhxngrthbalewiydnamit dngnntrngnicungepnehtupccyswnnunginkarlmslaykhxngewiydnamitkxngthph aekikhdubthkhwamhlkthi kxngthphsatharnrthewiydnam kxngthphewiydnamitidrbkarsnbsnuncakchatiphnthmitrodyshrthxemrikaaelw kxngthphewiydnamitthuxwaidepriybthangyuththsastrxyangmakaetkxngthphewiydnamitimsamarthexachnakxngthphkxngocrkhxngewiydkngid inpi1960 ewiydnamitmikxngkalng 550000 khn mirththng 200 khn xawuthyuththonpkrnrwm 15000 krabxk kxngthphewiydnamitekhymikdhmaykareknththharxyucnthungcbsngkhramesrsthkic aekikhprachachnewiydnamit thakarekstr 90 epnlukcangthana swnyang samehliympakaemnaokhngthanaidphlphlitdi plukkhawid 4 381 000 emtrik yang 75 700 tn aelayngmiibcha khawophd yasub nun phrikithyorngnganxutsahkrrmswnihyxyuinemuxng emuxngochlxngaelakrungisngxn epnxutsahkrrmkhnadelkkhxngcin karsikhaw orngeluxyinpi 1960 sinkhaswnihymacakyangphara sngxxkipyng frngess shrthxemrika ithy aelaekhmrsuxsarmwlchn aekikhewiydnamiterimrabbsuxsarmwlchnkhrngaerktxnpi 2497 txnnnrthbalkhxngesiymidmikarnawithyuekhamainpraethsephuxihprachachnidrbfngkhawsar kxnhnannichaethnngsuxphimphsungwithyuniidrbkhwamniymepnxyangmakinpi 2503 mikarsuxkhayknxyangkwangkhwangdngthipraktinphaphkhxngemuxngisngxnemuxpi 1960 sungwithyucaxxkxakasinsxnglksnakhux 1 khlunwithyuthixxkxakasinphasaewiydnam 2 khlunwithyuthixxkxakasinphasaxngkvs ephuxichepnthikracaykhawsahrbkhnxemrikaaelaephuxihchawxemrikarwmipthungthharxemrikathixyuinewiydnamitidrukhawsaraetthungkrannrthbalhlayrthbalkmikarkhwbkhumsuxxyangekhmngwd inpi 2503 rthbalephdckarphleruxnkhxngesiym idmikarkhwbkhumsuxxyangekhmngwd inkarnaesnxkhawnncatxngthukklnkrxngkxnesmx thaihsuximsamarthtrwcsxbkarthangankhxngrthbalidxyangetmthi tammadwyinpi 2509 idminkkhawthangwithyuthannungipsmphasnnayphlehngiyn eka ki nayphlehngiyn eka kiidexapunmacxthihwkhxngnkkhawkhnnnelythiediywtxmainpi 2509 inrthbalkhxngehngiyn wn ethiyw idmikarnaothrthsnekhainpraethsephuxihkhnidekhathungkhawsar odykhrngaerkxxkxakassxngchxngkhuxchxngthwipaelachxngkhxngthharxemrika chxngthwipnnidmiraykarekmsochwtang phaphyntrcakthwolknamachay swnchxngkhxngthharxemrikannidbxkthungehtukarnaetlaehtukarninsngkhramewiydnam suxinewiydnamitnnthukkhrxbngaodyrthbalmaodytlxdmiaekhrthbalkhxngnayphleduxng wn minhethannthiimthukkhrxbngaephraanayphleduxngwnminhtxngkarihesriphaphaeksux aetrthbalxunmikarkhwbkhumxyangekhmngwdthungkhnadthiehngiynwnethiywprakaswaikhrtxtanrthbalkhxngekhacathukyingduephim aekikh Vietnam Asiaaexrwiextnam thaeniybxisrphaphechingxrrth aekikhxangxing aekikh aemaebb xudm pramwlwithy 2508 ewiytnamit 135 nanachati 805 832 aehlngkhxmulxun aekikhkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb praethsewiydnamit xngkvs The Constitution of the Republic of Vietnam 1956 archived from the originalArchived 2009 03 25 thi ewyaebkaemchchin on 2009 03 25 ewiydnam HIẾN PHAP VIỆT NAM CỘNG HOA 1967 Archived 2006 06 20 thi ewyaebkaemchchin Timeline of NVA invasion of South Vietnamphikdphumisastr 10 45 N 106 40 E 10 750 N 106 667 E 10 750 106 667 bthkhwamekiywkbpraeths dinaedn hruxekhtkarpkkhrxngniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodyephimkhxmul ekhathungcak https th wikipedia org w index php title praethsewiydnamit amp oldid 9652208, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม