เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย (อังกฤษ: Iron Chef Thailand) เป็นรายการเกมโชว์แข่งขันการทำอาหาร ผลิตโดย บริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด[ลิงก์เสีย] (ในเครือเอช กรุ๊ป) เดิมออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 23.00 น. - 01.00 น. (25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ได้เพิ่มรายการย่อยอีกหนึ่งรายการ ชื่อว่า เชฟกระทะเหล็ก ศึกวันล้างตา ออกอากาศทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 น. - 10.00 น.) โดยเริ่มอากาศครั้งแรกเมื่อวันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555 ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ตามรูปแบบของรายการ ยุทธการกระทะเหล็ก (อังกฤษ: Iron Chef ญี่ปุ่น: 料理の鉄人) ที่ออกอากาศครั้งแรกวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2536 โดยได้รับลิขสิทธิ์จากบริษัท ฟูจิ ครีเอทีฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ของประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับลิขสิทธิ์ในการผลิตรายการนี้ในอีกหลายประเทศ และวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2558 ได้ย้ายเวลาออกอากาศเป็นทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 น. - 13.00 น. ทางช่อง 7 เอชดี จนกระทั่งวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ได้ปรับเวลาออกอากาศเป็นทุกวันเสาร์ เวลา 11.45 - 12.45 น. และในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ได้ขยับเวลาออกอากาศเป็น 11.45 - 13.00 น. พร้อมกับเพิ่มเวลาออกอากาศ และช่วงโรงเรียนกระทะเหล็ก ได้ย้ายมาออกอากาศทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 น. - 10.00 น. โดยใช้ชื่อว่า เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย โรงเรียนกระทะเหล็ก เริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558
เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย | |
---|---|
ประเภท | เกมโชว์แข่งขันการทำอาหาร |
สร้างโดย | บริษัท ฟูจิ ครีเอทีฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) |
พัฒนาโดย | บริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด (ในเครือเอช กรุ๊ป) |
เสนอโดย | ประธานสถาบัน สันติ เศวตวิมล (25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 21 มีนาคม พ.ศ. 2563 ) ประธานสรรหาผู้ท้าชิง จำนงค์ นิรังสรรค์ หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ เมทนี บุรณศิริ พิธีกร ชาคริต แย้มนาม (25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560) นภัสรัญชน์ มิตรธีรโรจน์ (11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 - ปัจจุบัน) ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ (11 พฤศจิกายน พ.ศ 2560 - 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561) ไดอาน่า จงจินตนาการ (2 มิถุนายน พ.ศ. 2561 และ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561 - ปัจจุบัน) พิธีกรภาคสนาม ณัฐพงษ์ สมรรคเสวี ชัชชัย จำเนียรกุล ไดอาน่า จงจินตนาการ |
แสดงนำ | เชฟกระทะเหล็ก พงศ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย (เชฟเอียน) ธนรักษ์ ชูโต (เชฟป้อม) บุญธรรม ภาคโพธิ์ (เชฟบุญธรรม) ธนัญญา วิลคินซัน (เชฟไก่) ประสพโชค ตระกูลแพทย์ (เชฟอาร์ท) ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ (เชฟอ๊อฟ) พฤกษ์ สัมพันธวรบุตร (เชฟพฤกษ์) ธีรภัทร ตียาสุนทรานนท์( เชฟอาร์) |
เสียงของ | ณัฐพงษ์ สมรรคเสวี |
ประเทศแหล่งกำเนิด | ไทย |
ภาษาต้นฉบับ | ไทย |
จำนวนฤดูกาล | 9 |
จำนวนตอน | 231 (รายชือตอน) |
การผลิต | |
กล้อง | Multi-camera |
ความยาวตอน | 1 ชั่วโมง 15 นาที |
ออกอากาศ | |
เครือข่าย | ช่อง 7 เอชดี |
ระบบภาพ | 480p (SDTV) 1080i (HDTV) |
ระบบเสียง | 2.0 |
ออกอากาศครั้งแรก | 25 มกราคม พ.ศ. 2555 (9 ปี) |
ออกอากาศ | 25 มกราคม พ.ศ. 2555 – ปัจจุบัน |
ลำดับเหตุการณ์ | |
ก่อนหน้าโดย | ยอดภาพยนตร์นานาชาติ |
ติดตามโดย | คดีเด็ด |
การแสดงที่เกี่ยวข้อง | ยุทธการกระทะเหล็ก เชฟกระทะเหล็ก ศึกวันล้างตา เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย โรงเรียนกระทะเหล็ก เชฟกระทะเด็ก เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย สุดยอดเซเลบริตี้เชฟ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย ศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก |
แหล่งข้อมูลอื่น | |
เฟซบุ๊กแฟนเพจของรายการ | |
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป |
ต่อมามีการต่อยอดรายการมาเป็นรายการเรียลลิตีเต็มรูปแบบ โดยการนำเชฟมืออาชีพมาแข่งขันกันเพื่อค้นหาเชฟกระทะเหล็กคนใหม่ โดยใช้ชื่อว่า ศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก (อังกฤษ: The Next Iron Chef)
พิธีกร
รายการเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย ได้มีการปรับเปลี่ยนพิธีกรมาหลายต่อหลายรุ่น ดังนี้
ผู้ดำเนินรายการปัจจุบัน
- นภัสรัญชน์ มิตรธีรโรจน์ (11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 - ปัจจุบัน)
- ไดอาน่า จงจินตนาการ (19 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 - 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561 และ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561 - ปัจจุบัน)
ผู้ดำเนินรายการอดีต
- ชาคริต แย้มนาม (25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560)
- ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ (11 พฤศจิกายน พ.ศ 2560 - 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561)
ระยะเวลาในการออกอากาศ
สถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศ | วัน | เวลา | ช่วงระหว่าง |
---|---|---|---|
สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 | พุธ | 23:00 - 01:00 น. | 25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 |
23:15 - 01:15 น. | 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2558 | ||
เสาร์ | 12:00 - 13:00 น. | 4 เมษายน พ.ศ. 2558 - 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558 | |
11:45 - 12:45 น. | 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558 - 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560 | ||
11:45 - 13:00 น. | 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 | ||
12:00 - 13:15 น. | 3 มีนาคม พ.ศ. 2561 - 16 มิถุนายน พ.ศ. 2561 | ||
สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เอชดี | 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561 - ปัจจุบัน |
รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 1)
ใช้ในวันที่ 25 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
ช่วงประลองยุทธ์
3 ผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับการคัดเลือกจากประธานสรรหาทั้ง 3 ท่าน จะต้องทำการประลองยุทธ์กับทีม เชฟกระทะแหลก (ดารารับเชิญ 6 ท่าน) ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนมาเป็นแสดงภาพผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 ท่าน เวลาแข่งขัน โดยตัดภาพทีม เชฟกระทะแหลก ออกไป เนื่องจากมีผู้ชมจำนวนมากไม่พอใจเกี่ยวกับท่าทางในการทำอาหารด้าน เชฟกระทะแหลก ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับวัตถุดิบหลักในการทำอาหารคนละ 1 อย่างตามจำนวนที่จำกัดไว้ โดยทำการจับฉลากล่วงหน้า ซึ่งผู้เข้าแข่งขัน ก็ไม่สามารถทราบว่า ได้วัตถุดิบคืออะไร และจะทำอย่างไร ให้วัตถุดิบปริศนาถูกแปลงสภาพมาเป็นอาหารชั้นเลิศตามเวลาที่กำหนดให้ (เวลาที่กำหนดในการแข่งขัน คือ 15 นาที)
ช่วงนักชิมปริศนา
3 ผู้เข้าแข่งขัน จะได้รับโจทย์การทำอาหาร ให้กลุ่มผู้ชิมที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละสัปดาห์ ยกตัวอย่างเช่น “ทำอาหารแคลลอร์รี่ต่ำ” ให้สาวงาม 20 คน หรือ นักมวย 30 คน เป็นต้น ผู้แข่งขันเพียง 1 คน จะได้รับการคัดเลือกเข้าไปเป็น ผู้ท้าชิง กับ เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย (เวลาที่กำหนดในการแข่งขัน คือ 20 นาที)
ช่วงเชฟกระทะเหล็ก
เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย, เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก และ เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีน) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและเวลาเป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน (เวลาที่กำหนดในการแข่งขัน คือ 60 นาที) มีการนำเสนอ, การแสดงความคิดเห็น และการตัดสิน หลังผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็ก ทำอาหารเสร็จเรียบร้อย จะต้องนำเสนออาหารของตัวเองต่อกรรมการก่อนชิม จากนั้นคณะกรรมการจะทำการแสดงความคิดเห็น พร้อมตัดสินว่า...อาหารจานใดระหว่าง เชฟผู้ท้าชิง หรือ เชฟกระทะเหล็ก จะมีรสชาติชนะใจกรรมการ ในกรณีที่ผลการแข่งขันเสมอกัน จะมีการแข่งขันแบบต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที โดยเชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหารเพิ่มขึ้นอีก 1 เมนู โดยใช้วัตถุดิบพิเศษที่รายการกำหนดไว้ให้
รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 2)
ช่วงสรรหาผู้ท้าชิงและเมนูพิเศษเฉพาะตัว
ประธานสรรหาทั้ง 3 คน จะทำการคัดสรรเชฟที่มีฝีมือจากทั่วสารทิศ มาเป็น เชฟผู้ท้าชิง พร้อมกับดารารับเชิญ 3 ท่าน หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งเชฟผู้ท้าชิงจะมาทำอาหารเมนูพิเศษตามความถนัดของตนเอง จากแบบทดสอบพิเศษ ซึ่งจะเปลี่ยนไปในแต่ละสัปดาห์ เวลาที่กำหนดในการทำอาหาร คือ 30 นาที โดยจะมีรูปแบบแบบทดสอบพิเศษต่างๆ กันไป ดังนี้
- แบบเมนูประจำตัว (Signature Dish) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารด้วยวัตถุดิบที่เชฟจัดเตรียมมาสำหรับการนำเสนอเมนูของตัวเองโดยเฉพาะ
- แบบอาหารตามสั่ง (Made To Order) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารจากโจทย์วัตถุดิบหลักและโจทย์รูปแบบการทำอาหาร ในไตล์ต่างๆ อาทิเช่น ไทย, จีน, ยุโรป และอื่นๆ ที่ทางรายการกำหนดมาให้ ซึ่งเปรียบเสมือนการรับรายการจากลูกค้าในรูปแบบอาหารตามสั่ง ให้ประธานสรรหาและดารารับเชิญ 3 ท่านชิมกัน
- แบบ 3 วัตถุดิบปริศนา (Secret Ingredient) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารจากโจทย์วัตถุดิบปริศนา ที่ทางรายการกำหนดให้จำนวน 3 อย่าง โดยจะต้องชูรสชาติ ของวัตถุดิบลับทั้ง 3 อย่างให้ได้มากที่สุด ในบางครั้งทางรายการจะบอกวัตถุดิบปริศนามาก่อน 1 อย่าง โดยวัตถุดิบปริศนา 2 อย่างที่เหลือ จะถูกเลือกผ่านมาจาก นักช็อปปริศนา ให้ประธานสรรหาและดารารับเชิญ 3 ท่านชิมกัน
- แบบบอกคำปริศนา (Story Telling) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารจากโจทย์ปริศนา 1 ประโยคจากบุคคลพิเศษ เพื่อสื่อถึงปริศนานั้น ซึ่งเปรียบเสมือนการเล่าเรื่องราวศิลปะต่างๆ ผ่านจานอาหารนั้นๆ ให้ประธานสรรหาและดารารับเชิญ 3 ท่านชิมกัน
- แบบเครื่องมือปริศนา (Secret Equipment) เชฟผู้ท้าชิง จะทำอาหารจากโจทย์อุปกรณ์ปริศนา ที่ทางรายการกำหนดให้จำนวน 1 ชิ้น โดยเชฟผู้ท้าชิงต้องใช้อุปกรณ์ปริศนานั้น เป็นอุปกรณ์หลักในการทำอาหาร ให้ประธานสรรหาและดารารับเชิญ 3 ท่านชิมกัน
- แบบนักชิมปริศนา (Mystery Judges) เชฟผู้ท้าชิง จะต้องทำอาหารจานพิเศษ สำหรับกลุ่มนักชิมปริศนา โดยตอบโจทย์ความต้องการของนักชิมปริศนา ให้เสร็จทันเวลาที่กำหนดและครบตามจำนวนนักชิม
ช่วงเชฟกระทะเหล็ก
เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย, เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก และ เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีน) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและเวลาเป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน (เวลาที่กำหนดในการแข่งขัน คือ 60 นาที) มีการนำเสนอ, การแสดงความคิดเห็น และการตัดสิน หลังผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็ก ทำอาหารเสร็จเรียบร้อย จะต้องนำเสนออาหารของตัวเองต่อกรรมการก่อนชิม จากนั้นคณะกรรมการจะทำการแสดงความคิดเห็น พร้อมตัดสินว่า...อาหารจานใดระหว่าง เชฟผู้ท้าชิง หรือ เชฟกระทะเหล็ก จะมีรสชาติชนะใจกรรมการ ในกรณีที่ผลการแข่งขันเสมอกัน จะมีการแข่งขันแบบต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที โดยเชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหารเพิ่มขึ้นอีก 1 เมนู โดยใช้วัตถุดิบพิเศษที่รายการกำหนดไว้ให้
ช่วงโรงเรียนกระทะเหล็ก
เชฟกระทะเหล็ก จะมาสาธิตการทำอาหารให้แก่ดารารับเชิญและผู้ชมทางบ้านที่สมัครเข้ารวมรายการ รวม 6 ท่าน หรืออาจจะมากกว่านั้น และทุกวันพุธสุดท้ายของแต่ละเดือน เชฟผู้ท้าชิงที่เคยแข่งขันในรายการ จะมาสาธิตการทำอาหารแทนเชฟกระทะเหล็ก หลังจากนั้นจะเลือกผู้ร่วมรายการ 2 ท่าน มาทำอาหารตามเชฟกระทะเหล็กหรือเชฟผู้ท้าชิงที่เคยแข่งขันในรายการ ซึ่งผู้ร่วมรายการที่เหลือ 4 คน จะทำการชิมและให้คะแนนว่าอาหารที่คนไหนทำ อร่อยกว่ากัน คนที่ได้คะแนนมากกว่า จะได้เป็น นักเรียนดีเด่น และได้รับประกาศนียบัตรเป็นของที่ระลึก
รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 3)
ประชันวัตถุดิบ
จะมีวัตถุดิบ 2 ชนิดออกมาให้ได้ชมกัน โดยหนึ่งในนั้นจะเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้แข่งในวันนั้นจริงๆ หรือบางครั้งอาจจะไม่เกี่ยวกับวัตถุดิบเลย แต่จะเป็นการทำอาหารให้แขกรับเชิญได้รับประทานกัน โดยจะมี เชฟประสพโชค ตระกูลแพทย์ (เชฟอาร์ต) , เชฟบรรณ บริบูรณ์ (เชฟอิ๊ค) , เชฟธัชพล ชุมดวง (เชฟตูน) สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา สัปดาห์ละ 2 คนเพื่อเป็นตัวแทนและนำเสนอวัตถุดิบอย่างละฝ่าย พร้อมทั้งทำอาหารจากวัตถุดิบนั้นๆ ให้กับแขกรับเชิญได้รับประทานด้วย
ช่วงเชฟกระทะเหล็ก
เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย, เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก และ เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีน) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและเวลาเป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน (เวลาที่กำหนดในการแข่งขัน คือ 60 นาที) มีการนำเสนอ, การแสดงความคิดเห็น และการตัดสิน หลังผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็ก ทำอาหารเสร็จเรียบร้อย จะต้องนำเสนออาหารของตัวเองต่อกรรมการก่อนชิม จากนั้นคณะกรรมการจะทำการแสดงความคิดเห็น พร้อมตัดสินว่า...อาหารจานใดระหว่าง เชฟผู้ท้าชิง หรือ เชฟกระทะเหล็ก จะมีรสชาติชนะใจกรรมการ ในกรณีที่ผลการแข่งขันเสมอกัน อาจจะมีการแข่งขันแบบต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที โดยเชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหารเพิ่มขึ้นอีก 1 เมนู โดยใช้วัตถุดิบพิเศษที่รายการกำหนดไว้ให้ หรืออาจจะไม่มีการต่อเวลา และคงผลเสมอไว้เช่นเดิม
รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 4)
ช่วงเชฟกระทะเหล็ก
รูปแบบจะคล้ายคลึงกับ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศสหรัฐอเมริกา (อังกฤษ: Iron Chef America) ซึ่งเชฟทั้งสองฝ่ายจะมีเวลาในการแข่งขัน 60 นาที เหมือนเดิม โดยภายใน 20 นาทีแรกนั้น เชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหาร 1 เมนู ให้เสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟด้วยตนเองให้กับคณะกรรมการได้ชิมกันจานต่อจาน โดยคณะกรรมการ 3 คน จะทำการชิมพร้อมกับแสดงความคิดเห็นและให้คะแนนกันแบบระบบเวลาจริงเลย มีคะแนนส่วนนี้ให้ 5 คะแนน ถ้าทำไม่ทัน คะแนนส่วนนี้จะเป็น 0 คะแนนโดยทันที จากนั้นอีก 40 นาทีที่เหลือเชฟทั้งสองฝ่าย ต้องรังสรรค์อย่างน้อย 4 เมนูให้เสร็จทันเวลา ที่มากไปกว่านั้นเพื่อเพิ่มความท้าทายและความกดดันให้กับเชฟทั้งสองฝ่าย ท่านประธานสันติได้เพิ่ม โจทย์พิเศษ (Culinary Curve Ball) ที่สามารถเป็นได้ทั้งวัตถุดิบหรืออุปกรณ์เสริม ซึ่งเชฟทั้งสองฝ่าย ต้องใช้โจทย์พิเศษนี้เป็นองค์ประกอบในเมนูใดเมนูหนึ่งให้ได้นั้นเอง ซึ่งเราจะได้ประหลาดใจไปกับวิธีการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าของเชฟแต่ละท่าน แถมยังได้เห็นถึงจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา มีคะแนนส่วนนี้ให้ 5 คะแนน และคณะกรรมการ 3 คน ทำการให้คะแนน โดยจะพิจารณาจากคะแนนด้านรสชาติความอร่อย 10 คะแนน, ด้านความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์ 5 คะแนน และด้านความสามารถในการดึงรสชาติของวัตถุดิบหลัก 5 คะแนน
ช่วงโรงเรียนกระทะเหล็ก
เชฟกระทะเหล็ก จะมาสาธิตการทำอาหารให้แก่ดารารับเชิญและผู้ชมทางบ้านที่สมัครเข้ารวมรายการ รวม 6 ท่าน หรืออาจจะมากกว่านั้น และทุกวันพุธสุดท้ายของแต่ละเดือน เชฟผู้ท้าชิงที่เคยแข่งขันในรายการ จะมาสาธิตการทำอาหารแทนเชฟกระทะเหล็ก หลังจากนั้นจะเลือกผู้ร่วมรายการ 2 ท่าน มาทำอาหารตามเชฟกระทะเหล็กหรือเชฟผู้ท้าชิงที่เคยแข่งขันในรายการ ซึ่งผู้ร่วมรายการที่เหลือ 4 คน จะทำการชิมและให้คะแนนว่าอาหารที่คนไหนทำ อร่อยกว่ากัน คนที่ได้คะแนนมากกว่า จะได้เป็น นักเรียนดีเด่น และได้รับประกาศนียบัตรเป็นของที่ระลึก
รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 5)
ช่วงเชฟกระทะเหล็ก
เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย, เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก แนวอินโนเวทีฟ, เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีนร่วมสมัย, เชฟกระะทะเหล็ก อาหารหวาน, เชฟกระทะเหล็ก อาหารเอเชี่ยนทวิสต์คิวชีน และเชฟกระทะเหล็ก อาหารยุโรป) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและจะมีเวลาในการแข่งขัน 60 นาที เป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน โดยภายใน 20 นาทีแรกนั้น เชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหาร 1 เมนู ให้เสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟด้วยตนเองให้กับคณะกรรมการได้ชิมกันจานต่อจาน โดยคณะกรรมการ 3 คน จะทำการชิมพร้อมกับแสดงความคิดเห็นและให้คะแนนกันแบบระบบเวลาจริงเลย มีคะแนนส่วนนี้ให้คนละ 5 คะแนน ถ้าทำไม่ทัน คะแนนส่วนนี้จะเป็น 0 คะแนนโดยทันที จากนั้นอีก 40 นาทีที่เหลือเชฟทั้งสองฝ่าย ต้องรังสรรค์อย่างน้อย 4 เมนูให้เสร็จทันเวลา
การตัดสิน
คณะกรรมการ 3 คน จะทำการชิมอาหารและแสดงความคิดเห็นให้กับเชฟทั้งสองฝ่าย จากนั้นคณะกรรมการ 3 คน จะทำการให้คะแนน โดยจะพิจารณาจากคะแนนด้านจานแรกคนละ 5 คะแนน, รสชาติความอร่อยคนละ 10 คะแนน, ด้านความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์คนละ 5 คะแนน และด้านความสามารถในการดึงรสชาติของวัตถุดิบหลักคนละ 5 คะแนน รวม 75 คะแนน
รูปแบบของรายการในอดีต (แบบที่ 6)
ใช้ในวันที่ 8 กรกฎาคม – 9 กันยายน พ.ศ. 2560
ช่วง World Ingredient ภารกิจตามล่าวัตถุดิบสุดขอบโลก
ในช่วงนี้ จะมีลักษณะคล้ายกับช่วงประชันวัตถุดิบในรูปแบบที่ 3 แต่จะเป็นการให้พิธีกรร่วม 2 ท่านคือ เบญจพล เชยอรุณ (กอล์ฟ) และ ชล วจนานนท์ (ชลลี่) มานำเสนอวัตถุดิบที่จะให้ประธานสันติเป็นผู้คัดเลือก เพื่อนำมาใช้ในการแข่งขัน และผู้ชมทางบ้านจะสามารถร่วมสนุกว่าประธานสันติจะเลือกวัตถุดิบชนิดใด เพื่อชิงบัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท
ช่วงเชฟกระทะเหล็ก
เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย, เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก แนวอินโนเวทีฟ, เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีนร่วมสมัย, เชฟกระะทะเหล็ก อาหารหวาน, เชฟกระทะเหล็ก อาหารเอเชี่ยนทวิสต์คิวชีน และเชฟกระทะเหล็ก อาหารยุโรป) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและจะมีเวลาในการแข่งขัน 60 นาที เป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน โดยภายใน 20 นาทีแรกนั้น เชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องทำอาหาร 1 เมนู ให้เสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟด้วยตนเองให้กับคณะกรรมการได้ชิมกันจานต่อจาน จากนั้นอีก 40 นาทีที่เหลือเชฟทั้งสองฝ่าย ต้องรังสรรค์อย่างน้อย 4 เมนูให้เสร็จทันเวลา
การตัดสิน
คณะกรรมการ 3 คน จะทำการชิมอาหารและแสดงความคิดเห็นให้กับเชฟทั้งสองฝ่าย จากนั้นคณะกรรมการ 3 คน จะทำการให้คะแนน โดยจะพิจารณาจากคะแนนด้านจานแรกคนละ 5 คะแนน, รสชาติความอร่อยคนละ 10 คะแนน, ด้านความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์คนละ 5 คะแนน และด้านความสามารถในการดึงรสชาติของวัตถุดิบหลักคนละ 5 คะแนน รวม 75 คะแนน
รูปแบบของรายการในปัจจุบัน (แบบที่ 7)
ใช้ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 – ปัจจุบัน
ช่วงเชฟกระทะเหล็ก
เชฟผู้ท้าชิงจะต้องแข่งขันทำอาหารกับเชฟกระทะเหล็กประจำรายการ โดยผู้ท้าชิงมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอยากประลองยุทธ์กับเชฟกระทะเหล็กท่านใด (เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตก แนวอินโนเวทีฟ, เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีนร่วมสมัย, เชฟกระะทะเหล็ก อาหารหวาน, เชฟกระทะเหล็ก อาหารเอเชี่ยนแนวผสมผสาน, เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตกแนวผสมผสาน และเชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตกร่วมสมัย) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุดิบหลักและจะมีเวลาในการแข่งขัน 60 นาที เป็นตัวกำหนดสำหรับการแข่งขัน เชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องรังสรรค์ 5 เมนู ให้เสร็จทันเวลา จากนั้นเมื่อผ่านไป 45 นาที จะมีวัตถุดิบปริศนา (Culinary Curve Ball) ซึ่งเชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องนำวัตถุดิบปริศนามาใช้ทำอาหารเป็นวัตถุดิบหลักในเมนูสุดท้ายจาก 5 เมนู (มีเพียงเทปวันที่ 11 และ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ที่ใช้กติกาจากรูปแบบรายการแบบที่ 4 คือเชฟทั้งสองฝ่ายจะต้องนำวัตถุดิบปริศนานำมาประกอบการรังสรรค์อย่างน้อย 1 เมนูจาก 5 เมนู)
การตัดสิน
จะมีคณะกรรมการ 4 คน (มีคณะกรรมการเพียง 3 คนในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 - 14 กันยายน พ.ศ. 2562 และ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 - 5 กันยายน พ.ศ. 2563) จะทำการให้คะแนน ซึ่งเกณฑ์การตัดสินคะแนนจะพิจารณาด้านความอร่อย 50 คะแนน, ความคิดสร้างสรรค์เมนู 25 คะแนน, ความคิดสร้างสรรค์ตกแต่งจาน 25 คะแนน และการชูวัตถุดิบหลัก 50 คะแนน รวม 150 คะแนน (ในช่วงวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 - 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 จะใช้เกณฑ์การตัดสินจะพิจารณาด้านความอร่อย 10 คะแนน, ความคิดสร้างสรรค์และตกแต่งจาน 5 คะแนน, การชูวัตถุดิบหลัก 5 คะแนน และวัตถุดิบปริศนา 5 คะแนน (ในเทปวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2561 ซึ่งจะมีคะแนนพิเศษซึ่งก็คือ โจทย์พิเศษ 2 อีกคนละ 5))
รูปแบบที่ 1 Blind Tasting
ในรูปแบบ Blind Tasting คณะกรรมการจะไม่ทราบมาก่อนว่าเมนูอาหารแต่ละจานที่จะได้รับประทานนั้นเป็นของเชฟท่านใด เพื่อป้องกันปัญหาการล็อกผล โดยกรรมการทั้งสี่จะเก็บตัวในระหว่างที่เชฟทั้งสองทำการรังสรรค์เมนู และเมื่อเข้าสู่ช่วงการตัดสิน เชฟทั้งสองจะถูกนำไปเก็บตัวและดูการตัดสินผ่านทางจอมอนิเตอร์ และอาหารของเชฟทั้งสองจะถูกเสิร์ฟให้แก่คณะกรรมการทำการตัดสิน โดยคณะกรรมการจะทำการตัดสินหน้าเวทีของ Kitchen Stadium (ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 – 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563) ต่อมาเปลี่ยนเป็นห้อง Bidding Battle ของ ศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก (28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 - ปัจจุบัน) โดยจะใช้อักษรย่อว่าเป็นเชฟ A หรือ B ในการแทนตัวเชฟผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็ก เริ่มใช้ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 – 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 และ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 - ปัจจุบัน
รูปแบบที่ 2 เปิดเผย
ในรูปแบบเปิดเผย จะให้ทั้งเชฟกระทะเหล็กและเชฟผู้ท้าชิงเข้าไปในห้อง Bidding Battle ของ ศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก โดยจะมีคณะกรรมการมานั่งชิมอาหารของเชฟกระทะเหล็กและเชฟผู้ท้าชิงพร้อมกัน โดยมีการเปิดเผยหน้าเชฟกระทะเหล็กและเชฟผู้ท้าชิงแบบให้เห็นแบบต่อหน้าต่อตา แต่จะยังมีการวิจารณ์คล้าย ๆ กับรูปแบบ Blind Tasting เริ่มใช้ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2563 – 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
เชฟกระทะเหล็ก
รายชื่อเชฟกระทะเหล็กที่ปรากฏในรายการ ซึ่งแสดงสถิติการแข่งขันผลชนะ เสมอ แพ้ ของเชฟกระทะเหล็กแต่ละคน โดยกล่องสีจะแทนแถบสีของชุดเชฟกระทะเหล็ก
เชฟกระทะเหล็ก | ความเชี่ยวชาญด้านอาหาร | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ทั้งหมด | % ชนะ | สถานะ |
---|---|---|---|---|---|---|---|
ชัยเทพ ภัทรพรไพศาล | เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีน (I) | 1 | 0 | 1 | 2 | 50.0% | ✖ |
พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย | เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตกแนวอินโนเวทีฟ | 54 | 4 | 9 | 67 | 83.6% | ✔ |
บุญธรรม ภาคโพธิ์ | เชฟกระทะเหล็ก อาหารญี่ปุ่น | 42 | 4 | 14 | 60 | 73.3% | ✔ |
ชุมพล แจ้งไพร | เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย | 45 | 4 | 5 | 54 | 87.0% | ✖ |
เฮง ชุง ไล | เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีน (II) | 1 | 1 | 5 | 7 | 21.4% | ✖ |
ธนรักษ์ ชูโต | เชฟกระทะเหล็ก อาหารจีนร่วมสมัย | 56 | 4 | 6 | 66 | 87.9% | ✔ |
ธนัญญา วิลคินซัน | เชฟกระทะเหล็ก อาหารหวาน | 40 | 3 | 30 | 73 | 56.8% | ✔ |
ธนินธร จันทรวรรณ | เชฟกระทะเหล็ก อาหารโมเดิร์นแนวอิตาเลี่ยน | 6 | 2 | 4 | 12 | 58.3% | ✖ |
ประสพโชค ตระกูลแพทย์ | เชฟกระทะเหล็ก อาหารเอเชี่ยนแนวผสมผสาน | 38 | 0 | 13 | 51 | 74.5% | ✔ |
ธรรมศักดิ์ ชูทอง | เชฟกระทะเหล็ก อาหารยุโรป | 5 | 0 | 3 | 8 | 62.5% | ✖ |
ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ | เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตกแนวผสมผสาน | 7 | 0 | 4 | 11 | 63.6% | ✔ |
พฤกษ์ สัมพันธวรบุตร | เชฟกระทะเหล็ก อาหารตะวันตกร่วมสมัย | 4 | 0 | 5 | 9 | 44.4% | ✔ |
ธีรภัทร ตียาสุนทรานนท์ | เชฟกระทะเหล็ก อาหารยุโรปร่วมสมัย | 2 | 0 | 1 | 3 | 66.7% | ✔ |
การแข่งขัน
วัตถุดิบหลักที่นำมาใช้รายการบางครั้งก็จะมีราคาแพงและแปลกใหม่ เช่น ปลาเก๋ามังกร, ปลาแซลมอน, ปลาหมึกยักษ์, ปูทาราบะ แต่บางครั้งก็จะเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายโดยทั่วไป เช่น กุ้งแม่น้ำ, กะหล่ำปลี เป็นต้น ซึ่งบางครั้งก็แสดงถึงความเป็นพื้นบ้านในประเทศไทย เช่น ปลาร้า, ไก่บ้าน โดยวัตถุดิบหลักในแต่ละสัปดาห์ทั้งเชฟผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็กจะต้องนำมาทำอาหาร 5 เมนู ซึ่งจำนวนจานของอาหารแต่ละอย่างที่ต้องเตรียมในการตัดสินนั้นจะมีอย่างน้อย 6 จาน กล่าวคือ เตรียมให้ประธานสันติ 1 จาน และคณะกรรมการ 5 จานหรืออาจจะน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับจำนวนคณะกรรมการในแต่ละสัปดาห์และต้องเตรียม 1 จาน ของอาหารแต่ละอย่างออกมาต่างหากสำหรับการถ่ายภาพและการนำเสนอ โดยอาหารทั้งหมดจะทำด้วยเชฟกระทะเหล็กและมีผู้ช่วย ปกติแล้วทั้งเชฟผู้ท้าชิงและเชฟกระทะเหล็กจะเตรียมผู้ช่วยเชฟ 2 คนมาเองและอุปกรณ์เครื่องครัว นอกเหนือจากทางรายการที่มีอยู่นำมาใช้ในรายการได้
กรรมการตัดสินในรายการ
ในการตัดสินแต่ละครั้งจะมีกรรมการ 5 คน แต่บางครั้งอาจมี 4-6 คน ทั้งนี้อาจมีแขกรับเชิญเป็นดารา นักแสดงหรือผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง 1-2 คนรวมอยู่ด้วย ต่อมาภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงจนเหลือกรรมการเพียง 4 ท่าน โดยกรรมการส่วนใหญ่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านวงการอาหาร และมีชาวต่างชาติด้วยเป็นบางครั้ง เนื่องจากเป็นเชฟที่ประจำอยู่ตามภัคตาคารต่างๆ ที่มีชื่อเสียงนั่นเอง
กรรมการประจำรายการ
ตัวอย่างเช่น
- สมศักดิ์ รารองคำ (เชฟสมศักดิ์) นายกสมาคมเชฟประเทศไทย กรรมการผู้ตัดสินการแข่งขันทำอาหารเวทีโลก
- หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ (คุณอิงค์) สุดยอดนักชิมและนักวิจารณ์อาหาร ผู้รอบรู้เรื่องวัตถุดิบ เดินทางชิมอาหารมาแล้วทั่วทุกมุมโลก
- ลลนา พานิช (แมว) นักเดินทาง และนักชิมอาหารทั่วโลก
- วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์ (กุ้ง) บรรณาธิการบริหาร ไทยคลาส มีเดียกรุป
- พีระพัฒน์ ตุลยาเดชานนท์ (พีท) Food Blogger ชื่อดัง เจ้าของแฟนเพจ และยูทูปช่อง กินกับพีท
- สิริวธู รักษาเกียรติ (ตั๊ก) เค้กดีไซน์เนอร์ และ Food And Bakery คอนเซาท์แท่น ที่ปรึกษาด้านอาหารคาวหวาน นักชิมและนักวิจารณ์อาหาร
- เนตรอำไพ สาระโกเศศ (เชฟเนตร) Executive Chef แถวหน้าของประเทศไทย ที่ดูแลร้านอาหารมากกว่า 20 สาขา (ปัจจุบันทำหน้าที่ Commentator ให้กับทางรายการ)
- ชลทิพย์ ระยามาศ (โบว์ลิ่ง) บล็อกเกอร์ชื่อดัง จากอี้ดแอนด์เช้า กูรูนักชิมระดับประเทศ และคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล ฟู้ดอินฟอเรนเซอร์ จากสิงคโปร์ (ปัจจุบันทำหน้าที่ Commentator ให้กับทางรายการ)
- แมทธิว เบลเล็ค (เชฟแมทธิว) ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดืม โรงแรมรอยัลออคิดเชอราตัน กรุงเทพมหานคร
- กิตติเดช วิมลรัตน์ (แทน) นักวิจารณ์อาหารและ Blogger เจ้าของเพจ ITan - แทนไร้เทียมทาน
- อุบลรัตน์ ช่อธีระพฤกษ์ (มาดามตวง) Food Celeb แถวหน้าของประเทศไทย พิธีกรรายการอาหาร ที่ปรึกษาธุรกิจด้านอาหาร
ฯลฯ
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์แฟนเพจรายการ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ที่เฟซบุ๊ก
- รายการเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย ย้อนหลัง บน YouTube
- เว็บไซต์ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
อ้างอิง
- Iron Chef Thailand S7EP29 เชฟอดีดVsเชฟป้อม [ฟัวกรา,หอยเชลล์โฮตาเตะ,เนื้อวากิวออสเตรเลีย,หอยเป๋าฮื้อ