ไขมันอิ่มตัวกับโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด
องค์กรทางการแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์ ทางสุขภาพหัวใจ และของรัฐบาลโดยมาก เห็นพ้องร่วมกันว่า ไขมันอิ่มตัวเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด (CVD) องค์กรรวมทั้งองค์การอนามัยโลก คณะกรรมการอาหารและสารอาหารของวิทยาลัยการแพทย์แห่งชาติสหรัฐ (NAM) สมาคมอาหารและสารอาหารอเมริกัน (ADA) องค์กรนักโภชนาการแคนาดา (DC) สมาคมอาหารและสารอาหารบริติช (BDA) สมาคมหัวใจอเมริกัน (AHA) มูลนิธิหัวใจบริติช (BHF) องค์กรหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองแห่งแคนาดา สหพันธ์หัวใจแห่งโลก (WHF) บริการสาธารณสุขแห่งชาติบริติช (NHS) องค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) และองค์กรความปลอดภัยของอาหารยุโรป (EFSA) องค์กรเหล่านี้ทั้งหมดแนะนำให้จำกัดการทานไขมันอิ่มตัวเพื่อลดความเสี่ยง
แต่ก็มีงานวิเคราะห์อภิมานที่ตรวจสอบการทดลองทางคลินิกและการศึกษาตามแผน แล้วให้หลักฐานต่อต้านคำแนะนำให้ลดทานไขมันอิ่มตัว มีทั้งนักวิทยาศาสตร์ และองค์กรการค้า ที่วิจารณ์ต่อต้านคำแนะนำเช่นนี้
การปริทัศน์เป็นระบบ
สาระสำคัญ
งานปริทัศน์เป็นระบบ | ความสัมพันธ์ระหว่างโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดกับกรดไขมันอิ่มตัว |
---|---|
American Heart Association: Presidential Advisory on Dietary Fats and Cardiovascular Disease | การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมแสดงว่า การลดทานไขมันอิ่มตัวและแทนด้วยไขมันพืชไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่หลายคู่ (PUFA) ลดโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดประมาณ 30% ซึ่งใกล้กับที่พบเมื่อรักษาด้วยยาลดไขมันในเส้นเลือด statin |
Hamley, 2017 | งานทบทวนวรรณกรรมนี้ไม่พบผลของการเปลี่ยนไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่หลายคู่ (PUFA) ต่ออัตราการตายแบบรวมหรืออัตราการตายเพราะโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด งานสรุปว่า หลักฐานที่มีจากงานทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมที่ทำดีพอแสดงว่า การเปลี่ยนไขมันอิ่มตัว (SFA) เป็น n-6 PUFA โดยมากไม่น่าจะลดปัญหาโรคหลอดเลือดหัวใจ, อัตราการตายเพราะโรคหลอดเลือดหัวใจ (CHD) และอัตราการตายโดยรวม ประโยชน์ที่แสดงในงานวิเคราะห์อภิมานก่อน ๆ ปรากฎเพราะรวมการทดลองที่มีกลุ่มควบคุมซึ่งไม่ดีพอ ข้อมูลใหม่นี้มีผลตามมาสำหรับข้อแนะนำอาหารในปัจจุบัน |
Hooper, 2015 | งานทบทวนวรรณกรรมนี้พบว่า การลดไขมันอิ่มตัวโดยเปลี่ยนเป็นไขมันไม่อิ่มตัว ลดความเสี่ยงปัญหาหัวใจร่วมหลอดเลือด 14% แต่ไม่มีผลลดไขมันทั้งหมด ไขมันอิ่มตัวไม่มีผลต่ออัตราการตายโดยรวมหรืออัตราการตายเพราะโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด งานสรุปว่า การเปลี่ยนไขมันอาหารมีผลลดความเสี่ยงโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดเล็กน้อยแต่สำคัญ แต่ไม่ลดไขมันทั้งหมดในงานทดลองที่ยาวกว่า ข้อแนะนำการเปลี่ยนพฤติกรรมสำหรับคนไข้ที่เสี่ยงโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดและแม้แต่กลุ่มประชากรที่เสี่ยงน้อยกว่า ควรคงรวมการลดไขมันอิ่มตัวในอาหารและการทดแทนด้วยไขมันไม่อิ่มตัวโดยทำตลอดชีวิต |
Ramsden, 2016 | งานสรุปว่า หลักฐานจากการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมแสดงว่า การแทนไขมันอิ่มตัวด้วย linoleic acid ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด แต่ไม่สนับสนุนสมมติฐานว่า นี่เท่ากับลดความเสี่ยงตายเพราะโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ หรือลดความเสี่ยงตายเพราะโรคทั้งหมด |
de Souza, 2015 | งานสรุปว่า ไขมันอิ่มตัวไม่สัมพันธ์กับอัตราการตายโดยรวม หรือโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด (CVD) หรือโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ (CHD) หรือโรคหลอดเลือดสมองเหตุขาดเลือด (ischemic stroke) หรือโรคเบาหวานประเภท 2 แต่หลักฐานก็ต่าง ๆ กันเพราะใช้วิธีการต่าง ๆ กัน |
Schwab, 2014 | งานสรุปว่า มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า การเปลี่ยนกรดไขมันอิ่มตัวเป็นบางส่วนด้วย ไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่หลายคู่ (PUFA) ลดความเสี่ยงโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชาย |
Chowdhury, 2014 | งานสรุปว่า หลักฐานที่มีไม่ชัดเจนพอให้สนับสนุนแนวทางที่ให้บริโภคไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่หลายคู่ (PUFA) เป็นส่วนมากและไขมันไม่อิ่มตัวเป็นส่วนน้อย |
Farvid, 2014 | งานสรุปว่า ในงานศึกษาตามแผนแบบสังเกต (prospective observational study) กรด linolenic ในอาหารสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ (CHD) ที่ลดลง ข้อมูลนี้สนับสนุนคำแนะนำในปัจจุบันให้เปลี่ยนไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่หลายคู่ (PUFA) เป็นวิธีหลักเพื่อป้องกัน CHD |
Ramsden, 2010 | การเปลี่ยนไขมันอิ่มตัวด้วยกรดไขมันโอเมกา-3 และโอเมกา-6 (ซึ่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัวแบบ n-3 และ n-6 PUFA) ลดความเสี่ยงหัวใจล้มที่ไม่ถึงตายและความตายเพราะโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดประมาณ 22% แม้การแทนด้วยกรดไขมันโอเมกา-6 อย่างเดียวจะเพิ่มแนวโน้มความเสี่ยง 13% โดยไม่มีนัยสำคัญ งานสรุปว่า ตามหลักฐานของงานทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมดังกล่าว คำแนะนำให้เพิ่มทาน n-6 PUFA ไม่น่าจะมีประโยชน์และจริง ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจและการตาย |
Jakobsen, 2009 | นี่เป็นงานวิเคราะห์อภิมานเดียวที่เก็บข้อมูลจากงานศึกษาแบบสังเกตโดยใช้ข้อมูลผู้เข้าร่วมรายบุคคล จึงพิจารณาว่ามีมาตรฐานสูง ข้อมูลที่รวมกันแสดงว่า การทดแทนพลังงานอาหารจากไขมันอิ่มตัวทุก ๆ 5% ด้วยไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่หลายคู่ (PUFA) ลดความเสี่ยงปัญหาหลอดเลือดหัวใจประมาณ 13% และลดอัตราการตาย 26% เทียบกับทดแทนด้วยคาร์โบไฮเดรตที่เพิ่มความเสี่ยง 7% และเพิ่มแนวโน้มความเสี่ยงการตายเพราะหลอดเลือดแต่ไม่มีนัยสำคัญ ส่วนการบริโภคกรดไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่เดี่ยว (MUFA) ไม่มีผลต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ |
รายละเอียดงานปริทัศน์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ความเห็น
ความเห็นส่วนมาก
ในหนังสือเฉพาะทาง
หนังสือ European Society of Cardiology Textbook of Cardiovascular Medicine ปี 2009 อ้างงานศึกษาตามแผนว่า ความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการทานไขมันกับโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด มาจากไขมันแบบอิ่มตัว
หนังสือ Cardiovascular Prevention and Rehabilitation ปี 2007 อ้างว่า งานศึกษาทางวิทยาการระบาดขนาดใหญ่ได้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างการทานไขมันอิ่มตัวกับ อัตราการตายเพราะโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจอย่างคงเส้นคงวา
หนังสือ Critical Pathways in Cardiovascular Medicine ปี 2007 อ้างว่า การแทนไขมันอิ่มตัวด้วยไขมันไม่อิ่มตัวอาจลดคอเลสเตอรอลแบบไม่ดี (LDL) โดยไม่ลดคอเลสเตอรอลแบบดี (HDL) หลักการนี้เป็นเหตุส่วนหนึ่งที่อาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนสัมพันธ์กับอัตราการเกิดปัญหาหัวใจร่วมหลอดเลือดที่ลดลงในงานทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมสองงาน
หนังสือ Evidence-based Cardiology ปี 2003 แนะนำให้ทานไขมันอิ่มตัวน้อย โดยเป็นพลังงานอาหารที่ทานน้อยกว่า 7% ต่อวัน และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดไขมันมิริสติกมาก และกรดไขมันปาล์มโดยเฉพาะ คำแนะนำนี้ประเมินว่า ได้หลักฐานในขั้นดีที่สุด
จุดยืนและแนวทางขององค์กรสุขภาพหลัก ๆ
การแพทย์
ในปี 2003 องค์การอนามัยโลกและองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติออกรายงานของผู้เชี่ยวชาญโดยสรุปว่า "การทานกรดไขมันอิ่มตัวสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดโดยตรง เป้าหมายทั่วไปก็คือให้จำกัดทานกรดไขมันอิ่มตัวให้น้อยกว่า 10% ของพลังงานที่ได้ทั้งวัน และให้น้อยกว่า 7% สำหรับกลุ่มเสี่ยง ถ้ากลุ่มประชากรทานน้อยกว่า 10% อยู่แล้ว ก็ไม่ควรเพิ่มให้มากกว่านี้ และภายในขีดจำกัดเช่นนี้ ให้เปลี่ยนอาหารที่มีกรดไขมันมิริสติกและกรดไขมันปาล์ม เป็นอาหารที่มีน้ำมันเช่นนี้น้อยลง แต่ในประเทศกำลังพัฒนาที่กลุ่มประชากรบางพวกได้พลังงานไม่พอ ใช้พลังงานมาก และร่างกายสะสมไขมันน้อย (ดัชนีมวลกาย <18.5 กก./ม.2) ควรพิจารณาทั้งคุณภาพและปริมาณของไขมันโดยนึกถึงความจำเป็นเพื่อให้ได้พลังงานพอด้วย เพราะแหล่งไขมันอิ่มตัวบางอย่าง เช่น น้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์ม อาจให้พลังงานในราคาย่อมเยา และอาจเป็นแหล่งพลังงานสำคัญสำหรับคนจน"
แนวทางปี 2007 ของสมาคมหทัยวิทยายุโรป (ESC) อ้างว่า การทานไขมันอิ่มตัวสัมพันธ์อย่างมีกำลัง อย่างคงเส้นคงวา และเป็นไปตามขนาด กับระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและการเกิดโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด และยอมรับว่า นี่เป็นความสัมพันธ์โดยเหตุ
คลินิกมาโย (Mayo Clinic) พิจารณาไขมันอิ่มตัวว่าอาจเป็นอันตราย และไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่เดี่ยว (MUFA) และแบบมีพันธะคู่หลายคู่ (PUFA) ว่าอาจมีประโยชน์ องค์กรอ้างอิงรายงาน แนวทางอาหารสำหรับชาวอเมริกัน 2010 (Dietary Guidelines for Americans) แนะนำให้ลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมาก และเน้นทานอาหารที่มีไขมันแบบไม่อิ่มตัวทั้งแบบมีพันธะคู่เดี่ยว (MUFA) และแบบพันธะคู่หลายคู่ (PUFA) มากกว่า
สมาคมอาหารและสารอาหารบริติช (ฺBDA) พบหลักฐานที่ดีในงานปริทัศน์เป็นระบบซึ่งทบทวนงานทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมว่า การลดไขมันอิ่มตัวทำให้คนไข้โรคหัวใจร่วมหลอดเลือดดีขึ้น
สมาคมอาหารและสารอาหารอเมริกัน (ADA) องค์กรนักโภชนาการแคนาดา (DC) มีจุดยืนว่า งานศึกษาวิทยาการระบาดแสดงว่า การทานกรดไขมันอิ่มตัวสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ
คณะสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีจุดยืนว่า ควรแทนที่ไขมันอิ่มตัวด้วยไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่เดี่ยว (MUFA) หรือหลายคู่ (PUFA) แบบ cis แต่ไม่ควรแทนด้วยคาร์โบไฮเดรตขัดสี
องค์กรสุขภาพหัวใจ
มูลนิธิหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองแห่งแคนาดาประเมินว่า การทานไขมันอิ่มตัวเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลแบบไม่ดี (LDL) ในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด เป็นจุดยืนเช่นเดียวกัยของสมาคมหัวใจอเมริกัน (AHA) ของมูลนิธิหัวใจบริติช (BHF) ของมูลนิธิหัวใจแห่งชาติออสเตรเลีย ของมูลนิธิหัวใจแห่งชาตินิวซีแลนด์ และของสหพันธ์หัวใจแห่งโลก (WHF)
ส่วนมูลนิธิหัวใจไอริชอ้างว่า ไขมันอิ่มตัวอาจเพิ่มคอเลสเตอรอลแบบไม่ดี (LDL) และเพิ่มโอกาสการเกิดโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมอง
รัฐบาล
กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) และกระทรวงสาธารสุขสหรัฐ (HHS) ซึ่งมีหน้าที่ตีพิมพ์ แนวทางอาหารสำหรับชาวอเมริกัน 2010 (The Dietary Guidelines for Americans) กล่าวว่า ร่างกายมนุษย์ผลิตไขมันอิ่มตัวได้เองเพียงพอและไม่จำเป็นต้องได้จากอาหาร กล่าวว่า ไขมันอิ่มตัวที่สูงกว่าสัมพันธ์กับการมีคอเลสเตอรอลทั้งหมด (total cholesterol) และคอเลสเตอรอลแบบไม่ดี (LDL) ที่สูงกว่า และแนะนำให้ลดทานไขมันอิ่มตัว เป็นการแนะนำอาศัยงานทบทวนวรรณกรรม 12 งานระหว่างปี 2004-2009 ที่ได้สรุปโดยมีหลักฐานที่ดี (strong) ว่า ไขมันอิ่มตัวจากอาหารเพิ่มคอเลสเตอรอลทั้งหมดและแบบ LDL ตลอดจนเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด
บทความบรรณาธิการ ความเห็น และข้อสรุปงานประชุม
การอภิปรายปี 2010 ที่งานประชุมของสถาบันอาหารและสารอาหาร (Academy of Nutrition and Dietetics) สรุปว่า ในเรื่องไขมันอิ่มตัว ประเด็นสำคัญที่คณะกรรมการและชุมชนนักวิทยาศาสตร์เห็นร่วมกันก็คือ การแทนไขมันอิ่มตัวด้วยไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่หลายคู่ (PUFA) มีประโยชน์ต่อสุขภาพและโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด แนะนำให้นักโภชนาการเน้นใช้ไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่เดี่ยว (MUFA) และหลายคู่ (PUFA) เท่าที่ทำได้ และให้เลี่ยงไขมันทรานส์ อนึ่ง แม้หลักฐานต่อต้านไขมันอิ่มตัวอาจจะไม่ดีเท่าที่แนวทางการทานอาหารต่าง ๆ จะยกขึ้น แต่ก็ชัดเจนว่า PUFA และ MUFA เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ และแม้ไม่อาจกำจัดไขมันอิ่มตัวออกจากอาหารที่ทานได้ ก็ไม่ควรมองว่าดีต่อร่างกาย
งานทบทวนวรรณกรรมปี 2010 พบว่า ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจจะลดลงเมื่อแทนกรดไขมันอิ่มตัวด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่หลายคู่ (PUFA) แต่ไม่มีประโยชน์ถ้าแทนด้วยคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่เดียว (MUFA)
งานทบทวนวรรณกรรมปี 2009 พบว่า หลักฐานที่คุณภาพดีสุดแสดงว่า การลดทานไขมันอิ่มตัวลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ
งานทบทวนวรรณกรรมปี 2009 อีกงานหนึ่งพบว่า หลักฐานทางวิทยาการระบาดแสดงนัยว่า ไขมันอิ่มตัวมีผลลบต่อเส้นเลือด แต่หลักฐานแบบทดลองไม่สนับสนุนข้อสรุปเช่นนี้อย่างน่าเชื่อถือ
การคัดค้านความเห็นหลัก
รายงานการประชุมทางวิทยาศาสตร์ปี 2009 ระบุว่า แม้ผลิตภัณฑ์นมที่ทานในอาหารจะมีไขมันอิ่มตัว แต่หลักฐานก็ไม่ชัดเจนว่า การบริโภคผลิตภัณฑ์นมสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดอย่างคงเส้นคงวา
นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มวิจารณ์ แนวทางอาหารสำหรับชาวอเมริกัน 2010 ว่า "อ้างหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องอย่างไม่สมบูรณ์ ซึ่งแสดง ตีความ และย่อความวรรณกรรมที่มีอย่างไม่ถูกต้อง แล้วสรุปหรือแนะนำโดยไม่พิจารณาข้อจำกัดหรือข้อขัดแย้งที่มีทางวิทยาศาสตร์" และอ้างว่า หลักฐานที่สัมพันธ์ไขมันอิ่มตัวในอาหารกับการเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดยังไม่สามารถสรุปได้
งานวิเคราะห์อภิมานปี 2010 สรุปว่า ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ไขมันอิ่มตัวในอาหารสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด แต่ข้อสรุปนี้ก็ถูกโต้แย้ง และผู้เขียนงานเองก็ระบุในภายหลังว่า "คำถามสำคัญข้อหนึ่งก็คือ สารอาหารอะไรควรใช้แทนที่ไขมันอิ่มตัว... งานศึกษาทางวิทยาการระบาดและงานทดลองทางคลินิกแบบสุ่มได้แสดงหลักฐานอย่างคงเส้นคงว่าว่า การเปลี่ยนไขมันอิ่มตัวด้วยไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่หลายคู่ (PUFA) แต่ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต มีประโยชน์ต่อโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ"
ในปี 2015 วารสารการแพทย์เดอะบีเอ็มเจ ได้พิมพ์ (ใน op-ed) ความเห็นของนักวิชาการผู้หนึ่งต่อต้านการแนะนำให้ทานไขมันอิ่มตัวน้อยลง โดยย่อความงานปริทัศน์เป็นระบบและงานวิเคราะห์อภิมาน แล้วเสนอว่า ผลของการลดไขมันอิ่มตัวในอาหารต่อความชุกโรคของโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดไม่มีนัยสำคัญ แต่นักวิทยาศาสตร์กว่า 180 ท่านต่อมาก็ได้เรียกร้องให้ถอนบทความนี้ จึงกลายเป็นบทความที่ถูกแก้ถึง 2 ครั้ง
ดูเพิ่ม
เชิงอรรถ
- ↑ กรดไขมันมิริสติก (อังกฤษ: Myristic acid, ชื่อ IUPAC คือ 1-tetradecanoic acid) เป็นกรดไขมันอิ่มตัวสามัญที่มีสูตรเคมี CH3(CH2)12COOH นอกจากจะมีในจันทน์เทศซึ่งเป็นพืชที่ค้นพบไขมันโดยดั้งเดิมแล้ว ยังพบในน้ำมันเมล็ดปาล์ม น้ำมันมะพร้าว ไขมันเนย นมวัวควาย (8-14%) นมมนุษย์ (8.6%) และเป็นส่วนประกอบรองของไขมันสัตว์ต่าง ๆ
- ↑ กรดไขมันปาล์ม (อังกฤษ: palmitic acid ชื่อ IUPAC คือ hexadecanoic acid ) เป็นไขมันอิ่มตัวสามัญที่สุดในสัตว์ พืช และจุลินทรีย์ มีสูตรเคมี CH3(CH2)14COOH และมีอัตรา C:D เท่ากับ 16:0 ตามชื่อ เป็นองค์กอบสำคัญจากไขมันปาล์ม แต่ก็พบในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ชีส เนย และนม สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ มากมายผลิตไขมันปาล์มปกติในระดับน้อย ๆ และมีโดยธรรมชาติในเนย ชีส นม และเนื้อสัตว์ ตลอดจนเนยโกโก้ น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันทานตะวัน
อ้างอิง
- ↑ Joint WHO/FAO Expert Consultation (2003). (PDF). World Health Organization. pp. 81–94. ISBN 92-4-120916-X. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2015-07-24. สืบค้นเมื่อ 2011-03-11.
- Food and Nutrition Board (2005). "10: Dietary Fats: Total Fat and Fatty Acids". Dietary Reference Intakes for Energy, Carbohydrate, Fiber, Fat, Fatty Acids, Cholesterol, Protein, and Amino Acids. Washington, DC: National Academies Press. p. 422. สืบค้นเมื่อ 2017-07-25.
- ↑ Kris-Etherton, PM; Innis, S; American Dietetic, Association; Dietitians Of, Canada (2007-09). "Position of the American Dietetic Association and Dietitians of Canada: Dietary Fatty Acids" (PDF). Journal of the American Dietetic Association. 107 (9): 1599-1611 [1603]. doi:10.1016/j.jada.2007.07.024. PMID 17936958. สืบค้นเมื่อ 2011-03-18. Check date values in:
|date=
(help) - (PDF). British Dietetic Association. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2012-02-01. สืบค้นเมื่อ 2012-05-03.
- ↑ Sacks, Frank M.; Lichtenstein, Alice H.; Wu, Jason H.Y.; Appel, Lawrence J.; Creager, Mark A.; Kris-Etherton, Penny M.; Miller, Michael; Rimm, Eric B.; Rudel, Lawrence L.; Robinson, Jennifer G.; Stone, Neil J.; Van Horn, Linda V. (2017-06-15). "Dietary Fats and Cardiovascular Disease: A Presidential Advisory From the American Heart Association" (PDF). Circulation. 136: CIR.0000000000000510. doi:10.1161/CIR.0000000000000510.
- ↑ "Fats explained". สืบค้นเมื่อ 2012-05-03.
- "Dietary fats, oils and cholesterol". Heart and Stroke Foundation of Canada. สืบค้นเมื่อ 2017-07-25.
- ↑ "Cardiovascular Disease Risk Factors". สืบค้นเมื่อ 2012-05-03.
- "Eat less saturated fat". National Health Service. สืบค้นเมื่อ 2012-05-03.
- . Food and Drug Administration. 2009-12-22. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2011-09-17. สืบค้นเมื่อ 2012-05-03.
- "Scientific Opinion on Dietary Reference Values for fats, including saturated fatty acids, polyunsaturated fatty acids, monounsaturated fatty acids, trans fatty acids, and cholesterol". European Food Safety Authority. สืบค้นเมื่อ 2012-05-03.
- ↑ Siri-Tarino, Patty W.; Sun, Qi; Hu, Frank B.; Krauss, Ronald M. (2010-03). "Meta-analysis of prospective cohort studies evaluating the association of saturated fat with cardiovascular disease". The American Journal of Clinical Nutrition. 91 (3): 535–46. doi:10.3945/ajcn.2009.27725. PMC 2824152. PMID 20071648. Check date values in:
|date=
(help) - ↑ Hamley, Steven (2017-05-19). "The effect of replacing saturated fat with mostly n-6 polyunsaturated fat on coronary heart disease: a meta-analysis of randomised controlled trials" (PDF). Nutrition Journal. 16: 30. doi:10.1186/s12937-017-0254-5. PMC 5437600. PMID 28526025.
- ↑ Ramsden, Christopher E; Zamora, Daisy; Majchrzak-Hong, Sharon; Faurot, Keturah R.; Broste, Steven K.; Frantz, Robert P.; Davis, John M.; Ringel, Amit; Suchindran, Chirayath M.; Hibbeln, Joseph R (2016). "Re-evaluation of the traditional diet-heart hypothesis: analysis of recovered data from Minnesota Coronary Experiment (1968-73)". The BMJ. 353: i1246. doi:10.1136/bmj.i1246. PMC 4836695. PMID 27071971.
- ↑ de Souza, Russell J.; Mente, Andrew; Maroleanu, Adriana; Cozma, Adrian I.; Ha, Vanessa; Kishibe, Teruko; Uleryk, Elizabeth; Budylowski, Patrick; Schünemann, Holger; Beyene, Joseph; Anand, Sonia S. (2015). "Intake of saturated and trans unsaturated fatty acids and risk of all cause mortality, cardiovascular disease, and type 2 diabetes: Systematic review and meta-analysis of observational studies". The BMJ. 351: h3978. doi:10.1136/bmj.h3978. PMC 4532752. PMID 26268692.
- ↑ Chowdhury, Rajiv; และคณะ (2014-03-18). "Association of Dietary, Circulating, and Supplement Fatty Acids With Coronary Risk: A Systematic Review and Meta-analysis". Annals of Internal Medicine. 160 (6): 398–406. doi:10.7326/M13-1788. PMID 24723079.
- ↑ Hite, Adele H.; Feinman, Richard David; Guzman, Gabriel E.; Satin, Morton; Schoenfeld, Pamela A.; Wood, Richard J. (2010). "In the face of contradictory evidence: Report of the Dietary Guidelines for Americans Committee". Nutrition. 26 (10): 915–24. doi:10.1016/j.nut.2010.08.012. PMID 20888548.
- Mente, Andrew. "New evidence reveals that saturated fat does not increase the risk of cardiovascular disease". Dairy Nutrition. Dairy Farmers of Canada. สืบค้นเมื่อ 2011-03-18.
- Hooper, Lee; Summerbell, Carolyn D.; Thompson, Rachel; Sills, Deirdre; Roberts, Felicia G.; Moore, Helen J.; Smith, George Davey (2016-04). "Reduced or modified dietary fat for preventing cardiovascular disease" (PDF). Sao Paulo Medical Journal. 134 (2): 182–3. doi:10.1590/1516-3180.20161342T1. PMID 27224282. Check date values in:
|date=
(help) - Schwab, Ursula; Lauritzen, Lotte; Tholstrup, Tine; Haldorssoni, Thorhallur; Riserus, Ulf; Uusitupa, Matti; Becker, Wulf (2014-07-10). "Effect of the amount and type of dietary fat on cardiometabolic risk factors and risk of developing type 2 diabetes, cardiovascular diseases, and cancer: a systematic review". Food & Nutrition Research. 58: 25145. doi:10.3402/fnr.v58.25145. PMC 4095759. PMID 25045347.
- Farvid, Maryam S.; Ding, Ming; Pan, An; Sun, Qi; Chiuve, Stephanie E.; Steffen, Lyn M.; Willett, Walter C.; Hu, Frank B. (2014-10-28). "Dietary Linoleic Acid and Risk of Coronary Heart Disease: A Systematic Review and Meta-Analysis of Prospective Cohort StudiesCLINICAL PERSPECTIVE" (PDF). Circulation. 130 (18): 1568–1578. doi:10.1161/CIRCULATIONAHA.114.010236. PMC 4334131. PMID 25161045.
- Ramsden, CE; Hibbeln, JR; Majchrzak, SF; Davis, JM (2010-12). "n-6 fatty acid-specific and mixed polyunsaturate dietary interventions have different effects on CHD risk: a meta-analysis of randomised controlled trials". Br J Nutr. 104 (11): 1586–600. doi:10.1017/S0007114510004010. PMID 21118617. สืบค้นเมื่อ 2017-07-26. Check date values in:
|date=
(help) - Jakobsen, MU; O'Reilly, EJ; Heitmann, BL; Pereira, MA; Bälter, K; Fraser, GE; Goldbourt, U; Hallmans, G; Knekt, P; Liu, S; Pietinen, P; Spiegelman, D; Stevens, J; Virtamo, J; Willett, WC; Ascherio, A (2009-05). "Major types of dietary fat and risk of coronary heart disease: a pooled analysis of 11 cohort studies". Am J Clin Nutr. 85 (5): 1425–32. doi:10.3945/ajcn.2008.27124. PMC 2676998. PMID 19211817. สืบค้นเมื่อ 2017-07-26. Check date values in:
|date=
(help) - Camm, John; Luscher, Thomas; Serruys, Patrick (2009). The European Society of Cardiology Textbook of Cardiovascular Medicine. Blackwell Publishing. p. 257. ISBN 978-0-19-957285-4.
- Perk, J; และคณะ (2007). Cardiovascular Prevention and Rehabilitation. Springer-Verlag London Limited. p. 184. ISBN 978-1-84628-462-5.
- Cannon, Christopher; O'Gara, Patrick (2007). Critical Pathways in Cardiovascular Medicine (2nd ed.). Lippincott Williams & Wilkins. p. 243.
- "Lexicon of lipid nutrition". 2001. doi:10.1351/pac200173040685. Cite journal requires
|journal=
(help) - Gunstone, FD; Harwood, John L; Dijkstra., Albert J (2007). The Lipid Handbook (3rd ed.). Boca Raton: CRC Press. ISBN 978-0849396885.
- Yusuf, Salim; Cairns, John A.; Camm, A. John; Fallen, Ernest L.; Gersh, Bernard J. (2002). Evidence-Based Cardiology (2nd ed.). BMJ Books. PartII: Prevention of cardiovascular diseases, p. 320. ISBN 0-7279-1699-8.
- European Society of Cardiology; Atar; Borch-Johnsen; Boysen; Burell; Cifkova; Dallongeville; De Backer; Ebrahim; Gjelsvik; Herrmann-Lingen; Hoes; Humphries; Knapton; Perk; Priori; Pyorala; Reiner; Ruilope; Sans-Menendez; Scholte Op Reimer; Weissberg; Wood; Yarnell; Zamorano; Walma; Fitzgerald; Cooney; Dudina; European Society of Cardiology (ESC) Committee for Practice Guidelines (CPG) (2007). "European guidelines on cardiovascular disease prevention in clinical practice: executive summary" (PDF). European Heart Journal. 28 (19): 2375–2414. doi:10.1093/eurheartj/ehm316. PMID 17726041.
- "Dietary fats: Know which types to choose". Mayo Clinic. 2016-02-02.
- Mead, A.; และคณะ (2006-12). "Dietetic guidelines on food and nutrition in the secondary prevention of cardiovascular disease - evidence from systematic reviews of randomized controlled trials (second update, January 2006)". Journal of Human Nutrition and Dietetics (ตีพิมพ์ 2016-11-10). 19 (6): 401–419. doi:10.1111/j.1365-277X.2006.00726.x. PMID 17105538. Check date values in:
|date=
(help) - "Fats and Cholesterol". Harvard T.H. Chan School of Public Health. สืบค้นเมื่อ 2016-02-11.
- "Dietary fats, oils and cholesterol". Heart and Stroke Foundation of Canada. สืบค้นเมื่อ 2017-07-24.
- "'Reduce saturated fat' urges Heart Foundation after major review" (PDF). National Heart Foundation of Australia. สืบค้นเมื่อ 2014-12-24.
- "Is butter good for you?". The National Heart Foundation of New Zealand. 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-07-24.
- . Irish Heart Foundation. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2017-10-29. สืบค้นเมื่อ 2017-07-24.
- U.S. Department of Agriculture; U.S. Department of Health and Human Services (2010-12). Dietary Guidelines for Americans, 2010 (7th ed.). Washington, DC: U.S. Government Printing Office. Check date values in:
|date=
(help) - . USDA Nutrition Evidence Library. 2010. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2013-06-07. สืบค้นเมื่อ 2011-03-13.
- . Dietary Guidelines Advisory Committee. 2010-06-14. Part D. Section 3: Fatty Acids and Cholesterol. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2011-03-17.
- Zelman, K. (2011). (PDF). Journal of the American Dietetic Association. 111 (5): 655–658. doi:10.1016/j.jada.2011.03.026. PMID 21515106. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2017-01-31. สืบค้นเมื่อ 2018-10-29.
- Astrup, A; Dyerberg, J.; Elwood, P.; Hermansen, K.; Hu, F. B.; Jakobsen, M. U.; Kok, F. J.; Krauss, R. M.; Lecerf, J. M.; และคณะ (2011-01). "The role of reducing intakes of saturated fat in the prevention of cardiovascular disease: where does the evidence stand in 2010?". American Journal of Clinical Nutrition. 93 (4): 684–688. doi:10.3945/ajcn.110.004622. PMC 3138219. PMID 21270379. Check date values in:
|date=
(help) - Lottenberg, AMP (2009-07). "Importancia da gordura alimentar na prevencao e no controle de disturbios metabolicos e da doenca cardiovascular" [Importance of the dietary fat on the prevention and control of metabolic disturbances and cardiovascular disease]. Arquivos Brasileiros de Endocrinologia e Metabologia (ภาษาโปรตุเกส). 53 (5): 595–607. doi:10.1590/S0004-27302009000500012. ISSN 0004-2730. PMID 19768250. Check date values in:
|date=
(help) - Hall, WL (2009-06). "Dietary saturated and unsaturated fats as determinants of blood pressure and vascular function". Nutrition Research Reviews. 22 (1): 18–38. doi:10.1017/S095442240925846X. PMID 19243668. Check date values in:
|date=
(help) - German, J. Bruce; และคณะ (2009-06). "A reappraisal of the impact of dairy foods and milk fat on cardiovascular disease risk" (PDF). European Journal of Nutrition. 48 (4): 191–203. doi:10.1007/s00394-009-0002-5. PMC 2695872. PMID 19259609. Check date values in:
|date=
(help) - Stamler, Jeremiah (2010-02-03). "Diet-heart: a problematic revisit". The American Journal of Clinical Nutrition. 91 (3): 497–99. doi:10.3945/ajcn.2010.29216. PMID 20130097.
The authors are inaccurate in concluding that 'there are few epidemiologic or clinical trial data to support a benefit of replacing saturated fat with carbohydrate
- Siri-Tarino, Patty W.; Sun, Qi; Hu, Frank B.; Krauss, Ronald M. (2010-11). "Saturated Fatty Acids and Risk of Coronary Heart Disease: Modulation by Replacement Nutrients". Current Atherosclerosis Reports. 12 (6): 384–90. doi:10.1007/s11883-010-0131-6. PMC 2943062. PMID 20711693. สืบค้นเมื่อ 2017-07-17. Check date values in:
|date=
(help) - Teicholz, N (2015). "The scientific report guiding the US dietary guidelines: Is it scientific?". BMJ (Clinical Research Ed.). 355: i6061. doi:10.1136/bmj.h4962. PMID 27913380.
expanded in book: Teicholz, Nina (2015). The Big Fat Surprise: Why Butter, Meat and Cheese Belong in a Healthy Diet. Simon & Schuster. ISBN 978-1451624434. - "Letter Requesting BMJ to Retract "Investigation"". Washington, DC: Center for Science in the Public Interest. 2015-11-05. สืบค้นเมื่อ 2018-07-02.
- Liebman, Bonnie (2015-12-17). "Request for retraction: The scientific report guiding the US dietary guidelines: is it scientific?". BMJ. 351: h4962. doi:10.1136/bmj.h4962. PMID 27913380.
- "Corrections (1) : The scientific report guiding the US dietary guidelines: is it scientific?". BMJ. 351: h5686. 2015-10-23. doi:10.1136/bmj.h5686.
- "Corrections (2) : The scientific report guiding the US dietary guidelines: is it scientific?". BMJ. 355: i6061. 2016-12-02. doi:10.1136/bmj.i6061.