fbpx
วิกิพีเดีย

พระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช

เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช หรือเรียกกันทั่วไปในเอกสารต่างๆ ว่า "พระวิไชยราชขัติยวงศา" เป็นเจ้าผู้ครองอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ องค์ที่ 3 (พ.ศ. 2335 - 2354) พระองค์สืบเชื้อสายเจ้านายลาวจากราชวงศ์ล้านช้างเวียงจันทน์อันเก่าแก่ อันเนื่องมาจากพระอัยยิกา (ย่า) ของพระองค์ซึ่งเป็นพระมเหสีของเจ้าปางคำ (ปู่) มีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาในพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ จึงเป็นเหตุให้มีสร้อยราชทินนามมีคำว่า สุริยวงศ์ ต่อท้ายนาม

เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงศ์ขัติยราช
พระปรมาภิไธยเจ้าพระวิไชยราชสุริยวงศ์ขัตติยราช
พระอิสริยยศเจ้าประเทศราช
ราชวงศ์สุวรรณปางคำ
ครองราชย์พ.ศ. 2335
รัชกาล19 ปี
รัชกาลก่อนสมเด็จพระพุทธเจ้าองค์หลวงไชยกุมาร
รัชกาลถัดไปเจ้านู
ข้อมูลส่วนพระองค์
ประสูติพ.ศ. 2269
พิราลัยพ.ศ. 2354
พระบิดาเจ้าพระวรราชปิตา
พระมารดาพระนางบุศดี
พระมเหสีไม่ปรากฏพระนาม
พระบุตร5 องค์

อีกทั้งยังสืบเชื้อสายมาจากพระอัยกา (ปู่) คือ พระเจ้าสุวรรณปางคำ ทรงเป็นเจ้านายเชื้อสายไทลื้อแห่งราชวงศ์เชียงรุ่งแสนหวีฟ้า อาณาจักรหอคำเชียงรุ่ง และสืบเชื้อมาแต่สายราชวงศ์สุวรรณปางคำ ปฐมกษัตริย์ผู้สร้างนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน (จังหวัดหนองบัวลำภูในปัจจุบัน) สืบมาแต่สายราชวงศ์สุวรรณปางคำ นครเชียงรุ่งแสนหวีฟ้าสิบสองปันนา

พระประวัติ

 
"ธาตุหลวงเฒ่า" เจดีย์บรรจุอัฐิธาตุของพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช (ท้าวฝ่ายหน้า หรือ เจ้าหน้า) เจ้าผู้ครองนครจำปาศักดิ์ลำดับที่ 3 ที่วัดเหนือในเมืองเก่าคันเกิง แขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว

เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช มีพระนามเดิมว่า เจ้าฝ่ายหน้า หรือ เจ้าหน้า (ตามเอกสารของราชการไทย) สมภพเมื่อปี พ.ศ. 2269 ที่นครเวียงจันทน์ เป็นพระโอรสของเจ้าพระวรราชปิตา (เจ้าพระตา) แห่งนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน (หนองบัวลำภู) กับพระนางบุศดี ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเจ้าปางคำแห่งเมืองเชียงรุ้ง และเป็นพระอนุชาของพระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) เจ้าผู้ครองเมืองอุบลราชธานีองค์แรก

และต่อมาได้อพยพหนีราชภัยจากพระเจ้าสิริบุญสาร แห่งอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ มาพร้อมกันกับกลุ่มของเจ้าพระวอและเจ้าคำผง หลังสิ้นสงครามกับนครเวียงจันทน์ ใน พ.ศ. 2318 แล้ว พระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) ขณะนั้นมีบรรดาศักดิ์เป็นพระปทุมราชวงศา ได้พาไพร่พลของตนเองจากเวียงดอนกองไปตั้งเมืองอุบลที่บ้านห้วยแจระแม

ในปี พ.ศ. 2329 เจ้าฝ่ายหน้าพร้อมกับเจ้านางอูสา แลเจ้าคำสิงห์ พระโอรสคนโต นำไพร่พลส่วนหนึ่งไปตั้งมั่นเป็นกองนอกอยู่ที่บ้านสิงห์ท่า (ต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองยศสุนทรในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 หรือคือ จังหวัดยโสธรในปัจจุบัน)

ในปี พ.ศ. 2334 เกิดเหตุกบฏอ้ายเชียงแก้วที่อาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ ทางฝ่ายนครจำปาศักดิ์ไม่สามารถรับมือได้ เนื่องจากพระเจ้าองค์หลวงไชยกุมาร เจ้าผู้ครองนครจำปาศักดิ์ในเวลานั้น ถึงแก่พิราลัยกะทันหันหลังจากได้รับทราบข่าวศึก (ก่อนหน้านั้นพระเจ้าองค์หลวงฯ เองก็ประชวรเรื้อรังมานานแล้ว) เจ้าหน้าได้ร่วมมือกับพระประทุมราชวงศา (เจ้าคำผง) เจ้าผู้ครองเมืองอุบล ผู้เป็นพี่ชาย ยกทัพไปปราบกบฏอ้ายเชียงแก้วจนราบคาบ และเจ้าฝ่ายหน้าได้จับตัวอ้ายเชียงแก้วประหารชีวิตที่แก่งตะนะ (อยู่ในแม่น้ำมูล ระหว่างอำเภอพิบูลมังสาหารกับอำเภอสิรินธรในปัจจุบัน) ก่อนหน้าที่กองทัพเมืองนครราชสีมาจะยกมาถึงตามรับสั่งจากกรุงเทพฯ

ใน พ.ศ. 2335 ด้วยความดีความชอบในครั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าได้รับการแต่งตั้งเป็น "เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช" เจ้าผู้ครองนครจำปาศักดิ์ ลำดับที่ 3

พระกรณียกิจ

เมื่อ พ.ศ. 2335 เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราชจึงแบ่งไพร่พลเข้ามาอยู่ที่เมืองจำปาศักดิ์ และตั้งให้เจ้าคำสิงห์เป็นเจ้าราชวงศ์เมืองโขง (สีทันดร) (ต่อมาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้ามีราชทินนามที่พระสุนทรราชวงศา ดำรงฐานะเจ้าผู้ครองเมืองยศสุนทร)

เมื่อ พ.ศ. 2339 เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราชได้ย้ายเมืองจำปาศักดิ์จากที่เดิมซึ่งอยู่ที่บ้านศรีสุมัง ริมฝั่งแม่น้ำโขง มาตั้งอยู่ในบริเวณบ้านคันเกิง อยู่ทางฝั่งขวาแม่น้ำโขง ตรงข้ามปากแม่น้ำเซโดน (ปัจจุบันเรียกว่า เมืองเก่าคันเกิง อยู่ที่บ้านเมืองเก่า เมืองโพนทอง แขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว)

ปี พ.ศ. 2348 เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราชได้มีใบบอกมายังกรุงเทพฯ เพื่อขอโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งบ้านนายอนเป็นเมือง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกบ้านนายอนขึ้นเป็นเมืองสพาดตามคำขอนั้น

พ.ศ. 2353 มีครัวชาวเขมรภายใต้การนำของพระยาเดโช เจ้าเมืองกำปงสวาย กับนักปรัง ผู้น้องชาย อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในแถบเมืองโขง เนื่องจากกลุ่มคนดังกล่าวเกิดความขัดแย้งกับสมเด็จพระอุทัยราชา (นักองจัน) พระเจ้าแผ่นดินกัมพูชา เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราชได้มีใบบอกแจ้งเรื่องมายังกรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยากลาโหมราชเสนา คุมกำลังมาคุมครัวเขมรของพระยาเดโชมาตั้งอยู่ที่บ้านลงปลา ส่วนครัวของนักปรังให้แยกมาตั้งอยู่ที่เมืองเซลำเภา "จึ่งมีเขมรแทรกปนอยู่ในแขวงเมืองโขงแต่นั้นมา"

พระโอรส และพระธิดา

 
กู่เจ้านคร ซึ่งภายในบรรจุอัฐิของเจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช (เจ้าฝ่ายหน้า) ที่วัดมหาธาตุ จังหวัดยโสธร

ในสำเนาฉบับพงศาวดารอีสานยังอธิบายไว้ว่า เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช มีพระโอรสและพระธิดา ทั้งหมด 5 พระองค์ มีปรากฏรายพระนามดังนี้

  1. เจ้าคำสิงห์ (ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่พระสุนทรราชวงศา เจ้าผู้ครองเมืองยศสุนทรองค์แรก)
  2. เจ้าบุตร หรือเจ้าฝ่ายบุต (ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่พระสุนทรราชวงศาฯ เจ้าผู้ครองเมืองยศสุนทร องค์ที่ 3)
  3. เจ้านางแดง
  4. เจ้านางไทย
  5. เจ้านางก้อนแก้ว 

พิราลัย

เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราชถึงแก่พิราลัย เมื่อวันอังคาร ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 10 ปีมะแมตรีศก จุลศักราช 1173 (พ.ศ. 2354) สิริรวมพระชนม์ 85 ปี ครองนครจำปาศักดิ์ ได้ 19 ปี พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยากลาโหมราชเสนา เป็นข้าหลวงแทนพระองค์ นำหีบศิลาหน้ามาพระราชทานเพลิงศพเจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษ์ขัติยราช อันเป็นเกียรติยศสูงสุดที่พระมหากษัตริย์สยามพระทานแก่เจ้าประเทศราช และจัดการราชการบ้านเมืองนครจำปาศักดิ์ เมื่อทำการปลงศพของเจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราชเสร็จแล้ว พระยากลาโหมราชเสนาพร้อมด้วยแสนท้าวพระยาในเมือง จึงก่อเจดีย์บรรจุอัฐิของท่านไว้ที่วัดเหนือ (ปัจจุบันคือวัดหอพระแก้ว) ในเมืองเก่าคันเกิง เรียกกันทั่วไปในเวลานั้นว่า "ธาตุหลวงเฒ่า" ปัจจุบันไม่มีใครรู้จักและเรียกเช่นนี้

อนึ่งภายหลังเสร็จการพระราชทานเพลิงศพ และการจัดการราชการบ้านเมืองในนครจำปาศักดิ์แล้ว พระยากลาโหมราชเสนาจึงได้อัญเชิญพระแก้วขาว ซึ่งมีการค้นพบมาตั้งแต่สมัยเจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูร เป็นเจ้าครองนครจำปาศักดิ์ ลงมายังกรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯ ให้มีการสมโภชพระแก้วขาวองค์นี้ จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ให้ประชุมช่างเพื่อทำการปฏิสังขรณ์พระแก้วขาว และพระราชทานนามว่า "พระพุทธบุษยรัตน์จักรพรรดิพิมลมณีมัย"

พระนามในจารึกท้องถิ่นและเอกสารประวัติศาสตร์

ในจดหมายเหตุ ร.๑

จดหมายเหตุ ร.1 จ.ศ. 1153 (พ.ศ. 2335) เรื่องตั้งให้เจ้าหน้าเป็นพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช เมืองนครจำปาศักดิ์ ได้ปรากฏพระนามของพระองค์ ดังนี้

"...ด้วยพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว ผู้ผ่านพิภพกรุงเทพพระมหานครศรีอยุทธยา มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้งให้เจ้าหน้าเป็นพระวิไชยราชสุริยวงษ์ขัตติยราช ครองเมืองนครจำปาศักดิ์ประเทศราช เสกให้ ณ วันพฤหัสบดี แรม 11 ค่ำ เดือน 10 จุลศักราช 1153 ปีกุนตรีศก เพลาเช้า 2 โมง..."

พระญาติวงศ์

เจ้าพระตา (เจ้าพระวรราชปิตา) กับพระนางบุศดีเทวีทรงมีพระโอรส และพระธิดา รวมทั้งหมด 11 พระองค์ ดังมีรายพระนาม

  1. เจ้านางอูสา
  2. เจ้านางแสนสีชาติ
  3. เจ้าพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) เจ้าผู้ครองเมืองอุบลราชธานีศรีวนาไลยประเทศราช องค์ที่ ๑
  4. เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช (เจ้าฝ่ายหน้า) เจ้าผู้ครองนครกาลจำบากนัคบุรีศรีจำปาศักดิ์ องค์ที่ ๓
  5. เจ้าพระพรหมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าทิดพรหม) เจ้าเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัยประเทศราช องค์ที่ ๒ (ต้นสกุลพระราชทาน พรหมวงศานนท์)
  6. เจ้าโคต (เจ้าโคตร) พระบิดาของท้าวสีหาราช (พลสุข บุตโรบล) ปู่ของเจ้าราชบุตร (สุ่ย บุตโรบล) ทวดของท้าวสุรินทรชมภู (หมั้น บุตโรบล) ผู้เป็นบิดาของอัญญานางเจียงคำ บุตโรบล (หม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา) ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์
  7. เจ้านางมิ่ง
  8. เจ้าซุย
  9. พระศรีบริบาล
  10. เจ้านางเหมือนตา
  11. เจ้าสุ่ย

พงศาวลี

เชิงอรรถ

  1. ชื่อตามหนังสือ ประวัติศาสตร์อีสาน ของ เติม วิภาคย์พจนกิจ และ ลำดับกษัตริย์ลาว ของ สุรศักดิ์ ศรีสำอาง
  2. ชื่อตาม พงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสาน ของหม่อมอมรวงศ์วิจิตร
  3. ปัจจุบันคือเมืองธาราบริวัตร อยู่ในเขตจังหวัดสตึงแตรง ประเทศกัมพูชา
  4. พงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสาน ของหม่อมอมรวงศ์วิจิตร

อ้างอิง

  • เติม วิภาคย์พจนกิจ. ประวัติศาสตร์อีสาน. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2546.
  • สุรศักดิ์ ศรีสำอาง. ลำดับกษัตริย์ลาว. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร. 2545.
  • พงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสาน ของหม่อมอมรวงศ์วิจิตร
  • ประวัติจังหวัดอุบลราชธานี (ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี)
  • http://www.bungfiregames.com/m_01.php
ก่อนหน้า พระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช ถัดไป
พระเจ้าองค์หลวงไขยกุมาร
พ.ศ. 2280 - 2334
   
เจ้าผู้ครองนครจำปาศักดิ์
(พ.ศ. 2335 - 2354)
  เจ้านู
(ถึงแก่พิราลัยหลังรับสุพรรณบัตร 3 วัน)


พระว, ไชยราชส, ยวงษข, ยราช, บทความน, ไม, การอ, างอ, งจากแหล, งท, มาใดกร, ณาช, วยปร, บปร, งบทความน, โดยเพ, มการอ, างอ, งแหล, งท, มาท, าเช, อถ, เน, อความท, ไม, แหล, งท, มาอาจถ, กค, ดค, านหร, อลบออก, เร, ยนร, าจะนำสารแม, แบบน, ออกได, อย, างไรและเม, อไร, เจ, หร, อ. bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir ecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach 1 hruxeriykknthwipinexksartang wa phrawiichyrachkhtiywngsa epnecaphukhrxngxanackrlanchangcapaskdi xngkhthi 3 ph s 2335 2354 phraxngkhsubechuxsayecanaylawcakrachwngslanchangewiyngcnthnxnekaaek xnenuxngmacakphraxyyika ya khxngphraxngkhsungepnphramehsikhxngecapangkha pu miskdiepnphrarachnddainphraecasuriywngsathrrmikrach phramhakstriyaehngrachxanackrlanchangewiyngcnthn cungepnehtuihmisrxyrachthinnammikhawa suriywngs txthaynamecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrachphraprmaphiithyecaphrawiichyrachsuriywngskhttiyrachphraxisriyysecapraethsrachrachwngssuwrrnpangkhakhrxngrachyph s 2335rchkal19 pirchkalkxnsmedcphraphuththecaxngkhhlwngichykumarrchkalthdipecanukhxmulswnphraxngkhprasutiph s 2269phiralyph s 2354phrabidaecaphrawrrachpitaphramardaphranangbusdiphramehsiimpraktphranamphrabutr5 xngkhxikthngyngsubechuxsaymacakphraxyka pu khux phraecasuwrrnpangkha thrngepnecanayechuxsayithluxaehngrachwngsechiyngrungaesnhwifa xanackrhxkhaechiyngrung aelasubechuxmaaetsayrachwngssuwrrnpangkha pthmkstriyphusrangnkhrekhuxnkhnthkabaekwbwban cnghwdhnxngbwlaphuinpccubn submaaetsayrachwngssuwrrnpangkha nkhrechiyngrungaesnhwifasibsxngpnna enuxha 1 phraprawti 2 phrakrniykic 3 phraoxrs aelaphrathida 4 phiraly 5 phranamincarukthxngthinaelaexksarprawtisastr 5 1 incdhmayehtu r 1 6 phrayatiwngs 7 phngsawli 8 echingxrrth 9 xangxingphraprawti aekikh thatuhlwngetha ecdiybrrcuxthithatukhxngphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach thawfayhna hrux ecahna ecaphukhrxngnkhrcapaskdiladbthi 3 thiwdehnuxinemuxngekakhneking aekhwngcapaskdi praethslaw ecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach miphranamedimwa ecafayhna hrux ecahna tamexksarkhxngrachkarithy smphphemuxpi ph s 2269 thinkhrewiyngcnthn epnphraoxrskhxngecaphrawrrachpita ecaphrata aehngnkhrekhuxnkhnthkabaekwbwban hnxngbwlaphu kbphranangbusdi sungsubechuxsaymacakecapangkhaaehngemuxngechiyngrung aelaepnphraxnuchakhxngphraprathumwrrachsuriywngs ecakhaphng ecaphukhrxngemuxngxublrachthanixngkhaerkaelatxmaidxphyphhnirachphycakphraecasiribuysar aehngxanackrlanchangewiyngcnthn maphrxmknkbklumkhxngecaphrawxaelaecakhaphng hlngsinsngkhramkbnkhrewiyngcnthn in ph s 2318 aelw phraprathumwrrachsuriywngs ecakhaphng khnannmibrrdaskdiepnphrapthumrachwngsa idphaiphrphlkhxngtnexngcakewiyngdxnkxngiptngemuxngxublthibanhwyaecraaeminpi ph s 2329 ecafayhnaphrxmkbecanangxusa aelecakhasingh phraoxrskhnot naiphrphlswnhnungiptngmnepnkxngnxkxyuthibansinghtha txmaidykthanakhunepnemuxngyssunthrinrchsmyphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly rchkalthi 2 hruxkhux cnghwdyosthrinpccubn inpi ph s 2334 ekidehtukbtxayechiyngaekwthixanackrlanchangcapaskdi thangfaynkhrcapaskdiimsamarthrbmuxid enuxngcakphraecaxngkhhlwngichykumar ecaphukhrxngnkhrcapaskdiinewlann thungaekphiralykathnhnhlngcakidrbthrabkhawsuk kxnhnannphraecaxngkhhlwng exngkprachwreruxrngmananaelw ecahnaidrwmmuxkbphraprathumrachwngsa ecakhaphng ecaphukhrxngemuxngxubl phuepnphichay ykthphipprabkbtxayechiyngaekwcnrabkhab aelaecafayhnaidcbtwxayechiyngaekwpraharchiwitthiaekngtana xyuinaemnamul rahwangxaephxphibulmngsaharkbxaephxsirinthrinpccubn kxnhnathikxngthphemuxngnkhrrachsimacaykmathungtamrbsngcakkrungethphin ph s 2335 dwykhwamdikhwamchxbinkhrngni thaihecahnaidrbkaraetngtngepn ecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach 2 ecaphukhrxngnkhrcapaskdi ladbthi 3phrakrniykic aekikhemux ph s 2335 ecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrachcungaebngiphrphlekhamaxyuthiemuxngcapaskdi aelatngihecakhasinghepnecarachwngsemuxngokhng sithndr txmaidrbphrakrunaoprdeklamirachthinnamthiphrasunthrrachwngsa darngthanaecaphukhrxngemuxngyssunthr emux ph s 2339 ecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrachidyayemuxngcapaskdicakthiedimsungxyuthibansrisumng rimfngaemnaokhng matngxyuinbriewnbankhneking xyuthangfngkhwaaemnaokhng trngkhampakaemnaesodn pccubneriykwa emuxngekakhneking xyuthibanemuxngeka emuxngophnthxng aekhwngcapaskdi praethslaw pi ph s 2348 ecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrachidmiibbxkmayngkrungethph ephuxkhxoprdekla ihtngbannayxnepnemuxng phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolk cungthrngphrakrunaoprdekla ykbannayxnkhunepnemuxngsphadtamkhakhxnnph s 2353 mikhrwchawekhmrphayitkarnakhxngphrayaedoch ecaemuxngkapngsway kbnkprng phunxngchay xphyphekhamatngthinthaninaethbemuxngokhng enuxngcakklumkhndngklawekidkhwamkhdaeyngkbsmedcphraxuthyracha nkxngcn phraecaaephndinkmphucha ecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrachidmiibbxkaecngeruxngmayngkrungethph phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly cungthrngphrakrunaoprdekla ihphrayaklaohmrachesna khumkalngmakhumkhrwekhmrkhxngphrayaedochmatngxyuthibanlngpla swnkhrwkhxngnkprngihaeykmatngxyuthiemuxngeslaepha 3 cungmiekhmraethrkpnxyuinaekhwngemuxngokhngaetnnma 4 phraoxrs aelaphrathida aekikh kuecankhr sungphayinbrrcuxthikhxngecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach ecafayhna thiwdmhathatu cnghwdyosthr insaenachbbphngsawdarxisanyngxthibayiwwa ecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach miphraoxrsaelaphrathida thnghmd 5 phraxngkh mipraktrayphranamdngni ecakhasingh txmaphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly rchkalthi 2 thrngphrakrunaoprdekla ihepnthiphrasunthrrachwngsa ecaphukhrxngemuxngyssunthrxngkhaerk ecabutr hruxecafaybut txmaphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw rchkalthi 3 thrngphrakrunaoprdekla ihepnthiphrasunthrrachwngsa ecaphukhrxngemuxngyssunthr xngkhthi 3 ecanangaedng ecanangithy ecanangkxnaekw phiraly aekikhecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrachthungaekphiraly emuxwnxngkhar khun 2 kha eduxn 10 pimaaemtrisk culskrach 1173 ph s 2354 sirirwmphrachnm 85 pi khrxngnkhrcapaskdi id 19 pi phrabathsmedcphraphuththelishlanphalycungthrngphrakrunaoprdekla ihphrayaklaohmrachesna epnkhahlwngaethnphraxngkh nahibsilahnamaphrarachthanephlingsphecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach xnepnekiyrtiyssungsudthiphramhakstriysyamphrathanaekecapraethsrach aelacdkarrachkarbanemuxngnkhrcapaskdi emuxthakarplngsphkhxngecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrachesrcaelw phrayaklaohmrachesnaphrxmdwyaesnthawphrayainemuxng cungkxecdiybrrcuxthikhxngthaniwthiwdehnux pccubnkhuxwdhxphraaekw inemuxngekakhneking eriykknthwipinewlannwa thatuhlwngetha 4 pccubnimmiikhrruckaelaeriykechnnixnungphayhlngesrckarphrarachthanephlingsph aelakarcdkarrachkarbanemuxnginnkhrcapaskdiaelw phrayaklaohmrachesnacungidxyechiyphraaekwkhaw sungmikarkhnphbmatngaetsmyecasrxysrismuthrphuththangkur epnecakhrxngnkhrcapaskdi lngmayngkrungethphmhankhr phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly oprdekla ihmikarsmophchphraaekwkhawxngkhni caknncungoprdekla ihprachumchangephuxthakarptisngkhrnphraaekwkhaw aelaphrarachthannamwa phraphuththbusyrtnckrphrrdiphimlmnimy 4 phranamincarukthxngthinaelaexksarprawtisastr aekikhincdhmayehtu r 1 aekikh cdhmayehtu r 1 c s 1153 ph s 2335 eruxngtngihecahnaepnphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach emuxngnkhrcapaskdi idpraktphranamkhxngphraxngkh dngni dwyphrabathsmedcphraphuththecaxyuhw phuphanphiphphkrungethphphramhankhrsrixyuththya miphrabrmrachoxngkaroprdekla tngihecahnaepnphrawiichyrachsuriywngskhttiyrach khrxngemuxngnkhrcapaskdipraethsrach eskih n wnphvhsbdi aerm 11 kha eduxn 10 culskrach 1153 pikuntrisk ephlaecha 2 omng phrayatiwngs aekikhecaphrata ecaphrawrrachpita kbphranangbusdiethwithrngmiphraoxrs aelaphrathida rwmthnghmd 11 phraxngkh dngmirayphranam ecanangxusa ecanangaesnsichati ecaphrapthumwrrachsuriywngs ecakhaphng ecaphukhrxngemuxngxublrachthanisriwnailypraethsrach xngkhthi 1 ecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach ecafayhna ecaphukhrxngnkhrkalcabaknkhburisricapaskdi xngkhthi 3 ecaphraphrhmwrrachsuriywngs ecathidphrhm ecaemuxngxublrachthanisriwnalypraethsrach xngkhthi 2 tnskulphrarachthan phrhmwngsannth ecaokht ecaokhtr phrabidakhxngthawsiharach phlsukh butorbl pukhxngecarachbutr suy butorbl thwdkhxngthawsurinthrchmphu hmn butorbl phuepnbidakhxngxyyanangeciyngkha butorbl hmxmeciyngkha chumphl n xyuthya inphraecabrmwngsethx krmhlwngsrrphsiththiprasngkh ecanangming ecasuy phrasribribal ecanangehmuxnta ecasuyphngsawli aekikhphngsawlikhxngphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach phraecankhrechiyngrungaesnhwifa phraecasuwrrnpangkha ecapangkha aehngnkhrekhuxnkhnthkabaekwbwban phramehsi ecaphrawrrachpita ecaphrata aehngnkhrekhuxnkhnthkabaekwbwban phraecasuriywngsathrrmikrach aehngxanackrlanchang phrarachoxrsphraecasuriywngsathrrmikrach phramehsi phrarachnddainphraecasuriywngsathrrmikrach phrachaya phrawiichyrachsuriywngskhtiyrach ecafayhna phrarachbida phranangbusdiethwi phrarachmarda echingxrrth aekikh chuxtamhnngsux prawtisastrxisan khxng etim wiphakhyphcnkic aela ladbkstriylaw khxng surskdi srisaxang chuxtam phngsawdarhwemuxngmnthlxisan khxnghmxmxmrwngswicitr pccubnkhuxemuxngtharabriwtr xyuinekhtcnghwdstungaetrng praethskmphucha 4 0 4 1 4 2 phngsawdarhwemuxngmnthlxisan khxnghmxmxmrwngswicitrxangxing aekikhetim wiphakhyphcnkic prawtisastrxisan phimphkhrngthi 4 krungethph mulnithiokhrngkartarasngkhmsastraelamnusysastr 2546 surskdi srisaxang ladbkstriylaw phimphkhrngthi 2 krungethph sankobrankhdiaelaphiphithphnthsthanaehngchati krmsilpakr 2545 phngsawdarhwemuxngmnthlxisan khxnghmxmxmrwngswicitr prawticnghwdxublrachthani salaklangcnghwdxublrachthani http www bungfiregames com m 01 php kxnhna phrawiichyrachsuriywngskhtiyrach thdipphraecaxngkhhlwngikhykumarph s 2280 2334 ecaphukhrxngnkhrcapaskdi ph s 2335 2354 ecanu thungaekphiralyhlngrbsuphrrnbtr 3 wn ekhathungcak https th wikipedia org w index php title phrawiichyrachsuriywngskhtiyrach amp oldid 9391075, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม