fbpx
วิกิพีเดีย

ดาวพุธ

ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด และเป็นดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุดในระบบสุริยะ ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ 87.969 วัน ดาวพุธมักปรากฏใกล้ หรืออยู่ภายใต้แสงจ้าของดวงอาทิตย์ทำให้สังเกตเห็นได้ยากที่สุด

ดาวพุธ  

ภาพดาวพุธจาก ยานเมสเซนเจอร์ เมื่อปี 2008
ลักษณะของวงโคจร
จุดเริ่มยุค J2000
ระยะจุดไกล
ดวงอาทิตย์ที่สุด
:
69,817,079 กม.
0.46669835 หน่วยดาราศาสตร์
ระยะจุดใกล้
ดวงอาทิตย์ที่สุด
:
46,001,272 กม.
0.30749951 หน่วยดาราศาสตร์
กึ่งแกนเอก:57,909,176 กม.
0.38709893 หน่วยดาราศาสตร์
เส้นรอบวง
ของวงโคจร:
2.406 หน่วยดาราศาสตร์
ความเยื้องศูนย์กลาง:0.20563069
คาบดาราคติ:87.96935 วัน
(0.2408470 ปีจูเลียน)
คาบซินอดิก:115.8776 วัน
อัตราเร็วเฉลี่ย
ในวงโคจร
:
47.36 กม./วินาที
อัตราเร็วสูงสุด
ในวงโคจร:
58.98 กม./วินาที
อัตราเร็วต่ำสุด
ในวงโคจร:
38.86 กม./วินาที
ความเอียง:7.00487°
(3.38° กับศูนย์สูตรดวงอาทิตย์)
ลองจิจูด
ของจุดโหนดขึ้น
:
48.33167°
ระยะมุมจุด
ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด
:
29.12478°
ดาวบริวารของ:ดวงอาทิตย์
จำนวนดาวบริวาร:ไม่มี
ลักษณะทางกายภาพ
เส้นผ่านศูนย์กลาง
ตามแนวศูนย์สูตร:
4,879.4 กม.
(0.383×โลก)
พื้นที่ผิว:7.5×107 กม.²
(0.147×โลก)
ปริมาตร:6.1×1010 กม.³
(0.056×โลก)
มวล:3.302×1023 กก.
(0.055×โลก)
ความหนาแน่นเฉลี่ย:5.427 กรัม/ซม.³
ความโน้มถ่วง
ที่ศูนย์สูตร:
3.701 เมตร/วินาที²
(0.377 จี)
ความเร็วหลุดพ้น:4.435 กม./วินาที
คาบการหมุน
รอบตัวเอง
:
58.6462 วัน
(58 วัน 15.5088 ชม.)
ความเร็วการหมุน
รอบตัวเอง:
10.892 กม./ชม.
ความเอียงของแกน:~0.01°
ไรต์แอสเซนชัน
ของขั้วเหนือ:
281.01°
(18 ชม. 44 นาที 2 วินาที)
เดคลิเนชัน
ของขั้วเหนือ:
61.45°
อัตราส่วนสะท้อน:0.10-0.12
อุณหภูมิพื้นผิว:
   0°N, 0°W
   85°N, 0°W
ต่ำสุดเฉลี่ยสูงสุด
100 K340 K700 K
80 K200 K380 K
ลักษณะของบรรยากาศ
ความดันบรรยากาศ
ที่พื้นผิว:
น้อยมาก
องค์ประกอบ:31.7% โพแทสเซียม
24.9% โซเดียม
9.5% อะตอมออกซิเจน
7.0% อาร์กอน
5.9% ฮีเลียม
5.6% โมเลกุลออกซิเจน
5.2% ไนโตรเจน
3.6% คาร์บอนไดออกไซด์
3.4% น้ำ
3.2% ไฮโดรเจน

ดาวพุธไม่มีดาวบริวาร ยานอวกาศเพียงลำเดียวที่เคยสำรวจดาวพุธในระยะใกล้คือยานมาริเนอร์ 10เมื่อปี พ.ศ. 2517-2518 (ค.ศ. 1974-1975) และสามารถทำแผนที่พื้นผิวดาวพุธได้เพียง 40-45% เท่านั้น

ดาวพุธมีสภาพพื้นผิวขรุขระเนื่องจากการพุ่งชนของอุกกาบาต ไม่มีดวงจันทร์เป็นบริวารและไม่มีแรงโน้มถ่วงมากพอที่จะสร้างชั้นบรรยากาศ ดาวพุธมีแก่นดาวเป็นเหล็กขนาดใหญ่ทำให้เกิดสนามแม่เหล็กความเข้มประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ของสนามแม่เหล็กโลกล้อมรอบดาวพุธไว้

ชื่อละตินของดาวพุธ (Mercury) มาจากคำเต็มว่า Mercurius เทพนำสารของพระเจ้า สัญลักษณ์แทนดาวพุธ คือ เป็นรูปคทาของเทพเจ้าเมอคิวรี ก่อนศตวรรษที่ 5 ดาวพุธมีสองชื่อ คือ เฮอร์เมส เมื่อปรากฏในเวลาหัวค่ำ และอพอลโล เมื่อปรากฏในเวลาเช้ามืด เชื่อว่าพีทาโกรัสเป็นคนแรกที่ระบุว่าทั้งสองเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวกัน

บรรยากาศ

ดาวพุธมีชั้นบรรยากาศเบาบางและมีสเถียรภาพต่ำอันเกิดจากการที่ดาวพุธมีขนาดเล็กจนไม่มีแรงดึงดูดเพียงพอในการกักเก็บอะตอมของก๊าซเอาไว้ ชั้นบรรยากาศของดาวพุธประกอบไปด้วยไฮโดรเจน, ฮีเลียม, ออกซิเจน, โซเดียม, แคลเซียม, โพแทสเซียม และ น้ำ มีความดันบรรยากาศประมาณ 10-14 บาร์

บรรยากาศของดาวพุธมีการสูญเสียและถูกทดแทนอยู่ตลอดเวลาโดยมีแหล่งที่มาหลายแหล่ง ไฮโดรเจนและฮีเลียมอาจจะมาจากลมสุริยะ พวกมันแพร่เข้ามาผ่านสนามแม่เหล็กของดาวพุธก่อนจะหลุดออกจากบรรยากาศในที่สุด การสลายตัวของสารกัมมันตรังสี จากแก่นดาวก็อาจจะเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่ช่วยเติมฮีเลียม โซเดียม และโพแทสเซียมให้กับบรรยากาศดาวพุธ

ไม่เคยถูกแสงอาทิตย์โดยตรงเลย การสำรวจได้เผยให้เห็นถึงแถบสะท้อนเรดาร์ขนาดใหญ่อยู่บริเวณขั้วของดาว ซึ่งน้ำแข็งเป็นหนึ่งในสารไม่กี่ชนิดที่สามารถสะท้อนเรดาร์ได้ดีเช่นนี้

บริเวณที่มีน้ำแข็งนั้นเชื่อกันว่าอยุ่ลึกลงไปใต้พื้นผิวเพียงไม่กี่เมตร และมีน้ำแข็งประมาณ 1014 - 1015 กิโลกรัม เปรียบเทียบกับน้ำแข็งที่แอนตาร์กติกาของโลกเราที่มีน้ำแข็งอยู่ 4 x 10 18 กิโลกรัม ที่มาของน้ำแข็งบนดาวพุธยังไม่แน่ชัด แต่เชื่อกันว่าอาจจะมีที่มาจากดาวหางที่พุ่งชนดาวพุธเมื่อหลายล้านปีก่อน หรืออาจจะมาจากภายในของดาวพุธเอง

ภูมิลักษณะ

 
ดาวพุธเต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาต

ดาวพุธมีหลุมอุกกาบาตจำนวนมากจนดูคล้ายดวงจันทร์ ภูมิลักษณ์ที่เด่นที่สุดบนดาวพุธ (เท่าที่สามารถถ่ายภาพได้) คือ แอ่งแคลอริส หลุมอุกกาบาตที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1,350 กิโลเมตร ผิวดาวพุธมีผาชันอยู่ทั่วไป ซึ่งก่อตัวขึ้นเมื่อหลายพันล้านปีที่แล้ว ขณะที่ใจกลางดาวพุธเย็นลงพร้อมกับหดตัว จนทำให้เปลือกดาวของพุธย่นยับ พื้นที่ส่วนใหญ่ของดาวพุธปกคลุมด้วยที่ราบ 2 แบบที่มีอายุต่างกัน ที่ราบที่มีอายุน้อยจะมีหลุมอุกกาบาตหนาแน่นน้อยกว่า เป็นเพราะมีลาวาไหลมากลบหลุมอุกกาบาตที่เกิดก่อนหน้า

องค์ประกอบภายใน

 
โครงสร้างของดาวพุธ
1. เปลือกดาว - หนา100–200 กม.
2. เนื้อดาว - หนา 600 กม.
3. แก่นดาว - รัศมี 1,800 กม.

ดาวพุธมีแก่นดาวที่ประกอบด้วยเหล็กในสัดส่วนที่สูง (แม้เมื่อเปรียบเทียบกับโลก) เป็นโลหะประมาณ 70% ที่เหลืออีก 30% เป็นซิลิเกต ความหนาแน่นเฉลี่ยมีค่า 5,430 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้อยกว่าความหนาแน่นของโลกอยู่เพียงเล็กน้อย. สาเหตุที่ดาวพุธมีเหล็กอยู่มากแต่มีความหนาแน่นต่ำกว่าโลก เป็นเพราะโลกมีการอัดตัวจากแรงโน้มถ่วงแน่นกว่าดาวพุธ โดยเฉพาะการอัดตัวบริเวณแก่น ทั้งนี้เพราะดาวพุธมีขนาดเล็กกว่า (ดาวพุธมีมวลเพียง 5.5% ของมวลโลก). ด้วยเหตุนี้จึงสามารถสันนิษฐานได้ว่าการที่ดาวพุธมีความหนาแน่นสูงทั้งๆที่มีขนาดเล็ก เป็นเพราะว่าดาวพุธมีแกนที่ใหญ่และอุดมไปด้วยเหล็ก. แก่นของดาวพุธมีขนาดใหญ่ และมีสัดส่วนของเหล็กอยู่มากกว่าแก่นของดาวเคราะห์ใหญ่ๆดวงอื่นของระบบสุริยะทั้งหมด โดยปริมาตรของแก่นที่เป็นเหล็กนี้มีสัดส่วนสูงถึง 55% ของปริมาตรดาวพุธทั้งดวง (แก่นโลกมีสัดส่วนเพียง 17%) ล้อมรอบด้วยเนื้อดาวหนา 600 กิโลเมตร

การเคลื่อนที่ และการหมุนรอบตนเอง

 
วงโคจรของดาวพุธ

ดาวพุธมีระดับความเยื้องศูนย์กลางของวงโคจรมากที่สุดในระบบสุริยะ โดยมีค่าความเยื้องศูนย์กลางอยู่ที่ 0.21 และอาจมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ได้ระหว่าง 46 ล้าน ถึง 70 ล้าน กิโลเมตร. ดาวพุธเคลื่อนรอบดวงอาทิตย์เร็วที่สุด โดยใช้เวลาเพียง 87.969 วันในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ. ดาวพุธหมุนรอบตัวเองในทิศทางเดียว กับการเคลื่อนรอบดวงอาทิตย์ คือ จากทิศตะวันตกไป ทิศตะวันออก หมุนรอบตัวเองรอบละ 58.6461 วัน เมื่อพิจารณาจากคาบของการหมุนรอบตัวเอง และการคาบการเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์ จะพบว่าระยะเวลากลางวัน ถึงกลางคืนบนดาวพุธยาวนานถึง 176 วัน ซึ่งยาวนานที่สุดในระบบสุริยะ

การศึกษาและการสำรวจ

 
ยานมาริเนอร์ 10 ที่ใช้สำรวจดาวพุธ เมื่อ พ.ศ. 2517 - 2518

ยานอวกาศที่เข้าไปเฉียดใกล้ๆ ดาวพุธและนำภาพมาต่อกันจนได้ภาพพื้นผิวดาวพุธเป็นครั้งแรกคือ ยานอวกาศมาริเนอร์ 10 ของสหรัฐอเมริกาเมื่อ พ.ศ. 2517 นับว่าเป็นยานลำแรกและลำเดียวที่ส่งไปสำรวจดาวพุธ ยานมารีเนอร์ 10 เข้าใกล้ดาวพุธ 3 ครั้งด้วยกัน คือ เมื่อเดือนมีนาคม และ กันยายน พ.ศ. 2517 และเดือนมีนาคม พ.ศ. 2518 ยานเข้าใกล้ดาวพุธที่สุดครั้ง แรกเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 และได้ส่งภาพกลับมา 647 ภาพ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2517 และครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2518 ขณะนั้นเครื่องมือภายในยานได้เสื่อมสภาพลง ในที่สุดก็ติดต่อกับโลกไม่ได้ตั้งแต่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2518 ยานมารีเนอร์ 10 จึงกลายเป็นขยะอวกาศที่โคจรอยู่รอบดวงอาทิตย์ โดยเข้ามาใกล้ดาวพุธครั้งคราวตามจังหวะเดิมต่อไป

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

ดาวพ, เป, นดาวเคราะห, อย, ใกล, ดวงอาท, ตย, มากท, และเป, นดาวเคราะห, เล, กท, ดในระบบส, ยะ, ใช, เวลาโคจรรอบดวงอาท, ตย, กปรากฏใกล, หร, ออย, ภายใต, แสงจ, าของดวงอาท, ตย, ทำให, งเกตเห, นได, ยากท, ภาพจาก, ยานเมสเซนเจอร, เม, อป, 2008ล, กษณะของวงโคจรจ, ดเร, มย, j2000ร. dawphuthepndawekhraahthixyuikldwngxathitymakthisud aelaepndawekhraahthielkthisudinrabbsuriya ichewlaokhcrrxbdwngxathity 87 969 wn dawphuthmkpraktikl hruxxyuphayitaesngcakhxngdwngxathitythaihsngektehnidyakthisuddawphuth phaphdawphuthcak yanemsesnecxr emuxpi 2008lksnakhxngwngokhcrcuderimyukh J2000rayacudikldwngxathitythisud 69 817 079 km 0 46669835 hnwydarasastrrayacudikldwngxathitythisud 46 001 272 km 0 30749951 hnwydarasastrkungaeknexk 57 909 176 km 0 38709893 hnwydarasastresnrxbwngkhxngwngokhcr 2 406 hnwydarasastrkhwameyuxngsunyklang 0 20563069khabdarakhti 87 96935 wn 0 2408470 picueliyn khabsinxdik 115 8776 wnxtraerwechliyinwngokhcr 47 36 km winathixtraerwsungsudinwngokhcr 58 98 km winathixtraerwtasudinwngokhcr 38 86 km winathikhwamexiyng 7 00487 3 38 kbsunysutrdwngxathity lxngcicudkhxngcudohndkhun 48 33167 rayamumcudikldwngxathitythisud 29 12478 dawbriwarkhxng dwngxathitycanwndawbriwar immilksnathangkayphaphesnphansunyklangtamaenwsunysutr 4 879 4 km 0 383 olk phunthiphiw 7 5 107 km 0 147 olk primatr 6 1 1010 km 0 056 olk mwl 3 302 1023 kk 0 055 olk khwamhnaaennechliy 5 427 krm sm khwamonmthwngthisunysutr 3 701 emtr winathi 0 377 ci khwamerwhludphn 4 435 km winathikhabkarhmunrxbtwexng 58 6462 wn 58 wn 15 5088 chm khwamerwkarhmunrxbtwexng 10 892 km chm khwamexiyngkhxngaekn 0 01 irtaexsesnchnkhxngkhwehnux 281 01 18 chm 44 nathi 2 winathi edkhlienchnkhxngkhwehnux 61 45 xtraswnsathxn 0 10 0 12xunhphumiphunphiw 0 N 0 W 85 N 0 Wtasudechliysungsud100 K340 K700 K80 K200 K380 Klksnakhxngbrryakaskhwamdnbrryakasthiphunphiw nxymakxngkhprakxb 31 7 ophaethsesiym24 9 osediym9 5 xatxmxxksiecn7 0 xarkxn5 9 hieliym5 6 omelkulxxksiecn5 2 inotrecn3 6 kharbxnidxxkisd3 4 na3 2 ihodrecndawphuthimmidawbriwar yanxwkasephiynglaediywthiekhysarwcdawphuthinrayaiklkhuxyanmarienxr 10emuxpi ph s 2517 2518 kh s 1974 1975 aelasamarththaaephnthiphunphiwdawphuthidephiyng 40 45 ethanndawphuthmisphaphphunphiwkhrukhraenuxngcakkarphungchnkhxngxukkabat immidwngcnthrepnbriwaraelaimmiaerngonmthwngmakphxthicasrangchnbrryakas dawphuthmiaekndawepnehlkkhnadihythaihekidsnamaemehlkkhwamekhmpraman 1 epxresntkhxngsnamaemehlkolklxmrxbdawphuthiwchuxlatinkhxngdawphuth Mercury macakkhaetmwa Mercurius ethphnasarkhxngphraeca sylksnaethndawphuth khux epnrupkhthakhxngethphecaemxkhiwri kxnstwrrsthi 5 dawphuthmisxngchux khux ehxrems emuxpraktinewlahwkha aelaxphxlol emuxpraktinewlaechamud echuxwaphithaokrsepnkhnaerkthirabuwathngsxngepndawekhraahdwngediywkn enuxha 1 brryakas 2 phumilksna 3 xngkhprakxbphayin 4 karekhluxnthi aelakarhmunrxbtnexng 5 karsuksaaelakarsarwc 6 xangxing 7 aehlngkhxmulxunbrryakasdawphuthmichnbrryakasebabangaelamisethiyrphaphtaxnekidcakkarthidawphuthmikhnadelkcnimmiaerngdungdudephiyngphxinkarkkekbxatxmkhxngkasexaiw chnbrryakaskhxngdawphuthprakxbipdwyihodrecn hieliym xxksiecn osediym aekhlesiym ophaethsesiym aela na mikhwamdnbrryakaspraman 10 14 barbrryakaskhxngdawphuthmikarsuyesiyaelathukthdaethnxyutlxdewlaodymiaehlngthimahlayaehlng ihodrecnaelahieliymxaccamacaklmsuriya phwkmnaephrekhamaphansnamaemehlkkhxngdawphuthkxncahludxxkcakbrryakasinthisud karslaytwkhxngsarkmmntrngsi cakaekndawkxaccaepnxikaehlnghnungthichwyetimhieliym osediym aelaophaethsesiymihkbbrryakasdawphuthimekhythukaesngxathityodytrngely karsarwcidephyihehnthungaethbsathxnerdarkhnadihyxyubriewnkhwkhxngdaw sungnaaekhngepnhnunginsarimkichnidthisamarthsathxnerdariddiechnnibriewnthiminaaekhngnnechuxknwaxyuluklngipitphunphiwephiyngimkiemtr aelaminaaekhngpraman 1014 1015 kiolkrm epriybethiybkbnaaekhngthiaexntarktikakhxngolkerathiminaaekhngxyu 4 x 1018 kiolkrm thimakhxngnaaekhngbndawphuthyngimaenchd aetechuxknwaxaccamithimacakdawhangthiphungchndawphuthemuxhlaylanpikxn hruxxaccamacakphayinkhxngdawphuthexngphumilksna dawphuthetmipdwyhlumxukkabat dawphuthmihlumxukkabatcanwnmakcndukhlaydwngcnthr phumilksnthiednthisudbndawphuth ethathisamarththayphaphid khux aexngaekhlxris hlumxukkabatthimiesnphansunyklangpraman 1 350 kiolemtr phiwdawphuthmiphachnxyuthwip sungkxtwkhunemuxhlayphnlanpithiaelw khnathiicklangdawphutheynlngphrxmkbhdtw cnthaihepluxkdawkhxngphuthynyb phunthiswnihykhxngdawphuthpkkhlumdwythirab 2 aebbthimixayutangkn thirabthimixayunxycamihlumxukkabathnaaennnxykwa epnephraamilawaihlmaklbhlumxukkabatthiekidkxnhnaxngkhprakxbphayin okhrngsrangkhxngdawphuth1 epluxkdaw hna100 200 km 2 enuxdaw hna 600 km 3 aekndaw rsmi 1 800 km dawphuthmiaekndawthiprakxbdwyehlkinsdswnthisung aememuxepriybethiybkbolk epnolhapraman 70 thiehluxxik 30 epnsiliekt khwamhnaaennechliymikha 5 430 kiolkrm lukbaskemtr sungnxykwakhwamhnaaennkhxngolkxyuephiyngelknxy saehtuthidawphuthmiehlkxyumakaetmikhwamhnaaenntakwaolk epnephraaolkmikarxdtwcakaerngonmthwngaennkwadawphuth odyechphaakarxdtwbriewnaekn thngniephraadawphuthmikhnadelkkwa dawphuthmimwlephiyng 5 5 khxngmwlolk dwyehtunicungsamarthsnnisthanidwakarthidawphuthmikhwamhnaaennsungthngthimikhnadelk epnephraawadawphuthmiaeknthiihyaelaxudmipdwyehlk aeknkhxngdawphuthmikhnadihy aelamisdswnkhxngehlkxyumakkwaaeknkhxngdawekhraahihydwngxunkhxngrabbsuriyathnghmd odyprimatrkhxngaeknthiepnehlknimisdswnsungthung 55 khxngprimatrdawphuththngdwng aeknolkmisdswnephiyng 17 lxmrxbdwyenuxdawhna 600 kiolemtrkarekhluxnthi aelakarhmunrxbtnexng wngokhcrkhxngdawphuth dawphuthmiradbkhwameyuxngsunyklangkhxngwngokhcrmakthisudinrabbsuriya odymikhakhwameyuxngsunyklangxyuthi 0 21 aelaxacmirayahangcakdwngxathityidrahwang 46 lan thung 70 lan kiolemtr dawphuthekhluxnrxbdwngxathityerwthisud odyichewlaephiyng 87 969 wninkarokhcrrxbdwngxathity 1 rxb dawphuthhmunrxbtwexnginthisthangediyw kbkarekhluxnrxbdwngxathity khux cakthistawntkip thistawnxxk hmunrxbtwexngrxbla 58 6461 wn emuxphicarnacakkhabkhxngkarhmunrxbtwexng aelakarkhabkarekhluxnthirxbdwngxathity caphbwarayaewlaklangwn thungklangkhunbndawphuthyawnanthung 176 wn sungyawnanthisudinrabbsuriya 1 karsuksaaelakarsarwc yanmarienxr 10 thiichsarwcdawphuth emux ph s 2517 2518 yanxwkasthiekhaipechiydikl dawphuthaelanaphaphmatxkncnidphaphphunphiwdawphuthepnkhrngaerkkhux yanxwkasmarienxr 10 khxngshrthxemrikaemux ph s 2517 nbwaepnyanlaaerkaelalaediywthisngipsarwcdawphuth yanmarienxr 10 ekhaikldawphuth 3 khrngdwykn khux emuxeduxnminakhm aela knyayn ph s 2517 aelaeduxnminakhm ph s 2518 yanekhaikldawphuththisudkhrng aerkemuxwnthi 29 minakhm ph s 2517 aelaidsngphaphklbma 647 phaph khrngthi 2 emuxwnthi 21 knyayn ph s 2517 aelakhrngthi 3 emuxwnthi 16 minakhm ph s 2518 khnannekhruxngmuxphayinyanidesuxmsphaphlng inthisudktidtxkbolkimidtngaet 24 minakhm ph s 2518 yanmarienxr 10 cungklayepnkhyaxwkasthiokhcrxyurxbdwngxathity odyekhamaikldawphuthkhrngkhrawtamcnghwaedimtxip 2 xangxing http www thaigoodview com library teachershow phitsanulok suwicha p mercury html http www thaigoodview com library teachershow phitsanulok suwicha p mercury html www thaigoodview comaehlngkhxmulxunkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb dawphuthekhathungcak https th wikipedia org w index php title dawphuth amp oldid 9255120, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม