อีแอน สตีเวนสัน
อีแอน พรีทีแมน สตีเวนสัน (อังกฤษ: Ian Pretyman Stevenson, 31 ตุลาคม 1918 - 8 กุมภาพันธ์ 2007) เป็นจิตแพทย์ชาวอเมริกันผู้เกิดในแคนาดา เขาทำงานให้กับมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียสาขาแพทยศาสตร์เป็นเวลา 50 ปี เป็นหัวหน้าแผนกจิตเวชระหว่างปี 1957-1967 ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์จิตเวชคาร์ลสันระหว่างปี 1967-2001 และเป็นศาสตราจารย์จิตเวชด้านวิจัยตั้งแต่ปี 2002 จนสิ้นอายุขัย
อีแอน สตีเวนสัน (Ian Stevenson) | |
---|---|
เกิด | 31 ตุลาคม ค.ศ. 1918 กรุงมอนทรีออล รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา |
เสียชีวิต | 08 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 (88 ปี) เมืองชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐ |
พลเมือง | เกิดเป็นคนแคนาดา เปลี่ยนสัญชาติเป็นคนอเมริกันปี 1949 |
การศึกษาสูงสุด | มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ (1937-1939) วิทยาศาสตรบัณฑิต (มหาวิทยาลัยแมคกิลล์ 1942) แพทยศาสตรบัณฑิต (มหาวิทยาลัยแมคกิลล์สาขาแพทยศาสตร์ 1943) |
อาชีพ | จิตแพทย์ ผู้อำนวยการแผนกการศึกษาการรับรู้ที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย สาขาแพทยศาสตร์ |
มีชื่อเสียงจาก | งานวิจัยเกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิด งานศึกษาเกี่ยวกับประสบการณ์ก่อนตาย การบันทึกประวัติแพทยศาสตร์ |
คู่สมรส | ออกทาเวีย เรย์โนลด์ส (แต่ง 1947) มาร์กาเรต เพอร์ตซอฟฟ์ (แต่ง 1985) |
เพราะเป็นผู้จัดตั้งและผู้อำนวยการแผนกการศึกษาการรับรู้ (Division of Perceptual Studies) ของมหาวิทยาลัย ซึ่งตรวจสอบเรื่องเหนือธรรมชาติ (paranormal) เขาจึงกลายเป็นที่รู้จักเพราะได้ตรวจสอบกรณีของคนที่เขาพิจารณาว่า แสดงนัยว่ากลับชาติมาเกิด ซึ่งเป็นแนวคิดว่า ความรู้สึก ความจำ และแม้แต่ลักษณะทางร่างกายสามารถถ่ายโอนจากชาติหนึ่งไปสู่อีกชาติหนึ่ง ในการสืบสวนกรณีในประเทศต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 40 ปี เขาได้ตรวจสอบกรณีเด็ก 3,000 รายที่อ้างว่า จำชาติก่อน ๆ ได้ จุดยืนของเขาคือว่า โรคกลัว โรคใคร่ (philia) ความสามารถแปลก ๆ และความเจ็บป่วยบางอย่าง ไม่สามารถอธิบายได้อย่างสมบูรณ์โดยกรรมพันธุ์หรือสิ่งแวดล้อม เขาเชื่อว่า นอกเหนือจากกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม การกลับชาติมาเกิดใหม่อาจเป็นปัจจัยที่สาม
ในปี 1982 สตีเวนสันช่วยก่อตั้งสมาคมเพื่อการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ (Society for Scientific Exploration) เป็นนักเขียนบทความราว 300 บทและหนังสือ 14 เล่มเรื่องการกลับชาติมาเกิด รวมทั้ง Twenty Cases Suggestive of Reincarnation (กรณีศึกษา 20 รายที่แสดงนัยว่ากลับชาติมาเกิด, 1996) Cases of the Reincarnation Type (กรณีศึกษาประเภทกลับชาติมาเกิด 4 เล่มระหว่างปี 1975-1983) และ European Cases of the Reincarnation Type (กรณีศึกษายุโรปประเภทกลับชาติมาเกิด, 2003) งานใหญ่ที่สุดของเขาเป็นชุดหนังสือสองเล่มมี 2,268 หน้าปี 1997 คือ Reincarnation and Biology: A Contribution to the Etiology of Birthmarks and Birth Defects (การกลับชาติมาเกิดกับชีววิทยา - ผลงานในเรื่องสมุฏฐานของตำหนิผิวและความพิการแต่กำเนิด) ซึ่งรายงานกรณี 200 รายที่ตำหนิผิวและความพิการดูคล้ายแผลของคนตายผู้ที่เด็กสามารถระลึกถึงชีวิตได้ เขาเขียนหนังสือเรื่องเดียวกันที่สั้นกว่า (1997) สำหรับผู้อ่านทั่วไปคือ Where Reincarnation and Biology Intersect (จุดที่การกลับชาติมาเกิดบรรจบกับชีววิทยา)
งานของเขาได้รับการตอบรับอย่างหลายหลาก ในบทความประกาศมรณกรรมของสตีเวนสันในหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ นักข่าวได้เขียนว่า ผู้สนับสนุนมองเขาว่าเป็นอัจฉริยะที่คนเข้าใจผิด, นักวิทยาศาสตร์โดยมากมองข้ามงานวิจัยของเขา และผู้กล่าวร้ายมองเขาว่าจริงใจแต่ถูกหลอกง่าย ชีวิตและผลงานของเขากลายเป็นประเด็นของหนังสือเชิงสนับสนุน 3 งาน คือ Old Souls: The Scientific Search for Proof of Past Lives (1999) โดยนักข่าวของเดอะวอชิงตันโพสต์ ทอม ชโรเดอร์, Life Before Life (2005) ของจิตแพทย์และผู้ร่วมงานที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียคือจิม ทักเกอร์และ Science, the Self, and Survival after Death (2012) โดยผู้ร่วมงานเอมิลี วิลเลียมส์ เคลลี ส่วนผู้ไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะนักปรัชญาชาวอินเดียซี.ที.เค. ชารี (C. T. K. Chari, 1909-1993) และชาวออสเตรีย-อเมริกันพอล เอ็ดวาร์ดส (1923-2004) ได้ยกปัญหาหลายอย่างรวมทั้งข้ออ้างว่าเด็กหรือพ่อแม่ที่สตีเวนสันสัมภาษณ์หลอกเขา ว่าเขาถามคำถามนำเด็ก ว่าเขามักทำงานร่วมกับคนแปลซึ่งเชื่อสิ่งที่ผู้รับสัมภาษณ์กล่าว และว่าข้อสรุปของเขามีความเอนเอียงเพื่อยืนยัน (confirmation bias) เพราะกรณีที่ไม่สนับสนุนสมมติฐานของเขาไม่ได้นับว่า เป็นหลักฐานค้าน
พื้นเพ
ชีวิตส่วนตัวและการศึกษา
สตีเวนสันเกิดในกรุงมอนทรีออลแล้วโตขึ้นในเมืองออตตาวากับพี่น้องอีกสองคน บิดาเขาคือ จอห์น เป็นทนายชาวสก็อตที่ทำงานเป็นผู้สื่อข่าวในแคนาดาสำหรับทั้งหนังสือพิมพ์อังกฤษเดอะไทมส์ และหนังสือพิมพ์อเมริกันเดอะนิวยอร์กไทมส์ มารดาของเขาคือ รุท สนใจในเรื่องเทวญาณและมีหนังสือจำนวนมากในประเด็นนี้ ซึ่งสตีเวนสันเองยกว่า ทำให้สนใจเรื่องเหนือธรรมชาติตั้งแต่เด็ก ๆ เมื่อเป็นเด็ก เขามักนอนป่วยเพราะหลอดลมอักเสบ ซึ่งสืบไปถึงวัยผู้ใหญ่ จึงทำให้เขารักอ่านหนังสือตลอดชีวิต ตามผู้ร่วมงานที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียคือเคลลี เขาเก็บรายการหนังสือที่ได้อ่านรวมเป็น 3,535 เล่มระหว่างปี 1935-2003 เขาศึกษาแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ในประเทศสกอตแลนด์ระหว่างปี 1937-1939 แต่ต้องศึกษาจนจบในแคนาดาเพราะสงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (B.S.c.) จากมหาวิทยาลัยแมคกิลล์ในปี 1942 และแพทยศาสตรบัณฑิตในปี 1943 และแต่งงานกับออกทาเวีย เรย์โนลด์สตั้งแต่ปี 1947 จนถึงเธอเสียชีวิตในปี 1983 ในปี 1985 เขาแต่งงานใหม่กับ ดร. มาร์กาเรต เพอร์ตซอฟฟ์ (1926-2009) ผู้เป็นศาสตราจารย์ทางประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยหญิงแห่งหนึ่ง (Randolph-Macon Woman's College) ในรัฐเวอร์จิเนีย เธอไม่ได้เห็นร่วมกับเขาในเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่อดทนแนวคิดของเขาในรูปแบบที่สตีเวนสันเรียกว่า "ความเงียบอย่างมีเมตตา"
อาชีพต้น ๆ
หลังจากจบการศึกษา สตีเวนสันทำงานวิจัยในสาขาชีวเคมี เขาเป็น "แพทย์ประจำบ้าน" (residency) ที่ รพ. รอยัลวิกตอเรียในกรุงมอนทรีออล (1944-1945) แต่เพราะปัญหาปอดอย่างต่อเนื่อง อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแมคกิลล์จึงแนะนำให้ย้ายไปอยู่ที่รัฐแอริโซนาเพื่อสุขภาพ เขาจึงไปเป็นแพทย์ประจำบ้านที่ รพ. เซนต์โจเซฟในเมืองฟีนิกซ์ (รัฐแอริโซนา) ระหว่างปี 1945-1946 ต่อจากนั้น เขาก็ได้ตำแหน่งแพทย์ประจำบ้านต่อยอด (fellowship) ทางอายุรศาสตร์ที่มูลนิธิแพทย์แห่งหนึ่ง (Alton Ochsner Medical Foundation) ในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ต่อจากนั้น ได้ตำแหน่ง Denis Fellow in Biochemistry ที่มหาวิทยาลัยทูเลนสาขาแพทยศาสตร์ (1946-1947) แล้วจากนั้นตำแหน่ง Commonwealth Fund Fellow in Medicine ที่มหาวิทยาลัยคอร์เนลสาขาแพทยศาสตร์และ รพ. นิวยอร์ก (1947-1949) เขาเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนอเมริกันในปี 1949
ผู้ร่วมงานคือเคลลีเขียนว่า สตีเวนสันรู้สึกไม่ชอบใจในคตินิยมลดทอน (reductionism) ที่ได้ประสบในสาขาชีวเคมี จึงต้องการศึกษาบุคคลโดยรวม แล้วกลายมาสนใจเวชศาสตร์กายเหตุจิต (psychosomatic medicine) จิตเวช และจิตวิเคราะห์ โดยในปลายทศวรรษ 1940 เขาได้ทำงานที่ รพ. นิวยอร์กโดยสำรวจโรคกายเหตุจิตและผลของความเครียดโดยเฉพาะว่า ทำไมบางคนตอบสนองเป็นโรคหืด และบางคนเป็นความดันโลหิตสูง
เขาสอนนักศึกษาแพทย์ที่มหาวิทยาลัยลุยเซียนาสเตตระหว่างปี 1949-1957 เริ่มจากเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ แล้วก็ศาสตราจารย์ทางจิตเวช ในคริสต์ทศวรรษ 1950 เขาได้พบนักเขียนชาวอังกฤษอัลดัส ฮักซลีย์ (1894-1963) ผู้สนับสนุนให้ใช้สารก่ออาการโรคจิต (psychedelic drug) จึงได้ศึกษาผลของแอลเอสดีและ mescaline โดยเป็นนักวิชาการคนแรก ๆ ที่ได้ทำเช่นนี้ เขาเขียนว่าได้ลองแอลเอสดีเองจนได้ "ความสงบเงียบอย่างสมบูรณ์" ถึง 3 วัน ว่าเขารู้สึกในตอนนั้นว่า "จะไม่โกรธต่อไปอีก" แต่พบว่า "นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น แต่ความจำเกี่ยวกับเรื่องนั้นคงยืนว่าเป็นอะไรที่ควรมุ่งหวัง"
เริ่มจากปี 1951 เขาได้ศึกษาจิตวิเคราะห์ที่สถาบันจิตวิเคราะห์นิวออร์ลีนส์และสถานบันจิตวิเคราะห์วอชิงตัน โดยได้ปริญญาจากสถาบันหลังในปี 1958 ปีหนึ่งหลังจากได้ตำแหน่งเป็นหัวหน้าสาขาจิตเวชที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เขาท้วงหลักความเชื่อในจิตเวชและจิตวิเคราะห์ในสมัยนั้นว่า บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงในช่วงวัยเด็กได้ง่ายกว่า ผลงานตีพิมพ์ของเขาคือ Is the human personality more plastic in infancy and childhood? (จริงหรือที่บุคลิกภาพมนุษย์เปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่าในวัยทารกและวัยเด็ก) ตีพิมพ์ในวารสารจิตเวชอเมริกัน (ปี 1957) ไม่ได้การยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญเยี่ยงกัน เขาเขียนว่า การตอบสนองเช่นนั้นช่วยเตรียมตัวให้เขายอมรับการถูกปฏิเสธที่เขาประสบในผลงานเรื่องเหนือธรรมชาติ
งานวิจัยเรื่องการกลับชาติมาเกิด
ความสนใจเบื้องต้น
สตีเวนสันได้ระบุความสนใจตลอดอาชีพของเขาว่า ทำไมคนหนึ่งจึงเกิดโรคอย่างหนึ่ง แต่อีกคนหนึ่งกลับได้โรคต่างกัน เขาได้กลายมาเชื่อว่า ทั้งสิ่งแวดล้อมและกรรมพันธุ์ไม่สามารถอธิบายความกลัว ความเจ็บป่วย และความสามารถพิเศษบางอย่าง และว่า การถ่ายโอนบุคลิกภาพหรือความจำบางประการอาจให้คำอธิบายที่สามได้ แต่ก็ยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานทางกระบวนการฟิสิกส์ที่บุคลิกภาพสามารถรอดการเสียชีวิตแล้วถ่ายโอนไปยังอีกร่างหนึ่ง และเขาก็ระมัดระวังไม่ทุ่มตัวอย่างบริบูรณ์ไปที่จุดยืนว่า การกลับชาติมาเกิดใหม่มีจริง ๆ เขาเพียงแต่ให้เหตุผลว่า ตามความคิดของเขา กรณีงานศึกษาของเขาไม่สามารถอธิบายได้ด้วยสิ่งแวดล้อมหรือพันธุกรรม และว่า "การกลับชาติมาเกิดใหม่เป็นคำอธิบายที่ดีสุดสำหรับกรณีที่ชัดเจนกว่าที่เราตรวจสอบ แม้จะไม่ใช่คำอธิบายเดียว" จุดยืนของเขาไม่เกี่ยวกับศาสนา แต่เป็นสิ่งที่ศาสตราจารย์กิตติคุณทางปรัชญาที่มหาวิทยาลัยจอร์เจียสเตตคือรอเบิร์ต อัลมีเดอร์ เรียกว่า สมมติฐานการกลับชาติมาเกิดแบบน้อยสุด (minimalistic reincarnation hypothesis) อัลมีเดอร์ระบุสมมติฐานนี้ว่า
มีอะไรที่เป็นแก่นของบุคลิกภาพมนุษย์บางอย่าง ซึ่งเราไม่สามารถวิเคราะห์เป็นเพียงแต่เป็นสภาพสมอง หรือลักษณะของสภาพสมอง อนึ่ง หลังจากการตายทางชีวภาพ ลักษณะเป็นแก่นที่ลดทอนไม่ได้นี้บางครั้งคงยืนต่อไปชั่วระยะหนึ่งโดยกระบวนการบางอย่าง ในที่บางที่ และเพราะเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง มีอย่างเป็นอิสระจากสมองและร่างกายของบุคคลเดิม นอกจากนั้น หลังจากช่วงระยะหนึ่ง ลักษณะเป็นแก่นของบุคลิกภาพมนุษย์ที่ลดทอนไม่ได้นี้บางอย่าง เพราะเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่ง และโดยกลไกอย่างหนึ่ง ได้มาอยู่ในร่างกายมนุษย์อื่น ๆ ไม่ว่าจะหลังจากช่วงตั้งครรภ์ระยะหนึ่ง หรือเมื่อเกิด หรือหลังจากเกิดไม่นาน
ในปี 1958 และ 1959 สตีเวนสันได้เขียนบทความหลายบทให้กับนิตยสาร Harper's เกี่ยวกับปรจิตวิทยา (การศึกษาปรากฏการณ์ทางจิตที่อธิบายไม่ได้) รวมทั้งโรคกายเหตุใจ และการรับรู้นอกเหนือประสาทสัมผัส (extrasensory perception หรือ ESP) และในปี 1958 เขาได้ส่งประกวดบทความที่ชนะรางวัลของ American Society for Psychical Research ซึ่งให้เป็นอนุสรณ์แด่นักจิตวิทยาวิลเลียม เจมส์ (1842-1910) โดยได้รางวัลเรียงความดีสุดในเรื่อง "ปรากฏการณ์ทางจิตเหนือธรรมชาติและความสัมพันธ์กับปัญหาเรื่องการดำรงอยู่ของบุคลิกภาพมนุษย์หลังจากร่างกายตาย" เรียงความของสตีเวนสันคือ The Evidence for Survival from Claimed Memories of Former Incarnations (หลักฐานสนับสนุนการอยู่รอดของความจำจากชาติที่แล้วดังอ้าง) ในปี 1960 ได้ทบทวนกรณีบุคคลที่ตีพิมพ์ 44 ราย โดยมากเป็นเด็ก ผู้อ้างว่าจำชาติก่อน ๆ ได้ ซึ่งได้ความสนใจจากนักสื่อวิญญาณและนักปรจิตวิทยาไอลีน เจ. การ์เรตต์ (1893-1970) ผู้จัดตั้งมูลนิธิปรจิตวิทยา (Parapsychology Foundation) แล้วได้ให้ทุนแก่สตีเวนสันเพื่อเดินทางไปยังอินเดียและสัมภาษณ์เด็กคนหนึ่งที่อ้างว่าจำชาติก่อน ๆ ได้ ตามผู้ดำเนินรอยตามสตีเวนสันคือแพทย์ทางกุมารจิตเวชจิม ทักเกอร์ สตีเวนสันพบกรณีอื่น ๆ อีก 25 รายภายในระยะ 4 สัปดาห์ในอินเดีย จึงสามารถพิมพ์หนังสือเล่มแรกเกี่ยวกับประเด็นนี้ในปี 1966 คือ กรณีศึกษา 20 รายที่แสดงนัยว่ากลับชาติมาเกิด
ต่อมาเชสเตอร์ คาร์ลสัน (1906-1968) นักประดิษฐ์การถ่ายสำเนาและผู้ร่วมจัดตั้งบริษัทซีร็อกซ์ได้ช่วยเหลือในด้านเงินทุนอีก ทักเกอร์เขียนว่า นี่ทำให้สตีเวนสันสามารถวางตำแหน่งหัวหน้าสาขาจิตเวชแล้วจัดตั้งหน่วยต่างหากในสาขาคือแผนกศึกษาบุคลิกภาพ แล้วภายหลังจึงเปลี่ยนชื่อเป็นแผนกการศึกษาการรับรู้ (Division of Perceptual Studies) เมื่อคาร์ลสันเสียชีวิตในปี 1968 เขาได้มอบทุนหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐ (เท่ากับเงินประมาณ 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 คือประมาณ 236 ล้านบาท) ทิ้งไว้ให้กับมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเพื่อต่องานของสตีเวนสัน มรดกนี้สร้างความโต้แย้งภายในสถาบันเพราะธรรมชาติของงานวิจัย แต่สถาบันก็ได้รับเงินไว้ และสตีเวนสันจึงได้ตำแหน่งศาสตราจารย์จิตเวชคาร์ลสัน (Carlson Professor of Psychiatry) เป็นคนแรก
กรณีศึกษา
อย่างคร่าว ๆ
มรดกที่ว่านี้ทำให้สตีเวนสันสามารถเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ได้ บางครั้งถึง 55,000 ไมล์ (88,510 ก.ม.) ต่อปี เก็บข้อมูลกรณีศึกษาถึง 3,000 รายเป็นการสัมภาษณ์กับเด็ก ๆ ตั้งต้นแต่แอฟริกาไปตลอดถึงรัฐอะแลสกา ตามนักข่าวของเดอะวอชิงตันโพสต์ ทอม ชโรเดอร์ "เมื่อสัมภาษณ์พยานและทบทวนดูเอกสาร ดร. สตีเวนสันได้พยายามหาคำอธิบายคำให้การแบบอื่น ๆ เช่นว่าเด็กได้ข้อมูลโดยวิธีปกติบางอย่าง ว่าพยานฉ้อฉลหรือหลงผิด ว่าความสัมพันธ์เกิดโดยบังเอิญหรือเข้าใจผิด แต่ในกรณีจำนวนมาก ดร. สตีเวนสันก็ได้สรุปว่า คำอธิบายธรรมดาไม่พอ"
ในบางกรณี เด็กอาจมีตำหนิวผิวหรือความพิการที่เข้ากับลักษณะบางประการทางกายของบุคคลในชาติก่อนที่เด็กดูเหมือนจะจำได้ ในหนังสือ การกลับชาติมาเกิดกับชีววิทยา - ผลงานในเรื่องสมุฏฐานของตำหนิผิวและความพิการแต่กำเนิด (1997) สตีเวนสันตรวจสอบตำหนิวผิวหรือความพิการของเด็ก 200 รายที่เด็กอ้างว่าจำชาติก่อนได้ รวมทั้งเด็ก ๆ ที่มีนิ้วผิดปกติหรือไม่มี ผู้กล่าวว่าจำชีวิตของคนที่เสียนิ้วไปได้ เด็กชายคนหนึ่งที่มีตำหนิผิวคล้ายกับแผลทางเข้าและทางออกของผู้ที่เด็กกล่าวว่า จำชีวิตของบุคคลที่ถูกยิงได้ และเด็กคนหนึ่งที่มีแผลเป็นรอบ ๆ ศีรษะกว้าง 3 ซม.ผู้กล่าวว่า เธอจำชีวิตของชายที่ได้ผ่าตัดที่กะโหลกศีรษะได้ ในกรณีหลายรายตามความเห็นของสตีเวนสัน การให้การของพยานหรือรายงานการชันสูตรพลิกศพดูเหมือนจะสนับสนุนว่าบุคคลที่ตายไปแล้วจริง ๆ มีการบาดเจ็บดังว่า เช่น ในกรณีของเด็กชายที่จำชีวิตของคนที่ถูกยิงได้ พี่น้องหญิงของคนตายบอกสตีเวนสันว่า พี่น้องชายของเธอยิงตัวเองที่คอ และเด็กได้โชว์สตีเวนสันตำหนิวผิวที่คอ สตีเวนสันแนะว่า เขาอาจมีตำหนิวผิวที่ยอดศีรษะเช่นกันโดยเป็นสัญลักษณ์ของแผลทางออก แล้วก็พบตำหนิผิวใต้ผมของเด็กจริง ๆ
การตอบสนอง
ข้อวิจารณ์
วารสารแพทย์ JAMA เรียกบทความกรณีศึกษาประเภทกลับชาติมาเกิด (1975) ของสตีเวนสันว่าเป็นการรวบรวมกรณีศึกษาที่ "อุตสาหะและไม่ได้ใส่อารมณ์" ที่ "ยากจะอธิบายด้วยข้อสมมุติอื่น ๆ นอกเหนือจากการกลับชาติมาเกิด"วารสารโรคประสาทและจิต (Journal of Nervous and Mental Disease) อุทิศวารสารฉบับเดือนกันยายน 1977 โดยมากให้แก่งานวิจัยของสตีเวนสัน ในวารสารฉบับนั้น จิตแพทย์ชาวอเมริกันแฮโรลด์ ลีฟ เรียกสตีเวนสันว่าเป็นผู้ตรวจสอบที่มีระเบียบและรอบคอบแล้วเพิ่มว่า "เขาไม่ก็กำลังทำความผิดพลาดอย่างมโหฬาร หรือไม่เขาก็จะเป็นที่รู้จัก (โดยผมก็กล่าวกับเขาเองเช่นกัน) ว่าเป็น 'กาลิเลโอของคริสต์ศตวรรษที่ 20'" วารสารฉบับนี้ปรากฏว่าเป็นที่นิยม บรรณาธิการของวารสารได้กล่าวว่า เขาได้รับคำขอให้พิมพ์ซ้ำถึง 300-400 ครั้ง
แม้จะได้ความสนใจเช่นนี้ในเบื้องต้น นักวิทยาศาสตร์โดยมากก็ไม่สนใจงานของเขา ตามบทความประกาศมรณกรรมของเขาในหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ ผู้กล่าวร้ายเขามองเขาว่า "จริงใจ ดื้อรั้น แต่โดยหลักแล้วก็ถูกชักนำไปในทางที่ผิด หลงผิดไปเพราะถูกหลอกได้ง่าย เพราะการคิดตามความปรารถนา และเพราะความโน้มเอียงในการมองเห็นว่าเป็นวิทยาศาสตร์ในขณะที่คนอื่นมองเป็นไสยศาสตร์" นักวิจารณ์เสนอว่า เด็กหรือพ่อแม่ของเด็กได้หลอกเขา ว่าเขาพร้อมเกินไปที่จะเชื่อ และว่าเขาถามด้วยคำถามชักนำ อนึ่ง นักวิจารณ์กล่าวว่า ผลที่ได้มีความเอนเอียงเพื่อยืนยัน เพราะกรณีที่ไม่สนับสนุนไม่ได้นับว่า เป็นหลักฐานค้าน นักปรัชญาในเรื่องศาสนาผู้หนึ่ง (Leonard Angel) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ว่า สตีเวนสันไม่ได้ทำตามมาตรฐานที่เหมาะสม "แต่คุณจะต้องตรวจดูอย่างระมัดระวังเพื่อให้เห็น ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาโน้มน้าวบุคคลเป็นจำนวนมากได้"
นักวิมตินิยมได้เขียนว่า หลักฐานของสตีเวนสันเป็นหลักฐานโดยเรื่องเล่า และถ้าใช้หลักมีดโกนอ็อกคัม ก็จะมีข้ออธิบายธรรมดา ๆ สำหรับกรณีเหล่านี้โดยไม่ต้องอ้างเรื่องเหนือธรรมชาติ นักเขียนวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่ง (Terence Hines) ได้เขียนว่า
ปัญหาหลักในงานของสตีเวนสัน คือ วิธีที่เขาใช้ตรวจสอบกรณีที่ระบุว่ากลับชาติมาเกิดไม่พอกันเหตุผลธรรมดา ๆ ออกว่า เป็นการเล่านิทานอย่างมีจินตนาการในส่วนของเด็ก ๆ ผู้อ้างว่าเป็นคนตายผู้กลับชาติมาเกิด ในกรณีที่ดูเหมือนจะน่าทึ่งที่สุดซึ่งสตีเวนสัน (1975, 1977) ได้รายงาน เด็กผู้บอกว่ากลับชาติมาเกิดรู้จักเพื่อนและญาติของคนตาย แต่ความรู้ของเด็กเกี่ยวกับบุคคลเหล่านี้ก็ไม่ใช่หลักฐานที่สรุปได้ว่าเด็กกลับชาติมาเกิด
ศาสตราจารย์ทางจิตวิทยาผู้หนึ่ง (Robert A. Baker) เขียนว่า ประสบการณ์ที่ระบุว่าเป็นของชาติก่อนหลายกรณีที่สตีเวนสันและนักปรจิตวิทยาอื่น ๆ ได้ตรวจสอบสามารถอธิบายเป็นปัจจัยทางจิตวิทยาได้ คือ เขายกว่า การระลึกถึงอดีตชาติเป็นความผสมผสานกันระหว่าง cryptomnesia กับการกุเหตุความจำเสื่อม (confabulation)
นักเขียนชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง (Ian Wilson) ได้กล่าวว่า กรณีศึกษาจำนวนมากของสตีเวนสันเกี่ยวกับเด็กยากจนที่ระลึกถึงชีวิตที่ร่ำรวยหรืออยู่ในชั้นวรรณะที่สูงกว่า เขาคาดว่า กรณีเช่นนี้อาจเป็นกลเม็ดหาเงินจากครอบครัวของคนตายที่เด็กระบุว่ากลับชาติมาเกิด
นักปรัชญาซี.ที.เค. ชารีแห่งมหาวิทยาลัยมัทราสคริสเตียนคอลเลจแห่งเมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ผู้เชี่ยวชาญทางปรจิตวิทยา ได้เขียนว่า สตีเวนสันซื่อเกินไป และกรณีศึกษาของเขามีปัญหาเพราะเขาไร้ความรู้ทางพื้นเมือง ชารีเขียนว่า กรณีงานศึกษาของเขาหลายรายมาจากสังคมต่าง ๆ เช่นอินเดีย ที่คนเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิด และเรื่องเหล่านี้จึงเป็นเพียงสิ่งที่เกิดเนื่องกับวัฒนธรรม (cultural artifact) เขาระบุว่า สำหรับเด็ก ๆ ในประเทศเอเชียหลายประเทศ การระลึกถึงชาติก่อน ๆ เท่ากับการมีเพื่อนจินตนาการ (imaginary friend) นักปรัชญาอีกท่าน (Keith Augustine) ก็ให้เหตุผลเช่นกันสตีเวนสันโต้ว่า เป็นสังคมเหล่านั้นเท่านั้นที่ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับชาติที่แล้วของเด็ก ซึ่งถ้าเป็นคนยุโรปหรือสหรัฐ ผู้ใหญ่ปกติก็จะไม่สนใจและไม่ตรวจสอบโดยประการทั้งปวง เพื่อแก้ปัญหาทางวัฒนธรรมเช่นนี้ เขาได้เขียนบทความกรณีศึกษายุโรปประเภทกลับชาติมาเกิด (2003) ที่เขาตรวจสอบ 40 กรณีในยุโรป
นักปรัชญาพอล เอ็ดวาร์ดส ซึ่งเป็นหัวหน้าบรรณาธิการของสารานุกรมปรัชญา (Encyclopedia of Philosophy) ของสำนักพิมพ์แม็กมิลแลน ได้กลายมาเป็นผู้วิจารณ์สตีเวสันคนหลัก เริ่มตั้งแต่ปี 1986 เขาได้อุทิศบทความหลายบทแก่งานของสตีเวนสัน แล้วได้กล่าวถึงสตีเวนสันในหนังสือปี 1996 คือ Reincarnation: A Critical Examination (การกลับชาติมาเกิด - การตรวจสอบเชิงวิเคราะห์) เขาระบุว่า มุมมองของสตีเวนสันเป็น "เรื่องไร้สาระน่าหัวเราะ" และเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด กรณีศึกษาของเขาก็จะมีข้อบกพร่องใหญ่ และ "ไม่เริ่มแม้แต่เพิ่มน้ำหนักถ่วงอย่างสำคัญเพื่อรับกับข้อสันนิษฐานเบื้องต้นซึ่งต่อต้านการกลับชาติมาเกิด" เขาเขียนว่า สตีเวนสัน "ชัดเจนว่าอยู่ในโลกของความเพ้อฝัน" (cloud-cuckoo-land)
แชมป์ แรนซัมซึ่งสตีเวนสันได้จ้างเป็นผู้ช่วยในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ได้เขียนรายงานที่ไม่ได้พิมพ์เกี่ยวกับงานของสตีเวนสัน ซึ่งเอ็ดวาร์ดสได้อ้างในหนังสือ Immortality (1992) และ Reincarnation (1996) เอ็ดวาร์ดสเขียนว่า ตามแรนซัม สตีเวนสันถามเด็กด้วยคำถามนำ เติมเรื่องเล่าให้เต็ม ไม่สัมภาษณ์โดยใช้เวลาพอ และทิ้งระยะมากเกินไประหว่างจุดที่เด็กอ้างว่าจำชาติก่อนได้กับการสัมภาษณ์ เพราะมักเป็นปี ๆ หลังจากอ้างว่าระลึกชาติได้ที่สตีเวนสันจะได้ยินเรื่อง ในกรณี 1,111 รายที่แรนซัมได้ตรวจดู มีเพียง 11 กรณีเท่านั้นที่ครอบครัวคนตายไม่ได้ติดต่อกับเด็กก่อนจะสัมภาษณ์ ตามแรนซัม กรณี 7 รายจาก 11 กรณีที่ว่ามีข้อบกพร่องอย่างยิ่ง เขายังเขียนด้วยว่า การแสดงกรณีของสตีเวนสันมีปัญหา เพราะเขารายงานข้อสรุปของพยาน แทนที่จะรายงานข้อมูลที่เป็นมูลฐานของข้อสรุป ปัญหาเกี่ยวกับกรณีจะรายงานในอีกส่วนหนึ่งของหนังสือ แทนที่จะกล่าวเลยเมื่อพูดถึงกรณีเหล่านั้น แรนซัมได้สรุปว่า ทั้งหมดนี่เป็นเพียงหลักฐานโดยเรื่องเล่าแบบอ่อนสุด ๆ
ในหนังสือ Death and Personal Survival (1992) อัลมีเดอร์ระบุว่า แรนซัมผิดพลาดเมื่อกล่าวว่ามีกรณีเพียง 11 รายที่ไร้การติดต่อกันระหว่างครอบครัวเช่นที่ว่า เพราะมี 23 ราย
เอ็ดวาร์ดสอ้างกรณีของเด็กชายคอร์ลิสส์ ช็อตกิน จูเนียร์ ในเมืองแองกูน รัฐอะแลสกา ที่สตีเวนสันบันทึกไว้ในหนังสือกรณีศึกษา 20 รายที่แสดงนัยว่ากลับชาติมาเกิด (1966) ว่าเป็นตัวอย่างที่อาศัยคำพูดของหลานสาวของวิกเตอร์ วินเซนต์ผู้เป็นชาวประมงเป็นหลักฐานเพียงอย่างเดียว โดนช็อตกินดูเหมือนจะจำชีวิตของวินเซนต์ได้ เอ็ดวาร์ดสเขียนว่า ปัญหาต่าง ๆ ในกรณีนี้รวมทั้งครอบครัวมีความเชื่อทางศาสนาว่ามีการกลับชาติมาเกิด ช็อตกินมีตำหนิผิวที่กล่าวว่าคล้ายกับแผลเป็นของวินเซนต์ แต่สตีเวนสันไม่เคยเห็นแผลเป็นนี้เอง และรายละเอียดสำคัญทั้งหมดได้มาจากหลานสาว เอ็ดวาร์ดสกล่าวว่า สตีเวนสันไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเธอ ยกเว้นว่ามีคนบอกเขาว่า เธอมักจะต่อหรือสร้างเรื่อง เอ็ดวาร์ดสกล่าวว่า ปัญหาคล้าย ๆ กันสามารถพบได้ในกรณีศึกษาของสตีเวนสันทั้งหมด เมื่อกล่าวแก้ให้สตีเวนสัน อัลมีเดอร์เขียนในปี 1997 ว่า กรณีช็อตกินเป็นรายที่มีหลักฐานอ่อนกว่า
เอ็ดวาร์ดสกล่าวหาว่า สตีเวนสันเรียกตนเองว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์แต่ไม่ประพฤติเยี่ยงนักวิทยาศาสตร์ ตามเอ็ดวาร์ดส เขาไม่ตอบสนองต่อหรือแม้แต่กล่าวถึงข้อโต้แย้งที่สำคัญ บรรณานุกรมขนาดใหญ่ในหนังสือ Children Who Remember Previous Lives (1987) ของสตีเวนสันไม่ได้อ้างอิงแม้แต่เอกสารฉบับเดียวหรือหนังสือเล่มเดียวของผู้มีความเห็นตรงกันข้าม
สตีเวนสันเขียนคำนำของหนังสือ Second Time Round (1975) ที่ชาวอังกฤษคนหนึ่งคือเอ็ดวาร์ด ไรออลได้พูดถึงสิ่งที่เขาเชื่อว่าจำได้จากอดีตชาติที่เคยเกิดเป็นจอห์น เฟล็ตเชอร์ ผู้เกิดในเมืองทอนทันปี 1645 ประเทศอังกฤษ แล้วเสียชีวิตอีก 40 ปีต่อมาใกล้ ๆ บ้านของเขาในหมู่บ้านเวสทันซอยแลนด์ มณฑลซัมเมอร์เซต สตีเวนสันได้ตรวจสอบกรณีนี้แล้วพบว่า เรื่องทางประวัติศาสตร์จากหนังสือของไรออลทั้งหมดแม่นยำ จึงเขียนไว้ว่า "ผมคิดว่า เป็นไปได้มากว่าเขามีความจำจากอดีตชาติของจริง แล้วจริง ๆ เขาคือ จอห์น เฟล็ตเชอร์ ผู้กลับชาติมาเกิดอีกตามที่เขาเชื่อ" แต่ในปี 1976 แพทย์นักเขียนจอห์น เทย์เลอร์พบว่า โบสถ์เวสทันซอยแลนด์ระหว่างปี 1645-1685 ไม่มีบันทึกการเกิด การแต่งงาน หรือการเสียชีวิตของบุคคลชื่อว่าเฟล็ตเชอร์ เพราะไม่สามารถหาร่องรอยของชื่อนี้ได้ จึงสรุปว่า ไม่มีใครชื่อจอห์น เฟล็ตเชอร์จริง ๆ และความจำดังว่าเป็นเรื่องที่ไรออลได้เพ้อฝันขึ้นเป็นปี ๆ สตีเวนสันภายหลังเปลี่ยนความเห็นของเขาในกรณีนี้ ในหนังสือกรณีศึกษายุโรปประเภทกลับชาติมาเกิด เขาเขียนว่า "ผมไม่เชื่อแล้วว่า ความจำของเอ็ดวาร์ด ไรออลตามที่ปรากฏ 'ทั้งหมด' มาจากอดีตชาติ เพราะรายละเอียดบางอย่างผิดอย่างชัดเจน" แต่เขาก็ยังกล่าวว่า ไรออลได้ข้อมูลเกี่ยวกับมณฑลซัมเมอร์เซตช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ด้วยวิธีเหนือธรรมชาติ
การสนับสนุน
ในหนังสือ Death and Personal Survival เมื่อสนับสนุนสตีเวนสัน อัลมีเดอร์ระบุการฟันธงล่วงหน้าของเอ็ดวาร์ดส คือการมีจิตโดยไร้สมองช่วงระหว่างชีวิตเป็นไปไม่ได้ และความเป็น "วัตถุนิยมหัวรั้น" บังคับให้เขามองงานของสตีเวนสันว่า ต้องเป็นตัวอย่างการฉ้อฉลหรือความคิดหลงผิด ตามอัลมีเดอร์ ในกรณีที่เอ็ดวาร์ดสได้กล่าวถึง จริง ๆ ได้มีการตรวจสอบว่าเป็นการฉ้อฉลหรือไม่ ในบทความที่ติพิมพ์ในเว็บไซต์ Scientific American ปี 2013 ที่ทบทวนงานของสตีเวนสันในเชิงบวก ศาสตราจารย์การสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งเขียนว่า
ในเบื้องปลายชีวิตอันเป็นตำนานของเธอ นักฟิสิกส์ Doris Kuhlmann-Wilsdorf เจ้าของทฤษฎีใหม่เรื่องฟิสิกส์พื้นผิวซึ่งทำให้เธอได้รางวัลอันทรงเกียรติคือ Heyn Medal จากสมาคมเยอรมันเพื่อวัสดุศาสตร์ ได้คาดว่า งานของสตีเวนสันได้แสดง "ความเป็นไปได้ทางสถิติว่าการกลับชาติมาเกิดมีจริง สูงอย่างท่วมท้น...กระทั่งว่า รวม ๆ กันแล้ว หลักฐานไม่ได้แย่ไปกว่าสาขาวิทยาศาสตร์เกือบทุกสาขาถ้าไม่ทั้งหมด"
Xenoglossy
แม้สตีเวนสันโดยมากจะเล็งกรณีเด็กที่จำอดีตชาติได้ แต่เขาก็ศึกษากรณีสองรายที่ผู้ใหญ่ใต้การสะกดจิตดูเหมือนจะจำอดีตชาติและสามารถใช้ภาษาขั้นพื้นฐานที่ไม่ได้เรียนรู้ในชาตินี้ ซึ่งเขาจัดปรากฏการณ์นี้ว่า เซโนโกลสซี (xenoglossy) นักภาษาศาสตร์ซาราห์ โทมาสัน (Sarah Thomason) เมื่อวิจารณ์กรณีเหล่านี้ เขียนว่าสตีเวนสัน "ไม่ชำนาญด้านภาษา" และกรณีเหล่านี้ไม่น่าเชื่อ โทมาสันสรุปว่า "หลักฐานทางภาษาศาสตร์อ่อนเกินไปที่จะสนับสนุนข้ออ้างว่ามีเซโนโกลสซี" ส่วนนักภาษาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโทรอนโต วิลเลียม ซามารินเขียนว่า สตีเวนสันเขียนจดหมายโต้ตอบกับนักภาษาศาสตร์โดยเลือกเอาแต่ที่ชอบและไม่สมเป็นมืออาชีพ เช่น ได้เขียน จ.ม. โต้ตอบกับนักภาษาศาสตร์คนหนึ่งเป็นเวลา 6 ปี "โดยไม่เคยสนทนาเรื่องสิ่งที่นักภาษาศาสตร์ต้องทราบ" นักภาษาศาสตร์อีกผู้หนึ่งคือวิลเลียม ฟรอว์ลีย์เขียนว่า "สตีเวนสันไม่ได้พิจารณาหลักฐานทางภาษาศาสตร์ในกรณีเหล่านี้พอให้อ้างเหตุผลเหนือธรรมชาติ"
การเกษียณ การเสียชีวิต และการทดลอง
สตีเวนสันได้ลาจากตำแหน่งผู้อำนวยการแผนกการศึกษาการรับรู้ในปี 2002 แม้จะดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์จิตเวชด้านวิจัย ศาสตราจารย์บรูซ เกรย์สัน ผู้เป็นบรรณาธิการของ Journal of Near-Death Studies (วารสารงานศึกษาประสบการณ์เกือบตาย) เป็นผู้ได้ตำแหน่งแทน ส่วนรองศาสตราจารย์ทางจิตเวชและวิทยาศาสตร์ประสาทและพฤติกรรม (ในเวลานั้น) คือ จิม ทักเกอร์ ได้สืบต่องานวิจัยในเด็กของสตีเวนสัน ดังที่เขียนไว้ในหนังสือของเขาคือ Life Before Life: A Scientific Investigation of Children's Memories of Previous Lives (ชีวิตก่อนชีวิตนี้ - การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความจำเด็กในอดีตชาติ, 2005)
สตีเวนสันเสียชีวิตเพราะปอดบวมในเดือนกุมภาพันธ์ 2007 ที่บ้านของเขาในเมืองชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย ในพินัยกรรม เขาได้มอบทุนสำหรับตำแหน่งศาสตราจารย์สตีเวนสัน (Stevenson Chair) ในสาขาปรัชญาและประวัติวิทยาศาสตร์รวมทั้งแพทยศาสตร์ให้กับแผนกการศึกษาแพทยศาสตร์ทางสังคมของมหาวิทยาลัยแมคกิลล์ (McGill University Department of Social Studies of Medicine) ผู้ที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ตั้งแต่ตั้งขึ้นได้แก่ ศาสตราจารย์ประวัติศาสตร์ทางสถาปัตยกรรม แอนน์แมรี อะดัมส์
เพื่อเป็นการทดสอบการรอดทางบุคลิกภาพหลังจากเสียชีวิต ในคริสต์ทศวรรษ 1960 สตีเวนสันได้ตั้งรหัสกุญแจรหัสโดยใช้คำลับหรือวลีลับ แล้วเก็บกุญแจไว้ในตู้เก็บเอกสารของแผนกที่มหาวิทยาลัย แล้วบอกว่าเขาจะพยายามส่งรหัสที่ว่านั้นให้กับเพื่อนร่วมงานหลังจากเสียชีวิต เอมิลี วิลเลียมส์ เคลลีให้สัมภาษณ์กับเดอะนิวยอร์กไทมส์ในปี 2007 ว่า "น่าจะเป็นอย่างนี้ว่า ถ้าใครฝันอย่างชัดเจนถึงเขา แล้วดูเหมือนจะมีคำหรือวลีที่ให้อย่างซ้ำ ๆ คือดิฉันไม่รู้ว่ามันจะเป็นเช่นไรอย่างแน่นอน แต่ถ้ามันดูเหมือนจะมีหวังพอ พวกเราจะพยายามไขกุญแจด้วยรหัสที่ให้" นิตยสารออนไลน์สหรัฐเดอร์มอร์นิงนิวส์ รายงานในเดือนตุลาคม 2014 ว่า ยังไขกุญแจที่ว่านี่ไม่ได้
ผลงาน
- หนังสือ
- (1960). Medical History-Taking. Paul B. Hoeber.
- (1966). Twenty Cases Suggestive of Reincarnation. University of Virginia Press.
- (1969). The Psychiatric Examination. Little, Brown.
- (1970). Telepathic Impressions: A Review and Report of 35 New Cases. University Press of Virginia.
- (1971). The Diagnostic Interview (2nd revised edition of Medical History-Taking). Harper & Row.
- (1974). Twenty Cases Suggestive of Reincarnation (second revised and enlarged edition). University of Virginia Press.
- (1974). Xenoglossy: A Review and Report of A Case. University of Virginia Press.
- (1975). Cases of the Reincarnation Type, Vol. I: Ten Cases in India. University of Virginia Press.
- (1978). Cases of the Reincarnation Type, Vol. II: Ten Cases in Sri Lanka. University of Virginia Press.
- (1980). Cases of the Reincarnation Type, Vol. III: Twelve Cases in Lebanon and Turkey. University of Virginia Press.
- (1983). Cases of the Reincarnation Type, Vol. IV: Twelve Cases in Thailand and Burma. University of Virginia Press.
- (1984). Unlearned Language: New Studies in Xenoglossy. University of Virginia Press.
- (1997). Reincarnation and Biology: A Contribution to the Etiology of Birthmarks and Birth Defects. Volume 1: Birthmarks. Volume 2: Birth Defects and Other Anomalies. Praeger Publishers.
- (1997). Where Reincarnation and Biology Intersect. Praeger Publishers (a short, non-technical version of Reincarnation and Biology).
- (2000). Children Who Remember Previous Lives: A Question of Reincarnation (revised edition).
- (2003). European Cases of the Reincarnation Type. McFarland & Company.
- (2019). Handbook of Psychiatry volume Five
- บทความคัดสรร
- (1949). "Why medicine is not a science", Harper's, April.
- (1952). "Illness from the inside", Harper's, March.
- (1952). "Why people change", Harper's, December.
- (1954). "Psychosomatic medicine, Part I", Harper's, July.
- (1954). "Psychosomatic medicine, Part II", Harper's, August.
- (1957). "Tranquilizers and the mind", Harper's, July.
- (1957). "Schizophrenia", Harper's, August.
- (1957). "Is the human personality more plastic in infancy and childhood?", American Journal of Psychiatry, 114(2), pp. 152-161.
- (1958). "Scientists with half-closed minds" Harper's, November.
- (1959). "A Proposal for Studying Rapport which Increases Extrasensory Perception," Journal of the American Society for Psychical Research, 53, pp. 66-68.
- (1959). "The Uncomfortable Facts about Extrasensory Perception", Harper's, July.
- (1960). "The Evidence for Survival from Claimed Memories of Former Incarnations," Journal of the American Society for Psychical Research, 54, pp. 51-71.
- (1960). "The Evidence for Survival from Claimed Memories of Former Incarnations": Part II. Analysis of the Data and Suggestions for Further Investigations, Journal of the American Society for Psychical Research, 54, pp. 95-117.
- (1961). "An Example Illustrating the Criteria and Characteristics of Precognitive Dreams," Journal of the American Society for Psychical Research, 55, pp. 98-103.
- (1964)."The Blue Orchid of Table Mountain," Journal of the Society for Psychical Research, 42, pp.401-409.
- (1968)."The Combination Lock Test for Survival," Journal of the American Society for Psychical Research, 62, pp.246-254.
- (1970)."Characteristics of Cases of the Reincarnation Type in Turkey and their Comparison with Cases in Two other Cultures," International Journal of Comparative Sociology, 11, pp.1-17.
- (1970)."A Communicator Unknown to Medium and Sitters," Journal of the American Society for Psychical Research, 64, pp.53-65.
- (1970). "Precognition of Disasters," Journal of the American Society for Psychical Research, 64, pp.187-210.
- (1971)."The Substantiability of Spontaneous cases," Proceedings of the Parapsychological Association, No.5, pp.91-128.
- (1972)."Are Poltergeists Living or Are They Dead?," Journal of the American Society for Psychical Research, 66, pp.233-252.
- (1977). Stevenson, IAN (May 1977). "The Explanatory Value of the Idea of Reincarnation". The Journal of Nervous and Mental Disease. 164 (5): 305–326. doi:10.1097/00005053-197705000-00002. PMID 864444.
- (1983). Stevenson, I. (Dec 1983). "American children who claim to remember previous lives". The Journal of Nervous and Mental Disease. 171 (12): 742–748. doi:10.1097/00005053-198312000-00006. PMID 6644283.
- (1986). Stevenson, I. (1986). "Characteristics of Cases of the Reincarnation Type among the Igbo of Nigeria". Journal of Asian and African Studies. 21 (3–4): 204–216. doi:10.1177/002190968602100305. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2013-02-01.
- (1993). "Birthmarks and Birth Defects Corresponding to Wounds on Deceased Persons" (PDF). Journal of Scientific Exploration. 7 (4): 403–410. (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-07.
- with Emily Williams Cook and Bruce Greyson (1998). "Do Any Near-Death Experiences Provide Evidence for the Survival of Human Personality after Relevant Features and Illustrative Case Reports" (PDF). Journal of Scientific Exploration. 12 (3): 377–406. (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-02.
- (1999). Stevenson, I. (Apr 1999). "Past lives of twins". Lancet. 353 (9161): 1359–1360. doi:10.1016/S0140-6736(05)74353-1. PMID 10218554.
- (2000). Stevenson, I. (Apr 2000). "The phenomenon of claimed memories of previous lives: possible interpretations and importance". Medical Hypotheses. 54 (4): 652–659. doi:10.1054/mehy.1999.0920. PMID 10859660.
- (2000). Stevenson, I. (1985). . Journal of Asian and African Studies. 20 (1–2): 13–30. doi:10.1177/002190968502000102. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2012-11-04.
- (2001). Stevenson, I. (August 2001). "Ropelike birthmarks on children who claim to remember past lives". Psychological Reports. 89 (1): 142–144. doi:10.2466/pr0.2001.89.1.142. PMID 11729534.
- with Satwant K. Pasricha; Jürgen Keil; and Jim B. Tucker (2005). "Some Bodily Malformations Attributed to Previous Lives" (PDF). Journal of Scientific Exploration. 19 (3): 159–183. (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-08.
- (2005).Foreword and afterword in Mary Rose Barrington and Zofia Weaver.A World in a Grain of Sand: The Clairvoyance of Stefan Ossowiecki.McFarland Press.
งานของสตีเวนสันจำนวนมากหาได้ออนไลน์ที่ลิงก์นี้ http://www.pflyceum.org/167.html
ดูเพิ่ม
เชิงอรรถ
- สมาคมเพื่อการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ (Society for Scientific Exploration ตัวย่อ SSE) เป็นกลุ่มที่มุ่งมั่นเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์นอกแบบ (fringe science) ความเห็นขององค์กรว่าอะไร/แค่ไหนเป็นการสำรวจทางวิทยาศาสตร์มักจะไม่ตรงกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วไป ผู้ไม่เห็นด้วยอ้างว่า องค์กรอุทิศให้กับไอเดียที่ไม่น่าเชื่อถือ ไกลจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลัก
- เมื่อโต้ข้อวิจารณ์ของพอล เอ็ดวาร์ดสว่า ไอเดียเกี่ยวกับ "ร่างจิตวิญญาณ" (astral body) ที่มีในระหว่างชีวิตเป็นเรื่องเหลือเชื่อ คือโต้ว่า "แม้เมื่อไม่ถกปัญหาเกี่ยวกับกรณีศึกษา (ของสตีเวนสัน) เราก็ยังไม่สามารถอ้างว่า เรา 'รู้' จิตว่า ไม่อาจมีเมื่อไร้สมอง เราไม่รู้อะไรเช่นนั้น... อนึ่ง ข้อตั้งว่ามีการกลับชาติมาเกิด ไม่ได้แสดงนัยถึงธรรมชาติของ 'ร่างจิตวิญญาณ' ว่าไปที่ใดในระหว่างการเกิด ว่ากลับมาเกิดได้อย่างไร ทำไมถึงกลับมาเกิด กลับมาเกิดบ่อยแค่ไหน ว่ามีบุคคลไหนไหมที่กลับมาเกิด และจุดประสงค์ของทั้งหมดนี่คืออะไร จริง ๆ แล้ว ตามกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องกล่าวถึงคำว่า 'ร่างจิตวิญญาณ' ข้อตั้งเแสดงนัยแต่เพียงว่า มีธาตุอันเป็นแก่นของบุคลิกภาพมนุษย์ที่บางครั้งรอดกาารเน่าเปื่อยของร่างกาย (และดังนั้น จึงไม่สามารถระบุว่าเป็นอันเดียวกันกับร่างกาย) แล้วกลับชาติมาเกิดอีก" ดู
- Almeder (1997), p. 502
- Almeder (1992), pp. 35
- American Society for Psychical Research (ASPR) เป็นองค์กรอุทิศให้กับปรจิตวิทยา (การศึกษาปรากฏการณ์ทางจิตที่อธิบายไม่ได้) ในนครนิวยอร์ก โดยมีทั้งสำนักงานและห้องสมุด
- painstaking and unemotional
- cryptomnesia เกิดเมื่อความจำที่ได้ลืมไปแล้วหวนกลับมาโดยไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่เคยรู้แล้วลืมไปแล้ว ทำให้เชื่อว่าเป็นความจำใหม่และดั้งเดิม เป็นความเอนเอียงทางความจำที่บุคคลอาจระลึกผิด ๆ ว่าได้สร้างความคิด แนวคิด ทำนองเพลง หรือเรื่องตลกใหม่ ไม่ได้ตั้งใจลอกเลียนงานของคนอื่น แต่เป็นการระลึกถึงความจำเหมือนเป็นเรื่องใหม่
- เพื่อนจินตนาการ (imaginary friend, pretend friend, invisible friend) เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาและสังคมที่มิตรสัมพันธ์หรือความสัมพันธ์ส่วนตัวอื่น ๆ เกิดในจินตนาการ ไม่ได้มีจริง ๆ แม้ดูเหมือนว่าจะจริงสำหรับผู้ที่มี แต่เด็ก ๆ ปกติก็เข้าใจว่า เพื่อนจินตนาการไม่ได้มีจริง
- Keith Augustine เป็นกรรมการบริหารและหัวหน้าบรรณาธิการของเว็บไซต์อินเทอร์เน็ตอินฟิเด็ลส์ (Internet Infidels) ซึ่งไม่หวังผลกำไรและก่อตั้งขึ้นเพื่อโปรโหมตมุมมองว่าพลังหรือสิ่งเหนือธรรมชาติ/ไสยศาสตร์ไม่มีจริง ๆ คติอย่างหนึ่งขององค์กรก็คือ "เหตุผลหยดหนึ่งในสระแห่งความสับสน" (a drop of reason in a pool of confusion)
- เซโนโกลสซี (อังกฤษ: xenoglossy, xenoglossia, xenolalia) เป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติตามความเชื่อที่บุคคลสามารถพูดหรือเขียนภาษาหนึ่ง ๆ ที่ตนไม่อาจรู้ได้โดยวิธีธรรมชาติ
อ้างอิง
- ↑ "Ian P. Stevenson, M.D., died February 8, 2007 in Charlottesville, Virginia, at age 88" (PDF). University of Virginia School of Medicine. 2019-03-26. (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-26.
- Tanne (2007), Section, pp. 1-2.
-
- Woodhouse (1996), pp. 143-144
- Bache & Grof (2000), p. 34ff
- ดูเว็บไซต์นี้ด้วย . The Daily Telegraph. 2007-02-12. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2007-03-31. สืบค้นเมื่อ 2007-02-16.
- Stevenson, I (2000). "The phenomenon of claimed memories of previous lives: Possible interpretations and importance". Medical Hypotheses. 54 (4): 652–9. doi:10.1054/mehy.1999.0920. PMID 10859660.
- Stevenson, I (1977). "The explanatory value of the idea of reincarnation". The Journal of Nervous and Mental Disease. 164 (5): 305–26. doi:10.1097/00005053-197705000-00002. PMID 864444.
- . Time magazine. 2005-05-24. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2018-07-16.
- ↑ Sheaffer, Robert (September–October 1998). . Skeptical Inquirer, 22.5. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2017-12-18.CS1 maint: uses authors parameter (link) CS1 maint: date format (link)
- ดูการอยู่ในคณะจัดตั้ง Society for Scientific Exploration ดู Stevenson (2006), pp. 19
- ↑ Fox (2007)
- ↑ Carroll (2009)
-
- สำหรับการทำงานให้กับเดอะไทมส์ ดู Fox (2007)
- สำหรับการทำงานให้กับเดอะนิวยอร์กไทมส์ ดู Pandarakalam (2007)
- ↑ Stevenson (2006), pp. 13-14
- Pandarakalam (2007)
- Stevenson (2006), pp. 20 "benevolent silences."
- Debus (1968), pp. 1609
- ↑ (PDF). Archived from the original on 2011-07-20. สืบค้นเมื่อ 2012-11-15.CS1 maint: BOT: original-url status unknown (link)
- Stevenson (1957), pp. 152-161
-
- เรื่องการไม่สามารถแสดงกลไกทางฟิสิกส์ของเขาดู Shroder (2007)
- เรื่องการระมัดระวังไม่ทุ่มตัวอย่างบริบูรณ์ไปที่จุดยืนหนึ่ง ๆ ดู Almeder (1992), pp. [https://books.google.com/books?id=K8-_Vqq6r-cC&pg=PA58 58-61
- Tucker (2005), pp. [https://books.google.com/books?id=JuiGUbZTNTQCpg=PA211 211
- ↑ สำหรับงานของสตีเวนสันใน Harper's ดู
- Stevenson (2006), pp. 13
- "Ian Stevenson", Harper's.
- "Children Who Claim to Remember Previous Lives: Past, Present, and Future Research" (PDF). Journal of Scientific Exploration. 21 (3): 543–552. 2007. (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-07.
- ↑ University of Virginia, Division of Perceptual Studies (1994)
- Stevenson, Ian (2006). (PDF). Journal of Scientific Exploration. 20 (1): 17–18. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2006-07-21.
- Shroder (2007)
- Kelly; Kelly (2007). "p. 234, citing Stevenson". Reincarnation and Biology. 1: 728–745.
- ↑ Edwards, Paul (1996). Reincarnation: A Critical Examination. Prometheus Books. p. 253.CS1 maint: ref=harv (link)
- Brody (1977)
- Lief (1977)
- Rockley (2002)
- Hines (2003), p. 109
- Taylor, F.K. (1965). "Cryptomnesia and plagiarism". British Journal of Psychiatry. 111: 1111–1118.CS1 maint: uses authors parameter (link)
- Baker, Robert (1996). Hidden Memories: Voices and Visions from Within. Prometheus Books.CS1 maint: uses authors parameter (link)
- Wilson, Ian (1981). Mind Out of Time: Reincarnation Investigated. Gollancz.CS1 maint: uses authors parameter (link)
- Taylor, M (1999). Imaginary Companions and the Children Who Create Them. New York: Oxford University Press.CS1 maint: uses authors parameter (link)
-
- Edwards (1996), p. 261 อ้าง C.T.K. Chari, "Reincarnation Research: Method and Interpretation"
- ดูนี้ด้วย Stevenson, Ian (1986). "Reply to C.T.K. Chari". Journal of the Society for Psychical Research. 53: 474–475.CS1 maint: uses authors parameter (link)
- Starobin, Paul (2009-10-07). "Rise of the Godless". National Journal.
- Augustine, Keith (1997). "The Case Against Immortality". Skeptic Magazine. 5 (2). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-05-20.CS1 maint: uses authors parameter (link)
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2007-03-31. สืบค้นเมื่อ 2007-02-16..
- Cadoret (2005)
- สำหรับความว่า เอ็ดวาร์ดสเป็น "นักวิจารณ์ที่น่าเกรงขามที่สุด" ของสตีเวนสัน ดู Bache & Grof (2000), pp. 35
-
- Edwards (1986a), pp. 24-34
- Edwards (1986b), pp. 38-43
- Edwards (1987a), pp. 38-49
- Edwards (1987b), pp. 46-53
- Edwards (1992), Introduction
- Edwards (1996)
- Edwards (1996), pp. 140, 256 (see chapter 16, pp. 253-278)
- Edwards (1996), p. 268 "evidently lives in a cloud-cuckoo-land."
-
- Edwards (1992), pp. 13-14
- Edwards (1996), p. 275;
- McClelland (2010), pp. [https://books.google.com/books?id=S_Leq4U5ihkC&pg=PA144 144
- ↑ Almeder (1992), pp. 34ff, 60
- Stevenson (1966), p. [https://books.google.com/books?id=vIDES6VWl1MC&pg=PA259 259ff
-
- Edwards (1996), pp. 136-138
- Stevenson (1966), pp. 259-269.
-
- Almeder (1997), pp. 510, 519
- ดูนี้ด้วย Woodhouse (1996), pp. 144 [The paradigm war over reincarnation] has pitted Robert Almeder, a nationally distinguished philosopher of science, against Paul Edwards, general editor of the Encyclopedia of Philosophy.
- Edwards (1992), p. 11
- Ian Stevenson. (1974). Introduction in Edward Ryall. Second Time Round. Neville Spearman. pp. 9-31
- ↑ Taylor, John (1980). Science and the Supernatural: An Investigation of Paranormal Phenomena Including Psychic Healing, Clairvoyance, Telepathy, and Precognition by a Distinguished Physicist and Mathematician. Temple Smith. pp. 127–130.CS1 maint: uses authors parameter (link)
- Stevenson, Ian (2003). European Cases of the Reincarnation Type. McFarland. pp. 230–231.CS1 maint: ref=harv (link)
- Bering, Jesse. "Ian Stevenson's Case for the Afterlife: Are We 'Skeptics' Really Just Cynics?". Scientific American Blog Network (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-03. สืบค้นเมื่อ 2017-03-12.
- Matlock, James G. "Ian Stevenson." http://jamesgmatlock.net/resources/researchers/stevenson/ The term was coined in the early 1900s by C. Richet. https://med.virginia.edu/perceptual-studies/wp-content/uploads/sites/267/2015/11/STE7.pdf
- Thomason, Sarah (1984). "Do You Remember Your Previous Life's Language in Your Present Incarnation?". American Speech. 59: 340–350.CS1 maint: uses authors parameter (link)
- Thomason, Sarah (1986–87). "Past Tongues Remembered?". Skeptical Inquirer. 11: 367–75.CS1 maint: uses authors parameter (link) CS1 maint: date format (link)
- Thomason, Sarah (1996). Stein, Gordon (บ.ก.). Xenoglossy (PDF). Encyclopedia of the Paranormal. Prometheus Books. (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-11.CS1 maint: uses authors parameter (link) CS1 maint: uses editors parameter (link)
- Samarin, William J (1976). "Xenoglossy: A Review and Report of a Case by Ian Stevenson". Language. 52 (1): 270–274. doi:10.2307/413229. JSTOR 413229.
- Frawley, William (1985). "Unlearned Language: New Studies in Xenoglossy by Ian Stevenson". Language. 61 (3): 739. doi:10.2307/414443. JSTOR 414443.
- ↑ . Division of Perceptual Studies, University of Virginia. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2002-12-23. สืบค้นเมื่อ 2016-09-01.
- Fitzgerald, Brendan (2014-10-09). "The Combination Lock Test". จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-12.CS1 maint: uses authors parameter (link)
- Nurbakhsh, Javad; Stevenson, Ian; Jahangiri, Hamideh (2019). Handbook of Psychiatry Volume 5. Lap Lambert. ISBN 978-620-0-31642-4.
แหล่งอ้างอิงอื่น ๆ
- Almeder, Robert (1992). Death and Personal Survival: The Evidence for Life After Death. Rowman and Littlefield.CS1 maint: ref=harv (link)
- Almeder, Robert (1997). (PDF). 11 (4): 499–526. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2009-12-29. Cite journal requires
|journal=
(help)CS1 maint: ref=harv (link) - Bache, Christopher M; Grof, Stanislav (2000). Dark Night, Early Dawn: Steps to a Deep Ecology of Mind. Suny Series in Transpersonal and Humanistic Psychology. State University of New York Press. ISBN 9780791446058.CS1 maint: ref=harv (link)
- Brody, Eugene B (September 1977). "Research in Reincarnation and Editorial Responsibility: An Editorial". The Journal of Nervous and Mental Disease. 165 (3): 151.CS1 maint: ref=harv (link) CS1 maint: date and year (link) </ref>
- Cadoret, Remi J. (April 2005). "European Cases of the Reincarnation Type". American Journal of Psychiatry. 162 (4): 823–824. doi:10.1176/appi.ajp.162.4.823. ISSN 0002-953X.CS1 maint: date and year (link)
- Carroll, Robert T (2009-07-07). "Ian Stevenson (1918-2007)". The Skeptic's Dictionary. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-09.CS1 maint: ref=harv (link) CS1 maint: date and year (link)
- . The Daily Telegraph. 2007-02-12. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2007-03-31. สืบค้นเมื่อ 2007-02-16. .
- Debus, Allen G (1968). World Who's in Science. Marquis-Who's Who.CS1 maint: ref=harv (link)
- Edwards, Paul (1992). Edwards, Paul (บ.ก.). Immortality. Prometheus Books. "Introduction" & "The Dependence of Consciousness on the Brain".CS1 maint: uses editors parameter (link) CS1 maint: ref=harv (link)
- Edwards, Paul (1996). Reincarnation: A Critical Examination. Prometheus Books.CS1 maint: ref=harv (link)
- Fox, Margalit (2007-02-18). "Ian Stevenson Dies at 88; Studied Claims of Past Lives". The New York Times. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-02.CS1 maint: ref=harv (link) CS1 maint: date and year (link)
- Terence, Hines (2003). Pseudoscience and the Paranormal. Prometheus Books.CS1 maint: ref=harv (link)
- Tanne, Janice Hopkins (2007). "Ian Pretyman Stevenson". BMJ. 334 (7595): 700–700. doi:10.1136/bmj.39141.529792.65. ISSN 0959-8138. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-16.CS1 maint: ref=harv (link)
- Kelly, Emily Williams (2007)."Ian P. Stevenson" 2013-05-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, University of Virginia School of Medicine, February (obituary).
- Kelly, Edward F. and Kelly, Emily Williams (2007).Irreducible Mind: Toward a Psychology for the 21st Century.Rowman & Littlefield.
- Lester, David (2005).Is There Life After Death? An Examination of the Empirical Evidence.McFarland.
- Lief, Harold (September 1977). "Commentary on Ian Stevenson's 'The Evidence of Man's Survival After Death". The Journal of Nervous and Mental Disease. 165 (3).CS1 maint: date and year (link)
- McClelland, Norman C (2010). Encyclopedia of Reincarnation and Karma. McFarland.CS1 maint: ref=harv (link)
- Pandarakalam, James Paul (2007). "Ian Pretyman Stevenson". BMJ. 334 (7595): 700–700. doi:10.1136/bmj.39141.529792.65. ISSN 0959-8138. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-02.CS1 maint: ref=harv (link)
- Shroder, Tom (2007-02-11). "Ian Stevenson; Sought To Document Memories Of Past Lives in Children". The Washington Post. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-03-03.CS1 maint: ref=harv (link) CS1 maint: date and year (link)
- Stevenson, Ian (1957). "Is the human personality more plastic in infancy and childhood?". American Journal of Psychiatry. 114 (2): 152–161. doi:10.1176/ajp.114.2.152. PMID 13444481.CS1 maint: ref=harv (link)
- Stevenson, Ian (1966). Twenty Cases Suggestive of Reincarnation. University of Virginia Press.CS1 maint: ref=harv (link)
- Stevenson, Ian (1977). "The explanatory value of the idea of reincarnation". The Journal of Nervous and Mental Disease. 164 (5): 305–326. doi:10.1097/00005053-197705000-00002. PMID 864444.
- Stevenson, Ian (1989). (PDF). Archived from the original on 2011-07-20. สืบค้นเมื่อ 2012-11-15.CS1 maint: BOT: original-url status unknown (link), The Flora Levy Lecture in the Humanities.
- Stevenson, Ian (1992)."Birthmarks and Birth Defects Corresponding to Wounds on Deceased Persons", paper presented at the Eleventh Annual Meeting of the Society for Scientific Exploration, Princeton University, June 11-13.
- Stevenson, Ian (2000). "The phenomenon of claimed memories of previous lives: possible interpretations and importance". Medical Hypotheses. 54 (4): 652–659. doi:10.1054/mehy.1999.0920. PMID 10859660.
- Stevenson, Ian (2006). (PDF). Journal of Scientific Exploration. 20 (1). Archived from the original on 2008-05-14. สืบค้นเมื่อ 2008-10-25.CS1 maint: ref=harv (link) CS1 maint: BOT: original-url status unknown (link)
- Tucker, Jim B. (2007). "Children Who Claim to Remember Previous Lives: Past, Present and Future Research" (PDF). Journal of Scientific Exploration. 21 (3): 543–552. (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-07.
- Tucker, Jim B (2005). Life Before Life: A Scientific Investigation of Children's Memories of Previous Lives. St.Martin's Press.CS1 maint: ref=harv (link)
- . Archived from the original on 2008-05-14. สืบค้นเมื่อ 2007-02-21.CS1 maint: BOT: original-url status unknown (link), School of Medicine.
- . Archived from the original on 2008-05-14. สืบค้นเมื่อ 2009-07-25.CS1 maint: BOT: original-url status unknown (link), Division of Perceptual Studies, School of Medicine.
- . University of Virginia, Division of Perceptual Studies, School of Medicine. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2010-07-20.
- Woodhouse, Mark (1996). Paradigm Wars: Worldviews for a New Age. Frog Books.CS1 maint: ref=harv (link)
แหล่งข้อมูลอื่น
- อีแอน สตีเวนสัน/การกลับชาติมาเกิด
- Almeder, Robert (2000)."Reincarnation Evidence: Stevenson's Research" ที่ยูทูบ, interview with Robert Almeder, professor of philosophy at Georgia State University (video).
- Moallem, Ehsan (2014)."Spirituality Scientific Evidence - Reincarnation (Part 4) (6 of 6)" ที่ยูทูบ, presentation of Ian Stevenson's work by Ehsan Moallem (video)
- Almeder, Robert (1988)."Response to 'Past Tongues Remembered'," Skeptical Inquirer, 12, Spring.
- Almeder, Robert (1987).Beyond Death.Charles C. Thomas.
- Alvarado, Carlos S. "Ian Stevenson, Selected Bibliography", Parapsychological Association.
- Edelmann, Jonathan; Bernet, William. (PDF). Journal of Consciousness Studies. 14 (12): 92. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2012-07-28.
- Edwards, Paul (1986a). "The Case Against Reincarnation: Part 1". Free Inquiry. 6 (Fall): 24–34.CS1 maint: ref=harv (link)
- Edwards, Paul (1986–1987). "The Case Against Reincarnation: Part 2". Free Inquiry. 7 (Winter): 38–43.CS1 maint: ref=harv (link) CS1 maint: date and year (link) CS1 maint: date format (link)
- Edwards, Paul (1986–1987). "The Case Against Reincarnation: Part 3". Free Inquiry. 7 (Spring): 38–49.CS1 maint: ref=harv (link) CS1 maint: date and year (link) CS1 maint: date format (link)
- Edwards, Paul (1986–1987). "The Case Against Reincarnation: Part 4". Free Inquiry. 7 (Summer): 46–53.CS1 maint: ref=harv (link) CS1 maint: date and year (link) CS1 maint: date format (link)
- Griffin, David Ray (1997).Parapsychology, Philosophy, and Spirituality: A Postmodern Exploration.SUNY Press (particularly chapter 6, "Evidence from Cases of the Reincarnation Type").
- Hales, Steven (2001a). "Evidence and the afterlife" (PDF). Philosophia. 28 (1–4): 335–346. doi:10.1007/bf02379784. (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-03.
- Almeder, Robert (2001). "On reincarnation: A reply to Hales", Philosophia.
- Hales, Steven (2001b)."Reincarnation redux," Philosophia, 28(1-4): 359-367.
- Irwin, Harvey J. (2004).An Introduction to Parapsychology.McFarland.
- Martin, Raymond (1994)."Survival of Bodily Death: A Question of Values", in John Donnelly (ed.) Language, Metaphysics, and Death.Fordham University Press.
- Rockley, Richard (2002-11-01). "Book Review: Children who remember previous lives, A question of reincarnation, Ian Stevenson". Skeptic Report. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-08-07.CS1 maint: ref=harv (link) CS1 maint: date and year (link)
- Spence, Lewis (2003)."Stevenson, Ian", Encyclopedia of Occultism and Parapsychology.Kessinger Publishing.
- Stanford, Rex (2008). "Ian Stevenson: A Man from Whom We Should Learn" (PDF). Journal of Scientific Exploration. 22 (1): 120–124. (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-06.
- Tucker, Jim B. (2008). "Ian Stevenson and Cases of the Reincarnation Type" (PDF). Journal of Scientific Exploration. 22 (1): 36–43. (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-04-11.
- Wilson, Ian (1981).Mind Out of Time?: Reincarnation Claims Investigated.Orion Books Limited.
- Wilson, Ian (1988). "Review of Children Who Remember Previous Lives by Ian Stevenson". Journal of the Society for Psychical Research. 55: 227–229.
- จิต
- Almeder, Robert (2011)."The Major Objections from Reductive Materialism Against Belief in the Existence of Cartesian Mind-Body Dualism", in Alexander Moreira-Almeida and Franklin Santana Santos, Exploring Frontiers of the Mind-Brain Relationship, Springer, pp. 16-33
- Graziano, Michael S. A.; Kastner, Sabine (2011). "Human consciousness and its relationship to social neuroscience: A novel hypothesis". Cognitive Neuroscience. 2 (2): 98–113. doi:10.1080/17588928.2011.565121. PMC 3223025. PMID 22121395.
- Levine, Joseph (2001).Purple Haze: The Puzzle of Consciousness.Oxford University Press.
- Penrose, Roger (1994).Shadows of the Mind: A Search for the Missing Science of Consciousness.Oxford University Press.
- Velman, Max and Schneider, Susan (2007).The Blackwell Companion to Consciousness.University of Oxford Press.
- Zelazo, Philip David; Moscovitch, Morris;and Thompson, Evan (eds.) (2007).The Cambridge Handbook of Consciousness.University of Cambridge Press.
- เรื่องอื่น ๆ
- Almeder, Robert (1998).Harmless naturalism: The limits of science and the nature of philosophy.Open Court Publishers.
- Kurtz, Paul (2006). "Two Sources of Unreason in Democratic Society: The paranormal and religion". Annals of the New York Academy of Sciences. 775 (1): 493–504. doi:10.1111/j.1749-6632.1996.tb23166.x. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2012-12-18.
- Schumacher, Bernard N. (2005).Death and Mortality in Contemporary Philosophy.Cambridge University Press.