การระบาดทั่วของโควิด-19 เรียงตามประเทศและดินแดน
เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ |
บทความนี้แสดงประเทศและดินแดนที่ได้รับผลกระทบและมีการตอบสนองต่อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) อันเนื่องมาจากการระบาดทั่วของโคโรนาไวรัส พ.ศ. 2562–2563 ซึ่งปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในอู่ฮั่น ประเทศจีน ทั้งนี้อาจไม่รวมถึงการตอบสนองและมาตรการสำคัญ
การระบาดตามประเทศและดินแดน
การระบาดทั่วของโควิด-19 เรียงตามประเทศและดินแดน | |||||
---|---|---|---|---|---|
ประเทศและดินแดน | ผู้ป่วย | เสียชีวิต | หาย | อ้างอิง | |
243 | 170,354,142 | 3,541,800 | – | ||
สหรัฐ | 33,416,364 | 600,067 | – | ||
อินเดีย | 27,894,800 | 325,972 | 25,454,320 | ||
บราซิล | 16,515,120 | 461,931 | 14,912,744 | ||
ฝรั่งเศส | 5,657,572 | 109,387 | – | ||
ตุรกี | 5,242,911 | 47,405 | 5,105,042 | ||
รัสเซีย | 5,071,917 | 121,501 | 4,684,585 | ||
สหราชอาณาจักร | 4,484,056 | 127,781 | – | ||
อิตาลี | 4,216,003 | 126,046 | 3,851,661 | ||
อาร์เจนตินา | 3,753,546 | 77,456 | 3,319,005 | ||
เยอรมนี | 3,695,283 | 89,008 | 3,471,139 | ||
สเปน | 3,668,658 | 79,905 | – | ||
โคลอมเบีย | 3,383,279 | 88,282 | 3,153,961 | ||
อิหร่าน | 2,902,094 | 79,939 | 2,441,528 | ||
โปแลนด์ | 2,871,950 | 73,738 | 2,638,222 | ||
เม็กซิโก | 2,412,810 | 223,507 | 1,926,287 | ||
ยูเครน | 2,202,494 | 50,536 | 2,041,082 | ||
เปรู | 1,955,469 | 69,342 | 1,905,433 | ||
อินโดนีเซีย | 1,816,041 | 50,404 | 1,663,998 | ||
เช็กเกีย | 1,661,159 | 30,104 | 1,617,517 | ||
แอฟริกาใต้ | 1,659,070 | 56,363 | 1,554,184 | ||
เนเธอร์แลนด์ | 1,647,418 | 17,621 | – | ||
แคนาดา | 1,378,409 | 25,506 | 1,316,589 | ||
ชิลี | 1,369,756 | 29,047 | 1,295,646 | ||
ฟิลิปปินส์ | 1,223,627 | 20,860 | 1,149,010 | ||
อิรัก | 1,197,082 | 16,351 | 1,111,466 | ||
โรมาเนีย | 1,077,584 | 30,276 | 1,039,173 | ||
สวีเดน | 1,068,473 | 14,451 | – | ||
เบลเยียม | 1,059,763 | 24,921 | – | ||
ปากีสถาน | 918,936 | 20,736 | 839,322 | ||
โปรตุเกส | 848,658 | 17,023 | 808,813 | ||
อิสราเอล | 839,457 | 6,411 | 832,693 | ||
ฮังการี | 804,382 | 29,728 | 696,029 | ||
บังกลาเทศ | 798,830 | 12,583 | 738,805 | ||
ญี่ปุ่น | 741,674 | 12,920 | 671,772 | ||
จอร์แดน | 734,659 | 9,436 | 713,633 | ||
เซอร์เบีย | 712,224 | 6,854 | – | ||
สวิสเซอร์แลนด์ | 693,023 | 10,253 | 317,600 | ||
ออสเตรีย | 644,586 | 10,596 | 628,312 | ||
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 569,073 | 1,677 | 548,785 | ||
มาเลเซีย | 565,533 | 2,729 | 484,787 | ||
เนปาล | 557,124 | 7,272 | 440,955 | ||
เลบานอน | 540,277 | 7,723 | 517,859 | ||
โมร็อกโก | 519,108 | 9,143 | 506,962 | ||
ซาอุดีอาระเบีย | 449,191 | 7,347 | 432,138 | ||
เอกวาดอร์ | 425,841 | 20,545 | 375,151 | ||
บัลแกเรีย | 418,274 | 17,662 | 380,537 | ||
กรีซ | 401,301 | 12,054 | 363,915 | ||
เบลารุส | 393,807 | 2,841 | 384,933 | ||
สโลวาเกีย | 389,690 | 12,339 | – | ||
คาซัคสถาน | 385,144 | 3,935 | 353,545 | ||
ปานามา | 377,428 | 6,366 | 364,783 | ||
โบลิเวีย | 366,714 | 14,435 | 291,325 | ||
โครเอเชีย | 356,141 | 8,014 | 345,823 | ||
ปารากวัย | 350,613 | 8,987 | 288,232 | ||
จอร์เจีย | 343,603 | 4,757 | 326,423 | ||
ตูนิเซีย | 343,374 | 12,574 | 301,273 | ||
อาเซอร์ไบจาน | 333,723 | 4,903 | 323,627 | ||
คอสตาริกา | 314,102 | 3,963 | 242,019 | ||
ปาเลสไตน์ | 307,838 | 3,492 | 300,524 | ||
คูเวต | 307,812 | 1,771 | 292,701 | ||
อุรุกวัย | 291,488 | 4,213 | 250,049 | ||
สาธารณรัฐโดมินิกัน | 290,526 | 3,628 | 238,810 | ||
เดนมาร์ก | 280,383 | 2,516 | 264,562 | ||
ลิทัวเนีย | 274,199 | 4,257 | 254,582 | ||
เอธิโอเปีย | 271,345 | 4,155 | 237,544 | ||
ไอร์แลนด์ | 261,604 | 4,941 | – | ||
อียิปต์ | 260,659 | 15,009 | 191,475 | ||
มอลโดวา | 255,105 | 6,100 | 247,349 | ||
กัวเตมาลา | 253,837 | 8,121 | 232,359 | ||
สโลวีเนีย | 253,493 | 4,372 | – | ||
ฮอนดูรัส | 236,952 | 6,296 | 84,389 | ||
บาห์เรน | 235,698 | 939 | 205,962 | ||
เวเนซุเอลา | 230,147 | 2,595 | 212,199 | ||
อาร์มีเนีย | 222,636 | 4,432 | 212,981 | ||
กาตาร์ | 217,230 | 554 | 213,007 | ||
โอมาน | 216,183 | 2,334 | 199,287 | ||
บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา | 203,839 | 9,211 | 174,236 | ||
ลิเบีย | 185,181 | 3,125 | 171,637 | ||
ศรีลังกา | 183,452 | 1,441 | 149,825 | ||
เคนยา | 170,647 | 3,157 | 116,776 | ||
ไนจีเรีย | 166,315 | 2,071 | 156,558 | ||
ไทย | 159,792 | 1,031 | 108,345 | ||
นอร์ทมาซิโดเนีย | 155,269 | 5,408 | 148,664 | ||
พม่า | 143,571 | 3,216 | 132,318 | ||
คิวบา | 141,166 | 950 | 134,021 | ||
เกาหลีใต้ | 139,910 | 1,957 | 130,381 | ||
ลัตเวีย | 133,098 | 2,370 | 125,712 | ||
แอลเบเนีย | 132,309 | 2,450 | 129,308 | ||
เอสโตเนีย | 129,486 | 1,251 | 122,997 | ||
แอลจีเรีย | 128,456 | 3,460 | 89,419 | ||
นอร์เวย์ | 124,773 | 783 | 88,952 | ||
ปวยร์โตรีโก | 121,955 | 2,501 | – | ||
คอซอวอ | 107,405 | 2,243 | 102,782 | ||
คีร์กีซสถาน | 104,555 | 1,803 | 98,300 | ||
มอนเตเนโกร | 99,605 | 1,583 | 97,161 | ||
อุซเบกิสถาน | 99,580 | 687 | 95,250 | ||
แซมเบีย | 95,050 | 1,278 | 91,752 | ||
กานา | 93,898 | 785 | 91,961 | ||
ฟินแลนด์ | 92,244 | 948 | 31,000 | ||
สาธารณรัฐประชาชนจีน | 91,072 | 4,636 | 86,117 | ||
แคเมอรูน | 77,982 | 1,270 | 57,008 | ||
เอลซัลวาดอร์ | 73,236 | 2,241 | 68,408 | ||
ไซปรัส | 72,407 | 360 | – | ||
อัฟกานิสถาน | 71,838 | 2,944 | 57,450 | ||
โมซัมบิก | 70,780 | 836 | 69,507 | ||
ลักเซมเบิร์ก | 69,830 | 814 | 67,993 | ||
สิงคโปร์ | 62,028 | 33 | 61,423 | ||
มัลดีฟส์ | 61,844 | 156 | 36,588 | ||
มองโกเลีย | 57,512 | 272 | 49,754 | ||
นามิเบีย | 54,659 | 818 | 50,241 | ||
บอตสวานา | 52,865 | 809 | 49,641 | ||
ทรานส์นีสเตรีย | 49,186 | 1,192 | 47,510 | ||
จาเมกา | 48,374 | 942 | 24,866 | ||
โกตดิวัวร์ | 47,233 | 303 | 46,642 | ||
ยูกันดา | 45,931 | 362 | 43,401 | ||
เซเนกัล | 41,296 | 1,138 | 39,932 | ||
มาดากัสการ์ | 41,234 | 829 | 39,101 | ||
ซิมบับเว | 38,933 | 1,594 | 36,578 | ||
สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ | 38,851 | 2,927 | 31,401 | ||
ซูดาน | 35,495 | 2,630 | 29,270 | ||
มาลาวี | 34,335 | 1,155 | 32,609 | ||
แองโกลา | 34,180 | 757 | 27,646 | ||
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก | 31,557 | 782 | 27,665 | ||
มอลตา | 30,533 | 419 | 30,046 | ||
กาบูเวร์ดี | 30,359 | 264 | 28,428 | ||
ออสเตรเลีย | 30,098 | 910 | – | ||
กัมพูชา | 29,404 | 209 | 22,188 | ||
รวันดา | 26,892 | 352 | 25,602 | ||
ซีเรีย | 24,440 | 1,763 | 21,593 | ||
กาบอง | 24,365 | 150 | 21,791 | ||
กินี | 23,172 | 161 | 20,971 | ||
ตรินิแดดและโตเบโก | 23,001 | 470 | 13,281 | ||
มอริเตเนีย | 19,494 | 463 | 18,475 | ||
เฟรนช์พอลินีเชีย | 18,860 | 142 | 18,658 | ||
เอสวาตีนี | 18,591 | 673 | 17,867 | ||
กายอานา | 16,910 | 385 | 14,506 | ||
ปาปัวนิวกินี | 15,415 | 162 | 14,343 | ||
อับคาเซีย | 15,292 | 230 | 14,589 | ||
ซูรินาม | 14,764 | 292 | 11,585 | ||
โซมาเลีย | 14,624 | 759 | 6,415 | ||
มาลี | 14,265 | 517 | 9,700 | ||
เฮติ | 14,258 | 307 | 12,528 | ||
ทาจิกิสถาน | 13,714 | 91 | 13,218 | ||
อันดอร์รา | 13,693 | 127 | 13,416 | ||
โตโก | 13,447 | 125 | 12,737 | ||
บูร์กินาฟาโซ | 13,430 | 166 | 13,248 | ||
เบลีซ | 12,791 | 324 | 12,378 | ||
กือราเซา | 12,272 | 122 | 12,121 | ||
ฮ่องกง | 11,838 | 210 | 11,561 | ||
บาฮามาส | 11,745 | 229 | 10,642 | ||
สาธารณรัฐคองโก | 11,658 | 153 | 8,208 | ||
จิบูตี | 11,528 | 154 | 11,364 | ||
เซเชลส์ | 11,145 | 40 | 9,936 | ||
อารูบา | 10,978 | 107 | 10,810 | ||
เลโซโท | 10,825 | 326 | 6,434 | ||
เซาท์ซูดาน | 10,688 | 115 | 10,514 | ||
อิเควทอเรียลกินี | 8,529 | 118 | 8,146 | ||
ไต้หวัน | 8,160 | 109 | 1,133 | ||
กวม | 8,156 | 139 | 7,962 | ||
เบนิน | 8,025 | 101 | 7,893 | ||
นิการากัว | 7,324 | 186 | – | ||
นอร์เทิร์นไซปรัส | 7,139 | 33 | 6,825 | ||
เวียดนาม | 7,107 | 47 | 2,950 | ||
สาธารณรัฐแอฟริกากลาง | 7,085 | 98 | 5,112 | ||
เยเมน | 6,737 | 1,320 | 3,427 | ||
ติมอร์-เลสเต | 6,622 | 15 | 3,915 | ||
ไอซ์แลนด์ | 6,576 | 30 | 6,505 | ||
แกมเบีย | 5,990 | 178 | 5,767 | ||
ไนเจอร์ | 5,410 | 192 | 5,083 | ||
ซานมารีโน | 5,089 | 90 | 4,995 | ||
เซนต์ลูเชีย | 5,053 | 77 | 4,799 | ||
ชาด | 4,929 | 173 | 4,746 | ||
บุรุนดี | 4,754 | 6 | 773 | ||
สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์ | 4,723 | 437 | 4,115 | ||
โซมาลีแลนด์ | 4,608 | 311 | 3,899 | ||
ยิบรอลตาร์ | 4,293 | 94 | 4,192 | ||
เซียร์ราลีโอน | 4,140 | 79 | 3,128 | ||
เอริเทรีย | 4,061 | 14 | 3,812 | ||
บาร์เบโดส | 4,012 | 47 | 3,922 | ||
คอโมโรส | 3,881 | 146 | 3,719 | ||
กินี-บิสเซา | 3,751 | 68 | 3,493 | ||
หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ | 3,383 | 27 | 3,266 | ||
เซาท์ออสซีเชีย | 3,339 | 60+ | 3,198 | ||
เจอร์ซีย์ | 3,243 | 69 | 3,177 | ||
ลิกเตนสไตน์ | 3,008 | 58 | 2,929 | ||
สาธารณรัฐอาร์ทซัค | 2,751 | 31 | 337 | ||
โมนาโก | 2,503 | 32 | 2,461 | ||
เบอร์มิวดา | 2,491 | 32 | 2,428 | ||
หมู่เกาะเติกส์และเคคอส | 2,415 | 17 | 2,381 | ||
ซินต์มาร์เติน | 2,414 | 28 | 2,315 | ||
เซาตูเมและปรินซีปี | 2,345 | 37 | 2,291 | ||
นิวซีแลนด์ | 2,316 | 26 | 2,274 | ||
ไลบีเรีย | 2,179 | 86 | 2,033 | ||
เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ | 2,006 | 12 | 1,831 | ||
ลาว | 1,911 | 3 | 1,426 | ||
ภูฏาน | 1,612 | 1 | 1,275 | ||
ไอล์ออฟแมน | 1,592 | 29 | 1,561 | ||
โบแนเรอ | 1,586 | 17 | 1,549 | ||
มอริเชียส | 1,367 | 18 | 1,191 | ||
แอนติกาและบาร์บูดา | 1,258 | 42 | 1,206 | ||
เกิร์นซีย์ | 822 | 14 | 808 | ||
สาธารณรัฐประชาธิปไตยอาหรับซาห์ราวี | 732 | 42 | 649 | ||
หมู่เกาะแฟโร | 718 | 1 | 669 | ||
หมู่เกาะเคย์แมน | 581 | 2 | 567 | ||
แทนซาเนีย | 509 | 21 | 183 | ||
วาลิสและฟูตูนา | 445 | 7 | 438 | ||
ฟีจี | 401 | 4 | 164 | ||
หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน | 284 | 1 | 282 | ||
บรูไน | 240 | 3 | 228 | ||
โดมินิกา | 188 | 0 | 172 | ||
หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา | 183 | 2 | 32 | ||
เกรเนดา | 160 | 1 | 158 | ||
นิวแคลิโดเนีย | 128 | 0 | 30 | ||
แองกวิลลา | 109 | 0 | 109 | ||
เซนต์คิตส์และเนวิส | 68 | 0 | 45 | ||
หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ | 63 | 0 | 63 | ||
แอนตาร์กติกา | 58 | 0 | 0 | ||
มาเก๊า | 51 | 0 | 49 | ||
กรีนแลนด์ | 40 | 0 | 33 | ||
นครรัฐวาติกัน | 29 | 0 | 27 | ||
แซงปีแยร์และมีเกอลง | 25 | 0 | 25 | ||
มอนต์เซอร์รัต | 20 | 1 | 18 | ||
ซินต์เอิสตาซียึส | 20 | 0 | 20 | ||
หมู่เกาะโซโลมอน | 20 | 0 | 18 | ||
ซาบา | 7 | 0 | 7 | ||
เซนต์เฮเลนา อัสเซนชัน และตริสตันดากูนยา | 7 | 0 | 7 | ||
บริติชอินเดียนโอเชียนเทร์ริทอรี | 5 | 0 | 2 | ||
สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ | 4 | 0 | 4 | ||
อเมริกันซามัว | 4 | 0 | 3 | ||
ซามัว | 4 | 0 | 2 | ||
วานูอาตู | 3 | 0 | 3 | ||
อ่าวกวนตานาโม | 2 | 0 | 2 | ||
คิริบาส | 2 | 0 | 0 | ||
สหพันธรัฐไมโครนีเซีย | 1 | 0 | 1 | ||
พาหนะระหว่างประเทศ | |||||
เรือยูเอสเอส ทีโอดอร์รูสเวลต์ | 1,102 | 1 | 751 | ||
เรือชาร์ลเดอโกล | 1,081 | 0 | 0 | ||
เรือไดมอนด์พรินเซส | 712 | 14 | 698 | ||
เรือคอสตาแอตแลนติกา | 148 | 0 | 148 | ||
เรือเกร็กมอร์ติเมอร์ | 128 | 1 | – | ||
เรือเอ็มเอส ซานดัม | 13 | 4 | – | ||
เรือคอรัลพรินเซส | 12 | 3 | – | ||
เรือซีดรีมวัน | 9 | 0 | – | ||
เรือฮาเอ็นเอลเอ็มเอส ดลแฟง | 8 | 0 | 8 | ||
ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16:00 น. | |||||
หมายเหตุ
|
มีผู้ป่วยยืนยันแล้ว
ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2564 ประเทศไมโครนีเซีย พบผู้ติดเชื้อ 1 รายนับเป็นประเทศล่าสุดที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2)
ในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2564 ที่สนามบินเซนต์เฮเลนา พบผู้ติดเชื้อ 1 รายส่งผลให้เซนต์เฮเลนาเป็นดินแดนล่าสุดที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2)โดยผู้ป่วยเดินทางด้วยเที่ยวบิน สายการบินเช่าเหมาลำ เดินทางจากท่าอากาศยานลอนดอนสแตนสเต็ด
ณ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลามาตรฐานกรีนิช 05.36 น. มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ยืนยันแล้ว 201,717,461 คนใน 229 ประเทศและดินแดน มีผู้เสียชีวิตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้ว 4,280,618 คน และผู้หายป่วยแล้ว 181,473,371 คน
ณ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลามาตรฐานกรีนิช 05.26 น. มีจำนวน 11 ประเทศ ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100000 ราย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ประเทศบราซิล ประเทศอินเดีย ประเทศเม็กซิโก สหราชอาณาจักร ประเทศอิตาลี ประเทศรัสเซีย ประเทศฝรั่งเศส ประเทศเปรู ประเทศโคลอมเบีย ประเทศอาร์เจนตินา
มีจำนวน 15 ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80,000 ราย โดย ประเทศสเปน รายงานรวม 81,643 ราย เป็นอันดับที่ 15 ของโลก
มีจำนวน 19 ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50,000 รายขึ้นไปโดย ประเทศตุรกี มีผู้เสียชีวิตรวม 51,519 ราย เป็นอันดับที่ 19 ของโลก
มีจำนวน 30 ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20000 รายขึ้นไปโดย ประเทศตูนิเซีย มีผู้เสียชีวิตรวม 20,226 ราย เป็นอันดับที่ 30 ของโลก
มีจำนวน 46 ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10000 รายขึ้นไปโดย ประเทศจอร์แดน มีผู้เสียชีวิตรวม 10,059 ราย เป็นอันดับที่ 46 ของโลก
มีจำนวน 67 ประเทศ ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5000 รายขึ้นไป โดย ประเทศอาเซอร์ไบจาน มีผู้เสียชีวิต 5,030 ราย อันดับที่ 67 ของโลก
อีกทั้งยังพบผู้ป่วยในเรือสำราญอีก 26 ลำ มีผู้เสียชีวิตบนเรือ เรือ เอ็มเอส ซานดัม 2 ราย และ ไดมอนด์พรินเซส (เรือ) 13 ราย เสียชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่น พื้นที่เหนือสุดของโลกที่พบผู้เสียชีวิตได้แก่แคว้นมูร์มันสค์ พื้นที่ใต้สุดของโลกที่พบผู้เสียชีวิตได้แก่ดินแดนแอนตาร์กติกาของชิลี
ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งตรงกับวันสิ้นปี เวลามาตรฐานกรีนิช 23.59 น. มีผู้ติดเชื้อรวม 83,745,648 ราย มีผู้เสียชีวิตรวม 1,824,074 ราย มีผู้หายป่วย 59,279,270 ราย
ยุโรป
ในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลามาตรฐานกรีนิช 01.40 น. จำนวนผู้เสียชีวิตในทวีปยุโรป คิดเป็น 32.16 % ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก
ณ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เมื่อเรียงตามจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในแต่ละประเทศ 25 อันดับแรกของโลก พบว่า 12 ประเทศอยู่ในทวีปยุโรปคิดเป็นอัตราร้อยละ 48 % โดยจำนวนประเทศ 25 อันดับแรกของโลกมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 25,000 รายของแต่ละประเทศ และเมื่อเรียงตามจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด 10 อันดับแรกของโลก พบว่าอยู่ในทวีปยุโรป 5 ประเทศ หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 50
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของทวีปยุโรปอยู่ที่ ประเทศฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ประเทศรัสเซีย
ผู้ป่วยรายแรก ๆ ของทวีปยุโรปมีรายงานจากในประเทศฝรั่งเศสและในประเทศเยอรมนีรวมถึงประเทศอื่น ๆ โดยเป็นผู้ป่วยเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น จนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ได้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ขึ้นในประเทศอิตาลี ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณตอนเหนือของมิลาน จากนั้นมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากการแพร่กระจายของโรคไปทั่วทั้งทวีปยุโรป โดยหลังจากที่ประเทศมอนเตเนโกรได้รายงานการพบผู้ติดเชื้อเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ทำให้มีผู้ป่วยอยู่ในทุกประเทศเอกราชของทวีปยุโรป
ต่อเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ได้มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อในไอล์ออฟแมนซึ่งเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร และพบการติดเชื้อในดินแดนที่ยังมีปัญหาข้อพิพาทเรื่องอำนาจอธิปไตยของตนเองอย่างทรานส์นีสเตรียนอกจากนี้ยังพบการติดเชื้อในดินแดนปกครองตนเองอย่างหมู่เกาะโอลันด์ทำให้การติดเชื้อพบในทุกประเทศเอกราชและของทวีปยุโรป ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้ทวีปยุโรปเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของไวรัสหลังจากสถานการณ์ดีขึ้นในประเทศจีน ณ วันที่ 2 ธันวาคม วาเลรี ฌิสการ์ แด็สแต็ง อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส ถึงแก่อสัญกรรมจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ณ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ผู้เสียชีวิตในทวีปยุโรปจำนวนสูงสุด 12 อันดับแรก (นับเฉพาะทวีปยุโรป) ได้แก่ สหราชอาณาจักร 127,823 ราย ประเทศอิตาลี 126,415 ราย ประเทศรัสเซีย 123,436 ราย ประเทศฝรั่งเศส 109,916 ราย ประเทศเยอรมนี 89,733 ราย ประเทศสเปน 80196 ราย ประเทศโปแลนด์ 74,139 ราย ประเทศยูเครน 51,140 ราย ประเทศโรมาเนีย 30,725 ราย ประเทศเช็กเกีย 30,157 ราย ประเทศฮังการี 29,842 ราย ประเทศเบลเยียม 25,014 ราย ทั้ง 12 ประเทศยังจัดว่าเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิต ติด 25 อันดับแรกของโลก (มากกว่า 25,000 รายขึ้นไป)
ณ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลามาตรฐานกรีนิช 08.23 น. ผู้ติดเชื้อในทวีปยุโรป 46,774,284 ราย และเสียชีวิตรวม 1,076,009 ราย
พบผู้ติดเชื้อแต่ไม่พบผู้เสียชีวิตที่ หมู่เกาะโอลันด์ และ นครรัฐวาติกัน พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดได้แก่ หมู่เกาะแฟโร เสียชีวิต 1 ราย
พื้นที่ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อได้แก่ สฟาลบาร์ และ ยานไมเอน ไม่พบผู้ติดเชื้อ
ดินแดนอาณานิคม
ณ วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564 หมู่เกาะที่มีผู้เสียชีวิตเพียงรายเดียวได้แก่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน (หมู่เกาะในทวีปอเมริกาเหนือ) ส่วน หมู่เกาะเคย์แมน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ไอล์ออฟแมน มีผู้เสียชีวิต 25 ราย หมู่เกาะแชนเนล มีผู้เสียชีวิต 86 ราย เกิร์นซีย์ มีผู้เสียชีวิต 14 ราย เรอูนียง มีผู้เสียชีวิต 52 ราย หมู่เกาะเติกส์และเคคอส มีผู้เสียชีวิต 17 ราย
ณ วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564 แซ็งปีแยร์และมีเกอลง มีผู้ติดเชื้อ 16 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต แองกวิลลา มีผู้ติดเชื้อ 18 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
รัสเซีย
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ประเทศรัสเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 4,702,101 ราย เป็นอันดับ 5 ของโลก และเสียชีวิต 105,582 ราย เป็นอันดับที่ 7 ของโลก
รัสเซียเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุดโดยผู้ป่วยโควิดเสียชีวิต 59 รายที่แคว้นมูร์มันสค์
ทวีปอเมริกาเหนือ
ณ วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 สหรัฐอเมริกา ประเทศเม็กซิโก และ ประเทศแคนาดา เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของทวีปอเมริกาเหนือ
ณ วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ทวีปอเมริกาเหนือมีจำนวน 3 ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตในแต่ละประเทศมากกว่า 23,600 ราย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ประเทศเม็กซิโก ประเทศแคนาดา จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งทวีปอเมริกาเหนือคิดเป็น 27.92 %
ณ วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิต 27 ราย ขณะที่ หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย หมู่เกาะฮาวาย มีผู้เสียชีวิต 485 ราย
ประเทศที่ไม่พบผู้เสียชีวิตได้แก่ ประเทศดอมินีกา แองกวิลลา ประเทศเซนต์คิตส์และเนวิส กรีนแลนด์ แซ็งปีแยร์และมีเกอลง
ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส
พบผู้ป่วยทั้งหมดจำนวน 4 คน โดยมีการยืนยันผู้ป่วยครั้งแรกจำนวน 2 คนเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2563 ในเกาะเซนต์มาร์ติน ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส โดยตัวผู้ป่วยได้เดินทางมาจากฝรั่งเศสผ่านดินแดนซินต์มาร์เตินของเนเธอร์แลนด์ และแซ็ง-บาร์เตเลมี ซึ่งบุตรชายของผู้ป่วยได้เกิดการติดเชื้อขึ้น ทั้งคู่เดินทางกลับไปยังเกาะเซนต์มาร์ตินและถูกตรวจพบที่ท่าอากาศยาน และได้ถูกส่งตัวต่อไปกักโรคที่โรงพยาบาลบนเกาะ ขณะที่ในกัวเดอลุป มีรายงานผู้ป่วยจำนวนหนึ่งคน
ณ วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564 เกาะเซนต์มาร์ติน มีผู้เสียชีวิต 12 ราย กัวเดอลุป มีผู้เสียชีวิต 159 ราย แซ็ง-บาร์เตเลมี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ปานามา
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ประเทศปานามา มีผู้เสียชีวิต 6,188 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 360,841 ราย
กัวเตมาลา
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ประเทศกัวเตมาลา มีผู้เสียชีวิต 7,221 ราย ผู้ติดเชื้อ 212,734 ราย
เม็กซิโก
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ประเทศเม็กซิโกมีการยืนยันผู้ป่วยครั้งแรกจำนวน 3 คน เป็นชายอายุ 35 ปี และ 59 ปีในเม็กซิโกซิตี และชายอายุ 41 ปีในรัฐซีนาโลอา ซึ่งทั้งสามมีผลการทดสอบเป็นบวกและได้ถูกกักโรคไว้ที่โรงพยาบาลและโรงแรม ตามลำดับ สองคนแรก ทั้งคู่ได้เดินทางไปยังเมืองเบอร์กาโม ประเทศอิตาลี และพำนักอยู่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ มีการพบผู้ป่วยรายที่สี่ เป็นหญิงอายุ 20 ปี ซึ่งได้มีการเดินทางไปยังประเทศอิตาลีมา วันที่ 1 มีนาคม มีการพบผู้ป่วยรายที่ 5 เป็นนักศึกษาในรัฐเชียปัส ซึ่งเพิ่งได้เดินทางกลับมาจากประเทศอิตาลี
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ประเทศเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิต 212,339 ราย เป็นอันดับ 3 ของโลก และ มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 2,305,602 ราย เป็นอันดับที่ 14 ของโลก
แคนาดา
ณ วันที่ 4 มีนาคม มีรายงานผู้ป่วยโคโรนาไวรัสในประเทศแคนาดา 33 คน โดยแบ่งเป็นพบในบริติชโคลัมเบีย 8 คน รัฐออนแทรีโอ 24 คน และรัฐควิเบก 1 คน ผู้ป่วยทุกคนมีประวัติการเดินทางไปยังประเทศที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก และรักษาหายแล้วจำนวน 8 คน (แบ่งเป็นบริติชโคลัมเบีย 5 คน และรัฐออนแทรีโอ 3 คน)
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 แคนาดามีผู้เสียชีวิต 23,623 ราย พบผู้ติดเชื้อ 1,121,498 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เกาะแบฟฟิน
สหรัฐ
วันที่ 21 มกราคม สหรัฐรายงานพบผู้ป่วยรายแรก เป็นชายอายุ 35 ปีที่อาศัยอยู่ในเทศมณฑลสโนโฮมิช รัฐวอชิงตัน ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากอู่ฮั่นที่ท่าอากาศยานนานาชาติซีแอตเทิล–ทาโคมา ในวันที่ 15 มกราคม
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ มีการพบผู้ป่วย 66 คน และมีผู้หายป่วยจำนวน 7 คน วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐรายงานพบผู้ป่วยใน รัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งอาจเป็นกรณีแรกของการติดต่อกันภายในประเทศ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ทางการรัฐวอชิงตันแถลงยืนยันว่าพบผู้เสียชีวิตรายแรกจากโรคโคโรนาไวรัสในสหรัฐ
วันที่ 2 มีนาคม เทศมณฑลคิง รัฐวอชิงตัน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและมีรายงานพบผู้ป่วยยืนยัน 14 คน และยังมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 5 คน ศูนย์อนามัยออรีกอนยังได้รายงานว่าพบผู้อาจติดเชื้อใหม่จำนวนสามรายในรัฐด้วย ซึ่งเป็นชายในเทศมณฑลอูมาทิลลา ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในวัลลาวัลลา รัฐวอชิงตัน
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 มีผู้เสียชีวิต 581,061 ราย มากเป็นอันดับ 1 ของโลก จำนวนผู้เสียชีวิตคิดเป็น 19.15% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก และมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 32,404,454 ราย มากเป็นอันดับ 1 ของโลกเช่นเดียวกัน พื้นที่ที่ไม่พบผู้เสียชีวิตได้แก่ อเมริกันซามัว
สาธารณรัฐโดมินิกัน
วันที่ 1 มีนาคม มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสรายแรกในประเทศโดมินิกัน และภูมิภาคแคริบเบียน เป็นชายอายุ 62 ปีจากประเทศอิตาลี ซึ่งเดินทางเข้าประเทศในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และเกิดอาการป่วยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผู้ป่วยผู้นี้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลทหารรามอนลารา
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 มีผู้เสียชีวิต 3,418 ราย มีผู้ติดเชื้อ 261,129 ราย
ฮอนดูรัส
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ประเทศฮอนดูรัส มีผู้เสียชีวิต 4,954 ราย มีผู้ติดเชื้อ 200,259 ราย
อาร์กติก
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564 ศูนย์กลางการแพร่ระบาดในพื้นที่วงกลมอาร์กติก ได้แก่แคว้นมูร์มันสค์ (Murmansk Oblast) มีผู้ติดเชื้อ 39,989 ราย หายแล้ว 35,767 และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 728 ราย เทศบาลทรุมเซอ และ เทศมณฑลฟินมาร์ก ประเทศนอร์เวย์ พบผู้ติดเชื้อ 1,241 ราย รัฐอะแลสกา เฉพาะพื้นที่ใน วงกลมอาร์กติก ได้แก่ เขตนอร์ทสโลป (North Slope Borough) ติดเชื้อ 746 ราย เสียชีวิต 2 ราย และ เขตนอร์ทเวสต์ อาร์กติก (Northwest Arctic Borough) ติดเชื้อ 376 ราย รวมจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 42,352 ราย เสียชีวิต 730 ราย
ดินแดนในอาร์กติกที่อยู่ในวงกลมอาร์กติก มีรายงานว่าพบผู้ป่วยที่โรงงานแก๊สธรรมชาติเหลว ในหมู่บ้านเบโลคาเมนกา (Belokamenka) ในเมือง มูร์มันสค์ ในประเทศรัสเซีย ราว 200 ราย
ทวีปอเมริกาใต้
วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของทวีปอเมริกาใต้ อยู่ที่ ประเทศบราซิล ประเทศเปรู และ ประเทศชิลี ในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ทวีปอเมริกาใต้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 12,000 ราย ทั้งหมด 7 ประเทศ พื้นที่ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อในทวีปคือ เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช
พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ได้แก่ที่ ประเทศบราซิล 373,442 ราย อันดับที่ 2 ของโลก รองลงมาได้แก่ ประเทศโคลอมเบีย 68,328 ราย อันดับที่ 11 ของโลก ประเทศอาร์เจนตินา 59,228 ราย อันดับที่ 14 ของโลก ประเทศเปรู 57,230 ราย อันดับที่ 15 ของโลก ประเทศชิลี 25,177 ราย อันดับที่ 23 ของโลก
พบผู้ติดเชื้อ 29 ราย แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตที่ หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ในขณะที่ หมู่เกาะกาลาปาโกส มีผู้เสียชีวิต 16 ราย
ประเทศชิลี
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ทั้งประเทศมีผู้ติดเชื้อ 829,770 ราย อันดับที่ 23 ของโลก เสียชีวิต 25,177 ราย อันดับที่ 23 ของโลก ประเทศชิลีเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตใกล้แอนตาร์กติกามากที่สุดโดยพบที่ แคว้นมากายาเนสและลาอันตาร์ตีกาชีเลนา มีผู้เสียชีวิต 224 ราย
ประเทศบราซิล
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 จำนวนผู้ติดเชื้อ 13,943,071 ราย เป็นอันดับที่ 3 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 373,442 ราย เป็นอันดับที่ 2 ของโลก
ประเทศเปรู
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 จำนวนผู้ติดเชื้อ 1,704,757 ราย เป็นอันดับที่ 17 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 57,230 ราย เป็นอันดับที่ 15 ของโลก
ประเทศโคลอมเบีย
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564จำนวนผู้ติดเชื้อ 2,652,947 ราย เป็นอันดับที่ 13 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 68,328 ราย เป็นอันดับที่ 11 ของโลก
ประเทศอาร์เจนตินา
ณ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 จำนวนผู้ติดเชื้อ 2,694,014 ราย เป็นอันดับที่ 11 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 59,228 ราย เป็นอันดับที่ 14 ของโลก
ทวีปแอนตาร์กติกา
วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อ 36 รายในฐานวิจัยนายพลเบอร์นาร์โด โอ’ฮิกกินส์ เกลเม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 13 ฐานวิจัยของชิลีที่ตั้งอยู่ในดินแดนแอนตาร์กติกาของชิลี
ในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564 ดินแดนแอนตาร์กติกาของชิลี รายงานผู้ติดเชื้อ 58 รายและหายป่วย 58 ราย
เอเชีย
ตั้งแต่ วันที่ 5 ตุลาคม ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของทวีปเอเซีย อยู่ที่ ประเทศอินเดีย ประเทศอิหร่าน