ชาวเขมร
ชาวเขมร (อังกฤษ: Khmer people) เป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีมากที่สุดในประเทศกัมพูชา คิดเป็น 90% ของทั้งประเทศ ชาวเขมรจะใช้ภาษาเขมรในการสื่อสาร ซึ่งเป็นภาษาในตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก ที่พบได้ในแถบตอนกลางของอินเดีย, บังกลาเทศ, ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ตอนใต้ของจีน และในหมู่เกาะจำนวนมากของมหาสมุทรอินเดีย
ประชากรทั้งหมด | |
---|---|
ป. 15–17 ล้านคน | |
ภูมิภาคที่มีประชากรอย่างมีนัยสำคัญ | |
กัมพูชา | 13.2 ล้านคน |
เวียดนาม | > 1.4 ล้านคน |
ไทย | > 1.2 ล้านคน |
สหรัฐ | 331,733 |
เกาหลีใต้ | 45,610 (2016) |
ออสเตรเลีย | 36,920 (2016) |
แคนาดา | 25,245 |
มาเลเซีย | 11,381 |
ฝรั่งเศส | 10,000 |
นิวซีแลนด์ | 6,918 |
ญี่ปุ่น | 6,111 (2015) |
ไต้หวัน | 6,000 |
ลาว | 3,900 |
เบลเยียม | 500 |
สหราชอาณาจักร | > 1,000 |
เยอรมนี | 889 |
ภาษา | |
เขมร | |
ศาสนา | |
พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท | |
กลุ่มชาติพันธุ์ที่เกี่ยวข้อง | |
มอญ, ว้า, และกลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดในตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก |
ชาวเขมรส่วนใหญ่เป็นผู้นับถือศาสนาพุทธในรูปแบบเขมร และการผสานความเชื่อที่ผสมผสานองค์ประกอบของพุทธศาสนาเถรวาท, ศาสนาฮินดู, ศาสนาผี และความเคารพคนตาย
ชาวเขมรเริ่มมีบทบาทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังจากชาวมอญไม่นาน โดยเข้ามาแทนที่กลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดภาษาในกลุ่มภาษามอญ-เขมรและตระกูลภาษาออสโตรนีเซียน[ต้องการอ้างอิง] และสร้างจักรวรรดิเขมรขึ้นในอดีต ชาวเขมรยังแบ่งได้เป็นกลุ่มย่อย 3 กลุ่มตามประเทศและภาษาที่ใช้คือชาวเขมรในกัมพูชา พูดภาษาเขมร ชาวเขมรเหนือหรือเขมรสุรินทร์อยู่ในประเทศไทย และพูดภาษาเขมรที่เป็นสำเนียงของตนเองและพูดภาษาไทยด้วย ชาวขแมร์กรอมเป็นชาวเขมรที่อยู่ทางภาคใต้ของเวียดนาม พูดภาษาเขมรที่เป็นสำเนียงของตนเองและพูดภาษาเวียดนาม บางส่วนอพยพเข้าสู่กัมพูชาเพราะถูกบังคับหรือหนีระบอบคอมมิวนิสต์ในเวียดนาม
การแผ่กระจาย
กัมพูชา (แผ่นดินแม่)
คนเขมรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกัมพูชาซึ่งเป็นแผ่นดินแม่ ประชากรในกัมพูชาส่วนใหญ่คิดเป็นชาวเขมร 90%
ไทยและเวียดนาม
นอกจากนี้ยังมีประชากรชาวเขมรที่มีอาศัยอยู่ใน ไทยและเวียดนาม ในประเทศไทยมีชาวเขมรมากกว่าหนึ่งล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ใน จังหวัดสุรินทร์, จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดศรีสะเกษ ส่วนชาวเขมรในเวียดนาม (รู้จักกันในชื่อเขมรกรอม) คิดเป็นจำนวน 1.1 ล้านคนจากการประมารการข้อมูลการสำรวจของรัฐบาล และคิดเป็น 7 ล้านคนโดยกลุ่มสหพันธ์เขมรกรอม
จังหวัด | ปี ค.ศ. 1990 | ปี ค.ศ. 2000 |
---|---|---|
บุรีรัมย์ | 0.3% | 27.6% |
จันทบุรี | 0.6% | 1.6% |
มหาสารคาม | 0.2% | 0.3% |
ร้อยเอ็ด | 0.4% | 0.5% |
สระแก้ว | N/A | 1.9% |
ศรีสะเกษ | 30.2% | 26.2% |
สุรินทร์ | 63.4% | 47.2% |
ตราด | 0.4% | 2.1% |
อุบลราชธานี | 0.8% | 0.3% |
ประเทศตะวันตก
เนื่องจาก สงครามกลางเมืองกัมพูชา ชาวเขมรหลายพันคนได้อพยพลี้ภัยไปอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลียและฝรั่งเศส
ประวัติ
การกำเนิดกัมพูชา
ตามตำนานเขมร ผู้ก่อตั้งอาณาจักรกัมพูชา คือ พราหมณ์ นามว่ากามพู สวยัมภูวะ หรือ โกญธัญญะ และเจ้าหญิงที่เป็นธิดาของพญานาค นามว่า โสมา หรือ เมรา เมื่อทั้งสองได้แต่งงานกันก็ได้กำเนิดนามว่า "ขะแมร์" ชาวเขมรตั้งชื่ออาณาจักรของพวกเขาว่า "กัมพูชา" ตามกษัตริย์แห่งกัมโพชะแคว้นหนึ่งในชมพูทวีปในยุคเหล็กของอินเดีย เผ่ากัมพูชา มีความเชื่อกันโดยนักวิชาการสมัยใหม่ว่าอาจสืบเชื้อสายมาจากชาวอิหร่านในปัจจุบัน แต่ข้อมูลยังเป็นที่ถกเถียงและยังหาข้อสรุปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กัมพูชาถูกสร้างขึ้นเมื่อพราหมณ์อินเดียโบราณแต่งงานกับเจ้าหญิงโสมา พราหมณ์โกญธัญญะ (สันนิฐานว่ามาจากอินเดีย) ได้เดินทางมายังชายฝั่งของเขมร ธิดาพญานาคผู้ครองดินแดนแถบนี้ได้พายเรือออกมาต้อนรับ แต่พราหมณ์โกญธัญญะเป็นผู้มีเวทมนตร์คาถาได้ยิงธนูวิเศษมาที่เรือธิดาพญานาค ทำให้นางตกพระทัยกลัว แล้วยินยอมแต่งานด้วย ส่วนพญานาคผู้บิดาได้ทรงดื่มน้ำทะเลจนเหือดแห้งเพื่อสร้างอาณาจักรให้ราชบุตรเขยและธิดา และตั้งชื่ออาณาจักรที่สร้างขึ้นว่า "กัมพูชา"
การมีบทบาทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชาวเขมรเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชาวเขมรได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเวลาเดียวกันกับ ชาวมอญ ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ทางทิศตะวันตกและมีเกี่ยวข้องทางบรรพบุรุษกับชาวเขมร นักโบราณคดี, นักภาษาศาสตร์ส่วนใหญ่ และผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ เช่น จีนศึกษา เชื่อว่าพวกเขามาถึงไม่ช้ากว่า 2000 ก่อนคริสต์ศักราช (กว่าสี่พันปีมาแล้ว) ในช่วงแรกชาวเขมรเริ่มทำการเกษตรและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพาะปลูกข้าว ภูมิภาคที่ชาวเขมรอาศัยอยู่นี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่แรกในโลกที่เริ่มมีการใช้สำริด ชาวเขมรได้สร้าง จักรวรรดิเขมรในเวลาต่อมา ซึ่งครอบงำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลาหกศตวรรษซึ่งเริ่มต้นใน ค.ศ. 802 และปัจจุบันเป็นกระแสหลักของการเมืองวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของกัมพูชา
ชาวเขมรได้พัฒนาอักษรเขมร ตัวอักษรแรกที่ยังคงใช้อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้เป็นหลักในการสร้างและพัฒนาตัวอักษรไทยและตัวอักษรลาวในภายหลัง ชาวเขมรได้รับการพิจารณาโดยนักโบราณคดีและนักชาติพันธุ์วิทยา ซึ่งได้จัดเป็นชนพื้นเมืองในบริเวณภูมิภาคที่ต่อเนื่องกันของ ภาคอีสานของไทย, ภาคใต้ของลาว, กัมพูชา และ เวียดนามใต้ หรืออาจกล่าวได้ว่าชาวเขมรเคยเป็นชาวลุ่มที่อาศัยอยู่ใกล้กับหนึ่งในแควของแม่น้ำโขง
เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ในยุคต้น ๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่น ปยู, มอญ, จาม, มลายู และ ชวา ชาวเขมรเป็นชนชาติหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดีย โดยรับอิทธิพลทางด้าน ศาสนาศาสตร์และศุลกากรของอินเดีย อีกทั้งมีการยืมอิทธิพลทางด้านภาษา อาณาจักรการค้าที่มีประสิทธิภาพครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาณาจักรฟูนัน ก่อตั้งขึ้นในทิศตะวันออกเฉียงใต้กัมพูชาและสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในศตวรรษแรก อีกทั้งการขุดค้นหลักฐานทางโบราณคดีอย่างกว้างขวางใน อังกอร์ บอเรย์ ใกล้ชายแดนเวียดนาม มีการขุดค้นพบ ซากอิฐ, คลอง, สุสานและหลุมฝังศพ สืบมาถึงศตวรรษที่สิบห้าก่อนคริสต์ศักราช
ราชอาณาจักรฟูนันถือเป็นแรกเริ่มของราชอาณาจักรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดในเวลาต่อมา ในยุคฟูนาน (ศตวรรษที่ 1 - ศตวรรษที่ 6) ชาวเขมรยังได้รับพระพุทธศาสนา, ศาสนาแนวคิดเรื่อง ลัทธิไศวะและเทวราชา และวิหารที่ยิ่งใหญ่ราวกับภูเขาสัญลักษณ์ของโลก อาณาจักรเขมรเจนละเกิดขึ้นในศตวรรษที่ห้าและต่อมาก็เอาชนะและยึดครองอาณาจักรฟูนัน อาณาจักรเจนละเป็นรัฐที่อยู่บริเวณที่ราบสูงซึ่งมีเศรษฐกิจพึ่งพาการเกษตรในขณะที่ฟูนันเป็นรัฐที่ลุ่มที่มีเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับการค้าทางทะเล
ทั้งสองรัฐนี้แม้กระทั่งหลังการพิชิตโดยอาณาจักรเจนละ ในศตวรรษที่หกก็ยังคงทำสงครามซึ่งกันและกันและอาณาเขตที่เล็กลง ในช่วงยุคเจนละ (ศตวรรษที่ 5-8) ชาวกัมพูชาได้ประดิษฐ์คิดค้น "ตัวเลขศูนย์" ที่เก่าแก่ที่สุดที่โลกรู้จักในจารึกวิหารแห่งหนึ่งของพวกเขา เมื่อกษัตริย์พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ทรงประกาศเอกราชและเอกภาพกัมพูชาในปี ค.ศ. 802 ก็มีความสงบสุขญาติระหว่างทั้งสองดินแดนบนและล่างกัมพูชา
พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (ค.ศ. 802–ค.ศ. 830) ได้ทรงฟื้นพลังอำนาจของอาณาจักรกัมพูชาและสร้างรากฐานสำหรับอาณาจักรอังกอร์ซึ่งก่อตั้งเมืองหลวงสามแห่ง ได้แก่ อินทปุระ, หริหราลัยและมเหนทรบรรพต ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีที่เผยให้เห็นถึงช่วงเวลาของเขา หลังจากชนะสงครามกลางเมืองมายาวนาน จนถึงรัชสมัยพระเจ้าสูรยวรรมันที่ 1 (ครองราชย์ในปี ค.ศ. 1002–ค.ศ. 1050) ได้ทรงแผ่แสนยานุภาพส่งกองทัพของพระองค์ไปทางทิศตะวันออกและปราบปรามอาณาจักรทวารวดีของมอญเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเขมร ดังนั้นจึงทำให้พระองค์ได้ปกครองส่วนใหญ่ของประเทศไทยและลาวในปัจจุบันรวมถึงครึ่งทางตอนเหนือของคาบสมุทรมลายู ในช่วงระหว่างนี้ได้มีการสร้างนครวัดถือเป็นจุดสูงสุดของอารยธรรมเขมร
จักรวรรดิเขมร (ค.ศ.802–ค.ศ.1431)
อาณาจักรเขมรกลายเป็นจักรวรรดิเขมรและมีวิหารที่ยิ่งใหญ่ของอังกอร์ซึ่งถือเป็นสมบัติทางโบราณคดีที่เต็มไปด้วยหินนูนสีสรรที่แสดงรายละเอียดของวัฒนธรรมรวมถึงเครื่องดนตรีบางอย่างที่ยังคงเป็นอนุสรณ์ของวัฒนธรรมเขมร
หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (ค.ศ.1113–1150) กัมพูชาผ่านพ้นความโกลาหลจนถึงรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (ค.ศ.1181–1218) ได้ทรงสั่งให้สร้างเมืองหลวงใหม่ พระองค์ถือพระองค์เป็นชาวพุทธและในเวลาหนึ่งศาสนาพุทธกลายเป็นศาสนาที่โดดเด่นในประเทศกัมพูชา อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นศาสนาประจำชาติมันถูกดัดแปลงให้เหมาะสมกับลัทธิเทวะราชาโดยมีพระพุทธเจ้าเป็นราชาแทนพระอิศวรราชาหรือพระนารายณ์ในอดีต
อ้างอิง
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ชาวเขมร |
- ↑ Hattaway, Paul (ed.) (2004), "Khmer", Peoples of the Buddhist World, William Carey Library, p. 133CS1 maint: extra text: authors list (link)
- "CIA World Factbook: Vietnam". สืบค้นเมื่อ October 28, 2014.
- . United States Census Bureau. United States Department of Commerce. 2017. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2017-08-03. สืบค้นเมื่อ 17 September 2015.
- "Korea Immigration Service (캄보디아)". immigration.go.kr (ภาษาเกาหลี). 3 July 2016. สืบค้นเมื่อ February 21, 2017.
- "Estimated Resident Population by Country of Birth, 30 June 1992 to 2016". stat.data.abs.gov.au. สืบค้นเมื่อ April 6, 2017.
- . Statistics Canada. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2014-10-01.[ไม่อยู่ในแหล่งอ้างอิง]
- "2006 Census: Cambodians- Facts and Figures". Te Ara: The Encyclopedia of New Zealand .
- "MOFA 2016 カンボジア王国". mofa.go.jp (ภาษาญี่ปุ่น). 17 June 2016. สืบค้นเมื่อ February 21, 2017.
- Project, Joshua. "Khmer in Belgium". Joshuaproject.net (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 10 January 2018.
- "Ausländeranteil in Deutschland bis 2015". De.statista.com. สืบค้นเมื่อ January 2, 2017.
- CIA FactBook. Accessed July 14, 2008.
- Faith Traditions in Cambodia; pg. 8; accessed August 21, 2006
- "Ethnic groups statistics - countries compared". Nationmaster. สืบค้นเมื่อ 2012-09-02.
- . CIA – The World Factbook. Cia.gov. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2019-02-23. สืบค้นเมื่อ 15 March 2013.
- [1] พฤษภาคม 9, 2006 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- "burirum.xls" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2017-03-08.
- http://web.nso.go.th/pop2000/finalrep/chanburifn.pdf
- "mahakam.xls" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2017-03-08.
- http://web.nso.go.th/pop2000/finalrep/roietfn.pdf
- "RkeyãÃÃá¡éÃ.Xls" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2017-03-08. C1 control character in
|title=
at position 6 (help) - "Rkey ¨.ÃÃÃÃÃà ¡Ã.Xls" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2017-03-08. C1 control character in
|title=
at position 10 (help) - "RKEY ¨.ÃÃÃù·Ãì.xls" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2017-03-08. C1 control character in
|title=
at position 10 (help) - http://web.nso.go.th/pop2000/finalrep/tratfn.pdf
- "RKEY ¨.Ãúà Ãê¸Ã¹Ã.xls" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2017-03-08. C1 control character in
|title=
at position 10 (help) - D'après l'épigraphie cambodgienne du X° siècle, les rois des "Kambuja" prétendaient descendre d'un ancêtre mythique éponyme, le sage ermite Kambu, et de la nymphe céleste Mera, dont le nom a pu être forgé d'après l'appellation ethnique "khmèr" (George Coedes). [2] 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน; See also: Indianised States of Southeast Asia, 1968, p 66, George Coedes.