ภาษาชวา
ภาษาชวา (ꦧꦱꦗꦮ, basa Jawa; bɔsɔ d͡ʒɔwɔ; เรียกเป็นภาษาพูดว่า ꦕꦫꦗꦮ, cara Jawa; t͡ʃɔrɔ d͡ʒɔwɔ) คือภาษาพูด ของผู้ที่อาศัยอยู่บนตอนกลางและตะวันออกของเกาะชวาในประเทศอินโดนีเซีย เป็นภาษาแม่ของมากกว่า 75,500,000 คน ภาษาชวาอยู่ในภาษากลุ่มออสโตรนีเซียน จึงสัมพันธ์กับภาษาอินโดนีเซียและภาษามลายู ผู้พูดภาษาชวา พูดภาษาอินโดนีเซียด้วย สำหรับวัตถุประสงค์ทางการและธุรกิจ และเพื่อสื่อสารกับชาวอินโดนีเซียอื่น ๆ มีชุมชนผู้พูดภาษาชวาขนาดใหญ่ในประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะรัฐเซอลาโงร์และยะโฮร์ (คีร์ โตโย รัฐมนตรีของเซอลาโงร์ เป็นชนพื้นเมืองของชวา) อย่างไรก็ดี ภาษาชวาไม่สามารถเข้าใจกันกับภาษามลายูได้
ภาษาชวา | |
---|---|
ꦧꦱꦗꦮ Basa Jawa/Båså Jåwå | |
บาซา (ภาษา) ที่เขียนในอักษรชวา | |
ออกเสียง | bɔsɔ d͡ʒɔwɔ |
ภูมิภาค | เกาะชวา (ประเทศอินโดนีเซีย), ประเทศซูรินาม นิวแคลิโดเนีย |
จำนวนผู้พูด | 85 ล้านคน (ไม่พบวันที่) |
ตระกูลภาษา | |
ระบบการเขียน | อักษรชวา, อักษรละติน |
รหัสภาษา | |
ISO 639-1 | jv |
ISO 639-2 | jav |
ISO 639-3 | มีหลากหลาย: jav — ภาษาชวา jvn — ภาษาชวาแคริบเบียน jas — ภาษาชวานิวแคลิโดเนีย osi — ภาษาโอซิง tes — ภาษาเต็งเกอร์ |
บทนำ
ภาษาชวาอยู่ในกลุ่มย่อยซุนดาของภาษากลุ่มมาลาโย-โพลีเนเซียตะวันตก มีลักษณะทางภาษาศาสตร์ใกล้เคียงกับภาษามลายู ภาษาซุนดา ภาษามาดูรา ภาษาบาหลี และภาษากลุ่มสุมาตราและบอร์เนียวอื่นๆ รวมทั้งภาษามาลากาซีและภาษาฟิลิปิโน ภาษาชวาใช้พูดในบริเวณชวากลางและชวาตะวันออกและชายฝั่งทางเหนือของชวาตะวันตก ภาษาชวาได้ใช้เป็นภาษาเขียนควบคู่ไปด้วย เป็นภาษาในศาลที่ปาเล็มบัง สุมาตราใต้จนกระทั่งถูกดัตช์ยึดครองเมื่อพุทธศตวรรษที่ 23
ภาษาชวาจัดว่าเป็นภาษาคลาสสิกภาษาหนึ่งของโลก มีวรรณคดีมานามถึง 12 ศตวรรษ นักวิชาการแบ่งภาษาชวาออกเป็นสี่ยุคด้วยกันคือภาษาชวาโบราณ เริ่มจากพุทธศตวรรษที่ 14 ภาษาชวายุคกลางเริ่มจากพุทธศตวรรษที่ 18 ภาษาชวายุคใหม่เริ่มจากพุทธศตวรรษที่ 21 และภาษาชวาปัจจุบันเริ่มในพุทธศตวรรษที่ 25 ภาษาชวาเขียนด้วยอักษรชวาที่พัฒนามาจากอักษรพราหมี อักษรอาหรับ-ชวาที่เป็นอักษรอาหรับดัดแปลงสำหรับภาษาชวา และอักษรละติน
แม้ว่าจะไม่มีสถานะเป็นภาษาราชการ ภาษาชวาถือว่าเป็นภาษาในตระกูลภาษาออสโตรนีเซียนที่มีผู้พูดเป็นภาษาแม่มากประมาณ 80 ล้านคน อย่างน้อย 45% ของประชากรทั้งหมดในอินโดนีเซียเป็นผู้พูดภาษาชวาหรืออยู่ในบริเวณที่ใช้ภาษาชวาเป็นภาษาหลัก และมีอิทธิพลอย่างมากต่อภาษาอินโดนีเซียที่เป็นสำเนียงหนึ่งของภาษามลายู ภาษาชวามีสำเนียงหลักสามสำเนียงคือ ชวากลาง ชวาตะวันออก และชวาตะวันตก
ความสุภาพ
การพูดภาษาชวาแตกต่างไปขึ้นกับบริบททางสังคมทำให้มีการแบ่งชั้นของภาษา แต่ละชั้นมีศัพท์ กฎทางไวยากรณ์ และฉันทลักษณ์เป็นของตนเอง การแบ่งชั้นนี้ไม่ใช่ลักษณะเฉพาะของภาษาชวา เพราะพบในภาษาในเอเชียหลายภาษา เช่น ภาษาเกาหลี และภาษาญี่ปุ่น แต่ละชั้นของภาษาชวามีชื่อเรียกดังนี้
- โงโก (ꦔꦺꦴꦏꦺꦴ): รูปแบบพูดอย่างไม่เป็นทางการระหว่างเพื่อนและญาติสนิท และใช้โดยคนที่มีฐานะสูงกว่าเมื่อพูดกับคนที่มีฐานะต่ำกว่า เช่น ผู้ใหญ่ใช้กับเด็ก
- มัดยา (ꦩꦢꦾ): รูปแบบกลางๆระหว่างโงโกกับกรามา สำหรับในสถานะที่ไม่ต้องการทั้งความเป็นทางการและไม่เป็นทางการ คไนี้มาจากภาษาสันสกฤตว่า มัธยะ ("กลาง")
- กรามา (ꦏꦿꦩ): รูปแบบที่สุภาพและเป็นทางการ ใช้กับคนที่อยู่ในสถานะเดียวกัน เป็นรูปแบบที่ใช้พูดในที่สาธารณะ การประกาศต่างๆ ใช้โดยคนที่มีฐานะต่ำกว่าเมื่อพูดกับคนที่มีฐานะสูงกว่า เช่น เด็กพูดกับผู้ใหญ่ คำนี้มาจากภาษาสันสกฤตว่า กรมา ("ตามลำดับ")
สถานะในสังคมที่มีผลต่อรูปแบบของภาษาชวากำหนดโดยอายุหรือตำแหน่งในสังคม การเลือกใช้ภาษาระดับใดนั้นต้องอาศัยความรอบรู้ในวัฒนธรรมชวาและเป็นสิ่งที่ยากสำหรับการเรียนภาษาชวาของชาวต่างชาติ
สำเนียงของภาษาชวาสมัยใหม่
สำเนียงของภาษาชวาแบ่งได้เป็นสามกลุ่มตามบริเวณย่อยที่มีผู้พูดภาษาเหล่านี้อาศัยอยู่ คือ ภาษาชวากลาง ภาษาชวาตะวันออก และภาษาชวาตะวันตก ความแตกต่างระหว่างสำเนียงอยู่ที่การออกเสียงและคำศัพท์
- ภาษาชวากลางเป็นสำเนียงที่ใช้พูดในสุรการ์ตา และยอร์กยาการ์ตา ถือเป็นสำเนียงมาตรฐานของภาษานี้ มีผู้พูดกระจายตั้งแต่เหนือถึงใต้ของจังหวัดชวากลาง
- ภาษาชวาตะวันตกใช้พูดทางตะวันตกของจังหวัดชวากลางและตลอดทั้งจังหวัดชวาตะวันตก โดยเฉพาะชายฝั่งทางตอนเหนือ ได้รับอิทธิพลจากภาษาซุนดา และยังมีศัพท์เก่าๆอยู่มาก
- ภาษาชวาตะวันออกเริ่มใช้พูดจากฝั่งตะวันออกของกาลี บรันตัส ในเกอร์โตโซโนไปจนถึงบาญูวังกี ครอบคลุมบริเวณส่วนใหญ่ของจังหวัดชวาตะวันออก รวมเกาะมาดูราด้วย สำเนียงนี้ได้รับอิทธิพลจากภาษามาดูรา สำเนียงตะวันออกสุดได้รับอิทธิพลจากภาษาบาหลี
การออกเสียง
ชาวชวาส่วนใหญ่ยกเว้นในชวาตะวันตก ยอมรับการออกเสียง a เป็น /ออ/ เช่น apa ในภาษาชวาตะวันตกออกเสียงเป็นอาปา ส่วนภาษาชวากลางและภาษาชวาตะวันออกออกเสียงเป็นออปอ
เมื่อมีหน่วยเสียงที่มีโครงสร้างเป็นสระ-พยัญชนะ-สระ โดยสระทั้งสองเสียงเป็นเสียงเดียวกัน ภาษาชวางกลางลดเสียงสระตัวท้าย i เป็น e และ u เป็น o ภาษาชวาตะวันออกลดทั้งสองเสียงส่วนภาษาชวาตะวันตกคงเสียงเดิมไว้ เช่น cilik ภาษาชวากลางเป็น จิเละ ภาษาชวาตะวันออกเป็น เจะเละ ภาษาชวาตะวันตกเป็น จิลิก
คำศัพท์
ภาษาชวามีคำศัพท์ที่ต่างกันไปในแต่ละสำเนียง เช่นคำว่าคุณ ชวากลางเป็น kowe ภาษาชวาตะวันออกเป็น kon ภาษาชวาตะวันตกเป็น rika
ประวัติ
โดยทั่วไป ประวัติภาษาชวาแบ่งออกเป็นสองช่วง: 1) ชวาโบราณ และ 2) ชวาใหม่
ภาษาชวาโบราณ
หลักฐานการเขียนในเกาะชวาย้อนหลังไปได้ถึงยุคของจารึกภาษาสันสกฤต จารึกตรุมเนคระ ใน พ.ศ. 993 ส่วนการเขียนด้วยภาษาชวาที่เก่าที่สุดคือจารึกสุกภูมีซึ่งระบุวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 1346 จารึกนี้พบที่เกอดีรีในชวาตะวันออกและเป็นสำเนาของจารึกต้นฉบับที่น่าจะมีอายุ 120 ปีก่อนหน้านั้น แต่หลักฐานเหลือเพียงจารึกที่เป็นสำเนาเท่านั้น เนื้อหากล่าวถึงการสร้างเขื่อนใกล้กับแม่น้ำสรินยังในปัจจุบัน จารึกนี้เป็นจารึกรุ่นสุดท้ายที่ใช้อักษรปัลลวะ จารึกรุ่นต่อมาเริ่มใช้อักษรชวา
ในพุทธศตวรรษที่ 13 – 14 เป็นยุคที่เริ่มมีวรรณคดีพื้นบ้านในภาษาชวา เช่น สัง ฮยัง กะมาฮะยานีกัน ที่ได้รับมาจากพุทธศาสนา และ กากาวัน รามายานา ที่มาจากรามายณะฉบับภาษาสันสกฤต แม้ว่าภาษาชวาจะใช้เป็นภาษาเขียนทีหลังภาษามลายู แต่วรรณคดีภาษาชวายังได้รับการสืบทอดจนถึงปัจจุบัน เช่นวรรณคดีที่ได้รับมาจากรามายณะและมหาภารตะยังได้รับการศึกษาจนถึงทุกวันนี้
การแพร่กระจายของวัฒนธรรมชวารวมทั้งอักษรชวาและภาษาชวาเริ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1836 ซึ่งเกิดจากการขยายตัวไปทางตะวันออกของราชอาณาจักรมัชปาหิตซึ่งเป็นอาณาจักรที่นับถือศาสนาพราหมณ์และศาสนาพุทธ ไปสู่เกาะมาดูราและเกาะบาหลี ภาษาชวาแพร่ไปถึงเกาะบาหลีเมื่อ พ.ศ. 1906 และมีอิทธพลอย่างลึกซึ้ง โดยภาษาชวาเข้ามาแทนที่ภาษาบาหลีในฐานะภาษาทางการปกครองและวรรณคดี ชาวบาหลีรักษาวรรณคดีเก่าที่เป็นภาษาชวาไว้มาก และไม่มีการใช้ภาษาบาหลีเป็นภาษาเขียนจนถึงพุทธศตวรรษที่ 24
ภาษาชวายุคกลาง
ในยุคของราชอาณาจักรมัชปาหิต ได้เกิดภาษาใหม่ขึ้นคือภาษาชวายุคกลางที่อยู่ระหว่างภาษาชวาโบราณและภาษาชวาสมัยใหม่ จริงๆแล้ว ภาษาชวายุคกลางมีความคล้ายคลึงกับภาษาชวาสมัยใหม่จนผู้พูดภาษาชวาสมัยใหม่ที่ศึกษาวรรณคดีสามารถเข้าใจได้ ราชอาณาจักรมัชปาหิตเสื่อมลงเนื่องจากการรุกรานของต่างชาติและอิทธิพลของศาสนาอิสลาม และการคุกคามของสุลต่านแห่งเดมักที่อยู่ทางชายฝั่งด้านเหนือของเกาะชวา ราชอาณาจักรมัชปาหิตสิ้นอำนาจลงเมื่อ พ.ศ. 2021
ภาษาชวาใหม่
ภาษาชวาสมัยใหม่เริ่มปรากฏเมื่อพุทธศตวรรษที่ 21 พร้อมๆกับการเข้ามามีอิทธิพลของศาสนาอิสลาม และการเกิดรัฐสุลต่านมะตะรัม รัฐนี้เป็นรัฐอิสลามที่สืบทอดวัฒนธรรมดั้งเดิมจากยุคราชอาณาจักรมัชปาหิต วัฒนธรรมชวาแพร่หลายไปทางตะวันตก เมื่อรัฐมะตะรัมพยายามแพร่อิทธิพลไปยังบริเวณของผู้พูดภาษาซุนดาทางตะวันตกของเกาะชวา ทำให้ภาษาชวากลายเป็นภาษาหลักในบริเวณนั้น เช่นเดียวกับภาษาบาหลี ไม่มีการใช้ภาษาซุนดาเป็นภาษาเขียนจนถึงพุทธศตวรรษที่ 24 และได้รับอิทธิพลจากภาษาชวามาก คำศัพท์ 40% ในภาษาซุนดาได้มาจากภาษาชวา
แม้ว่าจะเป็นจักรวรรดิอิสลาม แต่ราชอาณาจักรมะตะรัมก็ยังรักษาหน่วยเดิมที่มาจากวัฒนธรรมเก่าไว้และพยายามรวมเข้ากับศาสนาใหม่ จึงเป็นเหตุผลที่ยังคงมีการใช้อักษรชวาอยู่ ในขณะที่อักษรดั้งเดิมของภาษามลายูเลิกใช้ไปตั้งแต่เหลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยหันไปใช้อักษรที่มาจากอักษรอาหรับแทน ในยุคที่ศาสนาอิสลามกำลังรุ่งเรืองราวพุทธศตวรรษที่ 21 ได้เกิดภาษาชวาใหม่ขึ้น มีเอกสารทางศาสนาอิสลามฉบับแรกๆ ที่เขียนด้วยภาษาชวาใหม่ ซึ่งมีคำศัพท์และสำนวนที่ยืมมาจากภาษาอาหรับมาก ต่อมาเมื่อได้รับอิทธิพลจากภาษาดัตช์และภาษาอินโดนีเซีย ทำให้ภาษาชวาพยายามปรับรูปแบบให้ง่ายขึ้น และมีคำยืมจากต่างชาติมากขึ้น
ภาษาชวาสมัยใหม่
นักวิชาการบางคนแยกภาษาชวาที่ใช้พูด ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 25 ว่าเป็นภาษาชวาสมัยใหม่ แต่ก็ยังคงถือว่าเป็นภาษาเดียวกับภาษาชวาใหม่
อักษรชวา
แต่เดิมภาษาชวาเขียนด้วยอักษรพื้นเมืองคืออักษรชวา ต่อมาจึงเขียนด้วยอักษรอาหรับและอักษรโรมัน ปัจจุบัน รูปแบบอักษรลาตินเป็นไปตามนี้:
ตัวพิมพ์ใหญ่ | |||||||||||||||||||||||||||||||
A | B | C | D | Dh | E | É | È | F | G | H | I | J | K | L | M | N | Ng | Ny | O | P | Q | R | S | T | Th | U | V | W | X | Y | Z |
ตัวพิมพ์เล็ก | |||||||||||||||||||||||||||||||
a | b | c | d | dh | e | é | è | f | g | h | i | j | k | l | m | n | ng | ny | o | p | q | r | s | t | th | u | v | w | x | y | z |
อักษรที่เอียง ใช้เฉพาะคำยืมจากภาษาอาหรับและภาษาในยุโรปเท่านั้น
อักษรชวา:
ฐานพยัญชนะ | |||||||||||||||||||
ꦲ | ꦤ | ꦕ | ꦫ | ꦏ | ꦢ | ꦠ | ꦱ | ꦮ | ꦭ | ꦥ | ꦝ | ꦗ | ꦪ | ꦚ | ꦩ | ꦒ | ꦧ | ꦛ | ꦔ |
ha | na | ca | ra | ka | da | ta | sa | wa | la | pa | dha | ja | ya | nya | ma | ga | ba | tha | nga |
การแพร่กระจายทางภูมิศาสตร์
ภาษาชวาเป็นภาษาที่ใช้พูดทั่วอินโดนีเซีย ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนเธอร์แลนด์ ซูรีนาเม นิวแคลิโดเนีย และประเทศอื่น ๆ ชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของผู้พูดภาษานี้ อยู่ในชวา 6 จังหวัดและจังหวัดลัมปุงบนเกาะสุมาตรา จากข้อมูล พ.ศ. 2523 ชาวอินโดนีเซีย 43% ใช้ภาษาชวาในชีวิตประจำวัน โดยมีผู้พูดภาษาชวาได้ดีมากกว่า 60 ล้านคน ในแต่ละจังหวัดของอินโดนีเซียมีผู้พูดภาษาชวาได้ดีอย่างน้อย 1%
ในชวาตะวันออก มีผู้พูดภาษาชวาในชีวิตประจำวัน 74.5% ภาษามาดูรา 23% และภาษาอินโดนีเซีย 2.2% ในจังหวัดลัมปุง มีผู้พูดภาษาชวาในชีวิตประจำวัน 62.4% ภาษาลัมปุง 16.4% ภาษาซุนดา 10.5% และภาษาอินโดนีเซีย 9.4% ส่วนในจาการ์ตา มีจำนวนผู้พูดภาษาชวาเพิ่มสูงขึ้นถึง 10 เท่า ในเวลา 25 ปี แต่ในอาเจะฮ์กลับลดจำนวนลง ในบันเต็น ชวาตะวันตก ผู้สืบทอดมาจากรัฐสุลต่านมะตะรัมในชวากลาง ยังใช้รูปแบบโบราณของภาษาชวา มีผู้พูดภาษาซุนดาและภาษาอินโดนีเซียตามแนวชายแดนติดกับจาการ์ตา
จังหวัดชวาตะวันออกยังเป็นบ้านเกิดของผู้พูดภาษามาดูรา แต่ชาวมาดูราส่วนใหญ่พูดภาษาชวาได้ด้วย ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 24 เป็นต้นมา มีการเขียนภาษามาดูราด้วยอักษรชวา ในลัมปุง มีชนพื้นเมืองที่พูดภาษาลัมปุงเพียง 15% ที่เหลือเป็นผู้อพยพมาจากส่วนอื่นๆของอินโดนีเซีย ซึ่งผู้อพยพเข้ามาส่วนใหญ่เป็นผู้พูดภาษาชวา ในสุรินาเมซึ่งเป็นอดีตอาณานิคมของดัตช์ ในอเมริกาใต้ มีผู้ที่เป็นลูกหลานของชาวชวา และยังพูดภาษาอยู่ราว 75,000 คน
ภาษาชวาวันนี้
ภาษาชวาไม่ใช่ภาษาประจำชาติโดยมีสถานะเป็นแค่ภาษาประจำถิ่นในจังหวัดที่มีชาวชวาอยู่เป็นจำนวนมาก มีการสอนภาษาชวาในโรงเรียน และมีการใช้ในสื่อต่างๆ ไม่มีหนังสือพิมพ์รายวันเป็นภาษาชวา แต่มีนิตยสารภาษาชวา ตั้งแต่ พ.ศ. 2546 สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของชวาตะวันออกออกอากาศเป็นภาษาชวาด้วยสำเนียงชวากลางและภาษามาดูราด้วย ใน พ.ศ. 2548 มีการออกนิตยสารภาษาชวา Damar Jati ในจาการ์ตา
สัทวิทยา
สัทอักษรตามภาษาชาวมาตรฐานเป็นไปตามนี้
สระ
หน้า | กลาง | หลัง | |
---|---|---|---|
ลิ้นสูง | i | u | |
กลางสูง | e | ə | o |
กึ่งต่ำ | (ɛ) | (ɔ) | |
ต่ำ | a |
ในพยางค์ปิด สระ /i u e o/ ออกเสียงตามลำดับเป็น [ɪ ʊ ɛ ɔ] ในพยางค์เปิด สระ /e o/ ออกเสียงเป็น [ɛ ɔ] เมื่อตามหลังเสียงสระ /i u/ ในพยางค์เปิด ไม่เช่นนั้นก็จะออกเสียงเป็น /ə/ หรือเหมือนกัน (/e...e/, /o...o/) ในสำเนียงมาตรฐานซูรากาตา /a/ ออกเสียงในพยางค์เปิดสุดท้ายเป็น [ɔ] และในส่วนอื่นก่อนหน้าพยางค์สุดท้ายที่เปิดอยู่ก่อนหน้านั้นคือ [ɔ]
พยัญชนะ
ริมฝีปาก | ฟัน/ ถุงลม | ปลายลิ้นม้วน | เพดานแข็ง | เพดานอ่อน | เส้นเสียง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
นาสิก | m | n | ɲ | ŋ | ||||||||
หยุด/ข้างลิ้น | p | b | t̪ | d̪̥ | ʈ | ɖ | tʃ | dʒ | k | g | ʔ | |
เสียดแทรก | s | h | ||||||||||
เปิด (ข้างลิ้น) | j | w | ||||||||||
l | ||||||||||||
โรติก | r |
หน่วยเสียง "ออกเสียง" ในภาษาชวาไม่ได้เปล่งเสียงแต่ไร้เสียง โดยมีเสียงลมหายใจตามเสียงสระ นอกจากภาษามาดูราแล้ว ภาษาชวาเป็นแค่ภาษาเดียวในอินโดนีเซียตะวันตกที่มีการแยกเสียงระหว่างหน่วยเสียงฟันและปลายลิ้นม้วน
ไวยากรณ์
การเรียงประโยค
ภาษาชวาสมัยใหม่เรียงประโยคแบบ ประธาน-กริยา-กรรม ในขณะที่ภาษาชวาโบราณเรียงประโยคแบบ กริยา-ประธาน-กรรม หรือ กริยา-กรรม-ประธาน ตัวอย่างเช่น ประโยค "เขาเข้ามาในพระราชวัง" เขียนได้ดังนี้
- ชวาโบราณ: Těka (กริยา) ta sira (ประธาน) ri ng (คำชี้เฉพาะ) kadhatwan (กรรม)
- ชวาสมัยใหม่: Dheweke (ประธาน) těka (กริยา) neng kĕdhaton (กรรม)
คำกริยา
ไม่มีการผันคำกริยาตามบุคคลหรือจำนวน ไม่มีการแสดงกาลแต่ใช้การเติมคำช่วย เช่น "เมื่อวานนี้" "แล้ว" แบบเดียวกับภาษาไทย ระบบของคำกริยาในการแสดงความแตกต่างของประธานและกรรมค่อนข้างซับซ้อน
คำศัพท์
ภาษาชวามีศัพท์มากมายที่เป็นคำยืมและคำดั้งเดิมของภาษาตระกูลออสโตรนีเซีย ภาษาสันสกฤตมีอิทธิพลต่อภาษาชวามาก คำยืมจากภาษาสันสกฤตมักเป็นคำที่ใช้ในวรรณคดี และยังคงใช้อยู่ คำยืมจากภาษาอื่นๆมี ภาษาอาหรับ ภาษาดัตช์ และภาษามลายู
ภาษาชวามีคำยืมจากภาษาอาหรับน้อยกว่าภาษามลายู โดยมากเป็นคำที่ใช้ในศาสนาอิสลาม เช่นpikir ("คิด" มาจากภาษาอาหรับfikr), badan ("ร่างกาย"), mripat ("ตา" คาดว่ามาจากภาษาอาหรับ ma'rifah, หมายถึง "ความรู้" หรือ "วิสัยทัศน์"). คำยืมจากภาษาอาหรับนี้มีศัพท์พื้นเมืองและคำยืมจากภาษาสันสกฤตที่มีความหมายเหมือนกันใช้อยู่ด้วย เช่น pikir = galih, idhĕp (ออสโตรนีเซีย), manah, cipta, หรือ cita (ภาษาลันสกฤต), badan = awak (ออสโตรนีเซีย), slira, sarira, หรือ angga (ภาษาสันสกฤต), และ mripat = mata (ออสโตรนีเซีย), soca, หรือ netra (ภาษาสันสกฤต)
ต่อไปนี้เป็นตารางเปรียบเทียบศัพท์จากภาษาต่างๆ
ภาษาชวา | ภาษาอินโดนีเซีย | ภาษาดัตช์ | ภาษาไทย |
---|---|---|---|
pit | sepeda | fiets | จักรยาน |
pit montor | sepeda motor | motorfiets | จักรยานยนต์ |
sepur | kereta api | spoor, i.e. (rail)track | รถไฟ |
อ้างอิง
หมายเหตุ
อ้างอิง
- Laurie Bauer, 2007, The Linguistics Student's Handbook, Edinburgh
- ↑ Wolff, John U.; Soepomo Poedjosoedarmo (1982). Communicative Codes in Central Java. Cornell Southeast Asia Program. p. 4. ISBN 0-87727-116-X.
- Ogloblin 2005, p. 590.
- Wedhawati et al. 2006, p. 1.
- ↑ Brown, Keith; Ogilvie, Sarah (2008). Concise encyclopedia of languages of the world. Elsevier. p. 560. ISBN 9780080877747. สืบค้นเมื่อ 2010-05-24. Madurese also possesses aspirated phonemes, including at least one aspirated retroflex phoneme.
- Suharno, Ignatius (1982). A Descriptive Study of Javanese. Canberra: ANU Asia-Pacific Linguistics / Pacific Linguistics Press. pp. 4–6. doi:10.15144/PL-D45. hdl:1885/145095.
- Perwitasari, Arum; Klamer, Marian; Witteman, Jurriaan; Schiller, Niels O. (2017). "Quality of Javanese and Sundanese Vowels". Journal of the Southeast Asian Linguistics Society. 10 (2): 1–9. hdl:10524/52406.
ข้อมูล
- Adelaar, Karl Alexander (2005). "Malayo-Sumbawan". Oceanic Linguistics. University of Hawai'i Press. 44 (2): 356–388. doi:10.1353/ol.2005.0027.
- Blust, Robert (1981). "The reconstruction of proto-Malayo-Javanic: an appreciation". Bijdragen tot de Taal-, Land- en Volkenkunde. 137 (4): 456–459. doi:10.1163/22134379-90003492. JSTOR 27863392.
- Blust, Robert (2010). "The Greater North Borneo Hypothesis". Oceanic Linguistics. University of Hawai'i Press. 49 (1): 44–118. doi:10.1353/ol.0.0060. JSTOR 40783586. S2CID 145459318.
- Dyen, Isidore (1965). A lexicostatistical classification of the Austronesian languages. Baltimore: Waverly Press.
- Nothofer, Berndt (1975). The reconstruction of Proto-Malayo-Javanic. Verhandelingen van het Koninklijk Instituut voor Taal-, Land- en Volkenkunde. 73. Den Haag: Martinus Nijhoff. ISBN 9024717728.
- Nothofer, Berndt (2009). "Javanese". ใน Keith Brown; Sarah Ogilvie (บ.ก.). Concise Encyclopedia of Languages of the World. Oxford: Elsevier. pp. 560–561. ISBN 9780080877747.
- Ogloblin, Alexander K. (2005). "Javanese". ใน K. Alexander Adelaar; Nikolaus Himmelmann (บ.ก.). The Austronesian Languages of Asia and Madagascar. London dan New York: Routledge. pp. 590–624. ISBN 9780700712861.
- Smith, Alexander D. (2017). "The Western Malayo-Polynesian Problem". Oceanic Linguistics. University of Hawai'i Press. 56 (2): 435–490. doi:10.1353/ol.2017.0021. S2CID 149377092.
- Horne, Elinor C. (1961). Beginning Javanese. New Haven: Yale University Press.
- van der Molen, W. (1993). Javaans schrift. Leiden: Vakgroep Talen en Culturen van Zuidoost-Azië en Oceanië. ISBN 90-73084-09-1.
- Wedhawati; Nurlina, W. E. S.; Setiyanto, E.; Sukesti, R.; และคณะ (2006). Tata bahasa Jawa mutakhir [A contemporary grammar of Javanese] (ภาษาอินโดนีเซีย). Yogyakarta: Kanisius. ISBN 9789792110371.
- Wurm, S. A.; Hattori, Shiro, บ.ก. (1983). Language Atlas of the Pacific Area, Part II: (Insular South-east Asia). Canberra.
- Zoetmulder, P. J. (1982). Old Javanese–English Dictionary. 's-Gravenhage: Martinus Nijhoff. ISBN 90-247-6178-6.
อ่านเพิ่ม
- Errington, James Joseph (1991), Language and social change in Java : linguistic reflexes of modernization in a traditional royal polity, Ohio University, Center for International Studies, สืบค้นเมื่อ 18 February 2013
- Errington, James Joseph (1998), Shifting languages : interaction and identity in Javanese Indonesia, Cambridge University Press, ISBN 978-0-521-63448-9
- Horne, Elinor Clark (1963), Intermediate Javanese, Yale University Press, สืบค้นเมื่อ 18 February 2013
- Horne, Elinor Clark (1974), Javanese-English dictionary, Yale University Press, ISBN 978-0-300-01689-5
- Keeler, Ward (1984), Javanese, a cultural approach, Ohio University Center for International Studies, ISBN 978-0-89680-121-9
- Robson, S. O. (Stuart Owen); Wibisono, Singgih (2002), Javanese English dictionary, Periplus Editions (HK) ; North Clarendon, VT : Tuttle Pub, ISBN 978-0-7946-0000-6
- Robson, S. O. (Stuart Owen); Monash University. Monash Asia Institute (2002), Javanese grammar for students (Rev. ed.), Monash Asia Institute, Monash University, ISBN 978-1-876924-12-6
- Robson, S. O. (Stuart Owen); Monash University. Centre of Southeast Asian Studies (1991), Patterns of variation in colloquial Javanese, Centre of Southeast Asian Studies, Monash University, ISBN 978-0-7326-0263-5
- Siegel, James T (1986), Solo in the new order : language and hierarchy in an Indonesian city, Princeton University Press, ISBN 978-0-691-00085-5
- Uhlenbeck, E. M; Koninklijk Instituut voor Taal-, Land- en Volkenkunde (Netherlands) (1964), A critical survey of studies on the languages of Java and Madura, Martinus Nijhoff, สืบค้นเมื่อ 18 February 2013
- Uhlenbeck, E. M; Koninklijk Instituut voor Taal-, Land- en Volkenkunde (Netherlands) (1978), Studies in Javanese morphology, Martinus Nijhoff, ISBN 978-90-247-2162-7
แหล่งข้อมูลอื่น
แม่แบบ:Interwiki
ภาษาชวา ข้อมูลการท่องเที่ยวจาก วิกิท่องเที่ยว
- Javanese Writing System
- The Javanese alphabet (Unicode A980—A9DF)
- Javanese Phonation Types, Consonants
- Old Javanese inscriptions