แอมเพอร์แซนด์
แอมเพอร์แซนด์ (อังกฤษ: ampersand) หรือเรียกโดยทั่วไปว่า แอนด์ ( & ) คือสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนแทนคำว่า and ในภาษาอังกฤษ มาจากการรวมอักษรของคำในภาษาละติน et แปลว่า "และ"
& | |
---|---|
แอมเพอร์แซนด์ | |
ที่มาของชื่อ
คำว่า แอมเพอร์แซนด์ (ampersand) มีที่มาจากการสะกดผิดของวลี "and per se and" แปลว่า "และ ซึ่งสัญลักษณ์นี้ใช้แทนตัวมันเองว่า และ" สำหรับชาวสกอตเรียกสัญลักษณ์นี้ว่า เอเพอร์แชนด์ (epershand) ซึ่งมีที่มาจาก "et per se and" แปลได้เป็นความหมายเดียวกัน
และมีข่าวลืออีกอย่างหนึ่งกล่าวว่า คำว่า แอมเพอร์แซนด์ มาจากผู้ประดิษฐ์คนหนึ่งที่ชื่อว่า ลินัส แอมเพอร์ (Linus Amper) จึงทำให้เกิด แอนด์ของแอมเพอร์ หรือ แอมเพอร์ส แอนด์ (Amper's And) และอ่านเพี้ยนกันมาเป็น แอมเพอร์แซนด์ ในปัจจุบัน
ประวัติ
สัญลักษณ์แอมเพอร์แซนด์สามารถพบได้ในเอกสารยุคโรมันโบราณตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 1 มาร์คุส ทุลลิอุส ทิโร (Marcus Tullius Tiro) ผู้เป็นเลขานุการของซิเซโร (Cicero) มา 36 ปี ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่ประดิษฐ์แอมเพอร์แซนด์ขึ้นใช้เป็นครั้งแรก สัญลักษณ์ในระยะแรกเป็นอักษร E และ T ตัวใหญ่ที่เขียนติดกัน เมื่อเวลาผ่านไปสัญลักษณ์ถูกเขียนให้โค้งมนและต่อเนื่องมากขึ้น เป็นแอมเพอร์แซนด์แบบอิตาลิก (ตัวเอน)
จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 8 ศิลปะการคัดลายมือ (calligraphy) เริ่มแผ่ขยายในโลกตะวันตก ผู้เขียนหนังสือด้วยการคัดลายมือตั้งใจที่จะใช้แอมเพอร์แซนด์ในการบีบย่อคำให้สั้นลง เพื่อให้งานของพวกเขาสามารถทำได้ง่ายขึ้น ในยุคนี้แอมเพอร์แซนด์จึงถูกบีบให้มากกว่าเดิมจนเป็นตัวอักษรแบบโรมันตามรูป
การใช้งาน
เนื้อหาทั่วไป
ปกติแล้วแอมเพอร์แซนด์มีความหมายเหมือน "และ" ในงานเขียนทั่วไป แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เป็นที่แนะนำให้ใช้บ่อยในไวยากรณ์ ควรใช้กับการขึ้นหัวเรื่อง ชื่อเฉพาะ หรือคำย่อที่ไม่ต้องการให้เกิดความสับสนกับคำเต็ม เช่น S&P, LS&CO (Levi Strauss & Co.), Mr. & Mrs. Smith, Dungeons & Dragons และเครื่องหมายนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหลักภาษาไทย จึงไม่ควรใช้ปนกับภาษาไทย
ในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึง 19 มีการย่อคำว่า "et cetera" (อื่น ๆ) ไปเป็น "&c." ควบคู่ไปกับการใช้ "etc." ปัจจุบันนี้ "&c." ไม่มีการใช้งานให้เห็นแล้ว
คอมพิวเตอร์
ภาษาโปรแกรมหลายภาษาใช้แอมเพอร์แซนด์เป็นตัวดำเนินการ "และ" เพื่อตรวจสอบตรรกะ หรือใช้เป็นตัวดำเนินการแบบบิตสำหรับค่าตัวเลขเช่น
if (a == 1 && b == 2) { ... }
x = 7 & 2;
บางภาษาใช้แอมเพอร์แซนด์เป็นตัวดำเนินการเชื่อมต่อสตริง โดยเฉพาะภาษาวิชวลเบสิก
Text1 = "front" & "back"
บางภาษาใช้เครื่องหมายนี้แสดงแทนการอ้างถึงตำแหน่งหน่วยความจำของตัวแปร เพื่อการอ้างอิงที่อยู่ของตัวแปรและการส่งค่าผ่านฟังก์ชัน โดยเฉพาะภาษาซีและภาษาซีพลัสพลัส
void sortArray (int &array, int size) { ... }
a = &b;
ภาษามาร์กอัปต่าง ๆ เช่น HTML, XML, SGML ใช้เครื่องหมายนี้สำหรับแปลงอักขระที่อาจทำให้เกิดปัญหากับการแจงโครงสร้าง อาทิ <, >, &, " เมื่อเก็บอยู่ในไฟล์ข้อมูลจะกลายเป็น <, >, &, " ตามลำดับ เรียกว่า เอนทิตี (entity) แต่เมื่อแจงโครงสร้างออกมาแล้วก็จะได้ข้อมูลดังเดิม สิ่งนี้อาจทำให้เกิดปัญหากับยูอาร์แอลที่ปรากฏในลิงก์ของเอกสาร HTML หรือส่วนอื่นที่จำเป็นต้องใช้แอมเพอร์แซนด์เช่นจาวาสคริปต์ ซึ่งจำเป็นจะต้องแทนที่ & ในยูอาร์แอลด้วย & เสมอจึงจะตรงตามมาตรฐาน แต่หลายเบราว์เซอร์ก็สามารถอนุโลมให้ใช้ & ได้
อ้างอิง
- "The ampersand". Adobe Fonts.
- http://www.word-detective.com/052003.html#ampersand
- "The History of Court Reporting". National Court Reporters Association.
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: แอมเพอร์แซนด์ |