fbpx
วิกิพีเดีย

กรดไขมัน

กันยายน 25, 2021

ระวังสับสนกับ ไขมัน

กรดไขมัน (อังกฤษ: Fatty acid) เป็นกรดคาร์บอกซิลิก (carboxylic acid) ซึ่งมีหางเป็นโซ่แบบ อะลิฟาติก (aliphatic) ยาวมีทั้งกรดไขมันอิ่มตัว (saturated) และกรดไขมันไม่อิ่มตัว (unsaturated) กรดไขมันจะมีคาร์บอน อย่างน้อย 8 อะตอม และส่วนใหญ่จะเป็นจำนวนเลขคู่ เพราะกระบวนการชีวสังเคราะห์ ของกรดไขมันจะเป็นการเพิมโมเลกุลของอะซิเตต ซึ่งมีคาร์บอน อยู่ 2 อะตอม

กรดบูไตริก, ห่วงโซ่กรดไขมันสั้น

ในอุตสาหกรรม กรดไขมันผลิตโดยการไฮโดรไลสิส (hydrolysis) เอสเตอร์ ลิงเกจส์ ในไขมัน หรือน้ำมันในรูปของ ไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ด้วยการกำจัด กลีเซอรอล ออกไป ดู โอลีโอเคมิคอล (oleochemical)

ชนิดของกรดไขมัน

 
โมเลกุลจำนวนมากของกรดไขมัน

กรดไขมันที่มีพันธะคู่จะเรียกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัว กรดไขมันที่ไม่มีพันธะคู่จะเรียกว่ากรดไขมันอิ่มตัว จะแตกต่างกันในความยาวเช่นกัน

ความยาวของห่วงโซ่กรดไขมันอิสระ

ห่วงโซ่กรดไขมันที่แตกต่างกันตามความยาวแบ่งออกมักจะสั้นไปยาวมาก

  • ห่วงโซ่กรดไขมันสั้น เป็นกรดไขมันที่มีปลายหางของแอลิแฟติก น้อยกว่าอยู่ 6 คาร์บอน
  • ห่วงโซ่กรดไขมันกลาง เป็นกรดไขมันที่มีปลายหางของแอลิแฟติกระหว่าง 6 - 12 คาร์บอน ซึ่งสามารถอยู่ในรูปแบบของห่วงโซ่ไตรกลีเซอไรด์กลาง
  • ห่วงโซ่กรดไขมันยาว เป็นกรดไขมันที่มีปลายหางของแอลิแฟติกระหว่าง 13 - 21 คาร์บอน
  • ห่วงโซ่กรดไขมันที่ยาวมาก เป็นกรดไขมันที่มีปลายหางของแอลิแฟติก ที่ยาวกว่า 22 คาร์บอน

กรดไขมันไม่อิ่มตัว

 
การเปรียบเทียบ ทรานส์ ไอโซเมอร์ (บนสุด) กรดอีลไอดิก และซีส ไอโซเมอร์ กรดโอเลอิก

กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีอย่างน้อยอยู่ 1 มากกว่าพันธะคู่ระหว่างอะตอมคาร์บอน (คู่ของอะตอมคาร์บอนเชื่อมต่อกันด้วยพันธะคู่สามารถอิ่มตัวโดยการเพิ่มไฮโดรเจนอะตอมที่แปลงจากพันธะคู่ไปพันธะเดี่ยว ดังนั้นพันธะคู่จึงเรียกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัว) 2 อะตอมคาร์บอนในห่วงโซ่ที่ถูกผูกไว้ไปด้านข้างของพันธะคู่สามารถเกิดขึ้นได้ในการกำหนดค่าซีสหรือทรานส์

ซีส
การกำหนดค่า ซีส หมายถึงอะตอมไฮโดรเจนที่อยู่ใกล้เคียงในด้านเดียวกันของพันธะคู่ ความแข็งแกร่งของพันธะคู่ที่แข็งตัวทั้งโครงสร้างและ ในส่วนของ ซีส ไอโซเมอร์ ที่เป็นสาเหตุที่ห่วงโซ่จะโค้งรวมถึงควบคุมอิสระในโครงสร้างของกรดไขมันพันธะคู่โซ่มีอยู่ในการกำหนดค่า ซีส ความยืดหยุ่นมีน้อย ในขณะที่ห่วงโซ่มีจำนวนมากในพันธะซีส ที่จะกลายโค้งที่ค่อนข้างอยู่ในโครงสร้างที่เข้าถึงได้มากที่สุด ตัวอย่างเช่น กรดโอเลอิก มีพันธะคู่อยู่ 1 มี "ปม" ในนั้นขณะกรดไลโนเลอิก กับ 2 พันธะคู่ มีความโค้งที่เด่นชัดมากขึ้น กรดอัลฟาไลโนเลอิก กับ 3 พันธะคู่ ช่วยอยู่ในรูปร่างคล้ายตะขอ ผลของอันนี้ก็คือในสภาพแวดล้อมที่จำกัด ช่นเมื่อมีกรดไขมันเป็นส่วนหนึ่งของ phospholipid ใน ไขมันbilayer หรือไตรกลีเซอไรด์ในไขมันขนาดหยด พันธะซีสกำหนดความสามารถของกรดไขมันที่จะเต็มไปอย่างใกล้ชิด และอาจส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิหลอมเหลวของเยื่อหุ้มเซลล์หรือของไขมัน
ทรานส์
ตัวอย่างของกรดไขมันไม่อิ่มตัว
ชื่อทั่วไป โครงสร้างทางเคมี Δx C:D n−x
กรดเมไรซโตเลอิก CH3 (CH2) 3CH=CH (CH2) 7COOH cis-Δ9 14:1 n−5
กรดพาลไมโตโตเลอิก CH3 (CH2) 5CH=CH (CH2) 7COOH cis-Δ9 16:1 n−7
กรดซาไพเอนิก CH3 (CH2) 8CH=CH (CH2) 4COOH cis-Δ6 16:1 n−10
กรดโอเลอิก CH3 (CH2) 7CH=CH (CH2) 7COOH cis-Δ9 18:1 n−9
กรดอีลไอดิก CH3 (CH2) 7CH=CH (CH2) 7COOH trans-Δ9 18:1 n−9
กรดเวกเซนนิก CH3 (CH2) 5CH=CH (CH2) 9COOH trans-Δ11 18:1 n−7
กรดไลโนเลอิก CH3 (CH2) 4CH=CHCH2CH=CH (CH2) 7COOH cis, cis-Δ9, Δ12 18:2 n−6
กรดไลโนเลย์ดิก CH3 (CH2) 4CH=CHCH2CH=CH (CH2) 7COOH trans, trans-Δ9, Δ12 18:2 n−6
เอ-กรดไลโนเลอิก CH3CH2CH=CHCH2CH=CHCH2CH=CH (CH2) 7COOH cis, cis, cis-Δ9, Δ12, Δ15 18:3 n−3
กรดอาเรชโดนิก CH3 (CH2) 4CH=CHCH2CH=CHCH2CH=CHCH2CH=CH (CH2) 3COOHNIST cis, cis, cis, cis-Δ5Δ8, Δ11, Δ14 20:4 n−6
กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก CH3CH2CH=CHCH2CH=CHCH2CH=CHCH2CH=CHCH2CH=CH (CH2) 3COOH cis, cis, cis, cis, cis-Δ5, Δ8, Δ11, Δ14, Δ17 20:5 n−3
กรดอีรูซิก CH3 (CH2) 7CH=CH (CH2) 11COOH cis-Δ13 22:1 n−9
กรดโดโคซาเฮซาอีโนอิ CH3CH2CH=CHCH2CH=CHCH2CH=CHCH2CH=CHCH2CH=CHCH2CH=CH (CH2) 2COOH cis, cis, cis, cis, cis, cis-Δ4, Δ7, Δ10, Δ13, Δ16, Δ19 22:6 n−3

กรดไขมันจำเป็น

ดูบทความหลักที่: กรดไขมันจำเป็น

กรดไขมันที่จำเป็นโดยร่างกายมนุษย์และสัตว์ แต่ไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้

กรดไขมันอิ่มตัว

ดูบทความหลักที่: กรดไขมันอิ่มตัว

กรดไขมันอิ่มตัวที่มีสายห่วงโซ่กรดคาร์บอกซีลิกยาวว่ามักจะมีระหว่างวันที่ 12 และ 24 อะตอมคาร์บอนและไม่มีพันธะคู่ ดังนั้นกรดไขมันอิ่มตัวจะอิ่มตัวกับไฮโดรเจน (ตั้งแต่พันธะคู่ลดจำนวนของไฮโดรเจนในแต่ละคาร์บอน) เพราะกรดไขมันอิ่มตัวมีเฉพาะพันธะเดี่ยว อะตอมคาร์บอนแต่ละภายในห่วงโซ่มี 2 ไฮโดรเจนอะตอม (ยกเว้นโอเมก้าคาร์บอนที่ปลายซึ่งมี 3 ไฮโดรเจน)

ตัวอย่างของกรดไขมันอิ่มตัว
ชื่อทั่วไป โครงสร้างทางเคมี C:D
Caprylic acid CH3 (CH2) 6COOH 8:0
Capric acid CH3 (CH2) 8COOH 10:0
Lauric acid CH3 (CH2) 10COOH 12:0
Myristic acid CH3 (CH2) 12COOH 14:0
Palmitic acid CH3 (CH2) 14COOH 16:0
Stearic acid CH3 (CH2) 16COOH 18:0
Arachidic acid CH3 (CH2) 18COOH 20:0
Behenic acid CH3 (CH2) 20COOH 22:0
Lignoceric acid CH3 (CH2) 22COOH 24:0
Cerotic acid CH3 (CH2) 24COOH 26:0

กรดไขมันในอาหารไขมัน

ตารางต่อไปนี้จะช่วยให้กรดไขมัน วิตามินอี และองค์ประกอบคอเลสเตอรอลของอาหารไขมันบางส่วนร่วมกัน

อิ่มตัว ไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน คอเลสเตอรอล วิตามินอี
กรัม/100กรัม กรัม/100กรัม กรัม/100กรัม มิลลิกรัม/100กรัม มิลลิกรัม/100กรัม
ไขมันสัตว์
น้ำมันหมู 40.8 43.8 9.6 93 0.00
น้ำมันเป็ด 33.2 49.3 12.9 100 2.70
เนย 54.0 19.8 2.6 230 2.00
ไขมันพืช
น้ำมันมะพร้าว 85.2 6.6 1.7 0 .66
น้ำมันปาล์ม 45.3 41.6 8.3 0 33.12
น้ำมันเมล็ดฝ้าย 25.5 21.3 48.1 0 42.77
น้ำมันจมูกข้าวสาลี 18.8 15.9 60.7 0 136.65
น้ำมันถั่วเหลือง 14.5 23.2 56.5 0 16.29
น้ำมันมะกอก 14.0 69.7 11.2 0 5.10
น้ำมันข้าวโพด 12.7 24.7 57.8 0 17.24
น้ำมันดอกทานตะวัน 11.9 20.2 63.0 0 49.0 
น้ำมันดอกคำฝอย 10.2 12.6 72.1 0 40.68
น้ำมันเฮมพ์ 10 15 75 0
คาโนลา/น้ำมันเมล็ดต้นเรพ 5.3 64.3 24.8 0 22.21

ดูเพิ่ม

คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ:
กรดไขมัน

อ้างอิง

  1. Medscape: Free CME, Medical News, Full-text Journal Articles & More
  2. Christopher Beermann1, J Jelinek1, T Reinecker2, A Hauenschild2, G Boehm1, and H-U Klör2, "Short term effects of dietary medium-chain fatty acids and n-3 long-chain polyunsaturated fatty acids on the fat metabolism of healthy volunteers 2012-03-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน"
  3. Food Standards Agency (1991). "Fats and Oils". McCance & Widdowson's the Composition of Foods. Royal Society of Chemistry.
  4. Ted Altar. "More Than You Wanted To Know About Fats/Oils". Sundance Natural Foods Online. สืบค้นเมื่อ 2006-08-31.
  5. U. S. Department of Agriculture. "USDA National Nutrient Database for Standard Reference". U. S. Department of Agriculture. สืบค้นเมื่อ 2010-02-17.

แหล่งข้อมูลอื่น

  บทความเกี่ยวกับชีวเคมี เคมีอินทรีย์ และโมเลกุลชีวภาพนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยเพิ่มข้อมูล

กันยายน 25, 2021
กรดไขม, ระว, งส, บสนก, ไขม, งกฤษ, fatty, acid, เป, นกรดคาร, บอกซ, carboxylic, acid, งม, หางเป, นโซ, แบบ, อะล, ฟาต, aliphatic, ยาวม, งอ, มต, saturated, และไม, มต, unsaturated, จะม, คาร, บอน, อย, างน, อย, อะตอม, และส, วนใหญ, จะเป, นจำนวนเลขค, เพราะกระบวนการช, วส. rawngsbsnkb ikhmn krdikhmn xngkvs Fatty acid epnkrdkharbxksilik carboxylic acid sungmihangepnosaebb xalifatik aliphatic yawmithngkrdikhmnximtw saturated aelakrdikhmnimximtw unsaturated krdikhmncamikharbxn xyangnxy 8 xatxm aelaswnihycaepncanwnelkhkhu ephraakrabwnkarchiwsngekhraah khxngkrdikhmncaepnkarephimomelkulkhxngxasiett sungmikharbxn xyu 2 xatxmkrdbuitrik hwngoskrdikhmnsn inxutsahkrrm krdikhmnphlitodykarihodrilsis hydrolysis exsetxr lingekcs inikhmn hruxnamninrupkhxng itrkliesxird triglyceride dwykarkacd kliesxrxl xxkip du oxlioxekhmikhxl oleochemical enuxha 1 chnidkhxngkrdikhmn 1 1 khwamyawkhxnghwngoskrdikhmnxisra 1 2 krdikhmnimximtw 1 3 krdikhmncaepn 1 4 krdikhmnximtw 2 krdikhmninxaharikhmn 3 duephim 4 xangxing 5 aehlngkhxmulxunchnidkhxngkrdikhmn aekikh omelkulcanwnmakkhxngkrdikhmn krdikhmnthimiphnthakhucaeriykwakrdikhmnimximtw krdikhmnthiimmiphnthakhucaeriykwakrdikhmnximtw caaetktangkninkhwamyawechnkn khwamyawkhxnghwngoskrdikhmnxisra aekikh hwngoskrdikhmnthiaetktangkntamkhwamyawaebngxxkmkcasnipyawmak hwngoskrdikhmnsn epnkrdikhmnthimiplayhangkhxngaexliaeftik nxykwaxyu 6 kharbxn hwngoskrdikhmnklang epnkrdikhmnthimiplayhangkhxngaexliaeftikrahwang 6 12 kharbxn 1 sungsamarthxyuinrupaebbkhxnghwngositrkliesxirdklang hwngoskrdikhmnyaw epnkrdikhmnthimiplayhangkhxngaexliaeftikrahwang 13 21 kharbxn 2 hwngoskrdikhmnthiyawmak epnkrdikhmnthimiplayhangkhxngaexliaeftik thiyawkwa 22 kharbxnkrdikhmnimximtw aekikh karepriybethiyb thrans ixosemxr bnsud krdxilixdik aelasis ixosemxr krdoxelxik krdikhmnimximtwmixyangnxyxyu 1 makkwaphnthakhurahwangxatxmkharbxn khukhxngxatxmkharbxnechuxmtxkndwyphnthakhusamarthximtwodykarephimihodrecnxatxmthiaeplngcakphnthakhuipphnthaediyw dngnnphnthakhucungeriykwakrdikhmnimximtw 2 xatxmkharbxninhwngosthithukphukiwipdankhangkhxngphnthakhusamarthekidkhunidinkarkahndkhasishruxthrans sis karkahndkha sis hmaythungxatxmihodrecnthixyuiklekhiyngindanediywknkhxngphnthakhu khwamaekhngaekrngkhxngphnthakhuthiaekhngtwthngokhrngsrangaela inswnkhxng sis ixosemxr thiepnsaehtuthihwngoscaokhngrwmthungkhwbkhumxisrainokhrngsrangkhxngkrdikhmnphnthakhuosmixyuinkarkahndkha sis khwamyudhyunminxy inkhnathihwngosmicanwnmakinphnthasis thicaklayokhngthikhxnkhangxyuinokhrngsrangthiekhathungidmakthisud twxyangechn krdoxelxik miphnthakhuxyu 1 mi pm innnkhnakrdilonelxik kb 2 phnthakhu mikhwamokhngthiednchdmakkhun krdxlfailonelxik kb 3 phnthakhu chwyxyuinruprangkhlaytakhx phlkhxngxnnikkhuxinsphaphaewdlxmthicakd chnemuxmikrdikhmnepnswnhnungkhxng phospholipid in ikhmnbilayer hruxitrkliesxirdinikhmnkhnadhyd phnthasiskahndkhwamsamarthkhxngkrdikhmnthicaetmipxyangiklchid aelaxacsngphlkrathbtxxunhphumihlxmehlwkhxngeyuxhumesllhruxkhxngikhmnthrans swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidtwxyangkhxngkrdikhmnimximtw chuxthwip okhrngsrangthangekhmi Dx C D n xkrdemirsotelxik CH3 CH2 3CH CH CH2 7COOH cis D9 14 1 n 5krdphalimototelxik CH3 CH2 5CH CH CH2 7COOH cis D9 16 1 n 7krdsaiphexnik CH3 CH2 8CH CH CH2 4COOH cis D6 16 1 n 10krdoxelxik CH3 CH2 7CH CH CH2 7COOH cis D9 18 1 n 9krdxilixdik CH3 CH2 7CH CH CH2 7COOH trans D9 18 1 n 9krdewkesnnik CH3 CH2 5CH CH CH2 9COOH trans D11 18 1 n 7krdilonelxik CH3 CH2 4CH CHCH2CH CH CH2 7COOH cis cis D9 D12 18 2 n 6krdilonelydik CH3 CH2 4CH CHCH2CH CH CH2 7COOH trans trans D9 D12 18 2 n 6ex krdilonelxik CH3CH2CH CHCH2CH CHCH2CH CH CH2 7COOH cis cis cis D9 D12 D15 18 3 n 3krdxaerchodnik CH3 CH2 4CH CHCH2CH CHCH2CH CHCH2CH CH CH2 3COOHNIST cis cis cis cis D5D8 D11 D14 20 4 n 6krdixokhsaephntaxionxik CH3CH2CH CHCH2CH CHCH2CH CHCH2CH CHCH2CH CH CH2 3COOH cis cis cis cis cis D5 D8 D11 D14 D17 20 5 n 3krdxirusik CH3 CH2 7CH CH CH2 11COOH cis D13 22 1 n 9krdodokhsaehsaxionxi CH3CH2CH CHCH2CH CHCH2CH CHCH2CH CHCH2CH CHCH2CH CH CH2 2COOH cis cis cis cis cis cis D4 D7 D10 D13 D16 D19 22 6 n 3krdikhmncaepn aekikh dubthkhwamhlkthi krdikhmncaepn krdikhmnthicaepnodyrangkaymnusyaelastw aetimsamarthsngekhraahkhunexngid krdikhmnximtw aekikh dubthkhwamhlkthi krdikhmnximtw krdikhmnximtwthimisayhwngoskrdkharbxksilikyawwamkcamirahwangwnthi 12 aela 24 xatxmkharbxnaelaimmiphnthakhu dngnnkrdikhmnximtwcaximtwkbihodrecn tngaetphnthakhuldcanwnkhxngihodrecninaetlakharbxn ephraakrdikhmnximtwmiechphaaphnthaediyw xatxmkharbxnaetlaphayinhwngosmi 2 ihodrecnxatxm ykewnoxemkakharbxnthiplaysungmi 3 ihodrecn twxyangkhxngkrdikhmnximtw chuxthwip okhrngsrangthangekhmi C DCaprylic acid CH3 CH2 6COOH 8 0Capric acid CH3 CH2 8COOH 10 0Lauric acid CH3 CH2 10COOH 12 0Myristic acid CH3 CH2 12COOH 14 0Palmitic acid CH3 CH2 14COOH 16 0Stearic acid CH3 CH2 16COOH 18 0Arachidic acid CH3 CH2 18COOH 20 0Behenic acid CH3 CH2 20COOH 22 0Lignoceric acid CH3 CH2 22COOH 24 0Cerotic acid CH3 CH2 24COOH 26 0krdikhmninxaharikhmn aekikhtarangtxipnicachwyihkrdikhmn witaminxi aelaxngkhprakxbkhxelsetxrxlkhxngxaharikhmnbangswnrwmkn 3 4 ximtw imximtwechingediyw ikhmnimximtwechingsxn khxelsetxrxl witaminxikrm 100krm krm 100krm krm 100krm millikrm 100krm millikrm 100krmikhmnstwnamnhmu 40 8 43 8 9 6 93 0 00namnepd 5 33 2 49 3 12 9 100 2 70eny 54 0 19 8 2 6 230 2 00ikhmnphuchnamnmaphraw 85 2 6 6 1 7 0 66namnpalm 45 3 41 6 8 3 0 33 12namnemldfay 25 5 21 3 48 1 0 42 77namncmukkhawsali 18 8 15 9 60 7 0 136 65namnthwehluxng 14 5 23 2 56 5 0 16 29namnmakxk 14 0 69 7 11 2 0 5 10namnkhawophd 12 7 24 7 57 8 0 17 24namndxkthantawn 11 9 20 2 63 0 0 49 0 namndxkkhafxy 10 2 12 6 72 1 0 40 68namnehmph 10 15 75 0khaonla namnemldtnerph 5 3 64 3 24 8 0 22 21duephim aekikhkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb krdikhmnkrdikhmnximtw krdikhmncaepn karephaphlaykhxngkrdikhmn krdikhmnsngekhraah karsngekhraahkhxngkrdikhmn raychuxkhxngkrdikhmnximtw krdikhmnimximtw namnphuch chiwekhmi ikhmnxangxing aekikh Medscape Free CME Medical News Full text Journal Articles amp More Christopher Beermann1 J Jelinek1 T Reinecker2 A Hauenschild2 G Boehm1 and H U Klor2 Short term effects of dietary medium chain fatty acids and n 3 long chain polyunsaturated fatty acids on the fat metabolism of healthy volunteers Archived 2012 03 08 thi ewyaebkaemchchin Food Standards Agency 1991 Fats and Oils McCance amp Widdowson s the Composition of Foods Royal Society of Chemistry Ted Altar More Than You Wanted To Know About Fats Oils Sundance Natural Foods Online subkhnemux 2006 08 31 U S Department of Agriculture USDA National Nutrient Database for Standard Reference U S Department of Agriculture subkhnemux 2010 02 17 aehlngkhxmulxun aekikhLipid Library Prostaglandins Leukotrienes amp Essential Fatty Acids Journal Archived 2007 10 12 thi ewyaebkaemchchin Fatty Blood Acids Archived 2011 07 20 thi ewyaebkaemchchin bthkhwamekiywkbchiwekhmi ekhmixinthriy aelaomelkulchiwphaphniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodyephimkhxmulekhathungcak https th wikipedia org w index php title krdikhmn amp oldid 9557707, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม