การระบาดทั่วของโควิด-19
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ |
การระบาดทั่วของโควิด-19 เป็นการระบาดทั่วโลกที่กำลังดำเนินไปของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19; โควิด-19) โดยมีสาเหตุมาจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 โดยพบครั้งแรกในนครอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้การระบาดนี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ ในวันที่ 30 มกราคม 2563 และประกาศให้เป็นโรคระบาดทั่ว ในวันที่ 11 มีนาคม 2563 ณ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลามาตรฐานกรีนิช 09.38 น. มีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วมากกว่า 250,714,165 คนใน 220 ประเทศและดินแดน
แผนที่แสดงจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันเฉลี่ยต่อ 100,000 คน ณ 28 พฤศจิกายน 2021 | |
โรค | โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) |
---|---|
สถานที่ | ทั่วโลก |
ผู้ป่วยต้นปัญหา | 1 ธันวาคม 2019 –ปัจจุบัน (2 ปี 1 เดือน 2 วัน) |
ต้นกำเนิด | อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน 30°35′14″N 114°17′17″E / 30.58722°N 114.28806°E |
ยืนยันป่วย | 250,714,165 คน |
หาย | 226,939,594 คน |
เสียชีวิต | 5,066,878 คน |
ดินแดน | 220 ดินแดน |
ณ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลามาตรฐานกรีนิช 09.38 น. มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ยืนยันแล้ว 250,714,165 คนใน 229 ประเทศและดินแดน มีผู้เสียชีวิตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้วมากกว่า 5,066,878 คน และผู้หายป่วยแล้ว 226,938,594 คน
ณ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลามาตรฐานกรีนิช 09.38 น. มีจำนวน 13 ประเทศ ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100000 ราย
ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2564 ประเทศไมโครนีเซีย พบผู้ติดเชื้อ 1 รายนับเป็นประเทศล่าสุดที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2)
ในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2564 ที่สนามบินเซนต์เฮเลนา พบผู้ติดเชื้อ 1 รายส่งผลให้เซนต์เฮเลนาเป็นดินแดนล่าสุดที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2)โดยผู้ป่วยเดินทางด้วยเที่ยวบิน สายการบินเช่าเหมาลำ เดินทางจากท่าอากาศยานลอนดอนสแตนสเต็ด
ไวรัสมีการแพร่เชื้อระหว่างคนในลักษณะเดียวกับไข้หวัดใหญ่ โดยผ่านการติดเชื้อจากละอองเสมหะจากการไอ ระยะระหว่างการสัมผัสเชื้อและมีอาการโดยทั่วไปแล้วอยู่ที่ 5 วัน แต่มีช่วงอยู่ระหว่าง 2 ถึง 14 วัน อาการที่พบบ่อย ได้แก่ มีไข้ ไอ และหายใจลำบาก ภาวะแทรกซ้อนอาจรวมไปถึงปอดบวม และกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน โดยยังไม่มีวัคซีนที่ได้รับอนุญาตหรือยาต้านไวรัสจำเพาะ แต่กำลังมีการวิจัยอยู่ขณะนี้ การรักษาจึงพยายามมุ่งเป้าไปที่การจัดการกับอาการ และรักษาแบบประคับประคอง มาตรการป้องกันที่มีการแนะนำ คือ การล้างมือ การอยู่ห่างจากบุคคลอื่น (โดยเฉพาะกับบุคคลที่ป่วย) ติดตามอาการ และกักตนเองเป็นเวลา 14 วัน ในกรณีที่สงสัยว่าตนอาจติดเชื้อ
การตอบสนองทางสาธารณสุขทั่วโลก ประกอบด้วย การจำกัดการท่องเที่ยว การกักด่าน การห้ามออกจากเคหสถานเวลาค่ำคืน การยกเลิกการจัดงาน และการปิดสถานศึกษา นอกจากนี้ยังมีการกักด่านทั้งหมดของประเทศอิตาลีและมณฑลหูเป่ย์ของประเทศจีน และมีการใช้มาตรการการห้ามออกจากเคหสถานเวลาค่ำคืนอย่างหลากหลายในประเทศจีนและประเทศเกาหลีใต้ มีการคัดกรองตามท่าอากาศยานและสถานีรถไฟ และมีการออกคำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางไปยังภูมิภาคที่มีการแพร่เชื้อในระดับประชาคม มีการปิดสถานศึกษาทั่วประเทศหรือส่วนท้องถิ่นในอย่างน้อย 115 ประเทศ ส่งผลกระทบกับนักเรียนนักศึกษามากกว่า 1.2 พันล้านคน
การระบาดทั่วยังก่อให้เกิดอุบัติการณ์ ประกอบด้วย ความไม่มั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ อาการกลัวคนแปลกหน้าและการเหยียดเชื้อชาติชาวจีนและชาวเอเชียตะวันออก และการแพร่กระจายของข้อมูลที่ผิด ๆ และทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับไวรัส
วิทยาการระบาด
ประเทศและดินแดน | ผู้ป่วย | เสียชีวิต | อ้างอิง | |
---|---|---|---|---|
245 | 262,181,360 | 5,207,587 | ||
สหรัฐ | 48,437,955 | 778,601 | ||
อินเดีย | 34,587,822 | 468,980 | ||
บราซิล | 22,084,749 | 614,376 | ||
สหราชอาณาจักร | 10,245,244 | 145,253 | ||
รัสเซีย | 9,436,650 | 268,705 | ||
ตุรกี | 8,772,342 | 76,635 | ||
ฝรั่งเศส | 7,731,351 | 119,997 | ||
อิหร่าน | 6,113,192 | 129,711 | ||
เยอรมนี | 5,854,884 | 101,350 | ||
อาร์เจนตินา | 5,328,416 | 116,554 | ||
สเปน | 5,153,923 | 88,008 | ||
โคลอมเบีย | 5,067,348 | 128,473 | ||
อิตาลี | 5,015,790 | 133,739 | ||
อินโดนีเซีย | 4,256,112 | 143,819 | ||
เม็กซิโก | 3,884,566 | 293,950 | ||
ยูเครน | 3,595,410 | 90,673 | ||
โปแลนด์ | 3,520,961 | 83,055 | ||
แอฟริกาใต้ | 2,963,679 | 89,822 | ||
ฟิลิปปินส์ | 2,832,375 | 48,501 | ||
เนเธอร์แลนด์ | 2,662,247 | 19,798 | ||
มาเลเซีย | 2,627,903 | 30,370 | ||
เปรู | 2,234,970 | 201,144 | ||
เช็กเกีย | 2,132,380 | 32,929 | ||
ไทย | 2,111,566 | 20,734 | ||
อิรัก | 2,080,448 | 23,807 | ||
แคนาดา | 1,798,515 | 29,722 | ||
โรมาเนีย | 1,778,045 | 56,382 | ||
ชิลี | 1,761,365 | 38,343 | ||
เบลเยียม | 1,749,469 | 26,966 | ||
ญี่ปุ่น | 1,726,555 | 18,355 | ||
บังกลาเทศ | 1,576,011 | 27,980 | ||
อิสราเอล | 1,342,976 | 8,195 | ||
ปากีสถาน | 1,284,840 | 28,728 | ||
เซอร์เบีย | 1,252,573 | 11,637 | ||
เวียดนาม | 1,224,110 | 25,055 | ||
สวีเดน | 1,198,848 | 15,145 | ||
สโลวาเกีย | 1,159,767 | 14,341 | ||
ออสเตรีย | 1,151,809 | 12,425 | ||
โปรตุเกส | 1,144,342 | 18,430 | ||
ฮังการี | 1,096,718 | 34,326 | ||
คาซัคสถาน | 1,054,091 | 17,818 | ||
สวิสเซอร์แลนด์ | 1,006,239 | 11,500 | ||
คิวบา | 962,350 | 8,300 | ||
โมร็อกโก | 949,785 | 14,775 | ||
จอร์แดน | 948,966 | 11,584 | ||
กรีซ | 931,183 | 18,067 | ||
จอร์เจีย | 840,593 | 11,974 | ||
เนปาล | 821,121 | 11,524 | ||
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 741,976 | 2,146 | ||
ตูนิเซีย | 717,309 | 25,365 | ||
บัลแกเรีย | 692,376 | 28,325 | ||
เลบานอน | 668,605 | 8,716 | ||
เบลารุส | 653,323 | 5,067 | ||
กัวเตมาลา | 617,621 | 15,933 | ||
โครเอเชีย | 604,347 | 10,826 | ||
อาเซอร์ไบจาน | 586,640 | 7,833 | ||
คอสตาริกา | 566,560 | 7,287 | ||
ไอร์แลนด์ | 564,657 | 5,652 | ||
ศรีลังกา | 563,267 | 14,328 | ||
ซาอุดีอาระเบีย | 549,720 | 8,834 | ||
โบลิเวีย | 536,472 | 19,161 | ||
เอกวาดอร์ | 526,615 | 33,219 | ||
พม่า | 521,931 | 19,097 | ||
เดนมาร์ก | 488,262 | 2,896 | ||
ปานามา | 477,514 | 7,362 | ||
ลิทัวเนีย | 468,494 | 6,719 | ||
ปารากวัย | 463,001 | 16,469 | ||
ปาเลสไตน์ | 460,053 | 4,796 | ||
เกาหลีใต้ | 447,230 | 3,624 | ||
เวเนซุเอลา | 431,296 | 5,144 | ||
สโลวีเนีย | 418,413 | 5,208 | ||
คูเวต | 413,327 | 2,465 | ||
สาธารณรัฐโดมินิกัน | 407,113 | 4,204 | ||
อุรุกวัย | 399,504 | 6,130 | ||
มองโกเลีย | 381,528 | 2,003 | ||
ฮอนดูรัส | 377,859 | 10,402 | ||
ลิเบีย | 372,209 | 5,448 | ||
เอธิโอเปีย | 371,346 | 6,750 | ||
มอลโดวา | 363,110 | 9,090 | ||
อียิปต์ | 357,629 | 20,412 | ||
อาร์มีเนีย | 338,120 | 7,535 | ||
โอมาน | 304,519 | 4,113 | ||
บาห์เรน | 277,628 | 1,394 | ||
บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา | 274,219 | 12,555 | ||
นอร์เวย์ | 263,798 | 1,050 | ||
สิงคโปร์ | 263,486 | 710 | ||
เคนยา | 254,979 | 5,334 | ||
ลัตเวีย | 252,728 | 4,155 | ||
กาตาร์ | 243,290 | 611 | ||
เอสโตเนีย | 221,860 | 1,798 | ||
นอร์ทมาซิโดเนีย | 215,125 | 7,569 | ||
ไนจีเรีย | 214,113 | 2,976 | ||
แอลจีเรีย | 210,344 | 6,064 | ||
ออสเตรเลีย | 210,238 | 2,006 | ||
แซมเบีย | 210,150 | 3,667 | ||
แอลเบเนีย | 199,750 | 3,092 | ||
บอตสวานา | 195,068 | 2,418 | ||
อุซเบกิสถาน | 193,065 | 1,399 | ||
ฟินแลนด์ | 185,622 | 1,335 | ||
คีร์กีซสถาน | 183,285 | 2,743 | ||
คอซอวอ | 161,083 | 2,983 | ||
อัฟกานิสถาน | 157,260 | 7,308 | ||
มอนเตเนโกร | 157,085 | 2,300 | ||
โมซัมบิก | 151,528 | 1,941 | ||
ซิมบับเว | 134,226 | 4,706 | ||
ไซปรัส | 133,860 | 594 | ||
กานา | 130,920 | 1,209 | ||
นามิเบีย | 129,180 | 3,573 | ||
ยูกันดา | 127,523 | 3,252 | ||
ปวยร์โตรีโก | 121,955 | 2,501 | ||
กัมพูชา | 120,112 | 2,935 | ||
เอลซัลวาดอร์ | 119,803 | 3,774 | ||
แคเมอรูน | 106,794 | 1,791 | ||
รวันดา | 100,344 | 1,342 | ||
สาธารณรัฐประชาชนจีน | 98,788 | 4,636 | ||
มัลดีฟส์ | 91,543 | 250 | ||
จาเมกา | 91,222 | 2,391 | ||
ลักเซมเบิร์ก | 89,010 | 874 | ||
เซเนกัล | 73,987 | 1,885 | ||
ลาว | 72,447 | 166 | ||
ตรินิแดดและโตเบโก | 70,598 | 2,134 | ||
แองโกลา | 65,155 | 1,733 | ||
มาลาวี | 61,901 | 2,305 | ||
โกตดิวัวร์ | 61,712 | 704 | ||
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก | 58,234 | 1,107 | ||
ฟีจี | 52,506 | 696 | ||
ซูรินาม | 50,823 | 1,166 | ||
ทรานส์นีสเตรีย | 49,186 | 1,192 | ||
ซีเรีย | 48,068 | 2,744 | ||
เอสวาตีนี | 46,582 | 1,248 | ||
มาดากัสการ์ | 44,330 | 967 | ||
ซูดาน | 42,826 | 3,141 | ||
เฟรนช์พอลินีเชีย | 40,178 | 636 | ||
มอลตา | 39,329 | 468 | ||
มอริเตเนีย | 39,213 | 831 | ||
สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ | 38,851 | 2,927 | ||
กาบูเวร์ดี | 38,367 | 349 | ||
กายอานา | 37,825 | 992 | ||
กาบอง | 37,342 | 279 | ||
ปาปัวนิวกินี | 35,090 | 545 | ||
กินี | 30,770 | 387 | ||
เบลีซ | 30,338 | 574 | ||
แทนซาเนีย | 26,261 | 730 | ||
โตโก | 26,250 | 243 | ||
เฮติ | 25,175 | 738 | ||
บาร์เบโดส | 25,152 | 228 | ||
เบนิน | 24,850 | 161 | ||
เซเชลส์ | 23,390 | 125 | ||
โซมาเลีย | 23,016 | 1,327 | ||
บาฮามาส | 22,763 | 671 | ||
เลโซโท | 21,768 | 662 | ||
มอริเชียส | 21,040 | 240 | ||
บุรุนดี | 20,415 | 38 | ||
ติมอร์-เลสเต | 19,822 | 122 | ||
สาธารณรัฐคองโก | 18,905 | 354 | ||
ไอซ์แลนด์ | 17,770 | 35 | ||
ทาจิกิสถาน | 17,493 | 125 | ||
มาลี | 17,364 | 606 | ||
นิการากัว | 17,152 | 212 | ||
กือราเซา | 17,072 | 174 | ||
อันดอร์รา | 16,712 | 131 | ||
ไต้หวัน | 16,596 | 848 | ||
อารูบา | 15,916 | 171 | ||
บูร์กินาฟาโซ | 15,711 | 281 | ||
อับคาเซีย | 15,292 | 230 | ||
บรูไน | 15,058 | 97 | ||
อิเควทอเรียลกินี | 13,579 | 173 | ||
จิบูตี | 13,504 | 186 | ||
เจอร์ซีย์ | 13,070 | 100 | ||
เซนต์ลูเชีย | 12,989 | 280 | ||
เซาท์ซูดาน | 12,755 | 133 | ||
ฮ่องกง | 12,430 | 213 | ||
สาธารณรัฐแอฟริกากลาง | 11,708 | 101 | ||
นิวซีแลนด์ | 11,577 | 44 | ||
นิวแคลิโดเนีย | 10,968 | 265 | ||
เยเมน | 9,995 | 1,949 | ||
แกมเบีย | 9,989 | 342 | ||
ไอล์ออฟแมน | 9,644 | 57 | ||
กวม | 8,156 | 139 | ||
เอริเทรีย | 7,341 | 60 | ||
นอร์เทิร์นไซปรัส | 7,139 | 33 | ||
ไนเจอร์ | 6,989 | 258 | ||
กินี-บิสเซา | 6,440 | 148 | ||
เซียร์ราลีโอน | 6,402 | 121 | ||
ยิบรอลตาร์ | 5,992 | 98 | ||
ซานมารีโน | 5,979 | 93 | ||
โดมินิกา | 5,955 | 38 | ||
เกรเนดา | 5,888 | 200 | ||
ไลบีเรีย | 5,823 | 287 | ||
เบอร์มิวดา | 5,647 | 101 | ||
เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ | 5,525 | 74 | ||
ชาด | 5,107 | 175 | ||
สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์ | 4,723 | 437 | ||
โซมาลีแลนด์ | 4,608 | 311 | ||
ลิกเตนสไตน์ | 4,562 | 61 | ||
คอโมโรส | 4,498 | 150 | ||
ซินต์มาร์เติน | 4,494 | 75 | ||
แอนติกาและบาร์บูดา | 4,141 | 117 | ||
โมนาโก | 3,738 | 36 | ||
เซาตูเมและปรินซีปี | 3,731 | 56 | ||
หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ | 3,383 | 27 | ||
เซาท์ออสซีเชีย | 3,339 | 60+ | ||
หมู่เกาะเติกส์และเคคอส | 2,980 | 23 | ||
เซนต์คิตส์และเนวิส | 2,782 | 28 | ||
สาธารณรัฐอาร์ทซัค | 2,751 | 31 | ||
หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน | 2,725 | 37 | ||
ภูฏาน | 2,640 | 3 | ||
หมู่เกาะแฟโร | 2,082 | 2 | ||
หมู่เกาะเคย์แมน | 1,650 | 2 | ||
โบแนเรอ | 1,586 | 17 | ||
แองกวิลลา | 944 | 1 | ||
เกิร์นซีย์ | 822 | 14 | ||
กรีนแลนด์ | 799 | 0 | ||
สาธารณรัฐประชาธิปไตยอาหรับซาห์ราวี | 732 | 42 | ||
วาลิสและฟูตูนา | 445 | 7 | ||
หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา | 183 | 2 | ||
มาเก๊า | 77 | 0 | ||
หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ | 68 | 0 | ||
แอนตาร์กติกา | 58 | 0 | ||
มอนต์เซอร์รัต | 41 | 1 | ||
แซงปีแยร์และมีเกอลง | 32 | 0 | ||
นครรัฐวาติกัน | 27 | 0 | ||
ซินต์เอิสตาซียึส | 20 | 0 | ||
หมู่เกาะโซโลมอน | 20 | – | ||
ปาเลา | 8 | 0 | ||
ซาบา | 7 | 0 | ||
เซนต์เฮเลนา อัสเซนชัน และตริสตันดากูนยา | 7 | 0 | ||
วานูอาตู | 6 | 1 | ||
บริติชอินเดียนโอเชียนเทร์ริทอรี | 5 | 0 | ||
สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ | 4 | – | ||
อเมริกันซามัว | 4 | 0 | ||
ซามัว | 3 | – | ||
อ่าวกวนตานาโม | 2 | 0 | ||
คิริบาส | 2 | – | ||
สหพันธรัฐไมโครนีเซีย | 1 | 0 | ||
ตองงา | 1 | – | ||
พาหนะระหว่างประเทศ | ||||
เรือยูเอสเอส ทีโอดอร์รูสเวลต์ | 1,102 | 1 | ||
เรือชาร์ลเดอโกล | 1,081 | 0 | ||
เรือไดมอนด์พรินเซส | 712 | 14 | ||
เรือคอสตาแอตแลนติกา | 148 | 0 | ||
เรือเกร็กมอร์ติเมอร์ | 128 | 1 | ||
เรือเอ็มเอส ซานดัม | 13 | 4 | ||
เรือคอรัลพรินเซส | 12 | 3 | ||
เรือซีดรีมวัน | 9 | 0 | ||
เรือฮาเอ็นเอลเอ็มเอส ดลแฟง | 8 | 0 | ||
ณ วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564 | ||||
หมายเหตุ
|
ในปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 โดยที่ผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกจำนวนมากมีความเชื่อมโยงกับตลาดค้าอาหารทะเลหฺวาหนานมาก่อน ชี้ให้เห็นว่าไวรัสดังกล่าว "น่าจะมีต้นกำเนิดมาจากสัตว์" ไวรัสที่ก่อให้เกิดการระบาดนั้นรู้จักกันในชื่อ SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นไวรัสใหม่ที่สัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับไวรัสโคโรนาในค้างคาว ไวรัสโคโรนาในลิ่น และไวรัสโคโรนาสายพันธุ์กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง โดยเชื่อว่าไวรัสอาจมีต้นกำเนิดมาจากค้างคาวในสกุลค้างคาวมงกุฎ
อาการแรกสุดมีรายงานในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ในบุคคลที่ไม่ได้มีการสัมผัสกับตลาดค้าอาหารทะเลหฺวาหนานหรืออีก 40 คนที่เหลือของกลุ่มผู้มีอาการครั้งแรกจากไวรัส ขณะที่ 2 ใน 3 ของกลุ่มแรกนี้พบว่ามีความเชื่อมโยงกับตลาดสดซึ่งค้าสัตว์มีชีวิตแห่งนี้
องค์การอนามัยโลกประกาศให้การระบาดนี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 30 มกราคม โดยเทดรอส อัดเฮนอม ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ยังคงกล่าวชื่นชมการตอบสนองของประเทศจีนต่อไวรัส เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ว่า "เป็นการหลีกเลี่ยงการมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย" แม้ว่าโรคจะมีศักยภาพในการแพร่ภายในท้องถิ่นในบริเวณอื่น ๆ ของโลกด้วยก็ตาม
ในช่วงเริ่มแรก จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุก ๆ เจ็ดวันครึ่ง ในช่วงต้นและกลางเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 ไวรัสเกิดการแพร่กระจายไปยังมณฑลอื่น ๆ ของประเทศจีน ผ่านการโยกย้ายของประชากรในช่วงตรุษจีน และเนื่องจากนครอู่ฮั่นเป็นศูนย์กลางการขนส่งในประเทศจีน ผู้ติดเชื้อจึงเดินทางไปได้อย่างรวดเร็วทั่วประเทศ
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 องค์การอนามัยโลกรายงานว่า จากการที่ผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศจีนลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศอิตาลี ประเทศอิหร่าน และประเทศเกาหลีใต้ ทำให้จำนวนผู้ป่วยรายใหม่นอกประเทศจีนเพิ่มสูงกว่าจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศจีนเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีรายงานการพบในเด็ก ซึ่งพบได้ "น้อยมาก" ด้วย จากรายงานขององค์การอนามัยโลกระบุว่า มีผู้ป่วยที่อายุ 19 ปี และต่ำกว่าเพียงร้อยละ 2.4 จากจำนวนผู้ป่วยทั่วโลก
การวิเคราะห์วิทยาการระบาดของการระบาดทั่ว ทำให้องค์การอนามัยโลกและหลายรัฐบาลยอมรับว่าเหตุนี้เป็นการระบาดทั่วครั้งแรก ที่สามารถควบคุมได้อย่างน้อยในหลายภูมิภาคของโลก
ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งตรงกับวันสิ้นปี รายงานจำนวนผู้เสียชีวิต ทั่วโลก ตั้งแต่ เวลามาตรฐานกรีนิช 23:59 น. รายงานผู้เสียชีวิตที่ 1,824,074 ราย
การเสียชีวิต
ผู้ที่เสียชีวิตจากโรค มีระยะเวลาตั้งแต่การพัฒนาอาการของโรคโควิด-19 ไปจนถึงแก่ชีวิตนั้นมีช่วงอยู่ระหว่าง 6 ถึง 41 วัน โดยมีมัธยฐานอยู่ที่ 14 วัน
ณ วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2563 มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7,900 คน จากโควิด-19 จากข้อมูลของ NHC ประเทศจีนพบว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ประมาณร้อยละ 80 ของผู้เสียชีวิตพบว่าเป็นผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 60 ปี และร้อยละ 75 มีภาวะทางสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว เช่น เบาหวาน และโรคหัวใจหลอดเลือด
มีการยืนยันผู้เสียชีวิตรายแรกในวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2563 ในนครอู่ฮั่น ส่วนผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีนรายแรกเกิดขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และผู้ป่วยนอกเอเชียรายแรกเกิดขึ้นในกรุงปารีส วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ผู้เสียชีวิตมากกว่าสิบสองรายนอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่เกิดขึ้นในประเทศอิหร่าน ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศอิตาลี วันที่ 13 มีนาคม มีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 40 ประเทศและดินแดน ในทุกทวีป (ยกเว้นทวีปแอนตาร์กติกา)
วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา รายงานผู้เสียชีวิต ทั่วโลก เวลามาตรฐานกรีนิช 07:04 น. เกิน 3,500,000 ราย
แผนภาพ
ผู้ติดเชื้อในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม)
อาการและอาการแสดง
อาการ | % |
---|---|
ไข้ | 87.9% |
ไอแห้ง | 67.7% |
ล้า | 38.1% |
มีเสมหะ | 33.4% |
หายใจลำบาก | 18.6% |
ปวดกล้ามเนื้อหรือปวดในข้อ | 14.8% |
เจ็บคอ | 13.9% |
ปวดศีรษะ | 13.6% |
หนาวสะท้าน | 11.4% |
คลื่นไส้หรืออาเจียน | 5.0% |
คัดจมูก | 4.8% |
อาการท้องร่วง | 3.7% |
ไอเป็นเลือด | 0.9% |
การคั่งในเยื่อตา | 0.8% |
อาการของโรคโควิด-19 นั้นไม่เจาะจงและผู้ติดเชื้ออาจไม่แสดงอาการหรือมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ได้ เช่น ไข้ ไอ ล้า หายใจลำบาก หรือปวดกล้ามเนื้อ โดยอาการทั่วไปและความชุกแสดงไว้ดังตาราง
การพัฒนาต่อไปของโรคอาจนำไปสู่การปอดบวม กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ ช็อกเหตุพิษติดเชื้อ และเสียชีวิตได้ ผู้ติดเชื้อบางรายอาจไม่มีการแสดงอาการ ซึ่งให้ผลการทดสอบที่ยืนยันว่าติดเชื้อแต่ไม่มีอาการแสดง ดังนั้น นักวิจัยจึงได้ออกคำแนะนำว่าบุคคลที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อแล้ว ควรมีการติดตามและทดสอบการติดเชื้ออย่างใกล้ชิด
ระยะฟักตามปกติ (เวลาระหว่างที่ได้รับเชื้อและมีอาการเกิดขึ้น) มีช่วงตั้งแต่ 1 ถึง 14 วัน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 5 วัน อย่างไรก็ตาม มีการรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายหนึ่งที่มีระยะฟักถึง 27 วัน
สาเหตุ
การแพร่เชื้อ
การแพร่เชื้อหลักนั้นเป็นการแพร่ผ่านละอองเสมหะ (droplets) ที่บุคคลขับออกมา เช่น เมื่อไอหรือจาม ละอองเสมหะจะค้างอยู่ในอากาศเป็นช่วงสั้น ๆ เท่านั้น แต่อาจคงอยู่ต่อได้บนพื้นผิวที่เป็นโลหะ แก้ว หรือพลาสติก รายละเอียดของไวรัสโควิด-19 นั้นไม่มีเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 และมีการสันนิษฐานว่ามันนั้นคล้ายไวรัสโคโรนาอื่น ซึ่งสามารถอยู่รอดได้นานถึงเก้าวันที่อุณหภูมิห้อง สารฆ่าเชื้อที่ใช้บนพื้นผิวอาจใช้สาร เช่น เอทานอล 62–71% บนพื้นผิวเป็นเวลาหนึ่งนาที
องค์การอนามัยโลกระบุว่าความเสี่ยงของการแพร่จากบุคคลที่ไม่มีอาการนั้น "ต่ำมาก" และการส่งผ่านอุจจาระนั้นก็ "ต่ำ" แต่การวิเคราะห์การติดเชื้อในประเทศสิงคโปร์และเมืองเทียนจิน ประเทศจีน ได้เปิดเผยว่าการติดเชื้อไวรัสโคโรนาในหลายคนอาจแพร่ผ่านคนที่เพิ่งติดเชื้อไวรัส และยังไม่ได้เริ่มแสดงอาการ การค้นพบนี้หมายความว่า การแยกกักบุคคลเมื่อเริ่มต้นรู้สึกป่วยนั้นมีประสิทธิภาพน้อยกว่าที่คาดไว้
ค่าระดับการติดเชื้อพื้นฐาน (จำนวนเฉลี่ยของบุคคลที่บุคคลที่ติดเชื้อมีแนวโน้มจะแพร่ใส่) สำหรับการแพร่เชื้อระหว่างมนุษย์สู่มนุษย์ของไวรัสอยู่ที่ประมาณ 2.13 ถึง 4.82 ซึ่งคล้ายกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS-CoV)
วิทยาไวรัส
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง 2 (SARS-CoV-2) เป็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงสายพันธุ์ใหม่ ผู้ป่วยสายรายแรกที่ถูกแยกมีอาการปอดบวมที่เชื่อมกับกลุ่มของผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจในอู่ฮั่น เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
SARS-CoV-2 มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ SARS-CoV แรกเริ่ม โดยมีแนวคิดว่ามีต้นกำเนิดมาจากสัตว์ (zoonotic) การวิเคราะห์ทางพันธุกรรม เปิดเผยว่ากลุ่มพันธุกรรมของไวรัสโคโรนากับสกุลเบตาไวรัสโคโรนา ในสกุลย่อยซาร์เบโคไวรัส (เชื้อสาย B) ร่วมกับไวรัสโคโรนาสองสายพันธุ์ที่ได้จากค้างคาว พบว่ามีความเหมือนกันในระดับจีโนมทั้งหมดร้อยละ 96 กับไวรัสโคโรนาตัวอย่างอื่น (BatCov RaTG13) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 นักวิจัยชาวจีนพบว่า มีความแตกต่างของกรดอะมิโนเพียงตัวเดียวในลำดับจีโนมบางอย่าง ระหว่างไวรัสที่พบในตัวลิ่นและจากมนุษย์ ซึ่งหมายความว่า ตัวลิ่น อาจเป็นพาหะขั้นกลางของไวรัส
ภาพทางจุลทรรศนศาสตร์แสดง SARS-CoV-2 โดยมี spikes บนขอบด้านนอกของอนุภาคไวรัสที่มีลักษณะคล้ายมงกุฎ อันเป็นที่มาของชื่อในภาษาอังกฤษ
ภาพจากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องกราดแสดง SARS-CoV-2 (สีเหลือง) ปรากฏออกมาจากพื้นผิวของเซลล์ (สีน้ำเงิน/สีชมพู) จากการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ
แบบจำลองโปรตีน spike ของ SARS-CoV-2 โดยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ
การวินิจฉัย
การติดเชื้อไวรัสนั้นสามารถวินิจฉัยเป็นการชั่วคราวบนพื้นฐานของอาการ โดยการยืนยันการติดเชื้อในท้ายที่สุดแล้วจะใช้ปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรสแบบย้อนกลับ (rRT-PCR) จากสิ่งคัดหลั่งที่ติดเชื้อ (ความไวร้อยละ 71) และการใช้การถ่ายภาพรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์ (CT scan) (ความไวร้อยละ 98)
การทดสอบไวรัส
องค์การอนามัยโลกเผยแพร่เกณฑ์วิธีการทดสอบอาร์เอ็นเอส