อำเภองาว
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
งาว (คำเมือง: ) เป็นหนึ่งใน 13 อำเภอของจังหวัดลำปาง เดิมชื่อ อำเภอเมืองงาว มีพื้นที่ประมาณ 1,815 ตารางกิโลเมตร เป็นอำเภอที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 650 กิโลเมตร เป็นอำเภอยุทธศาสตร์ชายแดนที่มีบริเวณชายแดนติดต่อกันถึงสามจังหวัดได้แก่ จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ และจังหวัดลำปาง อนาคตอำเภองาวจะมีทางรถไฟทางคู่สายใหม่ผ่านมาจากสถานีชุมทางเด่นชัยสิ้นสุดชายแดนประเทศลาวที่อำเภอเชียงของ อำเภองาวจึงมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางการขนส่งตอนบนของจังหวัดลำปาง
อำเภองาว | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Ngao |
คำขวัญ: หนึ่งในสยามคือถ้ำผาไท ศูนย์รวมจิตใจเจ้าพ่อประตูผา เครื่องหนังงามตา ล้ำค่าไม้แกะสลัก อนุรักษ์วัฒนธรรม งามล้ำอำเภองาว | |
พิกัดภูมิศาสตร์: 18°46′36″N 99°58′12″E / 18.77667°N 99.97000°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | ลำปาง |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 1,814.8 ตร.กม. (700.7 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2563) | |
• ทั้งหมด | 53,300 คน |
• ความหนาแน่น | 29.37 คน/ตร.กม. (76.1 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 52110 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 5205 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภองาว หมู่ที่ 2 บ้านหนองเหียง ถนนพหลโยธิน ตำบลนาแก อำเภองาว จังหวัดลำปาง 52110 |
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภองาวตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด ที่ว่าการอำเภองาวปัจจุบันตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน ตำบลนาแก ห่างจากอำเภอเมืองลำปาง 83 กิโลเมตร อำเภอเมืองพะเยา 50 กิโลเมตร และอำเภอเมืองแพร่ 89 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอวังเหนือและ อำเภอเมืองพะเยา (จังหวัดพะเยา)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอดอกคำใต้ (จังหวัดพะเยา) และอำเภอสอง (จังหวัดแพร่)
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอสอง (จังหวัดแพร่) และอำเภอแม่เมาะ
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอแจ้ห่ม
ประวัติศาสตร์
ยุคโบราณ
ตามตำนานม่อนทรายเมืองงาว ฉบับวัดศรีภูมิมา (ท่าส้มป่อย) ต.ทุ่งหัวฝาย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ได้กล่าวว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดสัตว์ถึงที่นี่ ประทับนั่งอยู่ที่ต้นมะม่วง ชาวบ้านเห็นพระองค์คิดว่าเป็นยักษ์ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าคนนี้ง่าว (โง่) ไม่รู้จักพระพุทธองค์ ทรงทำนายว่า อนาคตเมืองแห่งนี้จะได้ชื่อเมืองงาว ก่อนที่จะประทานพระเกศาธาตุบรรจุในโคนต้นมะม่วง และสั่งว่าเมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้วให้นำพระธาตุส่วนแก้มขวามาบรรจุไว้ ปัจจุบันคือวัดพระธาตุม่อนทรายนอน ต.หลวงใต้ อ.งาว จ.ลำปาง
ที่นั้นเขาก็สะท้านหย้านกลัว ก็พากันเอาเป็ดแลไก่มามากนักแล ก็ขึ้นไปเถิงพระเจ้าแล้ว พระก็เปล่งออกสัพพัณณะรังสีทั่วดอยทังมวล เขาหันก็ซ้ำกลัวมากนักแล ก็ขึ้นไปเถิงพระเจ้าแล้ว พระเจ้าตริถามว่าสูพากันมาสังชา เขาก็ไหว้ว่า ข้าแก่ปู่เจ้าเสื้อเมือง ตูข้าจักมาเลี้ยงปู่เจ้าด้วยเป็ดไก่เหล้ายาชแล ขอปู่เจ้าอินดูผู้ข้าทังหลาย ก็อย่ากินผู้ข้าทังหลายเทอะ พระเจ้าก็ว่า กูบ่ใช่ยักข์ กูนี้หากเปนพระเจ้าชแล เขาก็ยังว่าฉันเดียวนั้นอยู่ไจ้ๆ ก็มีแล พระเจ้าว่าสูนี้ก็มาง่าวแท้หนอ ปางเมื่อกูเปนทรายฅำวันนั้นพรานก็ไล่ยิงกู หาที่จั้งที่ยั้งบ่ได้ ตราบเท่าตัวมันตายไป ดูราอานนท์ พายหน้าเมืองอันนี้จักได้ชื่อว่า เมืองงาว ชแล— ตำนานม่อนทรายเมืองงาว
อย่างไรก็ตาม ตำนานนี้เป็นการแต่งในยุคหลังแล้ว ผู้แต่งอธิบายที่มาของชื่อเมืองงาวโดยเชื่อว่ามาจากง่าวซึ่งเป็นความเห็นของผู้แต่งเท่านั้น จึงอาจไม่ได้เป็นความจริงก็ได้ ศาสตราจารย์สรัสวดี อ๋องสกุล ได้สันนิษฐานว่า "งาว" เป็นภาษาโบราณของชาวกาว ที่เคยกระจายตัวในเขต ปัว-แพร่-น่าน-งาว ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุปว่างาวหมายถึงอะไร เนื่องจากคนในยุคหลังไม่ทราบความหมายของงาวเสียแล้ว และชื่อเมืองง้าวหรือเมืองเงินก็ไม่ปรากฏในหลักฐานเอกสารประวัติศาสตร์ฉบับใดๆ
ตำนานเมืองพะเยากล่าวว่า พ.ศ. 1806 พญางำเมือง กษัตริย์เมืองพะเยายกทัพไปตีเมืองปัวแล้วกลับมาพะเยา ก่อนที่จะเสด็จไปครองเมืองงาวจนสิ้นพระชนม์ใน พ.ศ. 1841
จารึกคำปู่สบถ ราว พ.ศ. 1935 ได้กล่าวถึงการทำสัตย์สบถสาบานระหว่างเจ้าเมืองพลัว (เมืองปัว) เมืองน่าน เมืองแพร่ และเมืองงาวที่เป็นเครือญาติกัน กับพญาฦๅไทย หากมีศึกสงครามก็จะร่วมมือช่วยเหลือกัน
อันหนึ่ง บ้านเมืองเราทังหลายแลเมืองแพร่ เมืองงาว เมืองน่าน เมืองพลัว ปู่พระญาดูดังเดียว อันตรายมีในราชสีมาเรา ปู่พระญาเป็นเจ้าเห็นว่ามีในราชสีมาท่านแล ผิสมเด็จปู่พระญาปลูกเราอัน...เราก็เห็นสมเด็จปู่พระญาเป็นเจ้าดังมหาธรรมราชาท่านเป็น...มาในเชลียงสุกโขทัย จงอย่ามีรังเกียจกู จงไปสู่ปู่พระญา...ท่านมีรังเกียจ— จารึกคำปู่สบถ
สมัยพญาคำฟู พระองค์ร่วมมือกับพญากาวน่านสามารถตีเมืองพะเยาได้ สันนิษฐานว่าเมืองงาวก็คงจะถูกผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของล้านนาในช่วงนี้
สมัยพระเจ้าติโลกราช ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่กล่าวว่า พ.ศ. 1986 พญาอินทะแก่นท้าว กษัตริย์เมืองน่าน ได้ออกอุบายมาขอทหารจากพระเจ้าติโลกราชไปป้องกันศึกเวียดนาม พระเจ้าติโลกราชให้ทหารประมาณ 4 หมื่น ให้หมื่นแพงพระยาว เจ้าเมืองพะเยา พร้อมกับหมื่นเชริงตางาม เจ้าเมืองเชริง (เทิง) หมื่นยี่ลก เจ้าเมืองลอ หมื่นอ้อย หมื่นแช่พราน เจ้าเมืองพาน หมื่นงาวกาว เจ้าเมืองงาว ไปรั้งอยู่เมืองน่าน แต่ภายหลังถูกกลอุบายสังหารจดหมด เหลือเพียงหมื่นเชริงตางาม ทำให้พระเจ้าติโลกราชยกทัพไปตีเมืองน่านและเมืองแพร่
ลูนนั้นได้ปลี ๑ เถิงปลีก่าใค้ พระญาแก่นท้าวกินเมืองน่าน บ่ได้มาเปนเมืองเจ้าเหนือหัวเทื่อ พระญาแก่นท้าวบ่ซื่อ จักปองเอาเจ้าเหนือหัวเสีย จิ่งอุบายหื้อมาไหว้สาเจ้าเหนือหัวว่า แกวจักมาตกเมืองน่าน ขอหื้อพลเสิก็มารั้งเมืองน่านแด่ เจ้าพระญาติโลกราชะบ่รู้ว่าเขาจักกะทำคด จิ่งแต่งพลเสิก็หื้อ ๔ หมื่น หื้อหมื่นแพงพระยาวทือพลไพกับขุนช้าง บ่เท่าแต่นั้น ขุนต่างเมืองหื้อหมื่นเชริงตางาม ๑ หมื่นยี่ลกกินลอ ๑ หมื่นอ้อย ๑ หมื่นแช่พราน ๑ หมื่นงาวกาว ๑ หื้อไพรั้งเมืองน่าน หื้อตั้งทับอยู่ฟากแม่น้ำเบื้องวันออก จัดเครื่องได้สองหมื่นสามพันเครื่อง— ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่
พ.ศ. 2002 ภายหลังจากสงครามกับอยุธยา พระเจ้าติโลกราชได้มอบเขตแดนเมืองงาว เมืองแพร่ให้เป็นรางวัลกับพระยายุทธิษเฐียร
แล้วเจ้าพระญาติโลกราชะค็เอาริพลถอยมาเมืองเชียงใหม่ เลี้ยงดูริพลทังหลายหื้อรางวัลแก่ขุนบ้านขุนเมืองชู่ฅน ส่วนเจ้าพระญาสองแฅว หื้อเมืองงาวกาว เมืองแพล่ทังแฅว่นทังฟ่อน ทังคราวน้ำคราวบกเปนของรางวัลแก่เจ้าพระญาสองแฅว เหตุพระญาสองแฅวอาสาไพชนช้าง ๓ ตัวหั้นแล— ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่
ยุคฟื้นฟูอาณาจักรล้านนา
นับแต่สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีแห่งใหม่ของอาณาสยามพระยากาวิละแห่งราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ เป็นพระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่หลังจากที่อาณาจักรล้านนาตกอยู่ภายใต้อำนาจการปกครองอาณาจักรอังวะนานกว่า 200 ปี พระเจ้ากาวิละเริ่มฟื้นฟูอาณาจักรล้านนาใหม่ เรียกว่ายุคเก็บผักใส่ส้าเก็บข้าใส่เมือง มีการอพยพเทครัวประชากรและปฏิรูปการปกครองหัวเมืองน้อยใหญ่โดยรวบรวมเมืองเล็กเมืองน้อยในล้านนาได้ทั้งสิ้น 57 หัวเมืองแบ่งเป็นเมืองน้อยใหญ่ได้ 4 ระดับ ได้แก่เมืองประเทศราชมี 5 เมืองได้แก่ นครเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แพร่ และน่าน เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่มีอำนาจราชศักดิ์เทียบเท่าเมืองประเทศราชกรุงกัมพูชา ระดับต่อมาเมืองชั้นเอก สยามแต่งตั้งเจ้าเมืองเทียบเท่าตำแหน่งพระยาเจ้าผู้ครองนคร ศักดินา 2000 ไร่ ชาวเมืองเรียกเจ้าหลวงเหมือนเจ้าผู้ครองนคร เมืองงาว เป็นเมืองเก่าแก่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมีฐานะเป็นหัวเมืองชั้นเอก เจ้าผู้ครองเมืองงาวสืบเชื้อสายมาจากเจ้าผู้ครองนครลำปาง พระเจ้ากาวิละแบ่งหัวเมืองเอกของอาณาจักรล้านนา ดังนี้
- เมืองเชียงราย ขึ้นกับนครเชียงใหม่
- เมืองพะเยา ขึ้นกับนครลำปาง
- เมืองเชียงแสน ขึ้นกับนครเชียงใหม่
- เมืองเชียงของ ขึ้นกับนครน่าน
- เมืองปาย ขึ้นกับนครเชียงใหม่
- เมืองตาก ขึ้นกับนครเชียงใหม่
- เมืองฝาง ขึ้นกับนครเชียงใหม่
- เมืองงาว ขึ้นกับนครลำปาง
ยุครัตนโกสินทร์
พุทธศักราช 2386 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าหลวงน้อยอินท์ เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ 8 และ พระเจ้ามโหตรประเทศ, พระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ ๕ ขณะดำรงพระยศ เจ้าอุปราชนครเชียงใหม่ ได้ลงมายังกรุงเทพพระมหานครเพื่อทูลขอฟื้นฟูเมืองเชียงรายโดยให้เป็นเมืองขึ้นของนครเชียงใหม่ และฟื้นฟูเมืองงาว เมืองพะเยา เป็นเมืองขึ้นของนครลำปาง โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เจ้าหนานมหาวงศ์ โอรส พระเจ้าดวงทิพย์ เจ้าหลวงนครลำปาง เป็น "พระยาฤทธิ์ภิญโญยศ เจ้าเมืองงาวคนแรก จวบปี 2460 มีพระราชบัญญัติปรับปรุงเปลี่ยนแปลงยกเลิกระบอบเจ้าผู้ครองนครมาเป็น มณฑลเทศาภิบาล มณฑล จังหวัด แขวงเมืองงาวถูกจัดตั้งเป็นอำเภอชื่อว่า อำเภอเมืองงาว ขึ้นกับจังหวัดลำปาง สังกัด มณฑลมหาราษฎร์ เป็นหนึ่งในอำเภอแรกเริ่มของจังหวัด พุทธศักราช 2481 มีตราพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงชื่ออำเภอใหม่เปลี่ยนชื่ออำเภอทั่วราชอาณาจักร จากอำเภอเมืองงาว เปลี่ยนเป็น อำเภองาว นับตั้งแต่เริ่มฟื้นฟูตั้งแต่ปี 2386 ถึงปัจจุบันเมืองงาวมีอายุครบ 178 ปี
เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์
วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พุทธศักราช 2501 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเยี่ยมราษฎรท้องถิ่นอำเภองาว จังหวัดลำปาง โดยราษฎรชาวอำเภองาวมีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างใกล้ชิด สร้างขวัญกำลังใจและนำความปลื้มปิติยินดีมาสู่เหล่าพสกนิกรชาวอำเภองาวอย่างล้นพ้น พร้อมกันนี้ได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อช่วยเหลือราษฎรชาวอำเภองาว อาทิ อ่างเก็บน้ำแม่เมือง อ่างเก็บน้ำห้วยส้ม อันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริ ตำบลบ้านแหง เป็นต้น
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภองาวแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 10 ตำบล 85 หมู่บ้าน ได้แก่
ที่ | ชื่อตำบล | ตัวเมือง | อักษรโรมัน | จำนวนหมู่บ้าน | จำนวนครัวเรือน | จำนวนประชากร |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | หลวงเหนือ | Luang Nuea | 6 | 2,077 | 4,850 | |
2. | หลวงใต้ | Luang Tai | 8 | 2,017 | 5,882 | |
3. | บ้านโป่ง | Ban Pong | 12 | 2,145 | 6,918 | |
4. | บ้านร้อง | Ban Rong | 13 | 2,146 | 6,591 | |
5. | ปงเตา | Pong Tao | 13 | 2,485 | 7,654 | |
6. | นาแก | Na Kae | 6 | 1,128 | 4,725 | |
7. | บ้านอ้อน | Ban On | 8 | 1,441 | 4,765 | |
8. | บ้านแหง | Ban Haeng | 8 | 2,006 | 6,514 | |
9. | บ้านหวด | Ban Huat | 6 | 1,580 | 4,867 | |
10. | แม่ตีบ | Mae Tip | 5 | 1,280 | 4,346 |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภองาวประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 10 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลหลวงเหนือ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหลวงเหนือทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลหลวงใต้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหลวงใต้ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโป่ง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านโป่งทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านร้อง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านร้องทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลปงเตา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปงเตาทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลนาแก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาแกทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านอ้อน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านอ้อนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแหง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านแหงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหวด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านหวดทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ตีบ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่ตีบทั้งตำบล
สถานศึกษา
- โรงเรียนประชารัฐธรรมคุณ โรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งแรกประจำอำเภอ
- โรงเรียนประชาราชวิทยา โรงเรียนมัธยมศึกษา
- โรงเรียนดอนไชยวิทยา โรงเรียนเอกชนแห่งแรกของอำเภอ
- โรงเรียนอนุบาลงาวภาณุนิยม โรงเรียนอนุบาลประจำอำเภอ
สถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง
- มหาวิทยาลัยพะเยา ตามถนนพหลโยธิน ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา ห่างจากอำเภองาวประมาณ 32 กิโลเมตร
บุคคลที่มีชื่อเสียง
นักกีฬา
- นาวาโทหญิงเกษราภรณ์ สุตา นักกีฬายกน้ำหนักหญิงเหรียญทองแดง จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ค.ศ. 2000 ณ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เกิดที่ตำบลปงเตา
- บุญมี ราชวัฏ นักมวยชาวไทย แชมป์เวทีราชดำเนินคนแรก
พระเถระผู้ใหญ่
- พระจินดารัตนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดลำปาง รูปปัจจุบัน เจ้าอาวาสวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม
- พระปิฏกโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดลำปางรูปที่ 2 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดจองคำ พระอารามหลวง
เทศกาลและประเพณีประจำปี
- ประเพณีตานตุงซาววา ในเทศกาลป๋าเวณีปีใหม่เมือง
- ป๋าเวณีปีใหม่เมืองง้าวเงิน
- ป๋าวเณีล่องสะเปาจาวเวียงง้าวเงิน
- ประเพณีดำหัวเจ้าพ่อประตูผา
สถานที่ท่องเที่ยว
สะพานโยง
สะพานข้ามลำน้ำงาว เป็นสะพานโยงแห่งแรกของประเทศเริ่มสร้างในปี 2469 เสร็จสิ้นเปิดใช้งานปี 2471 มีอายุประมาณ 90 ปี เป็นสัญลักษณ์ของอำเภอ ตัวสะพานเชื่อมตำบลหลวงใต้และตำบลหลวงเหนือ เดิมใช้เป็นทางสัญจร โครงสร้างสะพานเป็นสะพานแขวนทำด้วยเหล็กไม่มีเสาตอม่อ ทางเดินเป็นหมอนไม้ทอดตัวผ่านแม่น้ำเป็นแหล่งพักหย่อนใจทิวทัศที่สวยงาม ไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะสัญจรบนสะพาน สามารถเดินศึกษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ชาวคนอำเภองาวกับวิถีชุมชนริมแม่น้ำงาว
หล่มภูเขียว
หล่มภูเขียว เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านอ้อน อำเภองาว จังหวัดลำปาง มีลักษณะเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เนื้อที่ราว 1-2 ไร่ มีความลึกมากจนมองเห็นเป็นสีเขียวมรกตสวยงาม เป็นที่มาของคำว่าหล่ม ที่แปลว่าแอ่งน้ำ ความลึกแอ่งไม่สามารถระบุได้ สันนิษฐานว่าแอ่งนี้เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกในยุคหิน หรืออาจเกิดจากการยุบตัวของหินปูนซึ่งเคยเป็นเพดานถ้ำมาก่อน แล้วจมลงใต้น้ำ เรียกว่าหลุมยุบ (Sink Hole) ต่อมาจึงกลายเป็นแหล่งรับน้ำ และมีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ระยะทางจากอำเภอประมาณ 12 กิโลเมตร
วัดพระธาตุม่อนทรายนอน
วัดม่อนทรายนอน สร้างเมื่อปีพุทธศักราช 2386 ชาวอำเภองาวเรียกว่าวัดดอย ตามตำนานปรากฏเชื่อมโยงกับพระโพธิสัตว์พระพุทธเจ้าแปลงกายเป็นเนื้อทรายเพื่อโปรดสรรพสัตว์ ถูกนายพรานตามล่าจนถึงสถานที่ตั้งวัดปัจจุบัน ทรายตัวดังกล่าวได้แวะดื่มน้ำบริเวณตีนเขา กลายเป็นบ่อน้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิให้ประชาชนกินดื่มทางขึ้นสู่วัดม่อนทรายนอน (วัดดอย) สามารถขึ้นได้สองทางได้แก่ทางถนนและทางบันไดนาคเริ่มจากบริเวณข้างบ่อน้ำทิพย์ตีนเขามีความสูงประมาณ 300 ขั้น
วัดจองคำ พระอารามหลวง
ตั้งอยู่ตำบลบ้านหวด บนถนนพหลโยธิน สายลำปาง-งาว ห่างจากตัวอำเภองาว 10 กิโลเมตร วัดจองคำเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง โดยสถาปัตยกรรมแบบไทยใหญ่ สันนิษฐานว่าก่อสร้างโดยชาวพม่าที่ทำสัมปทานป่าไม้เขตอำเภองาว ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่แน่ชัด วิหารชัยภูมิเป็นศิลปะแบบไทยใหญ่ หลังเดิมถูกย้ายไปไว้ ณ เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ หลังปัจจุบันสร้างขึ้นมาใหม่ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 วโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มีการยกวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวง วัดจองคำได้รับคัดเลือกเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ ถือเป็นพระอารามหลวงลำดับที่สามในจังหวัดลำปาง เป็นโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีประจำจังหวัด แต่ละปีผู้ศึกษาปริยัติธรรมสามารถสอบเปรียญธรรมบาลีได้ถึง ป.ธ.9 รับพระราชทานอุปสมบทเป็นนาคหลวงหลายรูป เจ้าอาวาสและเจ้าสำนักปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นรองเจ้าคณะ พระพรหมมงคลวัชโรดม
ศูนย์วิจัยกีฏวิทยาป่าไม้ที่ 1
ศูนย์วิจัยกีฏวิทยาป่าไม้ที่ 1 ตั้งอยู่ริมถนนสายพหลโยธินจากจังหวัดลำปางไปพะเยา- เชียงราย ระยะทางจากตัวจังหวัดลำปาง 72 กิโลเมตร สองฝั่งถนนมีทิวทัศน์ป่าไม้ ภูเขา ผ่าน สถานีฝึกนิสิตคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถานีบำรุงพันธุ์ไม้สัก สวนรุกขชาติห้วยทาก และศูนย์วิจัยแมลงและจุลชีววิทยาป่าไม้ที่ 1 และห่างจากตัวอำเภองาวประมาณ 12 กิโลเมตร
ศาลเจ้าพ่อประตูผา
พ.ศ. 2272 สวาธุหลวง (เจ้าอาวาส) วัดนายาง ตั้งตัวเป็นตนบุญเลี้ยงผีพราย มีคนเข้าหานับถือมาก ธุหลวงวัดสามขากับธุหลวงวัดบ้านฟ่อนสึกออกมาเป็นเสนา เวลานั้นเมืองลำปางไม่มีเจ้าเมืองปกครอง มีแต่พ่อเมืองทั้ง 4 ดูแลบ้านเมือง เจ้าเมืองลำพูนได้ข่าวตนบุญวัดนายาง จึงส่งกองทัพลำพูน นำโดยท้าวมหายสมาปราบ สู้รบกันที่ป่าทันคุมเมือง ฝ่ายตนบุญวัดนายางแตกพ่ายไป แกนนำทั้ง 3 ถูกยิงเสียชีวิต ท้าวมหายสมาตั้งทัพที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ท้าวมหายสออกอุบายส่งหาญฟ้าแมบ หาญฟ้างำ หาญฟ้าฟื้นไปทำทีเจรจากับแสนหนังสือ แสนเทพ นายเรือน ชะเรหน้อย ท้าวลิ้นก่าน แต่เกิดการสู้รบกันขึ้น ชาวลำปางแตกหนีไปอยู่เมืองต้า เมืองลอง เมืองเมาะ เมืองขาง
ท้าวมหายสละพูนถอยฅืนมาอยู่วัดหลวงลำพาง แล้วแต่งใช้เรียกร้องไพร่บ้านไทเมืองออกมาแล้วเก็บเบี้ยเก็บเงินหลังค่าหลังค่าตอ ผู้ใดขัดขวางหล้างควรข้าค็ข้า ควรตีค็ตี มีอันใดริบล้อนเอาเสีย ดั่งร้องวังฝ่ายเหนืออันเปนผู้แต่งบ้านปองเมือง มีแสนหนังสือ แสนเทพ นายเรือน ชะเรหน้อยขัดขวาง บ่สู้อ่อนน้อม ท้าวมหายสละพูนจิ่งแต่งหานฟ้างำ หานฟ้าแมบ หานฟ้าฟื้น ขึ้นไพพร้อมกับแสนหนังสือแลท้าวขุนยังสนามเหมือนจักทือคำเมือง หานฟ้าแมบ ฟ้างำ ฟ้าฟื้น สัญญาพรับตาร่อกันลวดฟันแทงกันยังสนามที่นั้น เปนอันขร้ำเขรือกโกลาหลแตกกระจัดกระจายเข้าห้วยท้างหว่างดอย ขุนแต่งเมืองคือชะเรหน้อย แลท้าวิ้นก่าน นายน้อยธัมม์ แลชาวบ้านชาวเมือง ละบ้านชองหอเรือนเสีย หนีไพลี้อยู่เมืองต้า เมืองลอง เมืองเมาะ เมืองขางชู่แห่ง ค็มีแล— ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่
ตำนานมุขปาฐะของท้องถิ่นเล่าว่า หนานข้อมือเหล็กเป็นศิษย์ของวัดนายาง ภายหลังเป็นองครักษ์ให้ท้าวลิ้นก่าน เมื่อท้าวลิ้นก่านและชะเรหน้อยหลบหนีไปยังประตูผา กองทัพเมืองลำพูนติดตามมา หนานข้อมือเหล็กจึงสู้รบกับกองทัพลำพูนตายไปจำนวนมาก สามารถปกป้องท้าวลิ้นก่านกับชะเรหน้อยไว้ได้ กองทัพลำพูนถอยทัพกลับเมืองลำปาง ส่วนหนานข้อมือเหล็กสู้รบกับทหารลำพูนจำนวนมากจนตัวเองจนมุมยืนหยัดพิงหน้าผาตาย ต่อมาท้าวลิ้นก่านและชะเรหน้อยสร้างศาลเพียงตาให้แก่หนานข้อมือเหล็ก ซึ่งรู้จักกันในเวลาต่อมาว่า “เจ้าพ่อประตูผา”
กระทรวงกลาโหมได้อัญเชิญนามมาตั้งเป็นค่ายรบพิเศษประตูผา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของทหารตราบจนปัจจุบัน
อนุสาวรีย์พญางำเมือง
พญางำเมือง อดีตกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองภูกามยาว (พะเยา) เป็นพระสหายร่วมน้ำสาบานกับพญามังราย กษัตริย์เมืองเชียงใหม่ และพญาร่วงเจ้าหรือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช กษัตริย์สุโขทัย ซึ่งทั้งสามกษัตริย์ได้ทรงกระทำสัตย์ต่อกัน ณ บริเวณน้ำแม่อิง อนุสาวรีย์แห่งนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2560 ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำงาว ใกล้วัดท่านาคบ้านทุ่งศาลา ตำบลนาแก อำเภองาว จังหวัดลำปาง บริเวณต้นงุ้นนี้เชื่อว่าเป็นสถานที่สวรรคต
อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท
มีเนื้อที่ประมาณ 758,750 ไร่ มีอาณาบริเวณครอบคลุม อำเภอเมืองลำปาง อำเภอแม่เมาะ และอำเภองาว ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่บริเวณถนนพหลโยธิน ตำบลบ้านหวด ระยะทางจากตัวเมืองลำปางประมาณ 66 กิโลเมตร แยกเข้าทางเข้าบริเวณปากถ้ำผาไทประมาณหนึ่งกิโลเมตร รถยนต์สามารถเข้าถึงบริเวณตีนถ้ำภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย สวยงามมาก สลับซับซ้อนและมีถ้ำเล็กถ้ำน้อยมากมายที่มีความสวยงามแตกต่างกันไป เหตุการณ์สำคัญเมื่อ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เคยเสด็จประพาสถ้ำผาไท ในครั้งนั้นได้จารึกพระปรมาภิไธยย่อ ปปร. ไว้ภายในถ้ำเพื่อระลึกในการเสด็จประพาส อุทยานแห่งชาติฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่น ระยะทางเริ่มจากตัวอำเภอดังนี้
- หล่มภูเขียว 12 กิโลเมตร
- น้ำตกแม่แก้ 18 กิโลเมตร
- น้ำตกเก๊าฟุ 19 กิโลเมตร
การคมนาคม
อำเภองาวห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 640 กิโลเมตร อำเภองาวเป็นอำเภอยุทธศาสตร์ชายแดนมีระยะทางเดินทางไปตัวจังหวัดใกล้เคียงดังนี้
- จังหวัดลำปาง 83 กิโลเมตร
- จังหวัดพะเยา 50 กิโลเมตร
- จังหวัดแพร่ 89 กิโลเมตร
- จังหวัดเชียงราย 140 กิโลเมตร
- จังหวัดน่าน 163 กิโลเมตร
- จังหวัดเชียงใหม่ 180 กิโลเมตร
การคมนาคมขนส่งมุ่งสู่อำเภองาวมีหลายเส้นทางค่อนข้างสะดวก เนื่องจากอำเภองาวอยู่ติดถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน
ทางบก ได้แก่ ... 1. ถนนพหลโยธิน สายเหนือ (กรุงเทพฯ-นครสวรรค์-ตาก-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย) ถนนหลักเริ่มจากกรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชร ตากเข้าเขตจังหวัดลำปางผ่าน อ.เถิน อ.สบปราบ อ.เกาะคา เข้าสู่ตัวเมืองลำปาง 600 กิโลเมตร ขับรถขึ้นเหนือเส้นทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ลำปาง-งาวอีกประมาณ 83 กิโลเมตรก็จะถึงตัวอำเภองาว ถนนพหลโยธินเป็นถนน 4 ช่องทางการจราจร สามารถสัมผัสธรรมชาติสวยงามตลอดสองข้างทาง
2. ถนนวังซ้าย หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 103 เส้นทางร้องกวาง-งาว ที่แยกบ้านเป๊าะบรรจบกับทางหลวงหมายแผ่นดินเลข 1 ถนนพหลโยธิน(กรุงเทพ-นครสวรรค์) ทางหลวงหมายเลข 117 (นครสวรรค์-พิษณุโลก)ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 11 (พิษณุโลก-เด่นชัย) จากนั้นผ่านทางทางหลวงหมายเลข 101 (กำแพงเพชร-น่าน) ที่จังหวัดแพร่ ใช้เส้นทางถนนวังซ้ายสายแพร่-สอง-งาว ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 103 บรรจบกับทางหลวงหมายเลข 1 (กรุงเทพฯ-นครสวรรค์-ตาก-เชียงราย) ที่ อ.งาว จ.ลำปาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
ทางรถไฟ ทางรถไฟสายเหนือ ลงที่สถานีรถไฟนครลำปาง แล้วต่อรถประจำทางสู่อำเภองาวอีก 80 กิโลเมตร อนาคตอันใกล้อำเภองาวกำลังจะมีทางรถไฟผ่าน เป็นเส้นทางรถไฟรางคู่สายใหม่ตัดจากสถานีชุมทางเด่นชัยสิ้นสุดที่อำเภอเชียงของ เส้นทางรถไฟผ่านอำเภองาวระยะทางยาวทั้งสิ้น 52 กิโลเมตร ได้แก่ทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มีสถานีรถไฟระดับ 2 เป็นสถานีขนาดกลาง 1 สถานี 2 ป้ายหยุดรถได้แก่
- สถานีงาว เป็นสถานีขนาดเล็กประจำอำเภอ
- ป้ายหยุดรถแม่ตีบ
- ป้ายหยุดรถปงเตา
ทางอากาศ
รถโดยสารประจำทาง
- สาย 90 กรุงเทพ-เชียงราย (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-ตาก-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย) บริษัท สมบัติทัวร์ สยามเฟิร์สทัวร์ เชิดชัยทัวร์ อินทราทัวร์ นครชัยแอร์ บางกอกบัสไลน์ทัวร์ บุษราคัมทัวร์
- สาย 922 กรุงเทพ-พะเยา (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-พะเยา) บริษัท บขส. สมบัติทัวร์ เชิดชัยทัวร์
- สาย 909 กรุงเทพ-เชียงราย (ข) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-พะเยา-เชียงราย) บริษัท บขส. สมบัติทัวร์ สยามเฟิร์สทัวร์ เชิดชัยทัวร์ ไทยพัฒนกิจขนส่ง บางกอกบัสไลน์ทัวร์
- สาย 962 กรุงเทพ-เชียงของ (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-พะเยา-เชียงคำ-เชียงของ) บริษัท บขส. สมบัติทัวร์บางกอกบัสไลน์ทัวร์ สยามเฟิร์สทัวร์ บุษราคัมทัวร์ เชิดชัยทัวร์
- สาย 957 กรุงเทพ-แม่สาย (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัท บขส. สมบัติทัวร์ สยามเฟิร์สทัวร์ เชิดชัยทัวร์ บางกอกบัสไลน์ทัวร์ นครชัยแอร์
- สาย 660 ระยอง-เชียงราย-แม่สาย (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัท นครชัยแอร์
- สาย 660 ระยอง-เชียงราย-แม่สาย (รถด่วนพิเศษ VIP) (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-นครสวรรค์-ตาก-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัท นครชัยแอร์
- สาย 661 เชียงราย-นครพนม (นครพนม-สกลนคร-อุดรธานี-เลย-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สมบัติทัวร์ จักรพงษ์ทัวร์
- สาย 651 นครราชสีมา-แม่สาย (นครราชสีมา-สระบุรี-โคกสำโรง-ตากฟ้า-เขาทราย-วังทอง-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยทัวร์
- สาย 633 ขอนแก่น-เชียงราย (ขอนแก่น-ชุมแพ-หล่มสัก-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-งาว-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ อีสานทัวร์ สมบัติทัวร์
- สาย เชียงราย-อุบลราชธานี (อุบลราชธานี-ศีรษะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์-พล-ชัยภูมิ-พิษณุโลก-แพร่-เชียงราย) บริษัท นครชัยแอร์
- สาย เชียงราย-มุกดาหาร (มุดดาหาร-กาฬสินธุ์-ขอนแก่น-ชุมแพ-หล่มสัก-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัท เพชรประเสริฐทัวร์ (เร็วๆ นี้)
- สาย 622 พิษณุโลก-เชียงราย-แม่สาย (พิษณุโลก-สุโขทัย-สวรรคโลก-ศรีสัชนาลัย-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
- สาย 622 พิษณุโลก-เชียงราย-แม่สาย (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
- สาย 624 พิษณุโลก-เชียงของ (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงคำ-เทิง-เชียงของ) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
- สาย 663 นครสวรรค์-เชียงราย (นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครสวรรค์ยานยนต์ (นิวถาวรฟาร์มทัวร์) รถปรับอากาศโฉมใหม่
- สาย 780 ภูเก็ต-เชียงราย (ภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี-ชุมพร-ประจวบฯ-หัวหิน-เพชรบุรี-อยุธยา-นครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ ไทยพัฒนกิจขนส่ง
- สาย 877 หาดใหญ่-เชียงราย-แม่สาย (แม่สาย-เชียงราย-พะเยา-แพร่-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-ทุ่งสง-พัทลุง-หาดใหญ่-ด่านนอก) บริษัท ปิยะชัยพัฒนาทัวร์
- สาย 148 เชียงใหม่-เชียงราย (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด
- สาย 149 เชียงใหม่-แม่สาย (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย-แม่จัน-แม่สาย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด
- สาย 166-1 เชียงใหม่-สามเหลี่ยมทองคำ (ข) (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย-แม่จัน-เชียงแสน-สามเหลี่ยมทองคำ) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด
- สาย 144 เชียงราย-เด่นชัย (เชียงราย-พาน-พะเยา-แพร่-เด่นชัย) บริษัท แพร่ยานยนต์ขนส่ง (หนานคำทัวร์) จำกัด
- สาย 673 แม่สาย-แม่สอด (แม่สาย-เชียงราย-พะเยา-งาว-ลำปาง-เถิน-ตาก-แม่สอด) บริษัทผู้เดินรถได้แก่ ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด
- รถตู้ปรับอากาศลำปาง-งาว บริษัท สหกรณ์เดินรถนครลำปาง จำกัด
รัฐวิสาหกิจและธนาคาร
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภองาว
- บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขางาว
- ธนาคารออมสิน สาขางาว
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขางาว
- สถานีเดินรถนครลำปาง จังหวัดลำปาง สาขางาว (บริษัท ขนส่ง จำกัด)
อ้างอิง
- สรัสวดี อ๋องสกุล. พินิจตำนานลำปาง. พิมพ์ครั้งที่ 2. ลำปาง:ครองช่างการพิมพ์, 2558.
- https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/225
- ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับเชียงใหม่ 700 ปี. เชียงใหม่:ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สถาบันราชภัฎเชียงใหม่, 2538
- ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับเชียงใหม่ 700 ปี. เชียงใหม่:ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สถาบันราชภัฎเชียงใหม่, 2538
- จำนวนประชากรและบ้าน จำแนกเป็นรายอำเภอ และรายตำบล จังหวัดลำปาง ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2553, สำนักบริหารทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
- ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับเชียงใหม่ 700 ปี. เชียงใหม่:ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สถาบันราชภัฎเชียงใหม่, 2538