ลาว (กลุ่มชาติพันธุ์)
ลาว (ลาว: ລາວ) เป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใช้ตระกูลภาษาขร้า-ไท เป็นชนชาติใหญ่ที่สุดและมีจำนวนมากที่สุดในประเทศลาว มีประชากรประมาณ 14 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นเป็นจำนวนร้อยละ 53.2 ส่วนที่อื่น ๆ อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ชาวลาวบางส่วนได้อพยพไปตั้งถิ่นฐานที่สหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป ชาวลาวส่วนใหญ่ใช้ภาษาลาวเป็นภาษาที่พูดกันในชีวิตประจำวัน
ประชากรทั้งหมด | |
---|---|
ป. 4 ล้านคน (ไม่รวมชาวอีสาน) | |
ภูมิภาคที่มีประชากรอย่างมีนัยสำคัญ | |
ลาว ป. 3,200,000 | |
ไทย | 222,432 (ไม่รวมชาวอีสาน) (2010) |
สหรัฐ | 200,000 (2015) |
กัมพูชา | 23,000 (ไม่รวม จังหวัดสตึงแตรง 60,000 คน และ จังหวัดรัตนคีรี 18,400 คน) |
ฝรั่งเศส | 20,000 |
แคนาดา | 22,000 (2011) |
พม่า | 17,000 |
ภาษา | |
ลาว | |
ศาสนา | |
พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท, ศาสนาพื้นบ้าน | |
กลุ่มชาติพันธุ์ที่เกี่ยวข้อง | |
ชาวไท (เช่น ชาวไทดำ, ชาวอีสาน, ฯลฯ) |
ชาวลาวส่วนมากจะนับถือพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท และบางส่วนยังนับถือควบคู่ไปกับลัทธิภูตผีวิญญาณต่าง ๆ แม้ชาวลาวจะตกอยู่ภายใต้อำนาจของชนชาติต่าง ๆ แต่ก็ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของตนได้เป็นอย่างดี
ชื่อเรียก
ศัพทมูลวิทยา ของคำว่า ลาว ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เป็นที่สันนิษฐานกันว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับเผ่า อ้ายลาว (ลาว: ອ້າຍລາວ, อีสาน: อ้ายลาว, จีน: 哀牢; พินอิน: Āiláo, เวียดนาม: ai lao) ซึ่งเป็นชนเผ่าที่ปรากฏในบันทึกสมัยราชวงศ์ฮั่นของจีน โดยอาศัยอยู่ที่บริเวณมณฑลยูนนานในปัจจุบัน ต่อมาชนเผ่าที่สืบเชื้อสายมาจากเผ่าอ้ายลาวรวมถึงเผ่าไทได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักวิชาการสมัยใหม่ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการสร้างอัตลักษณ์ทางชาติพันธ์ของลาว ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติพันธ์ที่พูดตระกูลภาษาขร้า-ไท โดย แกรนท์ อีวานส์ (Grant Evans) และ Søren Ivarsson เสนอว่าอัตลักษณ์ทางชาติพันธ์ของลาวอย่างที่เข้าใจกันในปัจจุบัน อาจเป็นสิ่งที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นในยุคล่าอาณานิคม เพื่อโต้แย้งอำนาจของไทยในดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำโขง และสร้างความเป็นชาตินิยม และอีวานส์ยังเชื่อว่า คำว่าลาว ถูกใช้โดยชาติตะวันตกอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก (โดยเฉพาะโปรตุเกส) ราวคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมื่อเข้ามาค้าขายในแถบสุวรรณภูมิ เนื่องจากฝรั่งที่เข้ามาติดต่อค้าขายและสำรวจพื้นที่ ต้องการคำไว้ใช้เรียกผู้คน และดินแดนที่อยู่เลยไปจากอำนาจปกครองของอยุธยาอย่างคร่าวๆ
คำเรียกภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Laotian ใช้สลับกันได้กับลาวในบริบทส่วนใหญ่มาจากฝรั่งเศส Laotien / Laotienne เชื้อชาติหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สืบเชื้อสายจากลาวจะมีความแตกต่างจากชาวลาวที่มาจากประเทศลาว โดยคนไทยจะเรียกตามแบบภาษาไทยว่า อีสาน หรือ "ไทยอีสาน" (ลาว: ໄທ ອີສານ, อีสาน: ไทยอีสาน) ซึ่งมาจากคำภาษาสันสกฤตที่หมายความว่า "ตะวันออกเฉียงเหนือ" แต่คำว่า "ลาว" ก็ยังคงใช้อยู่
ภาษาและอักษร
ภาษาลาว (ພາສາລາວ) เป็นภาษาที่ใช้เป็นส่วนใหญ่ในประเทศลาว ส่วนอักษรเขียนอย่างเป็นทางการจะใช้อักษรลาว และเป็นภาษาพูดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ประชากรประมาณครึ่งหนึ่งสื่อสารโดยใช้ภาษาของชนกลุ่มน้อยเช่น ตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก, ตระกูลภาษาจีน-ทิเบต, ตระกูลภาษาออสโตรนีเซียน และ ตระกูลภาษาม้ง-เมี่ยน เป็นต้น
การแบ่งย่อย
ใน ประเทศลาว มีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างลาวกับกลุ่มชาติพันธ์อื่นๆ มีเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เช่น ชาวไท กับภาษาเข้าใจร่วมกันที่มีการจัดกลุ่มเข้าด้วยกัน เป็น ลาวโลม หรือ "ลุ่มลาว" (ลาว: ລາວລຸ່ມ láːu lūm , Thai: ลาวลุ่ม, IPA: laːw lum) กลุ่มเหล่านี้ส่วนใหญ่มีลักษณะทางวัฒนธรรมร่วมกันหลายอย่างและพูดภาษาหรือสำเนียงที่คล้ายกันมาก มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยในโทนเสียง คำศัพท์และการออกเสียงของคำบางคำ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสนทนา แต่หลายกลุ่มเหล่านี้ เช่น ไทญ้อ หรือ ภูไท พิจารณาตัวเองว่ามีแตกต่างกัน และมักมีความแตกต่างในเสื้อผ้าที่แยกความแตกต่างออกไป
ประวัติ
การอพยพของชาวไท
ตามตำนานร่วมกันระหว่างเผ่าไทต่างๆ กษัตริย์ที่อาจเป็นตำนานหรือ ขุนบรม กษัตริย์แห่งเมืองแถน (ເມືອງແຖນ) ได้ให้กำเนิดลูกชายหลายคนซึ่งได้แยกย้ายกันไปตั้งถิ่นฐานและก่อตั้งอาณาจักรของตนเอง หรือเมืองรัฐทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทางตอนใต้ของประเทศจีน สืบเชื้อสายมาจากชาวจีนยุคโบราณที่รู้จักกันในชื่อว่า เย่ว์ และ อ้ายลาว ชนเผ่าไทเริ่มอพยพเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อต้นสหัสวรรษที่ 1 แต่การโยกย้ายถิ่นฐานขนาดใหญ่เกิดขึ้นระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 7 และ 13 โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากบริเวณ สิบสองปันนา, ยูนนาน และ กวางสี ในปัจจุบัน เหตุผลที่เป็นไปได้สำหรับการโยกย้ายถิ่นชาวไทมากจากการกดดันจากการขยายดินแดนของชาวจีนฮั่น และการรุกรานมองโกล เพื่อหาที่ดินเหมาะสำหรับปลูกข้าวเปลือกเพิ่ม และนำไปสู่การล่มสลายของรัฐที่ชาวไทอาศัยอยู่
ชาวไทซึมซับหรือปลีกตัวเองออกวัฒนธรรมพื้นเมืองของตน และรับเอาตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก (มอญ-เขมร) มาใช้ และตั้งรกรากอยู่ที่ขอบอาณาจักรที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดีย ได้แก่ กลุ่มอาณาจักรมอญ และ จักรวรรดิเขมร การผสมผสานของชนชาติและการไหลบ่าเข้ามาของปรัชญา ศาสนา ภาษา วัฒนธรรมและประเพณี จากอินเดีย ได้ถูกรับเข้ามาและปรับเข้าสู่วัฒนธรรมของชาวไท แต่ชาวไทก็ยังคงติดต่อกับกลุ่มชาวไทจากเมืองอื่นๆ
สมัยล้านช้าง
รัฐของชาวไทได้ใช้ประโยชน์จากความเสื่อมของจักรวรรดิเขมร และประกาศตนออกมาเป็นอิสระ สำหรับชาวลาวนับเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ชาติของพวกเขาจนถึงเวลานี้ เห็นได้จากอนุสาวรีย์ที่สำคัญจำนวนมาก, วัด, งานศิลปะ, และด้านอื่น ๆ ของวัฒนธรรมลาว ได้ถือกำเนิดมาจากช่วงเวลานี้ จากจุดนี้ชาวลาวมักอ้างถึงรัฐไทบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาว่า ไทยสยาม และเรียกรัฐไทอาณาจักรล้านช้าง หรือบริเวณประเทศลาวในปัจจุบันว่า "คนลาว"
อาณาจักรลาวล้านช้าง หรือ "แผ่นดินแห่งช้างล้านตัว" เริ่มในปี ค.ศ. 1354 เมื่อพระยาฟ้างุ้ม (ຝ້າງູ່ມ) (ค.ศ. 1354 - 1373) กลับมายังเมืองซวา (ເມືອງຊວາ, เปลี่ยนชื่อเป็น เซียงทอง หรือ "เชียงทอง" (ຊຽງທອງ) ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในชื่อ หลวงพระบาง จากเมืองนี้ล้านช้างขยายอาณาเขตไปถึงบริเวณของประเทศลาวทั้งหมดและบริเวณที่ราบสูงโคราชของประเทศไทย รวมทั้งบางส่วนของสิบสองปันนาในภาคใต้ของประเทศจีน สิบสองจุไทย ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนาม และ เชียงแตง บริเวณจังหวัดสตึงแตรง ของประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน
ราชอาณาจักรล้านช้างที่มีประสิทธิภาพมีความมั่งคั่งและมีอิทธิพลเนื่องมาจากทำเลที่ตั้งของเมืองหลวงที่เป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญระหว่างอาณาจักรรอบข้างและยังเป็นแหล่งศูนย์กลางของพุทธศาสนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาณาจักรยังรุ่งเรืองจากการค้าตามเส้นทางการจราจรตามแนวแม่น้ำโขงและเส้นทางบนบกไปยังท่าเรือต่างๆของสยาม ซึ่งได้เติบโตขึ้นเป็นเมืองท่าธุรกิจที่คึกคักจากการติดต่อค้าขายทางทะเล และไปทางใต้ของประเทศจีนและกลุ่มรัฐที่มีกลุ่มชาวไทอาศัยอยู่ ชาวตะวันตกได้เข้ามาติดต่อกับอาณาจักรล้านช้างครั้งแรกในสมัยพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช (ພຣະເຈົ້າສຸຣິຍະວົງສາທັມມິກຣາດ) (ค.ศ. 1634–1697) ได้มีการบันทึกไว้ว่าราชอาณาจักรรุ่งเรืองจากการส่งออกของ ทอง, เรซิน, กำยาน,ครั่ง, เครื่องเคลือบ สมุนไพร, งาช้าง, ไหม, ผ้าไหมและไม้ วัดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซียงทอง (หลวงพระบางปัจจุบัน) และเวียงจันทร์ ได้มีหลักฐานบันทึกถึงเรื่องราวเหล่านี้
ในช่วงเวลานี้ตำนานของขุนบรม ได้ถูกเขียนบันทึกต้นฉบับไว้บนใบลานและมหากาพย์สังข์ศิลป์ชัยก็ได้ถูกบันทึกขึ้นด้วยเช่นกัน พุทธศาสนาเถรวาทเป็นศาสนาประจำชาติและเวียงจันทน์กลายเป็นเมืองสำคัญทางพุทธศาสนา อิทธิพลทางวัฒนธรรมนอกเหนือจากนี้ก็มาจาก ชาวมอญ และ ชาวเขมร การรวมล้านนาไทยเข้ากับอาณาจักรล้านช้างเกิดช่วงสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช (ພຣະເຈົ້າໄຊເສດຖາທິຣາດ) (ค.ศ. 1548–1572) นำไปสู่การพัฒนาสถาปัตยกรรมและศิลปะจำนวนมาก ในด้านศิลปะได้เลียนแบบศิลปะของล้านนา การรับเอาวัฒนธรรมล้านนามาใช้ในอาณาจักรล้านช้างรวมไปถึงวัฒนธรรมทางปัญญาด้วย เช่น หอสมุดของล้านนาถูกคัดลอก รวมทั้งวรรณกรรมทางศาสนามาก นี้อาจนำไปสู่การยอมรับหรืออาจนำมาประยุกต์ใช้ใหม่ของตัวเมืองที่มาจากภาษามอญ นำมาใช้ในอาณาจักรล้านช้างสำหรับงานเขียนด้านศาสนา
อาณาจักรล้านช้างถูกแบ่งออกเป็นสามอาณาจักร ได้แก่ อาณาจักรจำปาศักดิ์ อาณาจักรเวียงจันทน์และอาณาจักรหลวงพระบาง ซึ่งต่อมาทั้งสามอาณาจักรก็ได้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของสยาม ส่วนที่เหลือของกลุ่มล้านช้างได้รวบรวมผู้คนของพวกเขาขึ้นในศตวรรษที่ 18 และ 19 นำไปสู่การก่อกบฏในลาวของเจ้าอนุวงศ์ (ເຈົ້າອນຸວົງ) ต่อต้านอิทธิพลของสยามขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 แต่ก็ถูกปราบปรามจนพ่ายแพ้ไป
วัฒนธรรม
การแต่งกาย
การแต่งกายของชาวลาวจะแตกต่างกันไปตามกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ในโอกาสที่เป็นทางการหรืองานพิธีการ ผู้หญิงลาวจะนุ่งผ้าซิ่น, ผ้าถุง, ใส่เสื้อแขนยาวทรงกระบอกหรือ "เสื้อปัด" (ເສື້ອປັດ) และไว้ผมเกล้ามวยประดับดอกไม้ สำหรับผู้ชายมักแต่งกายแบบสากล หรือนุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อชั้นนอกกระดุมเจ็ดเม็ด คล้ายเสื้อพระราชทานของไทย
อาหาร
อาหารลาวมีความคล้ายคลึงกับอาหารในภูมิภาคอื่น ๆ เช่นอาหารไทยและกัมพูชา แต่มีลักษณะเด่นแตกต่างกันหลายประการที่ไม่ซ้ำกัน อาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศลาวคือ ลาบ และส้มตำลาว ซึ่งสองอาหารดังกล่าวเป็นอาหารดั้งเดิมของลาว อาหารของลาวในประเทศลาวและภาคอีสานของไทยแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ความแตกต่างที่สำคัญคือ อาหารลาวขาดอิทธิพลของอาหารไทยและอาหารอีสานในไทยจะขาดอิทธิพลจากอาหารฝรั่งเศสที่มีอิทธิพลต่ออาหารลาว
สำหรับอาหารลาว ข้าวเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหาร ข้าวที่นิยมใช้ปรุงมากที่สุดคือข้าวเหนียว (ເຂົ້າຫນຽວ) ซึ่งเป็นวัตถดิบที่นิยมในภาคอีสานและภาคเหนือของประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งทั้งสองได้รับอิทธิพลจากอาหารลาว แม้ว่าบางครั้งถูกแทนที่ด้วยก๋วยเตี๋ยวหรือวัตถุดิบอื่นๆ วัตถุดิบที่นิยมรองลงมาจะถูกใช้โดยทั่วไปเป็นส่วนประกอบของซอส, ผักดิบ, อาหารลาวบางอย่างจะมีรสเผ็ดมากโดยการใช้พันธุ์พริกหลายชนิดในการปรุง ซึ่งจะปรุงรสด้วยสมุนไพรและซอสปลาหมัก
ดนตรี
ดนตรีพื้นบ้านดั้งเดิมคือ "ลำลาว" (ລຳລາວ) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ หมอลำ ซึ่งจะต่างกับหมอลำในภาคอีสานของไทย โดยหมอลำในประเทศลาวจะใช้สำเนียงลาวในการขับร้องแต่หมอลำในประเทศไทยส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้ในภาษาอีสานในการขับร้อง เครื่องดนตรีหลักของดนตรีลาวจะใช้ "แคน" (ແຄນ)
ศาสนา
ศาสนาในประเทศลาวเป็นลักษณะผสมผสาน ศาสนาในลาวนั้นได้มาจากสามศาสนาผสมผสานกันอย่างกลมกลืน ถึงแม้ว่าชาวลาวส่วนใหญ่จะอ้างว่าเป็นชาวพุทธ แต่ประเพณีต่างๆมาจากแนวปฏิบัติของศาสนาฮินดูและศาสนาผีซึ่งเป็นศาสนาพื้นบ้าน
พุทธศาสนา
พุทธศาสนา (ພຣະພຸດທະສາສນາ) เป็นศาสนาที่ชาวลาวนิยมมากที่สุดและศาสนาประจำชาติในประเทศลาว คิดเป็น 67% ของประเทศและเกือบทั้งหมดของกลุ่มชาติพันธุ์ลาว ซึ่งตัวเลขจริงอย่างจะสูงกว่านี้เล็กน้อย ในขณะที่พุทธศาสนายังมีอิทธิพลต่อกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ อีกหลายกลุ่มซึ่งโดยทั่วไปนับถือศาสนาผีหรือศาสนาพื้นบ้าน นอกจากนี้ยังเป็นศาสนาที่เด่นชัดของประเทศอีสานและประเทศอื่น ๆ ที่อยู่นอกพรมแดนของประเทศลาว ซึ่งผู้คนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นเป็นนิกายเถรวาท (ເຖຣະວາດ) ส่วนศาสนานิกายๆอื่น ได้แก่ อิทธิพลทางประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนามหายาน ซึ่งยังคงเป็นนิกายหลักของชนกลุ่มน้อยชาวเวียดนามและชาวจีนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในหมู่ชาวลาว
วัดในชุมชนลาวเป็นศูนย์กลางของชุมชนที่ชาวบ้านจะหารือเกี่ยวกับความกังวลใจหรือขอให้พระสงฆ์สำหรับภูมิปัญญาและคำแนะนำ ชาวลาวส่วนใหญ่มักจะหาโอกาสจะเข้าวัดอารามเพื่อเพิ่มพูนความรู้ทางศาสนาและทำบุญ
วันสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาของลาว ได้แก่ บุญพระเวส (ບຸນພຣະເວດ), มาฆบูชา (ມະຄະບູຊາ), สงกรานต์ (ສັງຂານ), วิสาขบูชา (ວິສາຂະບູຊາ), วันเข้าพรรษา (ວັນເຂົ້າພັນສາ), วันออกพรรษา (ວັນອອກພັນສາ), กฐิน (ກະຖິນ) นอกจากนี้ ชาวลาวยังมีวันทำบุญหรือ วันพระ (ວັນພຣະ) ในระหว่างช่วงข้างขึ้นข้างแรม จะมีงานมหกรรมวัดซึ่งชาวลาวจะนิยมเข้าร่วมงานวัด โดยการทำบุญและสวดมนต์
อ้างอิง
- อีสานบางครั้งอธิบายว่าเป็นกลุ่มที่แยกจากกัน แต่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
- ↑ Hattaway, Paul (ed.) (2004). Lao. Peoples of the Buddhist World. William Carey Library. p. 149.CS1 maint: extra text: authors list (link)
- Vapattanawong, Patama. "ชาวต่างชาติในเมืองไทยเป็นใครบ้าง? (Foreigners in Thailand)" (PDF). Institute for Population and Social Research - Mahidol University. สืบค้นเมื่อ June 30, 2017.
- "U.S. Immigrant Population by Country of Birth, 2000-Present" (XLSX). migrationpolicy.org. สืบค้นเมื่อ February 14, 2017.
- Présentation du Laos [Introduction to Laos] (ภาษาFrench), Ministry of Foreign Affairs, 2013, สืบค้นเมื่อ 2013-06-22CS1 maint: unrecognized language (link)
- [1] Canada Census, 2011
- Fairbank, J. K., Loewe, M., & Twitchett, D. C. (1986). The Ch'in and Han Empires 221 B.C.-A.D. 220 . (1986). The Cambridge history of china. Cambridge, UK: Cambridge University Press.
- Ivarsson, Søren (2008). Creating Laos: The Making of a Lao Space between Siam and Indochina, 1860–1945. NIAS Press. p. 240. ISBN 8-7769-4023-3.
- Ivarsson 2008, pp. 24-25.
- Hayashi, Y. (2003). Practical Buddhism among the thai-lao: religion in the making of a region. Melbourne, Australia: Trans Pacific Press
- Lao pdr constitution. (1997). Retrieved from laoembassy.com 2008-05-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- The Thai and Other Tai-Speaking Peoples
- Eliot Joshua et al. (2002). Laos Handbook. London: Footprint Publishers.
- Edmondson, J. A. (2007). The power of language over the past: tai settlement and tai linguistics in southern china and northern vietnam. Harris, J. G., Burusphat, S., Harris, J. (ed). Studies in southeast asian linguistics. Bangkok: Ek Phim Thai Co. Ltd.
- Church, P. (ed). (2006). A short history of South-East Asia. Vol. XII. Singapore: John Wiley and Sons Asia.
- Wyatt, D. K., (2003).
- Cœdès, G. (1921). "The Origins of the Sukhodaya Dynasty" (PDF). Journal of the Siam Society. Siam Heritage Trust. JSS Vol. 14.1b (digital): image. สืบค้นเมื่อ 5 เมษายน 2560.
....formation of the Kingdom of Siam properly so called.
Check date values in:|accessdate=
(help) - บ้านจอมยุทธ. สงครามระหว่างไทยกับฝรั่งเศส. เรียกดูเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2556
- โอเคเนชั่น. ๑๕. สยามเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง. เรียกดูเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2556
- ศานติ ภักดีคำ. "เขมร "เขม่น" ไทย ในแบบเรียนประวัติศาสตร์กัมพูชา 2009-11-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน". ใน ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 24 ฉบับที่ 1 มีนาคม 2546, กรุงเทพฯ : มติชน, 2546
- Town of Luang Prabang
- Simms, P., & Simms, S. (2001). The Kingdoms of Laos. London, UK: Curzon Press.
- Askew, Marc, Logan, William, & Long, Colin. (2007). Vientiane: transformations of a lao landscape. New York, NY: Routledge.
- Asian Bites
- Fukui, H. (1994). Food and population in a northeast thai village. Honolulu, HI: University of Hawai'i Press.
- Taylor, J.L. (1993). Forest Monks and the Nation-State: An Anthropological and Historical Study in Northeastern Thailand. Singapore: Institute of Southeast Asian Studies.
- Cia-the world factbook: laos. (2010, January 05). Retrieved from cia.gov
ดูเพิ่ม
- ภาษาลาว ภาษาที่ชาวลาวใช้สื่อสารกัน