นอวาก จอกอวิช
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
นอวาก จอกอวิช (เซอร์เบีย: Новак Ђоковић, ออกเสียง: [nôʋaːk dʑôːkoʋitɕ]; เกิด: 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1987) เป็นนักเทนนิสอาชีพชายชาวเซอร์เบีย มือวางอันดับ 1 ของโลกคนปัจจุบัน จอกอวิชเป็นหนึ่งในสามผู้เล่นที่ชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมในประเภทชายเดี่ยวมากที่สุดจำนวน 20 สมัยร่วมกับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ ราฟาเอล นาดัล และเป็นผู้เล่นชายคนเดียวในยุคโอเพนที่ชนะเลิศแกรนด์สแลมทุกรายการได้อย่างน้อย 2 สมัยในแต่ละรายการ (Double Career Grand Slam) รวมทั้งเป็นผู้เล่นคนเดียวที่ชนะเลิศรายการเอทีพี มาสเตอร์ ได้ครบทั้ง 9 รายการ (Career Golden Masters) และยังเป็นหนึ่งในสองผู้เล่นที่ชนะเลิศรายการดังกล่าวมากที่สุดจำนวน 36 สมัยร่วมกับนาดัล เขาเป็นผู้เล่นชายที่ครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของโลกด้วยจำนวนสัปดาห์รวมที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์จำนวน 332 สัปดาห์ และครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 เมื่อจบสิ้นปี 6 ครั้ง (สถิติร่วมกับ พีต แซมพราส) อีกทั้งยังเป็นผู้เล่นคนเดียวที่ชนะเลิศการแข่งขันรายการใหญ่ของเอทีพี ทัวร์ ได้ครบทุกรายการ (Elite Titles) ได้แก่ ชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมครบทั้ง 4 รายการ, ชนะเลิศรายการมาสเตอร์ครบทั้ง 9 รายการ และชนะเลิศรายการเอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล
จอกอวิชกับถ้วยแชมป์วิมเบิลดันในปี 2019 | ||||||||
ประเทศ | เซอร์เบียและมอนเตเนโกร (2003–2006) เซอร์เบีย (2006–ปัจจุบัน) | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ถิ่นพำนัก | มงเต-การ์โล ประเทศโมนาโก | |||||||
วันเกิด | 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1987 (34 ปี) เบลเกรด สาธารณรัฐสังคมนิยมเซอร์เบีย สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย (ปัจจุบันคือประเทศเซอร์เบีย) | |||||||
ส่วนสูง | 1.88 เมตร (6 ฟุต 2 นิ้ว) | |||||||
เทิร์นโปร | 2003 | |||||||
การเล่น | มือขวา (แบ็กแฮนด์สองมือ) | |||||||
ผู้ฝึกสอน | มาเรียน วายดา (2006-ปัจจุบัน) โกราน อิวานิเซวิช (2019-ปัจจุบัน) บอริส เบกเคอร์ (2013-2016) | |||||||
เงินรางวัล | 151,876,636 ดอลลาร์สหรัฐ
| |||||||
Official website | novakdjokovic.com | |||||||
เดี่ยว | ||||||||
สถิติอาชีพ | 972–197 (83.1%) | |||||||
รายการอาชีพที่ชนะ | 85 (สถิติอันดับ 5 ในประเภทชายเดี่ยว) | |||||||
อันดับสูงสุด | No. 1 (4 กรกฎาคม 2011) | |||||||
อันดับปัจจุบัน | No. 1 (19 กรกฎาคม 2021) | |||||||
ผลแกรนด์สแลมเดี่ยว | ||||||||
ออสเตรเลียนโอเพน | ชนะเลิศ (2008, 2011, 2012, 2013, 2015, 2016, 2019, 2020, 2021) | |||||||
เฟรนช์โอเพน | ชนะเลิศ (2016, 2021) | |||||||
วิมเบิลดัน | ชนะเลิศ (2011, 2014, 2015, 2018, 2019, 2021) | |||||||
ยูเอสโอเพน | ชนะเลิศ (2011, 2015, 2018) | |||||||
Other tournaments | ||||||||
Tour Finals | ชนะเลิศ (2008, 2012, 2013, 2014, 2015) | |||||||
Olympic Games | (2008) | |||||||
คู่ | ||||||||
สถิติอาชีพ | 59–73 (44.7%) | |||||||
รายการอาชีพที่ชนะ | 1 | |||||||
อันดับสูงสุด | No. 114 (30 พฤศจิกายน 2009) | |||||||
อันดับปัจจุบัน | No. 181 (19 กรกฎาคม 2021) | |||||||
ผลแกรนด์สแลมคู่ | ||||||||
ออสเตรเลียนโอเพน | 1R (2006, 2007) | |||||||
เฟรนช์โอเพน | 1R (2006) | |||||||
วิมเบิลดัน | 2R (2006) | |||||||
ยูเอสโอเพน | 1R (2006) | |||||||
Team Competitions | ||||||||
Davis Cup | ชนะเลิศ (2010) | |||||||
Hopman Cup | รองชนะเลิศ (2008, 2013) | |||||||
รายการเหรียญรางวัล
| ||||||||
อัปเดตล่าสุดเมื่อ: 19 กรกฎาคม 2021 |
จอกอวิชได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามนักเทนนิสชาย (Big Three) ที่เก่งที่สุดตลอดกาลร่วมกับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ ราฟาเอล นาดัล รวมทั้งเป็นนักกีฬาชาวเซอร์เบียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขาขึ้นสู่ตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของโลกครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 และมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปี 2011 และ 2015 ซึ่งเขาคว้าตำแหน่งชนะเลิศได้ 10 และ 11 รายการตามลำดับ โดยหากนับจนถึงปัจจุบัน เขาคว้าตำแหน่งชนะเลิศในการแข่งขันประเภทชายเดี่ยวได้ 85 รายการ
จอกอวิชชนะเลิศการแข่งขันแกรนด์สแลมจำนวน 20 สมัย ประกอบด้วยสถิติแชมป์ออสเตรเลียนโอเพน 9 สมัย (มากที่สุดในประเภทชายเดี่ยว), วิมเบิลดัน 6 สมัย, ยูเอสโอเพน 3 สมัย และ เฟรนช์โอเพน 2 สมัย และภายหลังจากชนะเลิศรายการเฟรนช์โอเพนใน ค.ศ. 2016 ทำให้เขาเป็นผู้เล่นชายคนที่ 8 ที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศแกรนด์สแลมได้ครบทุกรายการ (Career Grand Slam) เขายังชนะเลิศรายการ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลจำนวน 5 สมัย และเป็นผู้เล่นคนเดียวที่ชนะเลิศรายการดังกล่าวติดต่อกันได้ 4 สมัย (ค.ศ. 2012-2015) และคว้าเหรียญทองแดงในประเภทชายเดี่ยวจากการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 รวมทั้งชนะเลิศรายการเดวิสคัพ (ค.ศ. 2010) และ เอทีพีคัพ (ค.ศ. 2020) ร่วมกับทีมชาติเซอร์เบีย
เขาเป็นเจ้าของสถิติโลกในวงการมากมาย เช่น เป็นผู้เล่นชาวเซอร์เบียคนแรกที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศแกรนด์สแลมได้, เป็นผู้เล่นชายคนเดียวในยุคโอเพน (นับตั้งแต่ ค.ศ. 1968) ที่ชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมได้อย่างน้อย 2 สมัยในแต่ละรายการรวมทั้งเป็นผู้เล่นชายคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ทำสถิติดังกล่าวได้, เป็นผู้เล่นคนเดียวที่ชนะเลิศรายการมาสเตอร์ได้ครบทุกรายการรวมทั้งชนะเลิศแต่ละรายการได้อย่างน้อย 2 สมัย, เป็นผู้เล่นชายคนแรกนับตั้งแต่ ค.ศ. 1969 ที่ชนะเลิศแกรนด์สแลมออสเตรเลียนโอเพน, เฟรนช์โอเพน และวิมเบิลดันได้ภายในปีเดียวกัน (ค.ศ. 2021), เป็นผู้เล่นชายคนเดียวในยุคโอเพนที่ชนะเลิศแกรนด์สแลมออสเตรเลียนโอเพน 3 สมัยติดต่อกัน (ค.ศ. 2011-2013 และ 2019-2021), เป็นผู้เล่นคนเดียวที่ชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมในพื้นคอร์ต 3 ประเภท (ฮาร์ดคอร์ต, คอร์ตดิน และ คอร์ตหญ้า) ได้ 4 รายการติดต่อกัน (ค.ศ. 2015-2016), เป็นผู้เล่นชายที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศแกรนด์สแลมหลังจากมีอายุครบ 30 ปีได้มากที่สุด (8 รายการ), เป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศแกรนด์สแลมได้ครบทุกรายการ (21 ปี: ค.ศ. 2008), ทำสถิติเอาชนะผู้เล่นมือวาง 10 อันดับแรกของโลกได้ครบทุกคนในปีเดียวกัน (ค.ศ. 2015), เป็นผู้เล่นที่ครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ด้วยคะแนนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (16,950 คะแนน: ค.ศ. 2016)
จอกอวิชเคยดำรงตำแหน่งประธานสภานักเทนนิสของเอทีพี ทัวร์ ตั้งแต่ ค.ศ. 2016-2020 และยังเป็นหนึ่งในสองผู้เล่นที่ได้รับรางวัลนักเทนนิสยอดเยี่ยมประจำปีของเอทีพี ทัวร์ (ATP Player of the Year) มากที่สุด 6 สมัย (เท่ากับ พีต แซมพราส) รวมทั้งรางวัลผู้เล่นที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมแห่งปี (Most Improved Player Award) 2 สมัย และรางวัลนักกีฬาชายยอดเยี่ยมแห่งปีของโลก (Laureus World Sportsman of the Year ) อีก 4 สมัย ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2020 จอกอวิชและวาเซ็ค พอสพิซิล ผู้เล่นชาวแคนาดา ได้ร่วมกันก่อตั้งสมาคมนักเทนนิส (Professional Tennis Players Association - PTPA) โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้เล่นทุกคนในการเสนอข้อเรียกร้องต่างๆต่อสมาคมเทนนิสอาชีพ (ATP) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มจำนวนเงินรางวัลให้แก่ผู้เล่นที่มีอันดับโลกไม่สูงมากนัก
ชีวิตส่วนตัว
จอกอวิชเติบโตในครอบครัวนักกีฬาโดยคุณพ่อของเขา (Srđan Đoković) เป็นนักสกีและประกอบธุรกิจเปิดร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในประเทศเซอร์เบีย คุณแม่ของเขาชื่อว่า "Dijana" และน้องชายของเขา "มาร์กอ" เป็นนักเทนนิสอาชีพเช่นกัน จอกอวิชเริ่มเล่นเทนนิสตั้งแต่อายุ 4 ขวบ โดยในขณะอายุได้ 6 ขวบ เขาได้พบกับผู้ฝึกสอนหญิงชาวเซอร์เบีย "Jelena Genčić" ในร้านฟาสต์ฟู้ดของพ่อและแม่เขาซึ่ง Jelena รู้สึกทึ่งกับผลงานของจอกอวิชในวัยเด็กจึงได้ตัดสินใจเป็นโค้ชให้กับเขาจนถึงปี 1999 ชีวิตในวัยเด็กของจอกอวิชนั้นค่อนข้างลำบากเนื่องจากครอบครัวมีฐานะค่อนข้างยากจนและต้องต่อสู้กับภาวะสงครามในประเทศเซอร์เบีย โดยเขาต้องฝึกซ้อมเทนนิสในสนามที่ผุผังจากการโดนระเบิด จอกอวิชก้าวสู่เส้นทางนักเทนนิสอาชีพเมื่ออายุ 12 ปี โดยได้เดินทางไปฝึกที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เป็นเวลา 2 ปี นักเทนนิสต้นแบบที่เขาชื่นชอบคือ พีต แซมพราส เขาสามารถสื่อสารได้หลายภาษาได้แก่ ภาษาเซอร์เบีย, ภาษาอังกฤษ, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาเยอรมัน และ ภาษาอิตาเลียน
จอกอวิชทานอาหารปลอดกลูเตน (Gluten-free) มาตั้งแต่ปี 2010 เนื่องจากถูกตรวจพบว่าตนเองมีอาการแพ้โปรตีนจากแป้งและเนื้อสัตว์บางประเภท โดยเขาได้หันมาเน้นโปรตีนจากปลาเป็นหลักและเน้นการทานผักและผลไม้แทน เขาดื่มแต่น้ำอุ่นเท่านั้นเพราะเชื่อว่าน้ำเย็นจะไปทำให้ระบบการย่อยช้าลง
เขาเป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่มีอารมณ์ขันทั้งในและนอกสนาม และยังมีความสนใจในพุทธศาสนา ทุกครั้งที่เดินทางไปแข่งขันรายการวิมเบิลดัน เขาจะไปนั่งสมาธิ ณ วัดพุทธประทีป กรุงลอนดอน เป็นประจำ และยังชื่นชอบการเล่นโยคะ จอกอวิชยอมรับว่าตนเองไม่ได้รับการยกย่องจากสื่อหรือแฟนเทนนิสเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับ โรเจอร์ เฟเดเรอร์ และ ราฟาเอล นาดัล และมักถูกโจมตีทางสื่อสังคมออนไลน์บ่อยครั้ง
จอกอวิชยังมีความสนใจในกีฬาฟุตบอลและบาสเก็ตบอล โดยมีทีมฟุตบอลที่ชื่นชอบคือเอซี มิลาน และเบนฟิกา เขายังมีความสนิทสนมกับ ซลาตัน อีบราฮีมอวิช ยอดนักฟุตบอลชาวสวีเดน และเขาชื่นชอบ โคบี ไบรอันต์ ตำนานนักบาสเก็ตบอลผู้ล่วงลับเป็นอย่างมาก
เขาสมรสกับ เยเลน่า จอกอวิช ในปี 2014 มีบุตรชายและบุตรสาวอย่างละหนึ่งคน ได้แก่ "สเตฟาน" และ "ทาร่า" เขามีสุนัขตัวโปรดพันธุ์พูเดิลชื่อว่า "ปิแอร์" เขาได้เขียนหนังสือชื่อว่า "Serve to Win" ออกวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคมปี 2013 โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการต่อสู้กับเหตุการณ์เลวร้ายที่เขาต้องเผชิญในวัยเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะสงครามในกรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย และในหนังสือยังมีสูตรอาหารที่มีประโยชน์รวมทั้งวิธีการดูแลร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดี
ประวัติการเล่นอาชีพ
ปี 2003-2005: เริ่มต้นอาชีพ
จอกอวิชเริ่มเล่นอาชีพในปี 2003 ในช่วงเริ่มต้น จอกอวิชลงเล่นในการแข่งขันประเภท Challenger (รายการสำหรับมือสมัครเล่น) เป็นหลัก โดยคว้าแชมป์ได้ 3 สมัย ในการแข่งขันตั้งแต่ปี 2003 ถึง 2005 รายการระดับทัวร์ครั้งแรกของเขาคือ Umag ในปี 2004 ที่ประเทศโครเอเชีย ซึ่งเขาตกรอบ 32 คนสุดท้าย
ปี 2006: แชมป์แรกในอาชีพ
จอกอวิชทำอันดับขึ้นสู่อันดับที่ 40 ของโลกหลังผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแกรนด์สแลมเฟรนช์โอเพน และผ่านเข้าถึงรอบ 4 ที่วิมเบิลดัน สามสัปดาห์หลังจากนั้น จอกอวิชคว้าแชมป์เอทีพีครั้งแรกในชีวิตในรายการดัตช์โอเพนที่เมืองอาเมอร์สฟูร์ต ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยไม่เสียเซตเลยตลอดการแข่งขันและเอาชนะ นิโคลัส มัซซู ในรอบชิงชนะเลิศ เขาคว้าแชมป์อาชีพรายการที่สองที่โมเซลโอเพนประเทศฝรั่งเศสและก้าวเข้าสู่ 20 อันดับแรกของโลกในวัย 19 ปี
ปี 2007: ขึ้นสู่มือวางอันดับ 3 ของโลก
จอกอวิชแพ้ให้กับเฟเดอเรอร์ในรอบที่ 4 แกรนด์สแลมออสเตรเลียนโอเพน ก่อนจะคว้าแชมป์รายการมาสเตอร์รายการแรกในอาชีพที่ไมแอมี และเขาเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแกรนด์สแลมได้เป็นครั้งแรกในการแข่งขันเฟรนช์โอเพนก่อนจะแพ้ให้กับนาดัล จอกอวิชคว้าแชมป์มาสเตอร์รายการที่สองในการแข่งขันแคนาเดียนโอเพน ณ เมืองมอนทรีออล และทำสถิติเป็นผู้เล่นคนที่สองต่อจาก โทมัส เบอร์ดิช ที่สามารถเอาชนะทั้งเฟเดอเรอร์และนาดัลได้นับตั้งแต่ที่ทั้งสองคนก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสองอันดับแรกของโลก
ในช่วงท้ายฤดูกาลจอกอวิชผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลมได้เป็นครั้งแรกโดยพบกับเฟเดอเรอร์ในรอบชิงชนะเลิศยูเอสโอเพนก่อนจะแพ้ไป 3 เซตรวด เขาจบฤดูกาลด้วยการขึ้นสู่ตำแหน่งมือวางอันดับ 3 ของโลกและได้สิทธิร่วมแข่งขันรายการมาสเตอร์ คัพ (เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล ในปัจจุบัน) เป็นครั้งแรกแต่ไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม
ปี 2008: แชมป์แกรนด์สแลมรายการแรก
ในการแข่งขันออสเตรเลียนโอเพน จอกอวิชสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศแกรนด์สแลมได้เป็นครั้งแรก โดยเอาชนะ โจ-วิลฟรีด ซองกา จากฝรั่งเศส และถือเป็นผู้เล่นชาวเซอร์เบียคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ จอกอวิชชนะเลิศรายการมาสเตอร์ ได้อีกสองรายการที่อินเดียนเวลส์และกรุงโรม ก่อนจะตกรอบรองชนะเลิศเฟรนช์โอเพนและตกรอบที่สองวิมเบิลดัน เขาสามารถคว้าเหรียญทองแดงได้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงปักกิ่ง ก่อนจะแพ้ให้กับเฟเดอเรอร์ในรอบรองชนะเลิศยูเอสโอเพน จอกอวิชสามารถจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล ได้เป็นสมัยแรก โดยเอาชนะ นิโคไล ดาวิเดนโก ในรอบชิงชนะเลิศ
ปี 2009: คว้าแชมป์ 5 รายการ
จอกอวิชไม่สามารถป้องกันแชมป์ออสเตรเลียนโอเพนได้โดยเขาขอยอมแพ้ในรอบ 8 คนสุดท้ายในขณะแข่งขันกับแอนดี ร็อดดิก เนื่องจากอาการฮีทสโตรก แต่เขาสามารถคว้าแชมป์ในรายการที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เอาชนะดาวิต เฟร์เรร์ได้ในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะคว้าแชมป์รายการที่สองของปีได้ที่ประเทศเซอร์เบีย ในการแข่งขันเฟรนช์โอเพน จอกอวิชตกรอบที่ 3 โดยแพ้ให้กับ ฟิลิปป์ โคห์ลชไรเบอร์ จากเยอรมนี และตกรอบวิมเบิลดันโดยแพ้ให้กับ ทอมมี แฮส ก่อนจะตกรอบยูเอสโอเพนโดยแพ้ให้กับเฟเดอเรอร์ จอกอวิชคว้าแชมป์ที่ 3 ของปีในรายการไชน่า โอเพน ที่ประเทศจีน ตามด้วยแชมป์รายการที่ 4 ที่สวิตเซอร์แลนด์ เขาปิดท้ายฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์รายการมาสเตอร์ได้ที่กรุงปารีส และครองตำแหน่งมือวางอันดับ 3 ของโลกในปีนี้
ปี 2010: แชมป์เดวิส คัพ และขึ้นสู่มือวางอันดับ 2 ของโลก
จอกอวิชเริ่มต้นฤดูกาลด้วยการตกรอบ 8 คนสุดท้ายในออสเตรเลียนโอเพน แต่เขาสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งมือวางอันดับ 2 ของโลกได้เป็นครั้งแรก เขาคว้าแชมป์แรกของปีในการแข่งขันที่ดูไบ และพาทีมชาติเซอร์เบียผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในรายการเดวิสคัพได้เป็นครั้งแรกโดยเอาชนะสหรัฐอเมริกาไปได้ ก่อนที่จะตกรอบ 8 คนสุดท้ายในการแข่งขันเฟรนช์โอเพน โดยแพ้ให้กับ เยอร์กิน เมลเซอร์ จากออสเตรีย ตามด้วยการแพ้ให้กับ โทมัส เบอร์ดิช ในรอบรองชนะเลิศวิมเบิลดัน
ต่อมา ในรายการยูเอสโอเพน จอกอวิชสามารถเอาชนะเฟเดอเรอร์ได้เป็นครั้งแรกในรายการนี้จากการพบกัน 3 ครั้งก่อนหน้านี้ ก่อนจะเข้าไปแพ้ให้กับนาดัลในรอบชิงชนะเลิศ จอกอวิชพาทีมเซอร์เบียเอาชนะเช็กเกียในรอบรองชนะเลิศ เดวิส คัพ ได้ในเดือนต่อมา ก่อนจะกลับไปป้องกันแชมป์รายการ ไชน่า โอเพน ได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน ตามด้วยการพาทีม เดวิส คัพ ของเซอร์เบียคว้าแชมป์ได้เป็นสมัยแรกโดยเอาชนะฝรั่งเศสในรอบชิงชนะเลิศ
ปี 2011: แชมป์แกรนด์สแลม 3 รายการและขึ้นสู่มือวางอันดับ 1 ของโลก
ในปีนี้ถือเป็นปีที่ดีที่สุดของจอกอวิชนับตั้งแต่เริ่มเล่นอาชีพ โดยเขาคว้าตำแหน่งชนะเลิศไปได้ถึง 10 รายการ รวมทั้งการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ถึงสามรายการ ในการแข่งขันออสเตรเลียนโอเพน, วิมเบิลดัน และ ยูเอสโอเพน โดยเอาชนะแอนดี มาร์รี ในรอบชิงชนะเลิศออสเตรเลียนโอเพน และ เอาชนะ นาดัลได้ในรอบชิงชนะเลิศวิมเบิลดันและยูเอสโอเพน นอกจากนี้เขายังคว้าแชมป์มาสเตอร์ได้ถึง 5 รายการในปีนี้ รวมทั้งทำสถิติทำเงินรางวัลรวมจากการแข่งขันได้มากที่สุดในปีเดียว (สถิติในขณะนั้น) จำนวน 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาจบฤดูกาลด้วยการคว้าชัยชนะได้ถึง 70 นัดและจบฤดูกาลด้วยการครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของโลกได้เป็นครั้งแรก
ปี 2012: แชมป์ออสเตรเลียนโอเพนสมัยที่ 3
จอกอวิชป้องกันแชมป์ออสเตรเลียนโอเพนได้โดยเอาชนะนาดัลได้ในรอบชิงชนะเลิศในการแข่งขัน 5 เซต ซึ่งใช้เวลาแข่งขันกันยาวนานถึง 5 ชั่วโมง 53 นาที ถือเป็นรอบชิงชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 5 ของจอกอวิช ก่อนจะป้องกันแชมป์รายการมาสเตอร์ที่ไมแอมีได้สำเร็จ แต่จอกอวิชไม่สามารถคว้าแชมป์เฟรนช์โอเพนและวิมเบิลดันได้ โดยแพ้ให้กับนาดัลและเฟเดอเรอร์ตามลำดับ
จอกอวิชได้รับเกียรติให้เป็นผู้ถือธงชาติเซอร์เบียในพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ณ กรุงลอนดอน แต่เขาทำได้เพียงอันดับที่ 4 โดยแพ้ให้กับแอนดี มาร์รีในรอบรองชนะเลิศและแพ้ ฆวน มาร์ติน เดล ปอร์โต ในรอบชิงเหรียญทองแดง ในแกรนด์สแลมยูเอสโอเพนจอกอวิชก็ไม่สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้โดยแพ้ให้กับมาร์รี เขาปิดท้ายด้วยการคว้าแชมป์เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล ที่กรุงลอนดอนได้เป็นสมัยที่ 2 และครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของโลกได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน
ปี 2013: แชมป์ออสเตรเลียนโอเพนสมัยที่ 4
จอกอวิชสามารถป้องกันแชมป์ออสเตรเลียนโอเพนได้โดยเอาชนะมาร์รีในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 5 และทำสถิติเป็นผู้เล่นชายคนเดียวในยุคโอเพนที่ชนะเลิศรายการออสเตรเลียนโอเพน 3 สมัยติดต่อกัน ตามด้วยการคว้าแชมป์เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ 500 ที่ดูไบในเดือนมีนาคม ก่อนจะแพ้ให้กับ ฆวน มาร์ติน เดล โปโตร ในรอบรองชนะเลิศรายการมาสเตอร์ที่อินเดียนเวลส์ ซึ่งเป็นการหยุดสถิติชนะรวดติดต่อกันทุกรายการจำนวน 22 นัดของตนเองลง ต่อมาในเดือนเมษายน เขาเอาชนะนาดัลได้ในรอบชิงชนะเลิศมาสเตอร์ที่ มงเต-การ์โล คว้าแชมป์ได้เป็นสมัยแรก แต่เขาไม่ประสบความสำเร็จในการลงแข่งขันในคอร์ตดินสามรายการใหญ่ที่เหลือทั้งที่กรุงมาดริด, กรุงโรม และ แกรนด์สแลมเฟรนช์โอเพน จอกอวิชผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศที่วิมเบิลดันและยูเอสโอเพนได้ ก่อนจะแพ้ให้กับมาร์รีและนาดัลตามลำดับ ตามด้วยการคว้าแชมป์ที่ปักกิ่ง ได้เป็นสมัยที่ 4 จอกอวิชปิดท้ายฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์มาสเตอร์ที่กรุงปารีส และคว้าแชมป์ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล ได้เป็นสมัยที่ 3 และบอริส เบกเคอร์ ตำนานผู้เล่นชาวเยอรมันได้เข้ามาทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนให้แก่จอกอวิช
ปี 2014: แชมป์วิมเบิลดันสมัยที่ 2
จอกอวิชไม่สามารถป้องกันแชมป์ออสเตรเลียนโอเพนได้ โดยแพ้ให้กับ สตาน วาวรีงกา จากสวิตเซอร์แลนด์ในรอบ 8 คนสุดท้าย เป็นการหยุดสถิติชนะติดต่อกัน 25 นัดในรายการนี้ลง ก่อนจะคว้าแชมป์มาสเตอร์ได้สามรายการได้ที่อินเดียนเวลส์, ไมแอมี และ กรุงโรม โดยเอาชนะเฟเดอเรอร์ได้ในการแข่งขันที่อินเดียนเวลส์ และชนะนาดัลในรอบชิงชนะเลิศที่ไมแอมีและกรุงโรม จอกอวิชผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเฟรนช์โอเพนได้สำเร็จก่อนที่จะแพ้ให้กับนาดัลไปอีกครั้ง และเขาสามารถคว้าแชมป์วิมเบิลดันได้ในปีนี้โดยเอาชนะเฟเดอเรอร์ในการแข่งขัน 5 เซต ก่อนที่จะตกรอบรองชนะเลิศรายการยูเอสโอเพน จอกอวิชสามารถคว้าแชมป์ในรายการที่ปักกิ่งได้เป็นสมัยที่ 5 ในรอบ 6 ปี โดยเอาชนะโทมัช เบอร์ดิช ได้ และปิดท้ายด้วยการคว้าแชมป์ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล ได้เป็นสมัยที่ 4 หลังจากที่เฟเดอเรอร์ได้ขอถอนตัวในรอบชิงชนะเลิศ และเขาครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ได้เป็นครั้งที่ 3ในปีนี้
ปี 2015: หนึ่งในฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเทนนิส
ในปีนี้ถือเป็นปีที่จอกอวิชประสบความสำเร็จสูงที่สุดในอาชีพอีกครั้ง เขาคว้าแชมป์คว้าแชมปป์แกรนด์สแลมได้ถึง 3 รายการได้แก่ ออสเตรเลียนโอเพน (เอาชนะมาร์รีในรอบชิงชนะเลิศ), วิมเบิลดัน และ ยูเอสโอเพน (เอาชนะเฟเดอเรอร์ได้ในรอบชิงชนะเลิศทั้งสองรายการ) รวมทั้งคว้าแชมป์มาสเตอร์ได้ถึง 6 รายการ และยังสามารถป้องกันแชมป์ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล ได้สำเร็จโดยเอาชนะเฟเดอเรอร์ได้ในรอบชิงชนะเลิศและทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกที่ชนะเลิศรายการดังกล่าว 4 สมัยติดต่อกัน โดยในปีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดเท่าที่นักเทนนิสชายเคยทำได้
จอกอวิชทำสถิติคว้าแชมป์ได้ 11 รายการภายในปีเดียวและเป็นผู้เล่นชายคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถเข้าชิงชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมได้ทั้ง 4 รายการภายในปีเดียวกัน (ต่อจาก ร็อด เลเวอร์ และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์) และยังทำสถิติคว้าเงินรางวัลจากการแข่งขันในหนึ่งปีปฏิทินได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ (จำนวน 21 ล้านดอลลาร์) พร้อมทั้งรักษาตำแหน่งอันดับ 1 เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น อย่างไรก็ตาม เขาต้องพลาดการคว้าแชมป์เฟรนช์โอเพนเป็นสมัยแรกเมื่อต้องผิดหวังในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้งโดยแพ้ให้กับ สตาน วาวรีงกา 1-3 เซต
ปี 2016: Career Grand Slam
จอกอวิชเอาชนะนาดัลได้ในรอบชิงชนะเลิศรายการเอทีพี เวิลด์ ทัวร์ 500 ที่ โดฮา ก่อนจะสามารถป้องกันแชมป์ออสเตรเลียนโอเพนได้โดยเอาชนะมาร์รีไปได้อีกครั้งคว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 6 เขายังคว้าแชมป์มาสเตอร์ได้ทั้งสองรายการที่อินเดียน เวลส์ และ ไมแอมี โดยเป็นปีที่สามติดต่อกันที่เขาสามารถคว้าแชมป์สองรายการดังกล่าวได้ ตามด้วยการคว้าแชมป์มาสเตอร์คอร์ตดินที่กรุงมาดริดโดยเอาชนะมาร์รีในรอบชิงชนะเลิศ
ในการแข่งขันเฟรนช์โอเพน จอกอวิชประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ได้เป็นสมัยแรกและสามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ครบทุกรายการในอาชีพ (Career Grand Slam) หลังจากที่เขาแพ้ในรอบชิงชนะเลิศเฟรนช์โอเพนมาทั้ง 3 ครั้งก่อนหน้านี้ และถือเป็นผู้เล่นชายคนที่ 8 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำ Career Grand Slam ได้ โดยเอาชนะมาร์รีในรอบชิงชนะเลิศ และถือเป็นผู้เล่นชายคนที่ 3 ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ 4 รายการติดต่อกัน (ต่อจาก ดอน บัดจ์ และ ร็อด เลเวอร์)
อย่างไรก็ตามจอกอวิชต้องตกรอบที่ 3 ในการแข่งขันวิมเบิลดันโดยแพ้ให้กับ แซม แควร์รี่ย์ ก่อนที่จะตกรอบแรกในโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 แพ้ให้กับ ฆวน มาร์ติน เดลโปโตร ไปอีกครั้ง ต่อมาจอกอวิชแพ้ให้กับ สตาน วาวรีงกา คู่แข่งคนสำคัญอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศยูเอสโอเพน และทำได้เพียงคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศเอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล โดยแพ้ให้กับมาร์รีอีกทั้งยังเสียตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ให้มาร์รีหลังจบการแข่งขัน และบอริส เบกเคอร์ ได้ประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนให้แก่จอกอวิชในเดือนธันวาคม
ปี 2017: ปีแห่งการบาดเจ็บ
ในปี 2017 ถือเป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุดของจอกอวิช เนื่องจากเขาต้องประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณข้อศอกขวารบกวนตลอดทั้งปี ในเดือนพฤษภาคม อานเดร แอกัสซี ตำนานผู้เล่นชาวอเมริกันได้เข้ามาทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนคนใหม่ให้แก่จอกอวิช เขาถอนตัวจากการแข่งขันวิมเบิลดันในรอบ 8 คนสุดท้ายในขณะแข่งขันกับ โทมัส เบอร์ดิช เนื่องจากอาการบาดเจ็บในช่วงต้นเซตที่ 2 ซึ่งเขากล่าวว่าอาการบาดเจ็บข้อศอกขวานี้ได้รบกวนเขามาเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม จอกอวิชได้ประกาศยุติการแข่งขันในทุกรายการที่เหลือเพื่อพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ
ปี 2018: การกลับมาทวงความยิ่งใหญ่
ภายหลังจากตกรอบที่ 4 ในการแข่งขันออสเตรเลียนโอเพน จอกอวิชได้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ เขากลับมาลงแข่งขันอีกครั้งในรายการมาสเตอร์ที่ อินเดียน เวลส์ และ ไมแอมี แต่ก็ต้องตกรอบไปทั้งสองรายการและยังคงไม่สามารถกลับมาเรียกฟอร์มเก่งได้ในการแข่งขันคอร์ตดินโดยตกรอบทุกรายการ
จอกอวิชกลับสู่ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งในการแข่งขันวิมเบิลดัน แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงมือวางอันดับ 12 ของรายการแต่ก็สามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดยเอาชนะ นาดัล ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะเอาชนะ เควิน แอนเดอร์สัน จากแอฟริกาใต้ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 4 และทำให้เขาเป็นผู้เล่นชายคนที่ 4 ในยุคโอเพน (ต่อจาก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, พีต แซมพราส และ บียอร์น บอร์ก) ที่คว้าแชมป์วิมเบิลดันได้อย่างน้อย 4 สมัย ส่งผลให้เขากลับเข้าสู่ 10 อันดับแรกของโลกเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปี
จอกอวิชยังคงเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง โดยแม้ว่าเขาจะตกรอบในรายการมาสเตอร์แคนาเดียน โอเพน แต่เขาสามารถคว้าแชมป์ที่ซินซินแนติ รัฐโอไฮโอ ได้เป็นครั้งแรกโดยเอาชนะเฟเดอเรอร์ในรอบชิงชนะเลิศ ส่งผลให้จอกอวิชเป็นผู้เล่นคนเดียวที่ชนะเลิศรายการมาสเตอร์ได้ครบทั้ง 9 รายการ (Career Golden Masters) และเป็นผู้เล่นคนเดียวที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศรายการใหญ่ในการแข่งขันของเอทีพี ทัวร์ ได้ครบทุกรายการ (Elite Titles)
ต่อมา จอกอวิชประสบความสำเร็จในการแข่งขันแกรนด์สแลมยูเอสโอเพนในฐานะมือวางอันดับ 6 เขาสามารถคว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 3 และเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 14 ทำสถิติเทียบเท่ากับพีต แซมพราส โดยเอาชนะ ฆวน มาร์ติน เดล โปโตร ไปได้ในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะคว้าแชมป์มาสเตอร์ที่เซี่ยงไฮ้ได้เป็นสมัยที่ 4 และกลับขึ้นสู่ตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของโลกได้เป็นครั้งแรกในรอบสองปี และแม้ว่าจะทำได้เพียงตำแหน่งรองชนะเลิศ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล แต่เขาก็ยังคงจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ได้เป็นครั้งที่ 5
ปี 2019: แชมป์ออสเตรเลียนโอเพนสมัยที่ 7 และ แชมป์วิมเบิลดันสมัยที่ 5
จอกอวิชตกรอบรองชนะเลิศในการแข่งขันที่โดฮา ก่อนจะคว้าแชมป์ออสเตรเลียนโอเพนได้เป็นสมัยที่ 7 และเป็นแชมป์แกรนด์สแลมสมัยที่ 15 ทำสถิติแซง พีต แซมพราส โดยเอาชนะนาดัลในรอบชิงชนะเลิศ ต่อมา เขาคว้าแชมป์มาสเตอร์ รายการที่ 33 ซึ่งเป็นสถิติเท่ากับนาดัลในขณะนั้นจากการคว้าแชมป์ที่กรุงมาดริด ก่อนจะตกรอบ 8 คนสุดท้ายในการแข่งขันเฟรนช์โอเพน โดยแพ้ให้กับโดมินิค ธีม จากออสเตรีย
จอกอวิชป้องกันแชมป์วิมเบิลดันได้โดยเอาชนะเฟเดอเรอร์ในการแข่งขัน 5 เซต โดยใช้เวลาแข่งขันไปถึง 5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์รอบชิงชนะเลิศของรายการ โดยเขาได้เอาตัวรอดจากการเสียเปรียบถึง 2 แชมป์เปียนชิพพอยต์ก่อนจะกลับมาเอาชนะได้ในที่สุด ต่อมา เขาตกรอบที่ 4 ในการแข่งขันยูเอสโอเพน โดยถอนตัวจากการแข่งขันเนื่องจากอาการบาดเจ็บในนัดที่พบกับสตาน วาวรีงกา และตกรอบแบ่งกลุ่มในการแข่งขัน เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล โดยแพ้ให้กับธีมและเฟเดอเรอร์ในสองนัดสุดท้าย จอกอวิชเสียตำแหน่งอันดับ 1 ให้กับนาดัลในช่วงปลายปี
ปี 2020: แชมป์ออสเตรเลียนโอเพนสมัยที่ 8
จอกอวิชคว้าแชมป์ออสเตรเลียนโอเพนสมัยที่ 8 ได้สำเร็จ โดยเอาชนะ โดมินิค ธีม ในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะคว้าแชมป์ที่ดูไบได้เป็นสมัยที่ 5 ต่อมาในเดือนมิถุนายน เขาถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเขาได้รับการวิจารณ์อย่างหนักในฐานะที่เป็นผู้จัดการแข่งขันรายการพิเศษที่ บอลข่าน และมีผู้เล่นที่เข้าร่วมการแข่งขันติดเชื้อหลายราย
เขาทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกที่ชนะเลิศรายการมาสเตอร์ทุกรายการได้อย่างน้อย 2 สมัยในแต่ละรายการ (Double Career Golden Masters) โดยเอาชนะ มิลอช ราวนิช ในรอบชิงชนะเลิศที่ซินซินแนติ ก่อนจะถูกปรับแพ้ในการแข่งขันรอบที่ 4 ในแกรนด์สแลมยูเอสโอเพน เนื่องจากเขาตีลูกบอลไปโดนผู้กำกับเส้นหญิงโดยไม่ตั้งใจ และเขาผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเฟรนช์ โอเพน ก่อนจะแพ้ให้กับนาดัล ตามด้วยการตกรอบรองชนะเลิศ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล โดยแพ้ให้กับโดมินิค ธีม ต่อมาในเดือนธันวาคม จอกอวิชทำสถิติเป็นผู้เล่นชายคนที่สองที่ครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของโลกครบ 300 สัปดาห์ได้สำเร็จ และเขาจบฤดูกาลด้วยการเป็นมือวางอันดับ 1 ได้เป็นครั้งที่ 6 ซึ่งเป็นสถิติที่มากที่สุดในยุคโอเพนเท่ากับพีต แซมพราส
ปี 2021: Double Career Slam, แชมป์แกรนด์สแลม 3 รายการ และสร้างประวัติศาสตร์หลายรายการ
จอกอวิชป้องกันแชมป์ออสเตรเลียนโอเพนได้โดยเอาชนะ ดานิล เมดเวเดฟ จากรัสเซียในรอบชิงชนะเลิศ พร้อมทั้งทำสถิติคว้าแชมป์ได้มากที่สุดในประเภทชายเดี่ยวจำนวน 9 สมัย ต่อมาในวันที่ 8 มีนาคม จอกอวิชทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของโลกด้วยจำนวนสัปดาห์รวมที่มากที่สุดแซงเฟเดอเรอร์ได้สำเร็จ (311 สัปดาห์) จอกอวิชคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศในรายการมาสเตอร์ที่กรุงโรม โดยแพ้ให้กับนาดัล ก่อนจะคว้าแชมป์รายการเอทีพี 250 ที่กรุงเบลเกรดได้ เขาลงแข่งขันเฟรนช์โอเพนในฐานะมือวางอันดับ 1 และสามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้อีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 19 ได้ และทำสถิติเป็นผู้เล่นชายคนเดียวในยุคโอเพน (นับตั้งแต่ ค.ศ. 1968) ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมทุกรายการได้อย่างน้อย 2 สมัยในแต่ละรายการ ภายหลังจากเอาชนะ สเตฟานอส ซิตซิปาส จากกรีซในรอบชิงชนะเลิศในการแข่งขัน 5 เซต ทั้งที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปก่อนใน 2 เซตแรก โดยจอกอวิชถือเป็นผู้เล่นคนที่ 6 ในยุคโอเพนที่สามารถพลิกกลับมาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้หลังจากตามหลังไปก่อน 0-2 เซต และยังส่งผลให้จอกอวิชชนะเลิศการแข่งขันรายการใหญ่ (Elite Titles) ได้แก่รายการแกรนด์สแลมทั้ง 4 รายการ, รายการเอทีพี มาสเตอร์ทั้ง 9 รายการ และ รายการ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ไฟนอล ได้อย่างน้อย 2 สมัยในแต่ละรายการ (Double Elite Titles)
เขาลงแข่งขันวิมเบิลดันในฐานะแชมป์เก่าและมือวางอันดับ 1 ของรายการ และในวันที่ 2 กรกฎาคม ภายหลังจากที่เอาชนะ เดนิส คุดลา จากสหรัฐอเมริกาได้ในการแข่งขันรอบที่ 3 จอกอวิชทำสถิติเป็นผู้เล่นชายคนแรกที่สามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันแกรนด์สแลมทั้ง 4 รายการได้อย่างน้อย 75 นัดในแต่ละรายการ จอกอวิชป้องกันแชมป์ได้โดยเอาชนะ มัตเตโอ แบร์เรตตีนี จากอิตาลีในรอบชิงชนะเลิศ ทำสถิติชนะเลิศแกรนด์สแลมในประเภทชายเดี่ยวมากที่สุด 20 สมัยเท่ากับเฟเดอเรอร์และนาดัล และยังเป็นแชมป์วิมเบิลดันสมัยที่ 6 เขายังทำสถิติเป็นผู้เล่นชายคนแรกในรอบ 52 ปีที่คว้าแชมป์ออสเตรเลียนโอเพน, เฟรนช์โอเพน และวิมเบิลดัน ได้ภายในปีเดียวกันนับตั้งแต่ ร็อด เลเวอร์ตำนานชาวออสเตรเลียทำได้ในปี 1969
รายการต่อมาของจอกอวิชคือการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ณ กรุงโตเกียว โดยแพ้ให้กับ อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ ในรอบรองชนะเลิศ ตามด้วยการแพ้ ปาโบล การ์เรโญ่ บุสต้า จากสเปนในนัดชิงเหรียญทองแดงทำได้เพียงคว้าอันดับที่ 4 ไปครอง นอกจากนี้ จอกอวิชยังลงแข่งขันในประเภทคู่ผสมโดยจับคู่กับ นีนา สโตยาโนวิช นักเทนนิสหญิงเพื่อนร่วมชาติ ก่อนจะแพ้ให้กับคู่ของ อัสลัน คารัตเซฟ และ เอเลน่า เวสนิน่า จากรัสเซียในรอบรองชนะเลิศ และคู่ของเขาได้ถอนตัวในนัดชิงเหรียญทองแดงเนื่องจากจอกอวิชมีปัญหาสภาพร่างกายซึ่งเขาต้องลงแข่งขันวันละ 2 นัดติดต่อกันถึง 4 วัน เขาถอนตัวจากการแข่งขันมาสเตอร์ที่โทรอนโต ต้นเดือนสิงหาคมก่อนจะกลับมาลงแข่งขันที่ซินซินแนติในช่วงกลางเดือน
รูปแบบการเล่น
จอกอวิชได้รับการยอมรับว่าสามารถเล่นได้ดีทุกคอร์ต (A versatile all-court player) โดยมีอาวุธทีเด็ดคือแบ็กแฮนด์ที่หนักหน่วงและแม่นยำ แฟนๆหลายคนยกย่องว่าเขาเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในการตีโต้หลังเส้นเบสไลน์ นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เล่นที่มีจุดเด่นในการรีเทิร์นลูกเสริ์ฟของคู่ต่อสู้ได้ดีที่สุดคนหนึ่ง และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เล่นที่มีจิตใจแข็งแกร่งแม้ตกอยู่ในสภาวะคับขัน เขามักแสดงออกถึงความนิ่งในการต่อสู้และเอาชนะคู่แข่งได้บ่อยครั้ง ลูกเสิร์ฟของเขาเคยเป็นจุดอ่อนมาตลอดหลายปี แต่ภายหลังจากที่จอกอวิชได้ โกราน อิวานิเซวิช มาเป็นหนึ่งในทีมผู้ฝึกสอนตั้งแต่ปี 2019 เขาก็ได้พัฒนาการเสริ์ฟขึ้นมาจนกลายเป็นอาวุธเด็ดในปัจจุบัน
เกมบุกของจอกอวิชนั้นมีความหลากหลายและอันตรายมาก เขาเป็นผู้เล่นที่เน้นเกมส์บุกและมักไม่ค่อยตั้งรับโดยมักโจมตีคู่แข่งด้วยการยิงโฟร์แฮนด์ที่คมและเน้นทิศทาง กราวด์สโตรกของเขาจะอันตรายมากเมื่ออยู่หลังเส้นเบสไลน์และยังกะจังหวะรวมถึงทิศทางได้ยากมากเนื่องจากมีความแรงและแม่นย่ำทำให้คู่ต่อสู้ยากที่จะโต้กลับมา นอกจากนี้เขายังชอบเล่นลูกหยอดเป็นประจำแม้ในแต้มสำคัญซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเสียคะแนน
จอกอวิชยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่มีร่างกายแข็งแรงและยืดหยุ่นมากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการเล่นโยคะเป็นประจำ ทำให้เขาสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไวและยังเปลี่ยนจังหวะการตีจากเกมรับเป็นเกมบุกได้อย่างไหลลื่น ร่างกายของเขาสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเขาต้องแข่งขันในนัดที่ยืดเยื้อหลายชั่วโมง
สถิติโลก
นอวาก จอกอวิชครองสถิติโลกในวงการเทนนิสมากมาย โดยมีสถิติที่สำคัญได้แก่:
- ชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมในประเภทชายเดี่ยวมากที่สุดจำนวน 20 สมัยเท่ากับโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ ราฟาเอล นาดัล
- เป็นนักเทนนิสชาวเซอร์เบียคนแรกที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมได้ (ออสเตรเลียนโอเพน ค.ศ. 2008)
- เป็นผู้เล่นชายคนเดียวในยุคโอเพน (นับตั้งแต่ ค.ศ. 1968) ที่ชนะเลิศแกรนด์สแลมทุกรายการได้อย่างน้อย 2 สมัยในแต่ละรายการ (Double Career Grand Slam) โดยทำสถิติได้ใน ค.ศ. 2021 ภายหลังจากชนะเลิศรายการเฟรนช์โอเพน
- เป็นผู้เล่นคนเดียวที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศรายการใหญ่ (Elite Titles) ของ เอทีพี ทัวร์ ได้ครบทุกรายการ (ชนะเลิศแกรนด์สแลมครบทั้ง 4 รายการ, ชนะเลิศรายการเอทีพี มาสเตอร์ครบทั้ง 9 รายการ และ ชนะเลิศรายการ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล ได้อย่างน้อย 1 สมัย)
- เป็นผู้เล่นคนเดียวที่ชนะเลิศรายการแกรนด์สแลม, รายการเอทีพี เวิล์ด ทัวร์ มาสเตอร์ 1000 และ รายการ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ไฟนอล ได้อย่างน้อย 2 สมัยในแต่ละรายการ (Double Elite Titles)
- เป็นผู้เล่นชายคนเดียวที่ชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมในพื้นคอร์ต 3 ประเภท (ฮาร์ดคอร์ต, คอร์ตหญ้า และ คอร์ตดิน) ได้ 4 รายการติดต่อกัน (วิมเบิลดัน และ ยูเอสโอเพนใน ค.ศ. 2015 - ออสเตรเลียนโอเพน และ เฟรนช์โอเพนใน ค.ศ. 2016)
- เป็นผู้เล่นคนที่ 6 ที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมได้หลังจากตกเป็นฝ่ายแพ้ไปก่อนในสองเซตแรก (เฟรนช์โอเพน ค.ศ. 2021)
- ทำสถิติชนะเลิศรายการออสเตรเลียนโอเพนมากที่สุดในประเภทชายเดี่ยวจำนวน 9 สมัย
- เป็นผู้เล่นชายคนเดียวในยุคโอเพนที่ชนะเลิศรายการออสเตรเลียนโอเพน 3 สมัยติดต่อกัน (ค.ศ. 2011 - 2013 และ ค.ศ. 2019 - 2021)
- เป็นผู้เล่นชายคนแรกนับตั้งแต่ ค.ศ. 1969 ที่ชนะเลิศแกรนด์สแลมออสเตรเลียนโอเพน, เฟรนช์โอเพน และวิมเบิลดันได้ในปีเดียวกัน (ค.ศ. 2021)
- เป็นผู้เล่นชายคนที่ 3 ที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศแกรนด์สแลมได้ 4 รายการติดต่อกัน (ต่อจาก ดอน บัดจ์ และ ร็อด เลเวอร์)
- เป็นผู้เล่นชายคนที่ 3 ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลมได้ครบทุกรายการในปีเดียวกัน (ต่อจาก ร็อด เลเวอร์ และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์)
- เป็นผู้เล่นชายที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศแกรนด์สแลมหลังจากมีอายุครบ 30 ปีได้มากที่สุด (8 รายการ)
- ทำสถิติเข้ารอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลมในรายการฮาร์ดคอร์ต (พื้นคอนกรีต) มากที่สุดในประเภทชายเดี่ยวจำนวน 17 ครั้ง (ออสเตรเลียนโอเพน 9 ครั้ง และ ยูเอสโอเพน 8 ครั้ง)
- เป็นผู้เล่นคนเดียวที่เข้าชิงชนะเลิศแกรนด์สแลมทุกรายการได้อย่างน้อย 6 ครั้งในแต่ละรายการ
- เป็นผู้เล่นชายคนเดียวที่สามารถผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแกรนด์สแลมทั้ง 4 รายการได้อย่างน้อย 9 ครั้งในแต่ละรายการ
- เป็นผู้เล่นชายคนเดียวที่คว้าชัยชนะจากการแข่งขันแกรนด์สแลมทั้ง 4 รายการได้อย่างน้อย 75 นัดในแต่ละรายการ
- เป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแกรนด์สแลมได้ครบทุกรายการทั้งแบบต่อเนื่องกัน 4 รายการและแบบไม่ต่อเนื่องกัน (ค.ศ. 2008 อายุ 21 ปี)
- ชนะเลิศรายการเอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล ติดต่อกันได้ 4 สมัย (ค.ศ. 2012 - 2015)
- ชนะเลิศรายการเอทีพี มาสเตอร์ได้ครบทั้ง 9 รายการ (Career Golden Masters)
- ชนะเลิศรายการเอทีพี มาสเตอร์ทุกรายการได้อย่างน้อย 2 สมัยในแต่ละรายการ (Double Career Golden Masters)
- เป็นหนึ่งในสองผู้เล่นชายที่ชนะเลิศรายการ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ มาสเตอร์ 1000 มากที่สุดจำนวน 36 สมัย (ร่วมกับ ราฟาเอล นาดัล)
- เป็นผู้เล่นชายที่ครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของโลกด้วยจำนวนสัปดาห์รวมที่มากที่สุดตลอดกาล (332 สัปดาห์)
- ครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของโลกด้วยคะแนนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (จำนวน 16,950 คะแนน ใน ค.ศ. 2016)
- เป็นผู้เล่นที่ทำเงินรางวัลรวมจากการแข่งขันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ (นับรวมทั้งประเภทชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว, ประเภทคู่ และ ประเภทคู่ผสม)
- ทำสถิติเอาชนะผู้เล่นมือวาง 10 อันดับแรกของโลก ได้อย่างน้อย 30 ครั้งในปีเดียวกันและเอาชนะผู้เล่น 10 อันดับแรกของโลกได้ครบทุกคนในปีเดียวกัน (ทั้งสองสถิติทำได้ใน ค.ศ. 2015)
คู่แข่งคนสำคัญในอาชีพ
จอกอวิช/นาดัล
คู่แข่งที่สำคัญที่สุดของจอกอวิชได้แก่ ราฟาเอล นาดัล โดยทั้งคู่มีสถิติพบกัน 58 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติการพบกันของนักเทนนิสสองคนที่มากที่สุดในยุคโอเพน จอกอวิชเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 30 ครั้งและพ่ายแพ้ 28 ครั้ง ซึ่งจอกอวิชถือเป็นผู้เล่นที่สามารถเอาชนะนาดัลได้มากที่สุดนับตั้งแต่นาดัลเล่นอาชีพมา ในขณะเดียวกันนาดัลเป็นผู้เล่นที่สามารถเอาชนะจอกอวิชได้มากที่สุดนับตั้งแต่เล่นอาชีพมาเช่นกัน ทั้งคู่มีสถิติพบกันในรอบชิงชนะเลิศทุกรายการ 28 ครั้ง จอกอวิชเอาชนะไปได้ 15 ครั้งและพ่ายแพ้ไป 13 ครั้ง โดยนาดัลมีสถิติที่เหนือกว่าในการพบกันในรอบชิงชนะเลิศรายการแกรนด์สแลม จำนวน 5-4 ครั้ง (พบกัน 9 ครั้ง) ซึ่งจอกอวิชสามารถเอาชนะนาดัลในรอบชิงชนะเลิศออสเตรเลียนโอเพนได้ 2 ครั้ง (ค.ศ. 2012 และ 2019), วิมเบิลดัน 1 ครั้ง (ค.ศ. 2011) และ ยูเอสโอเพน 1 ครั้ง (ค.ศ. 2011) ในขณะที่นาดัลสามารถเอาชนะจอกอวิชได้ในรอบชิงชนะเลิศเฟรนช์โอเพน 3 ครั้ง (ค.ศ. 2012, 2014 และ 2020) และ ยูเอสโอเพน 2 ครั้ง (ค.ศ. 2010 และ 2013) โดยการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์ของทั้งคู่คือการพบกันในรอบชิงชนะเลิศออสเตรเลียนโอเพน ค.ศ. 2012 ซึ่งใช้เวลาแข่งขันกันยาวนานถึง 5 ชั่วโมง 53 นาที ถือเป็นรอบชิงชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมที่นานที่สุดในประวัติศาสตร์และจอกอวิชสามารถเอาชนะไปได้ 3-2 เซต
จอกอวิชยังถือเป็นหนึ่งในสองผู้เล่น (ร่วมกับโรบิน เซอเดอร์ลิง) ที่สามารถเอาชนะนาดัลได้ในการแข่งขันเฟรนช์โอเพนได้ และเป็นผู้เล่นคนเดียวที่เอาชนะนาดัลได้สองครั้งในรายการดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีคอร์ตที่ตนเองถนัดและมักจะชนะคู่ต่อสู้อีกฝ่ายได้บ่อยครั้งเมื่อได้ลงแข่งขันในพื้นสนามที่ตนเองถนัด โดยจอกอวิชสามารถเอาชนะนาดัลได้ในการแข่งขันบนฮาร์ดคอร์ต (พื้นคอนกรีต) 20 ครั้ง พ่ายแพ้ไปเพียง 7 ครั้ง ในขณะที่นาดัลก็สามารถเอาชนะจอกอวิชในการแข่งขันบนคอร์ตดินได้ถึง 19 ครั้ง พ่ายแพ้ไปเพียง 8 ครั้งเช่นกัน และทั้งคู่มีสถิติเท่ากันในการเผชิญหน้ากันบนคอร์ตหญ้าโดยผลัดกันแพ้ชนะคนละ 2 ครั้ง จอกอวิชยังถือเป็นผู้เล่นคนเดียวที่สามารถเอาชนะนาดัลได้ในการแข่งขันแกรนด์สแลมทั้ง 4 รายการ
จอกอวิช/เฟเดอเรอร์
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญอีกคนหนึ่งของจอกอวิช โดยทั้งคู่เคยพบกันมาแล้ว 50 ครั้ง ซึ่งจอกอวิชสามารถเอาชนะไปได้ 27 ครั้งและพ่ายแพ้ 23 ครั้ง โดยทั้งสองพบกันในรอบชิงชนะเลิศทุกรายการ 19 ครั้งและจอกอวิชสามารถเอาชนะไปได้ 13 ครั้ง พ่ายแพ้ 6 ครั้งและพบกันในรอบชิงชนะเลิศรายการแกรนด์สแลม 5 ครั้ง ซึ่งจอกอวิชสามารถเอาชนะไปได้ 4 ครั้งและเป็นชัยชนะของเฟเดอเรอร์ 1 ครั้ง โดยจอกอวิชเป็นผู้เล่นที่สามารถคว้าชัยชนะเหนือ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ได้มากที่สุดนับตั้งแต่เฟเดอเรอร์เล่นอาชีพมา การแข่งขันครั้งสำคัญในความทรงจำของทั้งคู่นั้นมีมากมาย เช่น การพบกันในรอบชิงชนะเลิศวิมเบิลดันจำนวน 3 ครั้ง (ค.ศ. 2014, 2015 และ 2019) ซึ่งจอกอวิชสามารถเอาชนะเฟเดอเรอร์ไปได้ทั้งสามครั้ง โดยเฉพาะการแข่งขันในปี 2019 ถือเป็นการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์เนื่องจากทั้งคู่ใช้เวลาแข่งขันยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง นานที่สุดในประวัติศาสตร์รอบชิงชนะเลิศของรายการ โดยจอกอวิชสามารถเอาชนะไปได้ 3-2 เซต โดยเอาตัวรอดจากการเสียเปรียบถึง 2 แชมป์เปียนชิพพอยต์ในเซตตัดสินก่อนจะพลิกกลับมาเอาชนะได้และเป็นการคว้าแชมป์วิมเบิลดันเป็นสมัยที่ 5
นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศยูเอสโอเพนปี 2011 ซึ่งจอกอวิชเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อน 0-2 เซตก่อนที่จะกลับมาชนะได้ในสองเซตถัดมาและเมื่อเข้าสู่เซตที่ 5 เฟเดอเรอร์เป็นฝ่ายได้ 2 Match Point และทำท่าว่าจะเอาชนะไปได้ แต่จอกอวิชก็ได้แสดงถึงความนิ่งและจิตใจของผู้ชนะด้วยการพลิกกลับมาชนะได้ โดยจอกอวิชถือเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถเอาชนะเฟเดอเรอร์ได้ในการแข่งขันแกรนด์สแลมทั้ง 4 รายการ ในทำนองเดียวกัน เฟเดอเรอร์ก็เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถเอาชนะจอกอวิชได้ในแกรนด์สแลมทั้ง 4 รายการเช่นกัน
จอกอวิช/มาร์รี
จอกอวิชยังถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ แอนดี มาร์รี ทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่ยังเด็กและเคยเข้าแคมป์เพื่อฝึกเทนนิสระดับเยาวชนด้วยกัน โดยทั้งคู่เคยพบกันมาแล้ว 36 ครั้ง จอกอวิชสามารถเอาชนะไปได้ 25 ครั้งและพ่ายแพ้ 11 ครั้ง ทั้งคู่มีสถิติพบกันในรอบชิงชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมจำนวน 7 ครั้ง ซึ่งจอกอวิชสามารถเอาชนะไปได้ 5 ครั้ง ในรอบชิงชนะเลิศออสเตรเลียนโอเพน 4 ครั้ง (ค.ศ. 2011, 2013, 2015 และ 2016) และ เฟรนช์โอเพน 1 ครั้ง (ค.ศ. 2016) แต่มาร์รี่ก็สามารถเอาชนะจอกอวิชได้ 2 ครั้งในรอบชิงชนะเลิศวิมเบิลดัน (ค.ศ. 2013) และยูเอสโอเพน (ค.ศ. 2012) เช่นกัน โดยไฮไลท์สำคัญในการพบกันของทั้งคู่คือการพบกันในรอบชิงชนะเลิศออสเตรเลียนโอเพน 4 ครั้ง และเป็นจอกอวิชที่สามารถเอาชนะมาร์รี่ไปได้ทั้ง 4 ครั้ง ทำให้ให้มาร์รี่เป็นผู้เล่นที่มีสถิติเข้าชิงชนะเลิศออสเตรเลียนโอเพนมากถึง 5 ครั้ง โดยที่ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เลย และหลังจากความพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศวิมเบิลดันในปี 2013 จอกอวิชสามารถเอาชนะมาร์รี่ได้ถึง 14 ครั้งจากการพบกัน 17 ครั้งหลังสุด
การกุศล
จอกอวิชก่อตั้งมูลนิธิ "Novak Djokovic Foundation" ใน ค.ศ. 2007 เพื่อช่วยเหลือเด็กผู้ด้อยโอกาส โดยมีการสร้างโรงเรียนรวมถึงมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กๆในหลายประเทศโดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา และใน ค.ศ. 2015 จอกอวิชในฐานะประธานมูลนิธิ และทูตสันถวไมตรีของยูนิเซฟ (UNICEF Global Goodwill Ambassadors) ได้เข้าพบนายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลกเพื่อลงนามความร่วมมือในโครงการพัฒนาเด็กปฐมวัยของยูนิเซฟ (Early Childhood Development Program-ECD) และร่วมหารือแนวทางช่วยเหลือเด็กๆในโครงการอย่างยั่งยืนต่อไป
ในปี 2019 บริษัทมงต์บลองค์ (Montblanc International) ผู้ผลิตสินค้าหรูหราของเยอรมนีได้ประกาศเปิดตัวปากการุ่นใหม่ "Montblanc X Djokovic Foundation" ออกจำหน่ายโดยมีเพียง 300 ด้ามในโลก ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะมอบให้แก่มูลนิธิการ " Novak Djokovic Foundation" เพื่อช่วยเหลือเด็กผู้ด้อยโอกาส โดยปากการุ่นดังกล่าวทำการเปิดตัวในนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกาและมีการนำเอา StarWalker รูปแบบการเขียน Fineliner มาสลักลายเซ็นของจอกอวิช ลงไปที่ตัวปากกาพร้อมสมุดจดและกล่องซึ่งมีลวดลายแบบเดียวกับตัวปากกา โดยมีราคาขายอยู่ที่ชุดละ 740 ดอลลาร์สหรัฐ (22,630 บาท)
ในการแข่งขันออสเตรเลียนโอเพนปี 2021 จอกอวิชได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับบรรดาผู้เล่นที่ตกรอบในการแข่งขัน โดยเพจเฟซบุ๊กของจอกอวิชเปิดเผยว่า เขาตัดสินใจแบ่งเงินรางวัลดังกล่าวให้แก่นักเทนนิสที่ตกรอบแรกๆของรายการเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมอาชีพที่ขาดแคลนรายได้ในช่วงที่การแข่งขันถูกยกเลิกจากวิกฤตโควิด-19 อนึ่ง นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 ส่งผลให้การแข่งขันรายการต่างๆถูกยกเลิก จอกอวิชได้ร่วมมือกับเฟเดอเรอร์ และ นาดัลในการระดมเงินเพื่อช่วยเหลือเพื่อนนักเทนนิสที่ได้รับผลกระทบ โดยจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือนักเทนนิสมืออันดับล่างๆที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน ซึ่งระดมเงินให้ได้ราว 4 ล้านปอนด์และมอบให้แก่นักเทนนิสในอันดับที่ 250 ไปจนถึงอันดับที่ 700 ของโลกคนละ 8,000 ปอนด์
อุปกรณ์และชุดแข่งขัน
ในช่วงเริ่มต้นของการเล่นอาชีพในปี 2003 จอกอวิชสวมชุดแข่งขันของอาดิดาส จนกระทั่งปี 2009 เขาได้เปลี่ยนไปเซ็นสัญญากับ เซร์คีโอ ทักชีนี แบรนด์ชื่อดังจากอิตาลี ภายหลังจากอาดิดาสได้ปฏิเสธการต่อสัญญาฉบับใหม่กับเขาและได้หันไปสนับสนุน แอนดี มาร์รี แทน อย่างไรก็ตามทักชีนีไม่ได้ออกแบบรองเท้าให้กับจอกอวิชทำให้เขาใส่รองเท้าแข่งขันของอาดิดาสต่อไป และหลังจากนั้นเพียง 1 ปีทักชีนีได้ยุติสัญญากับจอกอวิชเนื่องจากไม่สามารถจ่ายโบนัสให้แก่จอกอวิชได้ ซึ่งในฤดูกาลนั้นเป็นฤดูกาลที่จอกอวิชประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพ
นับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา จอกอวิชสวมรองเท้าสีน้ำเงินและแดงของอาดิดาสรุ่น Barricade ซึ่งสีน้ำเงินและแดงนั้นเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แทนธงชาติเซอร์เบีย ต่อมาในปี 2012 เขาได้เซ็นสัญญากับยูนิโคล่ แบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่นด้วยสัญญามูลค่า 8 ล้านยูโรต่อปี และได้เซ็นสัญญาระยะยาวในการสวมรองเท้าของอาดิดาสในปี 2013 เขาได้ยุติสัญญากับยูนิโคล่ในเดือนพฤษภาคมปี 2017 และได้เซ็นสัญญากับ ลาคอสต์ ของประเทศฝรั่งเศสมาจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันจอกอวิชใช้ไม้เทนนิสยี่ห้อ HEAD รุ่น Graphene 360+ Speed Pro racket
สถิติการแข่งขันอาชีพในรายการสำคัญ
รายการแกรนด์สแลมรอบชิงชนะเลิศ
ประเภทชายเดี่ยว: เข้าชิงชนะเลิศ 30 รายการ (ชนะเลิศ 20 สมัย, รองชนะเลิศ 10 สมัย)
ผลลัพธ์ | ปี | รายการ | พื้นสนาม | คู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศ | ผลการแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|
รองชนะเลิศ | 2007 | ยูเอสโอเพน | คอนกรีต | โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ | 6–7(4–7), 6–7(2–7), 4–6 |
ชนะเลิศ | 2008 | ออสเตรเลียนโอเพน (1) | คอนกรีต | โจ-วิลฟรีด ซองกา | 4–6, 6–4, 6–3, 7–6(7–2) |
รองชนะเลิศ | 2010 | ยูเอสโอเพน | คอนกรีต | ราฟาเอล นาดัล | 4–6, 7–5, 4–6, 2–6 |
ชนะเลิศ | 2011 | ออสเตรเลียนโอเพน (2) | คอนกรีต | แอนดี มาร์รี | 6–4, 6–2, 6–3 |
ชนะเลิศ | 2011 | วิมเบิลดัน (1) | หญ้า | ราฟาเอล นาดัล | 6–4, 6–1, 1–6, 6–3 |
ชนะเลิศ | 2011 | ยูเอสโอเพน (1) | คอนกรีต | ราฟาเอล นาดัล | 6–2, 6–4, 6–7(3–7), 6–1 |
ชนะเลิศ | 2012 | ออสเตรเลียนโอเพน (3) | คอนกรีต | ราฟาเอล นาดัล | 5–7, 6–4, 6–2, 6–7 (5–7), 7–5 |
รองชนะเลิศ | 2012 | เฟรนช์โอเพน | ดิน | ราฟาเอล นาดัล | 4–6, 3–6, 6–2, 5–7 |
รองชนะเลิศ | 2012 | ยูเอสโอเพน | คอนกรีต | แอนดี มาร์รี | 6–7(10–12) , 5–7, 6–2, 6–3, 2–6 |
ชนะเลิศ | 2013 | ออสเตรเลียนโอเพน (4) | คอนกรีต | แอนดี มาร์รี | 6–7(2–7), 7–6(7-3), 6–3, 6–2 |
รองชนะเลิศ | 2013 | วิมเบิลดัน | หญ้า | แอนดี มาร์รี | 4–6, 5–7, 4–6 |
รองชนะเลิศ | 2013 | ยูเอสโอเพน | คอนกรีต | ราฟาเอล นาดัล | 2–6, 6–3, 4–6, 1–6 |
รองชนะเลิศ | 2014 | เฟรนช์โอเพน | ดิน | ราฟาเอล นาดัล | 6–3, 5–7, 2–6, 4–6 |
ชนะเลิศ | 2014 | วิมเบิลดัน (2) | หญ้า | โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ | 6-7(7-9) , 6-4, 7-6(7-4), 5-7 ,6-4 |
ชนะเลิศ | 2015 | ออสเตรเลียนโอเพน (5) | คอนกรีต | แอนดี มาร์รี | 7-6(7-5), 6-7(4–7), 6-3, 6-0 |
รองชนะเลิศ | 2015 | เฟรนช์โอเพน | ดิน | สตาน วาวรีงกา | 6–4, 4–6, 3–6, 4–6 |
ชนะเลิศ | 2015 | วิมเบิลดัน (3) | หญ้า | โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ | 7-6(7-1), 6-7(10–12) ,6-4, 6-3 |
ชนะเลิศ | 2015 | ยูเอสโอเพน (2) | คอนกรีต | โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ | 6-4, 5-7, 6-4, 6-4 |
ชนะเลิศ | 2016 | ออสเตรเลียนโอเพน (6) | คอนกรีต | แอนดี มาร์รี | 6-1, 7-5, 7-6(7-3)
|
ชนะเลิศ | 2016 | เฟรนช์โอเพน (1) | ดิน | แอนดี มาร์รี | 3–6, 6–1, 6–2, 6–4 |
รองชนะเลิศ | 2016 | ยูเอสโอเพน | คอนกรีต | สตาน วาวรีงกา | 7–6(7–1), 4–6, 5–7, 3–6 |
ชนะเลิศ | 2018 | วิมเบิลดัน (4) | หญ้า | เควิน แอนเดอร์สัน | 6–2, 6–2, 7–6(7–3) |
ชนะเลิศ | 2018 | ยูเอสโอเพน (3) | คอนกรีต | ฆวน มาร์ติน เดล ปอร์โต | 6–3, 7–6(7–4), 6–3 |
ชนะเลิศ | 2019 | ออสเตรเลียนโอเพน (7) | คอนกรีต | ราฟาเอล นาดัล | 6–3, 6–2, 6–3 |
ชนะเลิศ | 2019 | วิมเบิลดัน (5) | หญ้า | โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ | 7–6(7–5), 1–6, 7–6(7–4), 4–6, 13–12(7–3) |
ชนะเลิศ | 2020 | ออสเตรเลียนโอเพน (8) | คอนกรีต | โดมินิค ธีม | 6–4, 4–6, 2–6, 6–3, 6–4 |
รองชนะเลิศ | 2020 | เฟรนช์โอเพน | ดิน | ราฟาเอล นาดัล | 0–6, 2–6, 5–7 |
ชนะเลิศ | 2021 | ออสเตรเลียนโอเพน (9) | คอนกรีต | ดานิล เมดเวเดฟ | 7–5, 6–2, 6–2 |
ชนะเลิศ | 2021 | เฟรนช์โอเพน (2) | ดิน | สเตฟานอส ซิตซิปาส | 6–7(6–8), 2–6, 6–3, 6–2, 6–4 |
ชนะเลิศ | 2021 | วิมเบิลดัน (6) | หญ้า | มัตเตโอ แบร์เรตตีนี | 6–7(4–7), 6–4, 6-4, 6-3 |
(ตัวเลขในวงเล็บคือจำนวนครั้งที่ชนะเลิศ)
รายการ เอทีพี เวิลด์ทัวร์ ไฟนอล
ประเภทชายเดี่ยว: เข้าชิงชนะเลิศ 7 สมัย (ชนะเลิศ 5 สมัย, รองชนะเลิศ 2 สมัย)
ผลลัพธ์ | ปี | สถานที่ | พื้นสนาม | คู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศ | ผลการแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|
ชนะเลิศ | 2008 | เซี่ยงไฮ้ | คอนกรีต (ในร่ม) | นิโคไล ดาวิเดนโก | 6–1, 7–5 |
ชนะเลิศ | 2012 | ลอนดอน | คอนกรีต (ในร่ม) | โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ | 7–6(8–6), 7–5 |
ชนะเลิศ | 2013 | ลอนดอน | คอนกรีต (ในร่ม) | ราฟาเอล นาดัล | 6–3, 6-4 |
ชนะเลิศ | 2014 | ลอนดอน | คอนกรีต (ในร่ม) | โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ | Walkover (เฟเดอเรอร์ขอถอนตัว) |
ชนะเลิศ | 2015 | ลอนดอน | คอนกรีต (ในร่ม) | โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ | 6-3, 6-4 |
รองชนะเลิศ | 2016 | ลอนดอน | คอนกรีต (ในร่ม) | แอนดี มาร์รี | 3-6, 4-6 |
รองชนะเลิศ | 2018 | ลอนดอน | คอนกรีต (ในร่ม) | อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ | 4-6, 3-6 |
รายการ เอทีพี มาสเตอร์ รอบชิงชนะเลิศ
เข้าชิงชนะเลิศ 53 รายการ (ชนะเลิศ 36 รายการ, รองชนะเลิศ 17 รายการ)
(ตัวเลขในวงเล็บคือจำนวนครั้งที่ชนะเลิศ)
- ชนะเลิศต่างรายการทั้งหมด 9/9 ครบทุกรายการ
- เข้าชิงชนะเลิศต่างรายการทั้งหมด 9/9 ครบทุกราบการ
กีฬาโอลิมปิก
ประเภทชายเดี่ยว: ชิงเหรียญ 3 ครั้ง (คว้า 1 เหรียญทองแดง)
ผลลัพธ์ | วันที่ | รายการ | พื้นสนาม | คู่แข่งในรอบชิงเหรียญ | ผลการแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|
เหรียญทองแดง | 16 สิงหาคม 2008 | โอลิมปิกฤดูร้อน 2008, ปักกิ่ง, จีน (รอบชิงเหรียญทองแดง) | คอนกรีต | เจมส์ เบลค | 6–3, 7–6(7–4) |
อันดับ 4 | 5 สิงหาคม 2012 | โอลิมปิกฤดูร้อน 2012, ลอนดอน, สหราชอาณาจักร (รอบชิงเหรียญทองแดง) | หญ้า | ฆวน มาร์ติน เดล โปโตร | 5–7, 4–6 |
อันดับ 4 | 31 กรกฎาคม 2021 | โอลิมปิกฤดูร้อน 2020, โตเกียว, ญี่ปุ่น (รอบชิงเหรียญทองแดง) | คอนกรีต | ปาโบล การ์เรโญ่ บุสต้า | 4-6, 7–6(8-6), 3-6 |
ประเภทคู่ผสม: ชิงเหรียญ 1 ครั้ง (คว้าอันดับ 4)
ผลลัพธ์ | วันที่ | รายการ | พื้นสนาม | เล่นคู่กับ | คู่แข่ง | ผลการแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
อันดับ 4 | 31 กรกฎาคม 2021 | โอลิมปิกฤดูร้อน 2020 (รอบชิงเหรียญทองแดง) | คอนกรีต | นีนา สโตยาโนวิช | แอชลี่ บาร์ตี จอห์น เพียร์ส | ถอนตัวไม่ลงแข่งขัน |
การแข่งขันประเภททีม (ในนามทีมชาติเซอร์เบีย)
ชนะเลิศรายการเดวิส คัพ 1 สมัย และเอทีพี คัพ 1 สมัย
รายการพิเศษ (การกุศล)
ชนะเลิศ 2 รายการ
เงินรางวัลที่ได้รับจากการแข่งขัน
ปี | รายการ แกรนด์สแลม | รายการ เอทีพี | รวม | เงินรางวัล($) | อันดับ |
---|---|---|---|---|---|
2003 | 0 | 0 | 0 | 937 | |
2004 | 0 | 0 | 0 | 292 | |
2005 | 0 | 0 | 0 | 114 | |
2006 | 0 | 2 | 2 | 28 | |
2007 | 0 | 5 | 5 | 3 | |
2008 | 1 | 3 | 4 | 3 | |
2009 | 0 | 5 | 5 | 3 | |
2010 | 0 | 2 | 2 | 3 | |
2011 | 3 | 7 | 10 | 1 | |
2012 | 1 | 5 | 6 | $12,803,739 | 1 |
2013 | 1 | 6 | 7 | 2 | |
2014 | 1 | 6 | 7 | $14,269,463 | 1 |
2015 | 3 | 8 | 11 | $21,146,145 | |
2016 | 2 | 5 | 7 | $14,138,824 | |
2017 | 0 | 2 | 2 | $2,116,524 | 14 [1] |
2018 | 2 | 2 | 4 | $15,967,184 | |
2019 | 2 | 3 | 5 | $13,372,355 | 2 |
2020 | 1 | 3 | 4 | $6,511,233 | 1 |
2021 | 3 | 1 | 4 | $6,220,457 | 1 |
Career* | 20 | 65 | 85 | $151,876,636 | 1 |
- * Statistics correct ข้อมูลเมื่อ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 [update].
อ้างอิง
- "Novak Djokovic". ATP Tour. สืบค้นเมื่อ 1 April 2019.
- "Djokovic, Novak". novakdjokovic.com. สืบค้นเมื่อ 13 July 2015.
- "Rankings Singles". ATP Tour.
- "Rankings Doubles". ATP Tour.
- https://www.atptour.com/-/media/player-names/62_novak-djokovic_player-name-2014.mp3
- "Rankings | Singles | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Novak Djokovic Sets New All-Time Record For Weeks At No. 1 In FedEx ATP Rankings | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- Limited, Bangkok Post Public Company. "Djokovic sets all-time record for weeks at world No. 1". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2021-06-08.
- "Djokovic ties idol Sampras with ATP record sixth year-end No. 1 finish". Tennis.com.
- "History: Djokovic Stands Alone | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Which way will the 'GOAT race' turn?". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-05.
- Fendrich, Howard. "Big Three 'Greatest of All-Time' debate? Forget it". Cape Cod Times (ภาษาอังกฤษ).
- Chhabria, Vinay (2020-05-29). "Novak Djokovic bestowed with unique honor by Serbian government on Diplomacy Day". www.sportskeeda.com (ภาษาอังกฤษ).
- "Stankovic: "Djokovic the greatest Serbian ever"". Inter Official Site.
- "10 greatest Serbian sport successes - SERBIAN SHOP". www.serbianshop.com.
- "Famous Athletes from Serbia". Ranker (ภาษาอังกฤษ).
- "Novak Djokovic beats Andy Murray to claim first French Open title". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2016-06-05.
- "Djokovic wins bronze". Eurosport (ภาษาอังกฤษ). 2008-08-16.
- "Davis Cup - Serbia crowned Davis Cup champion". www.daviscup.com.
- "Team Serbia Triumphs; ATP Cup By The Numbers | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Novak Djokovic's Golden Rule: A Grandmaster Twice Over! | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Nole sets new absolute ATP ranking record!". Novak Djokovic (ภาษาอังกฤษ).
- "Djokovic Elected As President Of ATP Player Council | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- Tennis.com. "TENNIS.com's 2020 ATP Player of the Year: Novak Djokovic". Tennis.com (ภาษาอังกฤษ).
- "ATP Awards Honour Roll | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- https://www.laureus.com/world-sports-awards/2019/sportsman-of-the-year/novak-djokovic
- "PTPA". ptpaplayers.com.
- "Novak Djokovic-Vasek Pospisil PTPA introduced ahead of US Open". www.sportingnews.com (ภาษาอังกฤษ).
- JohnWallStreet (2020-09-03). "Djokovic Forms New Professional Tennis Players Association, Lacks Support to Command Change". Sportico.com (ภาษาอังกฤษ).
- https://childhoodbiography.com/novak-djokovic-childhood-story-plus-untold-biography-facts/
- "Who is Novak Djokovic? Everything You Need to Know". www.thefamouspeople.com (ภาษาอังกฤษ).
- https://childhoodbiography.com/novak-djokovic-childhood-story-plus-untold-biography-facts/
- Perrotta, Tom (2013-07-31). "Djokovic Opens the Refrigerator". Wall Street Journal (ภาษาอังกฤษ). ISSN 0099-9660. สืบค้นเมื่อ 2021-05-24.
- https://www.outsidetheball.com/novak-djokovic-is-always-entertaining-watch-these-funny-djokovic-moments-in-this-exclusive-otb-mash-up/
- https://www.businessinsider.com/novak-djokovic-meditates-at-buddhist-temple-at-wimbledon-2015-6
- https://www.swlondoner.co.uk/news/18112016-wimbledon-thai-buddhist-temple-frequented-djokovic-urgent-need-new-roof/
- Kale, Rupin (2020-09-11). "'How Djokovic is treated by the international media doesn't correspond with what he has achieved' – Serbian journalist". www.sportskeeda.com (ภาษาอังกฤษ).
- "Becker: Djokovic deserves more respect". ESPN.com (ภาษาอังกฤษ). 2019-07-15.
- "Djokovic deserves more respect - Becker". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-08.
- https://www.republicworld.com/sports-news/tennis-news/novak-djokovic-gets-a-special-birthday-wish.html
- https://www.tennisworldusa.org/tennis/news/Novak_Djokovic/62807/zlatan-ibrahimovic-opens-up-on-relationship-with-novak-djokovic/
- Gleeson, Scott. "Novak Djokovic breaks down at Australian Open center court remembering friend Kobe Bryant". USA TODAY (ภาษาอังกฤษ).
- "Novak Djokovic marries pregnant fiancée days after winning Wimbledon". For The Win (ภาษาอังกฤษ). 2014-07-10.
- "Novak Djokovic's wife gives birth to baby boy (Updated)". Washington Post (ภาษาอังกฤษ). ISSN 0190-8286. สืบค้นเมื่อ 2021-05-24.
- http://baseline.tennis.com/article/87040/novak-djokovic-australian-open-loves-dogs
- https://www.amazon.com/Serve-Win-Gluten-Free-Physical-Excellence/dp/0345548981
- "July 23, 2006: The day Novak Djokovic won the first title of his career". Tennis Majors (ภาษาอังกฤษ). 2020-07-23.
- "French Open 2007 | Sport | The Guardian". the Guardian (ภาษาอังกฤษ).
- "Djokovic battles to Aussie title" (ภาษาอังกฤษ). 2008-01-27. สืบค้นเมื่อ 2021-05-24.
- "Tennis: ATP Finals - London 2008 - results, fixtures - Scoreboard.com". www.scoreboard.com (ภาษาอังกฤษ).
- Tennis-X.com. "Djokovic, Team Goes Bald as Serbia Celebrates First Davis Cup Title [Video]" (ภาษาอังกฤษ).
- "Serbia wins its first Davis Cup". Tennis Australia (ภาษาอังกฤษ).
- Network, Simon Cambers for The Sport Collective, part of the Guardian Sport (2011-11-17). "Is Novak Djokovic's year the best ever in men's tennis? | Guardian Sport Network". the Guardian (ภาษาอังกฤษ).
- "Inspired Djokovic dethrones Nadal". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-05-24.
- "2012 | The great tennis match of all time?". ausopen.com (ภาษาอังกฤษ).
- "Djokovic to end year in top spot". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-05-25.
- "Djokovic hires Becker as head coach". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-05-25.
- "Roger Federer pulls out of ATP Tour Finals with back injury". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2014-11-16.
- "Novak Djokovic Chasing His Best Year Yet | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Novak Djokovic's 2015 season stakes claim to being best ever". Hindustan Times (ภาษาอังกฤษ). 2015-10-19.
- Eckstein, Jeremy. "Is Novak Djokovic's 2015 Season the Greatest in Men's Tennis History?". Bleacher Report (ภาษาอังกฤษ).
- "Players React To Novak Djokovic's Historic Win At Roland Garros | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Novak Djokovic and Boris Becker Split | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Novak Djokovic will miss the rest of 2017 season with elbow injury". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2017-07-26.
- "Djokovic Ends 2017 Season Due To Elbow Injury | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- Staff, Reuters (2018-02-03). "Djokovic undergoes surgery to cure troublesome elbow". Reuters (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 2021-05-25.
- "Djokovic beats Anderson to win Wimbledon". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-05-25.
- "Stats". Novak Djokovic (ภาษาอังกฤษ).
- "Djokovic Completes Remarkable Return To No. 1 | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Federer beats Djokovic to reach ATP semis". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-05-25.
- News, A. B. C. "Tennis champ Novak Djokovic tests positive for COVID-19, apologizes for holding tournament: 'We were wrong'". ABC News (ภาษาอังกฤษ).
- "Novak Djokovic tests positive for Covid-19 amid Adria Tour fiasco". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2020-06-23.
- "Stats: Novak Djokovic's 9th Australian Open crown, 18th Grand Slam and 82nd title". ESPN (ภาษาอังกฤษ). 2021-02-21.
- "Immersive Feature: How Djokovic Became The Longest-Reigning Champ In ATP History | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Djokovic fights back to win French Open". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-13.
- "2021 Wimbledon ATP Entry List with Djokovic, Medvedev and Federer (last update 17-06-21)". Tennisuptodate.com (ภาษาอังกฤษ). 2021-06-18.
- "Novak Djokovic Saves Set Point, Overcomes Denis Kudla Challenge At Wimbledon | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- Amako, Uche (2021-07-11). "Novak Djokovic wins his sixth Wimbledon title and a 20th Grand Slam with victory over Matteo Berrettini - live reaction". The Telegraph (ภาษาอังกฤษ). ISSN 0307-1235. สืบค้นเมื่อ 2021-07-11.
- "Stats: Djokovic ties Federer, Nadal's 20 Grand Slams with 6th Wimbledon title". ESPN.com (ภาษาอังกฤษ). 2021-07-11.
- "Djokovic wins Wimbledon for 20th Slam". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-07-11.
- "Tokyo 2020 Olympic Games - 'I've booked my flight' - Novak Djokovic confirms decision to compete at Olympics". Eurosport (ภาษาอังกฤษ). 2021-07-16.
- "Pablo Carreno Busta Upsets Novak Djokovic To Win Bronze In Tokyo | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Tennis Strategy: The Aggressive, The Defensive, The Serve-Volleyer and The All-Court". I AM SURVIVORDEAN (ภาษาอังกฤษ). 2009-11-10.
- Rao, Madhusudan G. "20 Most Athletic Players in Tennis History". Bleacher Report (ภาษาอังกฤษ).
- "First Serve Return Points Won | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "The Buddhist temple that helps Djokovic maintain his winning ways". The Independent (ภาษาอังกฤษ). 2015-07-05.
- https://www.atptour.com/en/news/djokovic-serve-feature-march-2020
- Revolution, Health Fitness (2015-06-05). "Novak Djokovic Fittest Athlete in the World". Health Fitness Revolution (ภาษาอังกฤษ).
- ""Novak Djokovic Is One of the Best Athletes on the Planet Ever" - Dominic Thiem". EssentiallySports. 2020-06-03.
- Health, Men's (2015-09-11). "Is Novak Djokovic the fittest athlete of all time?". Men's Health (ภาษาอังกฤษ).
- "Novak Djokovic – The official website". Novak Djokovic (ภาษาอังกฤษ).
- "Tribute: Novak Djokovic, Serial Champion | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- Jun 13, Reuters /; 2021; Ist, 23:19. "FACTBOX: French Open champion Novak Djokovic | Tennis News - Times of India". The Times of India (ภาษาอังกฤษ).CS1 maint: numeric names: authors list (link)
- "Novak Djokovic Comeback Seals Historic Roland Garros Victory | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "ATP News: Djokovic Extends Big Titles Lead With Second Career Golden Masters | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Novak Djokovic rallies to beat Stefanos Tsitsipas in epic French Open final". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2021-06-13.
- "Djokovic wins ninth Australian Open". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-14.
- "NOLE WINS HIS THIRD AUSTRALIAN OPEN CROWN IN HISTORIC MATCH!". Novak Djokovic (ภาษาอังกฤษ).
- "Djokovic wins Wimbledon for 20th Slam". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-07-11.
- "2021 Wimbledon: Novak Djokovic secures his 75th Wimbledon win". in.news.yahoo.com (ภาษาอังกฤษ).
- "Novak Djokovic wins ATP World Tour Finals for 4th consecutive time - GKToday". www.gktoday.in.
- "Djokovic Completes Career Golden Masters In Cincinnati | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Unstoppable Djokovic Claims Second Career Golden Masters at Western and Southern Open - Tennis Now". www.tennisnow.com.
- Tennis.com. "Djokovic tops Schwartzman in Rome for 36th Masters title and 31-1 mark". Tennis.com (ภาษาอังกฤษ).
- https://www.bangkokpost.com/world/2080639/djokovic-sets-all-time-record-for-weeks-at-world-no-1
- Arjun (2018-09-19). "7 Novak Djokovic records which may never be broken". www.sportskeeda.com (ภาษาอังกฤษ).
- "ATP: career prize money earnings of tennis players 2019". Statista (ภาษาอังกฤษ).
- https://www.tennisworldusa.org/tennis/news/Novak_Djokovic/97459/-rafael-nadal-s-greatest-rival-on-clay-is-still-novak-djokovic-says-toni-nadal/
- "Novak Djokovic Beats Rafael Nadal In Epic 2012 Australian Open Final | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- https://tv5.espn.com/tennis/story/_/id/31456209/rafael-nadal-wins-10th-italian-open-title-victory-long-rival-novak-djokovic
- https://bleacherreport.com/articles/2611194-the-evolution-of-the-roger-federer-vs-novak-djokovic-rivalry
- https://www.atptour.com/en/news/djokovic-federer-wimbledon-2019-final-match-analysis
- https://www.tennis.com/pro-game/2015/12/2011-djokovic-hits-return-heard-round-world-beat-federer/56983/
- https://www.theguardian.com/sport/2011/sep/11/us-open-2011-federer-djokovic
- "Andy Murray & Novak Djokovic: Childhood Friends Battling On The Big Stage | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Novak Djokovic VS Andy Murray | Head 2 Head | ATP Tour | Tennis". ATP Tour.
- "Five finals, five defeats: Andy Murray's misery in Melbourne". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2016-01-31.
- https://novakdjokovic.com/en/
- น้ำใจงาม! ยอโควิช บริจาค 1 ล้านดอลลาร์ เยียวยาผู้เล่นตกรอบแรก ออสเตรเลียน โอเพ่น, สืบค้นเมื่อ 2021-06-09
- "'เฟด-นาดาล-ยอโควิช' ชวนนักเทนนิสตั้งกองทุนช่วยเหลือเพื่อนร่วมวงการที่ลำบากจากโควิด-19". THE STANDARD. 2020-04-20.
- Rovell, Darren (2012-05-22). "Sergio Tacchini, Djokovic Shockingly Part Ways". www.cnbc.com.
- "#61 Novak Djokovic". Forbes (ภาษาอังกฤษ).
- "Novak Djokovic Equipment & Clothing - Tennisnuts.com". www.tennisnuts.com.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2012-01-29.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2012-01-27.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2012-01-26.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2009-06-07.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2010-01-03.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2009-08-27.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2010-03-07.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2011-07-28.
- ↑ . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2013-02-01.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2014-03-21.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2011-01-10.