fbpx
วิกิพีเดีย

เสียงในหู

กันยายน 06, 2021

บทความนี้กล่าวถึง เสียงที่ได้ยินแต่ไม่มีจริง ๆ นอกร่างกาย ซึ่งอาจเป็นอาการของโรค สำหรับ เสียงซึ่งหูชั้นในสร้างขึ้นโดยกลไกการทำงาน ดูที่ เสียงจากหู

เสียงในหู (อังกฤษ: Tinnitus) เป็นเสียงที่ได้ยินแต่ไม่มีจริง ๆ นอกร่างกาย โดยสามารถแบ่งเป็นแบบที่มีเสียงจริงหรือแบบไม่มี แม้บ่อยครั้งจะอธิบายว่า หูอื้อหรือเสียงดังเหมือนโทรศัพท์/กระดิ่ง/นาฬิกาปลุก แต่ก็อาจเป็นเสียงกรอบแกรบ เสียงฟ่อ หรือเสียงกระหึ่ม/ดังลั่น โดยน้อยครั้งมากที่เป็นเสียงคนหรือเสียงดนตรี เสียงอาจค่อยหรือดัง ต่ำหรือสูง อาจมาจากเพียงหูข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ดังเป็นบางครั้งบางคราวหรือดังตลอด โดยปกติแล้ว อาการจะค่อย ๆ เกิด ในคนไข้บางคน เสียงจะทำให้ซึมเศร้าหรือกังวล และสามารถกวนสมาธิ

เสียงในหู
เสียงในหูบ่อยครั้งมีอาการได้ยินเสียงดังกริ๊ง ๆ ของนาฬิกาปลุก/โทรศัพท์
การออกเสียง
สาขาวิชาโสตศอนาสิกวิทยา, โสตวิทยา
อาการได้ยินเสียงทั้ง ๆ ที่ไม่มีเสียงภายนอกร่างกายจริง ๆ
ภาวะแทรกซ้อนซึมเศร้า วิตกกังวล ไม่มีสมาธิ
การตั้งต้นค่อย ๆ เกิด
สาเหตุการเสียการได้ยินเหตุเสียงดัง การติดเชื้อในหู โรคระบบหัวใจหลอดเลือด โรคเมนิแยร์ เนื้องอกในสมอง เครียด
วิธีวินิจฉัยขึ้นอยู่กับอาการ การตรวจการได้ยิน การตรวจประสาท
การรักษาให้คำแนะนำ/ปรึกษา ใช้เครื่องสร้างเสียง ใช้เครื่องช่วยฟัง
ความชุก~12.5%

การมีเสียงในหูไม่ใช่โรคแต่เป็นอาการที่อาจมีเหตุได้หลายอย่าง เหตุสามัญที่สุดอย่างหนึ่งก็คือการเสียการได้ยินเหตุเสียงดัง เหตุอื่น ๆ รวมทั้งการติดเชื้อในหู โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคเมนิแยร์ เนื้องอกในสมอง เครียด การได้รับยาบางอย่าง การบาดเจ็บที่ศีรษะในอดีต และขี้หู เป็นอาการที่สามัญมากกว่าในผู้ที่ซึมเศร้า

การวินิจฉัยอาการนี้มักจะขึ้นอยู่กับคำบอกของคนไข้ แม้ก็มีแบบคำถามหลายแบบที่ประเมินว่าการได้ยินเสียงในหูรบกวนในชีวิตประจำวันแค่ไหนด้วย และก็มีวิธีการตรวจการได้ยิน (audiogram) ตลอดถึงการตรวจทางประสาท ถ้าพบปัญหาอะไร แพทย์อาจตรวจโดยดูภาพเช่นที่ทำโดยเอ็มอาร์ไอ การตรวจสอบอื่น ๆ อาจช่วย เช่น ในกรณีที่เสียงในหูเกิดตามจังหวะการเต้นหัวใจ ในบางครั้งบางคราว แพทย์ที่ใช้หูฟังตรวจอาจได้ยินเสียงจริง ๆ ซึ่งในกรณีนี้ก็จะเป็นแบบที่มีเสียงจริง

วิธีการป้องกันก็คือเลี่ยงเสียงดัง ถ้ามีเหตุที่เป็นมูลฐาน การรักษาเหตุนั้นอาจทำให้อาการนี้ดีขึ้น ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว การรักษาปกติจะเป็นการปรึกษากับจิตแพทย์/คุยกับนักจิตวิทยา เพื่อหาวิธีลดการใส่ใจ/การสำนึกถึงเสียงในหู แม้การเล่นดนตรีเพื่อกลบเสียง หรืออุปกรณ์สร้างเสียงกลบ หรือเครื่องช่วยฟัง ก็อาจช่วยบางกรณี จนถึงปี 2013 ยังไม่มียาที่มีประสิทธิผล เป็นอาการที่สามัญ คือเกิดกับประชากรประมาณ 10-15% แต่คนส่วนมากจะทนรับได้และเป็นปัญหาสำคัญแก่บุคคลเพียงแค่ 1-2%

คำภาษาอังกฤษว่า tinnitus มาจากภาษาละติน คือ tinnīre ซึ่งหมายความว่า ตีระฆัง/ทำเสียง

อาการ

เสียงในหูอาจได้ยินจากหูข้างเดียว ทั้งสองข้าง หรือว่าจากภายในศีรษะ คำภาษาอังกฤษว่า tinnitus เป็นคำบ่งลักษณะของเสียงภายในศีรษะของบุคคลเมื่อไม่มีตัวกระตุ้นทางหูจริง ๆ ซึ่งเป็นเสียงหลายอย่างแต่ที่คนไข้บอกมากที่สุดก็คือเป็นเสียงสูงต่ำเสียงเดียว แม้ปกติคนไข้จะบอกว่าเป็นเสียงเหมือนตีระฆัง/เสียงโทรศัพท์ แต่ในคนไข้อื่น ๆ จะเป็นเสียงสูงหงิง ๆ เสียงหึ่ง ๆ เหมือนในสายไฟ เสียงฟู่ เสียงฮัม เสียงเหมือนลูบแก้วคริสตัล เสียงผิวปาก เสียงนาฬิกา เสียงแก๊ก ๆ เสียงดังกระหึ่ม เสียงจิ้งหรีด เสียงกบต้นไม้ เสียงตั๊กแตน เสียงจักจั่น ทำนองเพลง เสียงบี๊ป ๆ เสียงแฉ่ ๆ เหมือนกระทะร้อน เสียงคล้าย ๆ เสียงคน เสียงสูงต่ำเดียวยาว ๆ เช่นดังที่ใช้เพื่อทดสอบการได้ยิน ยังมีคนไข้บอกด้วยว่าเป็นเสียงลมหรือเสียงคลื่น

เสียงในหูอาจจะได้ยินเป็นครั้งเป็นคราวหรืออาจจะได้ยินอย่างต่อเนื่อง ในกรณีหลัง นี่อาจทำให้เป็นทุกข์มาก ในคนไข้บางคน ความดังของเสียงอาจเปลี่ยนตามการเคลื่อนไหวของไหล่ ศีรษะ ลิ้น ขากรรไกร และตา

คนไข้โดยมากที่ได้ยินเสียงในหูจะเสียการได้ยินไปแล้วเป็นบางส่วน คือบ่อยครั้งจะไม่สามารถได้ยินอย่างชัดเจนซึ่งเสียงจริง ๆ ภายนอกร่างกายที่อยู่ในพิสัยความถี่เดี่ยวกันกับเสียงที่ได้ยินในหู ซึ่งทำให้มีการเสนอว่า เหตุอย่างหนึ่งของเสียงในหูอาจจะเป็นการตอบสนองเพื่อธำรงดุลของเซลล์ประสาทการได้ยินใน dorsal cochlear nucleus ซึ่งทำให้มันทำงานมากเกินเพื่อชดเชยเสียงที่ขาดหายไปเพราะไม่ได้ยิน

เสียงอาจดังเป็นเพียงเสียงพื้นหลังค่อย ๆ จนกระทั่งเป็นเสียงที่ยังได้ยินแม้เมื่อเสียงภายนอกดังมาก เสียงในหูแบบหนึ่งที่เรียกว่าเสียงในหูเต้นเป็นจังหวะ (pulsatile tinnitus) เป็นการได้ยินเสียงชีพจรหรือการหดเกร็งกล้ามเนื้อของตนเอง ซึ่งปกติเป็นเสียงจากการขยับกล้ามเนื้อใกล้ ๆ หู หรือการเปลี่ยนแปลงภายในช่องหู หรือเสียงเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดภายในคอหรือใบหน้า

การดำเนินของโรค

เนื่องจากความต่าง ๆ ในการออกแบบงานศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินของโรคจึงไม่ค่อยคงเส้นคงวา โดยทั่วไป ความชุกของโรคจะเพิ่มขึ้นตามอายุในผู้ใหญ่ ส่วนความรำคาญต่อเสียงทั่วไปจะลดไปเอง

จิตใจ

เสียงในหูแบบคงยืนอาจทำให้วิตกกังวลและซึมเศร้า สภาพจิตใจเป็นปัจจัยให้รำคาญเสียงยิ่งกว่าความดังและความถี่เสียงที่ได้ยิน ผู้ที่รู้สึกรำคาญเสียงในหูมากกว่าจะมีปัญหาทางจิตใจอย่างสามัญรวมทั้งความซึมเศร้า ความวิตกกังวล ปัญหาการนอน และการไม่มีสมาธิ 45% ของคนไข้ที่มีเสียงในหู จะมีโรควิตกกังวลในช่วงหนึ่งของชีวิต

งานทางจิตวิทยาได้ตรวจดูปฏิกิริยาโดยความเป็นทุกข์ต่อเสียงในหู (TDR) เพื่ออธิบายว่า ทำไมคนไข้จึงมีอาการรุนแรงไม่เท่ากัน งานแสดงว่า เมื่อได้ยินเสียงในหูเป็นครั้งแรก การสร้างภาวะของเสียงเนื่องกับสิ่งเร้าที่ไม่น่ายินดีในเวลานั้น จะเชื่อมเสียงในหูกับอารมณ์เชิงลบ เช่น ความกลัวและความวิตกกังวล งานแสดงว่า เมื่อได้ยินเสียงในหูในช่วงแรก ๆ มีการปรับภาวะเชื่อมเสียงกับอารมณ์ที่ไม่น่ายินดี เช่นความกลัวและความวิตกกังวลที่เกิดตอบสนองต่อสิ่งเร้าในเวลานั้น ซึ่งเพิ่มการทำงานของระบบลิมบิกและระบบประสาทอิสระ แล้วจึงเพิ่มความสำนึกและความรำคาญต่อเสียงในหู

เหตุ

มีเสียงในหูสองแบบคือแบบไม่มีเสียงจริง (คือเป็นอัตวิสัย) และแบบมีเสียงจริง (คือที่เป็นปรวิสัย) แต่โดยปกติจะเป็นแบบไม่มีเสียงจริง (subjective tinnitus) คือคนอื่นไม่สามารถได้ยินได้ แบบไม่มีเสียงจริงอาจเรียกเป็นคำภาษาอังกฤษอื่น ๆ รวมทั้ง tinnitus aurium, nonauditory tinnitus, และ nonvibratory tinnitus

อย่างไรก็ดี ในบางกรณีซึ่งน้อยมาก คนอื่นอาจจะได้ยินเสียงในหูของผู้มีอาการโดยใช้อุปกรณ์ เช่น หูฟังแพทย์เป็นต้น และในบางกรณีซึ่งไม่น้อยถึงขนาดนั้น แต่ก็ยังไม่สามัญ เสียงที่ว่าสามารถวัดด้วยไมค์นอกหูโดยเป็นเสียงจากหู (SOAE) นี่ก็จะเป็นแบบมีเสียงจริง (objective tinnitus) ซึ่งเรียกเป็นคำภาษาอังกฤษอื่น ๆ รวมทั้ง pseudo-tinnitus และ vibratory tinnitus

แบบไม่มีเสียงจริง (subjective)

เสียงในหูแบบไม่มีเสียงจริงเกิดบ่อยสุด ซึ่งมีเหตุหลายอย่าง แต่ที่สามัญที่สุดก็เพราะเสียการได้ยิน เมื่อเกิดจากโรคในหูชั้นในหรือประสาทหู (auditory nerve) นี่จะเรียกว่า otic tinnitus (โดยคำว่า otic มาจากคำภาษากรีกแปลว่า หู) ซึ่งเป็นภาวะทางโสตวิทยาหรือทางประสาทวิทยาที่อาจจุดชนวนโดยการติดเชื้อหรือยา แต่เหตุเสียการได้ยินที่เกิดบ่อยสุดก็คือ การได้รับเสียงดังเกินซึ่งทำลายเซลล์ขนในหูชั้นใน แล้วก่อเสียงในหู

เมื่อปรากฏว่า เสียงในหูไม่เกี่ยวกับโรคในหูชั้นในหรือประสาทหู อาการก็จะเรียกว่า nonotic tinnitus ในคนไข้ 30% อาการจะได้รับอิทธิพลจากระบบรับความรู้สึกทางกาย ยกตัวอย่างเช่น สามารถเพิ่มหรือลดเสียงโดยขยับใบหน้า ศีรษะ หรือคอ โดยแบบนี้ก็จะสามารถเรียกได้ด้วยว่า somatic tinnitus หรือ craniocervical tinnitus เพราะการขยับศีรษะและคอเท่านั้นที่มีผล

มีหลักฐานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่แสดงนัยว่า เสียงในหูเป็นผลของการเปลี่ยนแปลงแบบพลาสติกของระบบประสาทกลางเกี่ยวกับการได้ยิน ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากข้อมูลทางประสาทสัมผัสที่เปลี่ยนไปเนื่องจากการเสียการได้ยิน คือ การเสียการได้ยินจะเปลี่ยนการตอบสนองเพื่อธำรงดุล (homeostatic response) ภายในระบบประสาทกลาง แล้วก่อเสียงในหู

การเสียการได้ยิน

เหตุสามัญที่สุดของเสียงในหูก็คือการเสียการได้ยินเพราะได้รับเสียงดังมากเกินไป แต่การเสียการได้ยินก็อาจอยู่ในรูปแบบที่อำพรางไว้ เช่น ในคนที่ทดสอบว่าได้ยินเป็นปกติ การเสียการได้ยินยังมีเหตุต่าง ๆ กันด้วย ในบรรดาคนไข้ที่มีเสียงในหู เหตุหลักก็คือความเสียหายที่คอเคลีย

ยาที่เป็นพิษต่อหูสามารถเป็นเหตุให้เกิดเสียงในหูที่ไม่มีจริง เพราะมันสามารถทำให้เสียการได้ยิน หรือเพิ่มความเสียหายที่มีอยู่แล้วเนื่องจากการได้รับเสียงดัง และอาจเกิดแม้เมื่อใช้ยาในขนาดที่พิจารณาว่าไม่เป็นพิษต่อหู ยากว่า 260 ชนิดมีรายงานว่า มีผลข้างเคียงเป็นเสียงในหู

เสียงในหูยังอาจเกิดเมื่อหยุดใช้ยาเบ็นโซไดอาเซพีนแม้ในขนาดที่ใช้รักษาโรค ซึ่งบางครั้งเป็นอาการยืดเยื้อของการขาดยาโดยอาจคงยืนเป็นเวลาหลายเดือน

อย่างไรก็ดี เสียงในหูในกรณีจำนวนมากก็หาสาเหตุไม่ได้

ปัจจัย

ปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจมีส่วนให้เกิดเสียงในหูรวมทั้ง

  • ปัญหาหูและการเสียการได้ยิน
    • การเสียการได้ยินเนื่องจากสื่อนำเสียง
      • acoustic shock เป็นอาการที่เกิดเมื่อได้ยินเสียงดังแบบไม่คาดหวัง
      • เสียงดัง
      • หูชั้นกลางอักเสบ
      • หูอักเสบ (otitis)
      • otosclerosis/otospongiosis เป็นการเจริญผิดปกติของกระดูกใกล้หูชั้นกลาง
      • การทำงานผิดปกติของท่อหู
  • sensorineural hearing loss เป็นการเสียการได้ยินเนื่องกับอวัยวะหรือโครงสร้างในหูชั้นใน หรือเส้นประสาทสมองเส้นที่ 8 หรือระบบประสาทส่วนอื่น ๆ
    • เสียงดัง
    • หูตึงเหตุสูงอายุ
    • โรคเมนิแยร์
    • การบวมน้ำเอ็นโดลิมฟ์ (endolymphatic hydrops)
    • superior canal dehiscence เป็นอาการมีน้อยที่มีผลต่อการได้ยินและการทรงตัว เกิดจากการกร่อนหรือการไม่มีกระดูกขมับเหนือหลอดกึ่งวงกลมส่วนบนของระบบการทรงตัว
    • เนื้องอกไม่ร้ายของเซลล์ปลอกไมอีลินที่เส้นประสาทสมองเส้นที่ 8 (Vestibular schwannoma) ซึ่งทำให้เสียการได้ยิน เกิดอาการนี้ ทรงตัวได้ไม่ดี มีปัญหาความดันในหู อัมพฤกษ์อัมพาตที่ใบหน้า
    • ปรอทหรือตะกั่วเป็นพิษ
    • ยาที่เป็นพิษต่อหู
  • ปัญหาทางประสาท
    • Arnold-Chiari malformation เป็นความผิดปกติทางโครงสร้างของสมองน้อย
    • โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
    • การบาดเจ็บที่ศีรษะ
    • temporomandibular joint dysfunction เป็นการเจ็บและการทำงานผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ใช้เคี้ยวและของข้อต่อขากรรไกร
    • giant cell arteritis เป็นการอักเสบของเส้นเลือดขนาดใหญ่และขนาดกลางในศีรษะ โดยเฉพาะที่สาขา external carotid artery
  • โรคทางเมแทบอลิซึม
  • ความผิดปกติทางจิตเวช
  • ปัจจัยอื่น ๆ
    • หลอดเลือดอักเสบ เป็นกลุ่มโรคที่ทำลายเส้นเลือดโดยการอักเสบ
    • สารก่ออาการโรคจิต/ประสาทหลอน ที่ก่อเสียงในหูชั่วคราวโดยเป็นผลข้างเคียง
      • 5-MeO-DET
      • diisopropyltryptamine (DiPT)
    • การขาดยาเบ็นโซไดอาเซพีน
    • ความดันในกะโหลกศีรษะที่ต่ำหรือสูงเกินโดยมีเหตุต่าง ๆ เช่น สมองอักเสบหรือน้ำหล่อสมองไขสันหลังรั่ว

    • แบบมีเสียงจริง ๆ (objective)

    เสียงในหูแบบมีเสียงจริง ๆ คนอื่นก็สามารถได้ยิน และบางครั้งจะมีเหตุจากกล้ามเนื้อกระตุกรัวหรือเหตุทางหลอดเลือดต่าง ๆ บางกรณีอาจเกิดจากกล้ามเนื้อกระตุกรอบ ๆ หูชั้นกลาง มีกลไกลธำรงดุลที่ช่วยแก้ปัญหานี้ภายในหนึ่งนาทีหลังเกิดขึ้น โดยปกติจะเกิดพร้อมกับการลดความไวเสียงและหูอื้อ

    เสียงจากหู (SOAE) ซึ่งเป็นเสียงความถี่สูงเบา ๆ ที่สร้างในหูชั้นใน และสามารถวัดที่ช่องหูด้วยไมค์ไวเสียง ก็สามารถทำให้เกิดเสียงในหูได้ด้วย ประเมินว่า จำนวนของผู้มีเสียงในหูที่เนื่องกับ SOAE อยู่ที่ 4%

    แบบเป็นจังหวะ (pulsatile)

    บางคนได้ยินเสียงเต้นเป็นจังหวะคู่กับชีพจรของตน จึงเรียกว่า pulsatile tinnitus หรือ vascular tinnitus เป็นเสียงในหูที่มีจริง ๆ เป็นผลของการไหลเวียนของเลือดที่เปลี่ยนไป คือเกิดความปั่นป่วนใกล้ ๆ หู โดยมีเหตุเช่น โรคหลอดเลือดแดงแข็งและเสียงฮัมในเส้นเลือดดำ (venous hum) แต่ก็อาจเป็นเสียงที่ไม่มีจริง ๆ ซึ่งเกิดจากการสำนึกเพิ่มขึ้นถึงการไหลเวียนของเลือดในหู

    น้อยครั้งมากที่เสียงในหูแบบเป็นจังหวะจะเป็นอาการของสภาวะที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น หลอดเลือดแดงแครอทิดโป่งพอง หรือผนังหลอดเลือดแดงแครอทิดลอก (carotid artery dissection)

    เสียงในหูแบบเป็นจังหวะอาจเป็นตัวบ่งชี้ภาวะหลอดเลือดอักเสบโดยเฉพาะ giant cell arteritis อาจเป็นตัวบ่งชี้ความดันในกะโหลกศีรษะสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ (IIH) หรืออาจเป็นอาการของความผิดปกติทางเส้นเลือดในกะโหลกศีรษะ เช่น สภาวะวิรูปของเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำ (AVM) และดังนั้นจึงควรตรวจหาเสียงผิดปกติในเส้นเลือด (bruit) ด้วย

    กลไกของอาการ

    กลไกที่เป็นไปได้อย่างหนึ่งของอาการก็คือ เสียงจากหู คือ หูชั้นในมีเซลล์ขนเป็นพัน ๆ โดยเซลล์ขนชั้นใน (IHC) จะเป็นตัวตรวจจับเสียง และเซลล์ขนชั้นนอก (OHC) จะเปลี่ยนแรงสั่นที่ได้รับบวกกับสัญญาณจากระบบประสาทกลาง ให้ไปเป็นแรงดึงทำให้เยื่อคลุมที่ฐานเกิดความแข็งอ่อนไม่เท่ากัน โดยอาจเป็นกระบวนการขยายเสียง โดยเฉพาะเมื่อเสียงเบา การตรวจจับเสียงจะเชื่อมกับกลไกที่เพิ่มหรือลดการสั่นของเยื่อเป็นกระบวนการป้อนกลับผ่านระบบประสาทกลาง ซึ่งการป้อนกลับนี้ปกติจะปรับให้น้อยกว่าจุดที่จะทำให้เยื่อสั่นเองเพียงเล็กน้อย จึงทำให้สามารถรับเสียงได้ไวและเฉพาะเจาะจงอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ถ้ามีอะไรเปลี่ยนไป ก็อาจทำให้ค่าป้อนกลับข้ามจุดที่ทำให้เกิดการสั่นเองได้ง่าย ดังนั้น จึงเกิดเสียงในหูขึ้น

    กลไกที่เป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งก็คือความเสียหายต่อเซลล์รับเสียง เซลล์นี้แม้จะสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้จาก Deiters cells ซึ่งเป็นเซลล์สนับสนุนที่อยู่ข้าง ๆ ถ้าเสียหายในสัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก แต่ก็เชื่อว่า ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จะเกิดขึ้นในช่วงการเกิดเอ็มบริโอเท่านั้น คือแม้ Deiters cell ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะสามารถสร้างเซลล์ขึ้นใหม่และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะ แต่ก็ยังไม่เคยพบว่ามันเปลี่ยนกลายเป็นเซลล์รับเสียงยกเว้นในการทดลองที่เพาะเนื้อเยื่อ ดังนั้น ถ้าเซลล์ขนเกิดเสียหาย เช่น เพราะได้รับเสียงดังเกิน หูอาจจะตึงต่อเสียงความถี่บางช่วง แต่เมื่อเกิดอาการเสียงในหู เซลล์อาจจะส่งข้อมูลว่ามีเสียงภายนอกที่ความถี่หนึ่ง ๆ ซึ่งความจริงไม่มี

    อย่างไรก็ดี กลไกของเสียงในหูแบบไม่มีเสียงจริงบ่อยครั้งไม่ชัดเจน แม้จะไม่น่าแปลกใจว่า การบาดเจ็บที่หูชั้นในโดยตรงจะก่ออาการนี้ แต่เหตุอื่น ๆ ที่ปรากฏ (เช่น temporomandibular joint dysfunction และโรคฟันอื่น ๆ) ก็อธิบายได้ยาก

    งานวิจัยได้เสนอให้แบ่งเสียงในหูแบบไม่มีเสียงจริงเป็นสองหมวด คือ otic tinnitus (เสียงในหูเหตุหู) ซึ่งเกิดจากภาวะ/โรคต่าง ๆ ในหูชั้นในหรือเส้นประสาทหู และ somatic tinnitus (เสียงในหูเหตุกาย) ซึ่งเกิดจากภาวะ/โรคนอกหูและประสาทหูโดยยังเกิดภายในศีรษะหรือคอ และได้ให้สมมติฐานเพิ่มขึ้นด้วยว่า เสียงในหูเหตุกาย อาจเกิดจากสัญญาณแทรกข้ามวงจรประสาทภายในสมอง เพราะเส้นประสาทศีรษะและคอวิ่งเข้าไปในสมองใกล้บริเวณที่มีบทบาทในการได้ยิน

    อาการอาจมีเหตุจากการทำงานทางประสาทซึ่งเพิ่มขึ้นในก้านสมองส่วนที่ประมวลสัญญาณเสียง แล้วทำให้เซลล์ประสาทการได้ยินบางส่วนทำงานมากเกิน มูลฐานของทฤษฎีนี้ก็คือ คนโดยมากที่มีอาการนี้ได้เสียการได้ยินไปโดยบางส่วน และความถี่เสียงที่พวกเขาไม่ได้ยิน จะใกล้กับความถี่ของเสียงในหูที่ไม่มีจริง ๆ แบบจำลองของการเสียการได้ยินและสมอง สนับสนุนไอเดียว่า การตอบสนองแบบธำรงดุลของนิวเคลียสประสาท dorsal cochlear nucleus จะเป็นเหตุให้พวกมันทำงานเกินเพื่อชดเชยข้อมูลเสียงที่ไม่มีอีกต่อไป

    อย่างไรก็ดี งานทบทวนวรรณกรรมปี 2016 สามงามเน้นว่า มีโรคเป็นจำนวนมากแม้ที่เกิดร่วมกันซึ่งอาจมีบทบาทกับเสียงในหู และที่ต้องปรับการบำบัดให้เข้ากับอาการต่าง ๆ โดยเฉพาะ ๆ

    การวินิจฉัย

    แม้เสียงในหูอาจจะเป็นอาการหลักที่คนไข้บอก แพทย์หูคอจมูกก็มักจะตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุที่รักษาได้ เช่น การติดเชื้อในหูชั้นกลาง เนื้องอกที่ประสาทหู (Vestibular schwannoma) การกระแทกกระเทือน กระดูกงอกใกล้หูชั้นกลาง เป็นต้น ก่อนทดสอบการได้ยินของคนไข้ เสียงในหูจะประเมินด้วยการตรวจลักษณะการได้ยิน (audiogram) เช่น ความทุ้มแหลมและความดังเป็นต้น บวกกับการประเมินปัญหาทางจิตที่เกิดร่วมกันเช่น ความซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความเครียดที่สัมพันธ์กับความรุนแรงของเสียงในหู

    ข้อกำหนดว่าอะไรเป็นเสียงในหูแบบเรื้อรัง เทียบกับประสบการณ์ที่มีตามธรรมชาติ ก็คือการมีเสียงในหูอย่างน้อย 5 นาทีอย่างน้อย 2 ครั้งต่ออาทิตย์ แต่ผู้ที่มีเสียงในหูเรื้อรังบ่อยครั้งก็ประสบปัญหาบ่อยกว่านี้ โดยอาจมีอย่างต่อเนื่องหรืออย่างเป็นปกติ เช่น ในเวลากลางคืนซึ่งเสียงในสิ่งแวดล้อมมีน้อยเกินที่จะกลบเสียงในหู

    โสตวิทยา

    เพราะผู้มีเสียงในหูโดยมากก็เสียการได้ยินด้วย การทดสอบด้วยเสียงสูงต่ำเดี่ยว ๆ (pure tone audiometry) แสดงเป็นกราฟการได้ยิน (audiogram) ก็อาจช่วยวินิจฉัยเหตุ ถึงแม้ก็มีผู้ที่ไม่เสียการได้ยินด้วยเหมือนกันที่มีเสียงในหู กราฟการได้ยินอาจช่วยให้ปรับเครื่องช่วยฟังสำหรับคนที่เสียการได้ยินอย่างสำคัญ โดยความทุ้มแหลมของเสียงในหูบ่อยครั้งจะอยู่ในพิสัยเดียวกับการได้ยินที่เสียไป

    จิตสวนศาสตร์

     
    ระดับความดังที่รู้สึกไม่สบาย (LDL) ของกลุ่มคนไข้ภาวะหูไวเกินที่ไม่เสียการได้ยิน (เส้นบน) ขีดเริ่มเปลี่ยนการได้ยินปกติ (เส้นล่างยาว) LDL ของคนไข้กลุ่มนี้ (เส้นล่างสั้น) LDL ของคนปกติ

    การวัดลักษณะต่าง ๆ ของเสียงในหูรวมความทุ้มแหลมหรือความถี่ถ้าเป็นเสียงในหูที่เป็นเสียงเดียว หรือเป็นพิสัยความถี่ในกรณีเป็นเสียงที่กระจายเป็นแถบความถี่, ความดังของเสียงเหนือขีดเริ่มได้ยินที่ความถี่นั้น ๆ (เป็นเดซิเบล), และระดับเสียงต่ำสุดที่จะกลบเสียงในหูนั้นได้เป็นต้น ในกรณีโดยมาก พิสัยความถี่ของเสียงในหูจะอยู่ในระหว่าง 5,000-10,000 เฮิรตซ์ และดังระหว่าง 5-15 เดซิเบลเหนือขีดเริ่มได้ยิน

    ตัวแปรที่สำคัญอีกอย่างก็คือ residual inhibition ซึ่งเป็นการระงับหรือการหายไปอย่างชั่วคราวของเสียงในหูหลังจากใช้เสียงกลบ (masking) ระยะหนึ่ง เพราะค่าวัดนี้อาจบ่งชี้ว่า อุปกรณ์สร้างเสียงกลบจะมีประสิทธิภาพในการรักษาแค่ไหน

    แพทย์อาจจะประเมินว่ามีสภาวะไวเสียงเกิน (hyperacusis) ซึ่งบ่อย ๆ เกิดพร้อมกับเสียงในหูด้วยหรือไม่ สิ่งที่วัดก็คือ ระดับความดังที่รู้สึกไม่สบาย (LDL) โดยมีหน่วยเป็นเดซิเบล และเป็นระดับความดังเหนือขีดเริ่มเปลี่ยนของความถี่ต่าง ๆ ที่มนุษย์สามารถได้ยิน เป็นพิสัยความต่างระหว่างขีดเริ่มได้ยินที่ความถี่นั้น ๆ กับความดังที่ทำให้ไม่สบาย

    พิสัยความต่างที่แคบลงในพิสัยความถี่หนึ่ง ๆ เช่นนี้ สัมพันธ์กับสภาวะไวเสียงเกินที่เป็นอัตวิสัย ขีดเริ่มได้ยินปกติ โดยทั่วไปจะกำหนดเป็น 0 – 20 เดซิเบล ส่วนระดับความดังที่ทำให้รู้สึกไม่สบายปกติจะอยู่ที่ 85 – 90+ เดซิเบลโดยมีนักวิชาการที่อ้างค่าถึง 100 เดซิเบล พิสัยความต่างระหว่างระดับความดังที่ไม่สบายกับขีดเริ่มได้ยินที่ 55 เดซิเบลหรือน้อยกว่านั้นจัดว่า เป็นสภาวะไวเสียงเกิน

    ความรุนแรง

    ภาวะนี้บ่อยครั้งจัดระดับความรุนแรงเริ่มตั้งแต่ "เล็กน้อย" (slight) จนถึง "รุนแรงมาก" (catastrophic) ตามผลที่มันมี เช่น กวนการนอน กวนการพักผ่อน หรือกวนกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ในกรณีสุด ๆ กรณีหนึ่ง ชายผู้หนึ่งฆ่าตัวตายหลังจากหมอบอกว่า รักษาให้หายไม่ได้

    การประเมินทางจิตวิทยารวมทั้งการวัดความรุนแรงของอาการและความทุกข์ที่เกิด (เช่น ลักษณะและความมากน้อยของปัญหาเนื่องกับเสียงในหู) ที่วัดโดยแบบคำถามซึ่งได้ประเมินความสมเหตุสมผลแล้ว แบบคำถามเหล่านี้วัดความทุกข์ทางใจและความพิการที่เกิดเนื่องจากเสียงในหู รวมทั้งผลต่อการได้ยิน วิถีชีวิต และจิตใจ อนึ่ง การประเมินการใช้ชีวิตทั่วไปรวมทั้งระดับความวิตกกังวล ความซึมเศร้า ความเครียด สิ่งที่ทำให้เครียด และปัญหาการนอน ก็สำคัญในการประเมินอาการนี้ด้วย เพราะเสียงในหูอาจมีผลต่อปัญหาเหล่านี้ หรือปัญหาเหล่านี้อาจทำให้เสียงในหูแย่ลง

    โดยทั่วไปแล้ว การประเมินทั้งหมดก็เพื่อกำหนดระดับความทุกข์และการรบกวนชีวิตต่อบุคคล กำหนดการตอบสนองและการรับรู้/ความสำนึกต่อเสียงในหู เพื่อปรับวิธีการรักษาและการเฝ้าสังเกตผล อย่างไรก็ดี เพราะวิธีการประเมินผลที่ใช้ต่าง ๆ กัน บางครั้งก็ไม่สอดคล้องกัน และไม่มีมติร่วมกัน ดังที่พบในวรรณกรรมการแพทย์ต่าง ๆ จึงทำให้ไม่สามารถเปรียบเทียบประสิทธิผลชอ วิธีการรักษาต่าง ๆ ได้

    แบบเป็นจังหวะ

    ถ้าแพทย์ตรวจพบเสียงที่เกิดจากเลือดที่ไหลอย่างปั่นป่วน (bruit) การตรวจโดยทำภาพเช่น transcranial doppler (TCD) หรือ magnetic resonance angiography (MRA) อาจจำเป็น

    การวินิจฉัยแยกโรค

    แหล่งเสียงอื่น ๆ ที่ฟังคล้ายกับเสียงในหูจะต้องกันออก แหล่งเสียงความถี่สูงที่รู้จักกันดีรวมทั้งสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดเนื่องกับสายไฟ ตลอดจนวิธีการส่งสัญญาณเสียงต่าง ๆ เรื่องที่มักวินิจฉัยผิดเพราะคล้ายเสียงในหูอย่างหนึ่งก็คือ เสียงคลื่นวิทยุ คือมีคนไข้ซึ่งตรวจพบว่าสามารถได้ยินคลื่นความถี่วิทยุที่มีเสียงแหลมและฟังคล้ายกับเสียงในหู

    การป้องกัน

     
    ป้ายเตือนให้ป้องกันหูตามกฎหมายของสหราชอาณาจักร

    การได้รับเสียงดังนาน ๆ อาจก่อเสียงในหู ดังนั้น การใช้อุปกรณ์อุดหูเป็นต้น ก็อาจช่วย

    ยาหลายอย่างมีพิษต่อหู โดยอาจเพิ่มความเสียหายที่เกิดจากเสียงดัง เมื่อใช้ยาที่เป็นพิษต่อหู ถ้าแพทย์ใส่ใจระมัดระวังการใช้ยา เช่น ขนาดและระยะระหว่างการได้ยา ก็จะสามารถลดความเสียหายได้

    การรักษา

    ถ้ามีเหตุที่เป็นมูลฐาน การรักษาเหตุอาจทำให้อาการดีขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้ว วิธีรักษาหลักจะเป็นการปรึกษาจิตแพทย์หรือคุยกับนักจิตวิทยา และการบำบัดด้วยเสียง (sound therapy) เพราะยังไม่มียาที่ได้ผล

    จิตวิทยา

    การรักษาที่มีหลักฐานดีสุดสำหรับเสียงในหูก็คือการบําบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT) ซึ่งอาจทำได้ทางอินเทอร์เน็ตหรือตัวต่อตัว ซึ่งช่วยลดความเครียดเนื่องกับเสียงในหู โดยประโยชน์ที่ได้ดูเหมือนจะเป็นอิสระต่างหากกับผลการรักษาความซึมเศร้าหรือความวิตกกังวล

    การรักษาด้วยการยอมรับและการให้สัญญา (ACT) ก็ดูเหมือนจะมีอนาคตในการรักษาอาการนี้ด้วย และเทคนิคการผ่อนคลายก็อาจมีประโยชน์

    กระทรวงทหารผ่านศึกสหรัฐ (VA) ได้พัฒนาระเบียบการรักษาอาการเสียงในหูที่เรียกว่า Progressive Tinnitus Management

    ยา

    จนถึงปี 2014 ยังไม่มียาที่ได้ผลต่อเสียงในหูที่ไม่ทราบสาเหตุ ประโยชน์ของยาแก้ซึมเศร้าก็ยังไม่มีหลักฐานพอ หรือของ acamprosate (ซึ่งปกติใช้รักษาการติดเหล้า) แม้จะมีหลักฐานบ้างสำหรับยากลุ่มเบ็นโซไดอาเซพีน แต่ก็ยังไม่พอเพื่อให้ใช้ยากันชักไม่ปรากฏว่ามีประโยชน์ การฉีดสเตอรอยด์เข้าในหูชั้นกลางก็ดูเหมือนจะไม่มีประสิทธิผลด้วย

    การลองฉีดชีวพิษโบทูลินัมดูเหมือนจะประสบความสำเร็จบ้างในกรณีที่มีเสียงในหูแบบมีเสียงจริงโดยมีเหตุจากเพดานปากสั่นซึ่งเกิดน้อยมาก

    ยา caroverine ก็ใช้ด้วยในประเทศไม่กี่ประเทศเพื่อรักษาอาการนี้ แต่หลักฐานแสดงประสิทธิผลของยาก็อ่อนมาก

    การรักษาวิธีอื่น ๆ

    เครื่องช่วยฟังหรืออุปกรณ์สร้างเสียงกลบ ช่วยให้ไม่สนใจเสียงในหูที่ความถี่โดยเฉพาะ ๆ แม้จะเป็นวิธีที่ไม่ค่อยมีหลักฐาน แต่ก็ไม่มีผลเสีย

    มีหลักฐานเบื้องต้นสนับสนุนการรักษาโดย tinnitus retraining therapy บ้าง ส่วนการกระตุ้นสมองผ่านกะโหลกด้วยแม่เหล็ก มีหลักฐานสนับสนุนน้อยมาก ดังนั้น จึงไม่แนะนำ

    โดยปี 2017 neurofeedback ยังมีหลักฐานจำกัดว่ามีผลดีหรือไม่

    ยาสมุนไพร

    แปะก๊วย (Ginkgo biloba) ดูจะไม่มีผลวิทยาลัยแพทย์หูคอจมูกอเมริกัน แนะนำไม่ให้ใช้อาหารเสริมคือเมลาโทนินหรือสังกะสีเพื่อบรรเทาอาการ อนึ่ง งานทบทวนวรรณกรรมแบบคอเคลนปี 2016 สรุปว่า หลักฐานไม่พอให้ทานอาหารเสริมคือสังกะสีเพื่อบรรเทาอาการที่เนื่องกับเสียงในหู

    พยากรณ์โรค

    แม้จะรักษาให้หายขาดไม่ได้ ผู้ที่มีเสียงในหูปกติจะชินไปเอง คนไข้ส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ

    ความระบาด

    ผู้ใหญ่

    เสียงในหูเกิดในประชากรร้อยละ 10 – 15% คนอเมริกาเหนือ 1/3 ประสบกับอาการนี้ อาการจะเกิดกับผู้ใหญ่ 1/3 ในช่วงชีวิต โดยเทียบกับ 10-15% ในบรรดาคนเหล่านี้ผู้มีปัญหาพอเพื่อไปหาหมอ

    เด็ก

    เสียงในหูเชื่อว่า เป็นอาการในผู้ใหญ่ ดังนั้น บ่อยครั้งจึงมองข้ามในเด็ก เด็กที่เสียการได้ยินบ่อยครั้งจะมีเสียงในหู แม้จะไม่สามารถบอกว่ามี หรือว่ามีผลอย่างไรต่อชีวิต เด็กโดยทั่วไปจะไม่บอกอาการนี้เอง ดังนั้นถ้าบอกเอง ผู้ใหญ่อาจจะไม่ค่อยฟัง

    เด็กที่บอกว่ามีเสียงในหู จะมีโอกาสสูงขึ้นในการมีโรคทางหูหรือทางประสาทที่เกี่ยวข้องกัน เช่น ไมเกรน โรคเมนิแยร์วัยเด็ก และหูชั้นกลางอักเสบแบบมีหนองเรื้อรัง เด็กที่มีขีดเริ่มได้ยินปกติมีความชุกโรคระหว่าง 12-36% และในเด็กที่เสียการได้ยิน 66% โดยเด็ก 3 – 10% จะบอกว่าเสียงรบกวนชีวิต

    ดูเพิ่ม

    เชิงอรรถและอ้างอิง

    1. ↑ Levine, RA; Oron, Y (2015). "Tinnitus". Handbook of clinical neurology. 129. pp. 409–31. doi:10.1016/B978-0-444-62630-1.00023-8. PMID 25726282.
    2. ↑ . 2014-09. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-06-19. สืบค้นเมื่อ 2015-05-22. Unknown parameter |deadurl= ignored (help); Check date values in: |date= (help)
    3. ↑ Baguley, D; McFerran, D; Hall, D (2013-11-09). "Tinnitus". Lancet. 382 (9904): 1600–07. doi:10.1016/S0140-6736(13)60142-7. PMID 23827090.
    4. ↑ Han, BI; Lee, HW; Kim, TY; Lim, JS; Shin, KS (2009-03). "Tinnitus: characteristics, causes, mechanisms, and treatments". Journal of Clinical Neurology. 5 (1): 11–19. doi:10.3988/jcn.2009.5.1.11. PMC 2686891. PMID 19513328. About 75% of new cases are related to emotional stress as the trigger factor rather than to precipitants involving cochlear lesions. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    5. ↑ Langguth, B; Kreuzer, PM; Kleinjung, T; De Ridder, D (2013-09). "Tinnitus: causes and clinical management". Lancet Neurology. 12 (9): 920–30. doi:10.1016/S1474-4422(13)70160-1. PMID 23948178. Check date values in: |date= (help)
    6. "Tinnitus", ศัพท์บัญญัติอังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (คอมพิวเตอร์) รุ่น ๑.๑ ฉบับ ๒๕๔๕, (แพทยศาสตร์) เสียงในหู
    7. ↑ Snow (2008), 3.18.1 Definition of Tinnitus, p. 303
    8. Donnelly, Kerry (2011). Kreutzer, Jeffrey S; DeLuca, John; Caplan, Bruce (บ.ก.). Tinnitus. Encyclopedia of Clinical Neuropsychology. Springer. p. 2521. doi:10.1007/978-0-387-79948-3. ISBN 978-0-387-79947-6.CS1 maint: uses editors parameter (link)
    9. Han, BI; Lee, HW; Kim, TY; Lim, JS; Shin, KS (2009-03). "Tinnitus: characteristics, causes, mechanisms, and treatments". J Clin Neurol. 5 (1): 11–19. doi:10.3988/jcn.2009.5.1.11. PMC 2686891. PMID 19513328. About 75% of new cases are related to emotional stress as the trigger factor rather than to precipitants involving cochlear lesions. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    10. Lalwani, Anil K; Snow, James B (Jr.) (2001). "29. DISORDERS OF SMELL, TASTE, AND HEARING". ใน Braunwald, Eugene; Fauci, Anthony S; Kasper, Dennis L; Hauser, Stephen L; Longo, Dan L; Jameson, J Larry (บ.ก.). Harrison's Principles of Internal Medicine (15th ed.). McGraw-Hill. HEARING: DISORDERS OF THE SENSE OF HEARING: Sensorineural Hearing Loss: Tinnitus. ISBN 0-07-007272-8. Missing or empty |title= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link) CS1 maint: uses editors parameter (link)
    11. Harrison's Principles of Internal Medicine (2001), HEARING: TREATMENT
    12. "Signs of tinnitus". Action on Hearing Loss. สืบค้นเมื่อ 2018-08-19.
    13. ↑ Chan, Y (2009). "Tinnitus: etiology, classification, characteristics, and treatment". Discovery Medicine. 8 (42): 133–36. PMID 19833060.
    14. . MedlinePlus: NIH US National Library of Medicine. 2016-05-18. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2018-07-28. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)
    15. Simmons, R; Dambra, C; Lobarinas, E; Stocking, C; Salvi, R (2008). "Head, Neck, and Eye Movements That Modulate Tinnitus". Seminars in Hearing. 29 (4): 361–70. doi:10.1055/s-0028-1095895. PMC 2633109. PMID 19183705.
    16. ↑ Nicolas-Puel, C; Faulconbridge, RL; Guitton, M; Puel, JL; Mondain, M; Uziel, A (2002). "Characteristics of tinnitus and etiology of associated hearing loss: a study of 123 patients". The International Tinnitus Journal. 8 (1): 37–44. PMID 14763234.
    17. ↑ Knig, O; Schaette, R; Kempter, R; Gross, M (2006). "Course of hearing loss and occurrence of tinnitus". Hearing Research. 221 (1–2): 59–64. doi:10.1016/j.heares.2006.07.007. PMID 16962270.
    18. ↑ Schaette, R; Kempter, R. (2006). "Development of tinnitus-related neuronal hyperactivity through homeostatic plasticity after hearing loss: a computational model". Eur J Neurosci. 23 (11): 3124–38. doi:10.1111/j.1460-9568.2006.04774.x. PMID 16820003.
    19. "Tinnitus (Ringing in the Ears) Causes, Symptoms, Treatments". Webmd.com. 2010-02-12. สืบค้นเมื่อ 2013-02-03.
    20. Baguley, D; g, Andersson; McFerran, D; McKenna, L (2013). Tinnitus: A Multidisciplinary Approach (2nd ed.). Blackwell Publishing Ltd. pp. 16–17. ISBN 978-1118488706.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    21. Gopinath, B; McMahon, CM; Rochtchina, E; Karpa, MJ; Mitchell, P (2010). "Incidence, persistence, and progression of tinnitus symptoms in older adults: the Blue Mountains Hearing Study". Ear and Hearing. 31 (3): 407–12. doi:10.1097/AUD.0b013e3181cdb2a2. PMID 20124901.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    22. Shargorodsky, J; Curhan, GC; Farwell, WR (2010). "Prevalence and characteristics of tinnitus among US adults". The American Journal of Medicine. 123 (8): 711–18. doi:10.1016/j.amjmed.2010.02.015. PMID 20670725.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    23. ↑ Andersson, G (2002). "Psychological aspects of tinnitus and the application of cognitive-behavioral therapy". Clinical Psychology Review. 22 (7): 977–90. doi:10.1016/s0272-7358(01)00124-6. PMID 12238249.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    24. Reiss, M; Reiss, G (1999). "Some psychological aspects of tinnitus". Perceptual and Motor Skills. 88 (3 Pt 1): 790–92. doi:10.2466/pms.1999.88.3.790. PMID 10407886.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    25. Baguley, DM (2002). "Mechanisms of tinnitus". British Medical Bulletin. 63: 195–212. doi:10.1093/bmb/63.1.195. PMID 12324394.
    26. Henry, JA; Meikele, MB (1999). "Pulsed versus continuous tones for evaluating the loudness of tinnitus". Journal of the American Academy of Audiology. 10 (5): 261–72. PMID 10331618.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    27. ↑ Henry, JA; Dennis, KC; Schechter, MA (2005). "General review of tinnitus: Prevalence, mechanisms, effects, and management". Journal of Speech, Language, and Hearing Research. 48 (5): 1204–35. doi:10.1044/1092-4388(2005/084). PMID 16411806.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    28. Davies, A; Rafie, EA (2000). "Epidemiology of Tinnitus". ใน Tyler, RS (บ.ก.). Tinnitus Handbook. San Diego: Singular. pp. 1–23. OCLC 42771695.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    29. Pattyn, T; Van Den Eede, F; Vanneste, S; Cassiers, L; Veltman, DJ; Van De Heyning, P; Sabbe, BC (2015). "Tinnitus and anxiety disorders: A review". Hear. Res. 333: 255–65. doi:10.1016/j.heares.2015.08.014. PMID 26342399.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    30. Jastreboff, PJ; Hazell, JWP (2004). Tinnitus Retraining Therapy: Implementing the neurophysiological model. Cambridge: Cambridge University Press. OCLC 237191959.
    31. ↑ Robert Aaron Levine (1999). "Somatic (craniocervical) tinnitus and the dorsal cochlear nucleus hypothesis". American Journal of Otolaryngology. 20 (6): 351–62. doi:10.1016/S0196-0709(99)90074-1. PMID 10609479.
    32. Rubinstein, Barbara และคณะ (1990). "Prevalence of Signs and Symptoms of Craniomandibular Disorders in Tinnitus Patients". Journal of Craniomandibular Disorders. 4 (3): 186–92. PMID 2098394. Explicit use of et al. in: |authors= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    33. ↑ Schecklmann, Martin; Vielsmeier, Veronika; Steffens, Thomas; Landgrebe, Michael; Langguth, Berthold; Kleinjung, Tobias; Andersson, Gerhard (2012-04-18). "Relationship between Audiometric Slope and Tinnitus Pitch in Tinnitus Patients: Insights into the Mechanisms of Tinnitus Generation". PLoS ONE. 7 (4): e34878. doi:10.1371/journal.pone.0034878.
    34. ↑ Schaette, R.; McAlpine, D. (2011-09-21). "Tinnitus with a Normal Audiogram: Physiological Evidence for Hidden Hearing Loss and Computational Model". Journal of Neuroscience. 31 (38): 13452–57. doi:10.1523/JNEUROSCI.2156-11.2011.
    35. Brown, RD; Penny, JE; Henley, CM และคณะ (1981). "Ototoxic drugs and noise". Ciba Found Symp. 85: 151–71. PMID 7035098. Explicit use of et al. in: |authors= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    36. Bekman, Stas. . Stason.org. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2012-10-19. สืบค้นเมื่อ 2012-10-26. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)
    37. ↑ Riba, Michelle B.; Ravindranath, Divy (2010-04-12). Clinical manual of emergency psychiatry. Washington, DC: American Psychiatric Publishing Inc. p. 197. ISBN 978-1-58562-295-5.
    38. ↑ Delanty, Norman (2001-11-27). Seizures: medical causes and management. Totowa, N.J.: Humana Press. p. 187. ISBN 978-0-89603-827-1.
    39. Crummer, RW; Hassan, GA (2004). "Diagnostic approach to tinnitus". Am Fam Physician. 69 (1): 120–06. PMID 14727828.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    40. Passchier-Vermeer, W; Passchier, WF (2000). "Noise exposure and public health". Environ. Health Perspect. 108 Suppl 1 (Suppl 1): 123–31. doi:10.2307/3454637. JSTOR 3454637. PMC 1637786. PMID 10698728.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    41. Stover, editors, Janos Zempleni, John W. Suttie, Jesse F. Gregory, III, Patrick J. (2014). Handbook of vitamins (Fifth edition. ed.). Hoboken: CRC Press. p. 477. ISBN 9781466515574.CS1 maint: extra text: authors list (link)
    42. Shulgin, Alexander; Shulgin, Ann (1997). "#36. 5-MEO-DET". TiHKAL: the continuation. Berkeley, CA, USA: Transform Press. ISBN 9780963009692. OCLC 38503252. สืบค้นเมื่อ 2012-10-27.
    43. "Erowid Experience Vaults: DiPT - More Tripping & Revelations - 26540".
    44. "Tinnitus". American Academy of Otolaryngology - Head and Neck Surgery. 2012-04-03. สืบค้นเมื่อ 2012-10-26.
    45. ↑ "What Causes Spontaneous Ringing In Our Ears?". ZidBits. ZidBits Media. 2013-02-26. สืบค้นเมื่อ 2015-03-19.
    46. ↑ Henry, JA; Dennis, KC; Schechter, MA (2005-10). "General review of tinnitus: prevalence, mechanisms, effects, and management". Journal of Speech, Language, and Hearing Research. 48 (5): 1204–35. doi:10.1044/1092-4388(2005/084). PMID 16411806. Check date values in: |date= (help)
    47. ↑ McFerran, Don; Magdalena, Sereda. "Pulsatile tinnitus" (PDF). Action on Hearing Loss. Royal National Institute for Deaf People (RNID). สืบค้นเมื่อ 2018-07-22.
    48. ↑ "Information and resources: Our factsheets and leaflets: Tinnitus: Factsheets and leaflets". RNID.org.uk. สืบค้นเมื่อ 2012-10-26.
    49. Chandler, JR (1983). "Diagnosis and cure of venous hum tinnitus". Laryngoscope. 93 (7): 892–5. doi:10.1288/00005537-198307000-00009. PMID 6865626.
    50. Moonis, G; Hwang, CJ; Ahmed, T; Weigele, JB; Hurst, RW (2005). "Otologic manifestations of petrous carotid aneurysms". AJNR Am J Neuroradiol. 26 (6): 1324–27. PMID 15956490.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    51.   Selim, Magdy; Caplan, Louis R. (2004). "Carotid Artery Dissection". Current Treatment Options in Cardiovascular Medicine. 6 (3): 249–53. doi:10.1007/s11936-996-0020-z. ISSN 1092-8464. PMID 15096317.[ลิงก์เสีย] (ต้องรับบริการ)
    52. Sismanis, A; Butts, FM; Hughes, GB (2009-01-04). "Objective tinnitus in benign intracranial hypertension: An update". The Laryngoscope. 100: 33–36. doi:10.1288/00005537-199001000-00008.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    53. Diamond, Bruce J; Mosley, Joseph E (2011). Kreutzer, Jeffrey S; DeLuca, John; Caplan, Bruce (บ.ก.). Arteriovenous Malformation (AVM). Encyclopedia of Clinical Neuropsychology. Springer. pp. 249–252. doi:10.1007/978-0-387-79948-3. ISBN 978-0-387-79947-6.CS1 maint: uses authors parameter (link) CS1 maint: uses editors parameter (link)
    54. Purves, Dale; Augustine, George J; Fitzpatrick, David; Hall, William C; Lamantia, Anthony Samuel; McNamara, James O; White, Leonard E, บ.ก. (2008a). "13 - The Auditory System". Neuroscience (4th ed.). Sinauer Associates. Two Kinds of Hair Cells in the Cochlea, p. 330. ISBN 978-0-87893-697-7.CS1 maint: uses editors parameter (link)
    55. Siegel, J (2008). Dallos, Peter; Oertel, Donata (บ.ก.). 3.15 Otoacoustic Emissions. The Senses: A Comprehensive Reference. 3: Audition. Elsevier. 3.15.2 A Brief History of Otoacoustic Emission, pp. 239-240. Adding to his direct contributions... the work of Gold was largely disregarded.CS1 maint: uses editors parameter (link)
    56. Yamasoba, T; Kondo, K (2006). "Supporting cell proliferation after hair cell injury in mature guinea pig cochlea in vivo". Cell Tissue Res. 325 (1): 23–31. doi:10.1007/s00441-006-0157-9. PMID 16525832.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    57. White, PM; Doetzlhofer, A; Lee, YS; Groves, AK; Segil, N (2006). "Mammalian cochlear supporting cells can divide and trans-differentiate into hair cells". Nature. 441 (7096): 984–87. doi:10.1038/nature04849. PMID 16791196.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    58. Engmann, Birk: Ohrgeräusche (Tinnitus) : Ein lebenslanges Schicksal? PTA-Forum. Supplement Pharmazeutische Zeitung. 1997 July
    59. Møller, AR (2016). "Sensorineural Tinnitus: Its Pathology and Probable Therapies". International Journal of Otolaryngology. 2016: 2830157. doi:10.1155/2016/2830157. PMC 4761664. PMID 26977153.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    60. Sedley, W; Friston, KJ; Gander, PE; Kumar, S; Griffiths, TD (2016). "An Integrative Tinnitus Model Based on Sensory Precision". Trends in Neurosciences. 39 (12): 799–812. doi:10.1016/j.tins.2016.10.004. PMC 5152595. PMID 27871729.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    61. Shore, SE; Roberts, LE; Langguth, B (2016). "Maladaptive plasticity in tinnitus - triggers, mechanisms and treatment". Nature Reviews Neurology. 12 (3): 150–60. doi:10.1038/nrneurol.2016.12. PMC 4895692. PMID 26868680.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    62. Crummer, RW; และคณะ (2004). "Diagnostic Approach to Tinnitus". Am Fam Physician. 69 (1): 120–26. Explicit use of et al. in: |last1= (help)
    63. Davis, A (1989). "The prevalence of hearing impairment and reported hearing disability among adults in Great Britain". International Journal of Epidemiology. 18 (4): 911–17. doi:10.1093/ije/18.4.911.
    64. Sheldrake, J; Diehl, PU; Schaette, R (2015). "Audiometric characteristics of hyperacusis patients". Frontiers in Neurology. 6: 105. doi:10.3389/fneur.2015.00105. PMC 4432660. PMID 26029161.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    65. Henry, JA (2000). "Psychoacoustic Measures of Tinnitus". J Am Acad Audiol. 11: 138–55.
    66. Vielsmeier, V; Lehner, A; Strutz, J; Steffens, T; Kreuzer, PM; Schecklmann, M; Landgrebe, M; Langguth, B; Kleinjung, T (2015). "The Relevance of the High Frequency Audiometry in Tinnitus Patients with Normal Hearing in Conventional Pure-Tone Audiometry". BioMed Research International. 2015: 302515. doi:10.1155/2015/302515. PMC 4637018. PMID 26583098.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    67. CÉ, Basile; Fournier, P; Hutchins, S; Hébert, S (2013). "Psychoacoustic assessment to improve tinnitus diagnosis". PLOS One. 8 (12): e82995. Bibcode:2013PLoSO...882995B. doi:10.1371/journal.pone.0082995. PMC 3861445. PMID 24349414.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    68. Roberts, LE (2007). "Residual inhibition". Progress in Brain Research. Progress in Brain Research. 166: 487–95. doi:10.1016/S0079-6123(07)66047-6. ISBN 978-0444531674. PMID 17956813.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    69. Roberts, LE; Moffat, G; Baumann, M; Ward, LM; Bosnyak, DJ (2008). "Residual inhibition functions overlap tinnitus spectra and the region of auditory threshold shift". Journal of the Association for Research in Otolaryngology. 9 (4): 417–35. doi:10.1007/s10162-008-0136-9. PMC 2580805. PMID 18712566.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    70. Knipper, M; Van Dijk, P; Nunes, I; Rüttiger, L; Zimmermann, U (2013). "Advances in the neurobiology of hearing disorders: recent developments regarding the basis of tinnitus and hyperacusis". Progress in Neurobiology. 111: 17–33. doi:10.1016/j.pneurobio.2013.08.002. PMID 24012803.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    71. Tyler, RS; Pienkowski, M; Roncancio, ER; Jun, HJ; Brozoski, T; Dauman, N; Dauman, N; Andersson, G; Keiner, AJ; Cacace, AT; Martin, N; Moore, BC (2014). (PDF). American Journal of Audiology. 23 (4): 402–19. doi:10.1044/2014_AJA-14-0010. PMID 25104073. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2018-05-09. สืบค้นเมื่อ 2017-09-23. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    72. Sherlock, LaGuinn P. (2005). "Estimates of Loudness, Loudness Discomfort, and the Auditory Dynamic Range: Normative Estimates, Comparison of Procedures, and Test-Retest Reliability". J Am Acad Audiol. 16: 85–100. doi:10.3766/jaaa.16.2.4.
    73. Sherlock, LP; Formby, C (2005). "Estimates of loudness, loudness discomfort, and the auditory dynamic range: normative estimates, comparison of procedures, and test-retest reliability". Journal of the American Academy of Audiology. 16 (2): 85–100. doi:10.3766/jaaa.16.2.4. PMID 15807048.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    74. Pienkowski, M; Tyler, RS; Roncancio, ER; Jun, HJ; Brozoski, T; Dauman, N; Coelho, CB; Andersson, G; Keiner, AJ; Cacace, AT; Martin, N; Moore, BC (2014). "A review of hyperacusis and future directions: part II. Measurement, mechanisms, and treatment". American Journal of Audiology. 23 (4): 420–36. doi:10.1044/2014_AJA-13-0037. PMID 25478787.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    75. McCombe, A; Baguley, D; Coles, R; McKenna, L; McKinney, C; Windle-Taylor, P (2001). (PDF). Clinical Otolaryngology and Allied Sciences. 26 (5): 388–93. doi:10.1046/j.1365-2273.2001.00490.x. PMID 11678946. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2017-09-24. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    76. . BBC News. 2015-12-02. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-12-04. สืบค้นเมื่อ 2015-12-02. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)
    77. Langguth, B; Goodey, R; Azevedo, A และคณะ (2007). "Consensus for tinnitus patient assessment and treatment outcome measurement: Tinnitus Research Initiative meeting, Regensburg, July 2006". Progress in Brain Research. Progress in Brain Research. 166: 525–36. doi:10.1016/S0079-6123(07)66050-6. ISBN 978-0444531674. PMC 4283806. PMID 17956816. Explicit use of et al. in: |authors= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    78. Meikle, MB; Stewart, BJ; Griest, SE และคณะ (2007). (PDF). Progress in Brain Research. Progress in Brain Research. 166: 511–21. doi:10.1016/S0079-6123(07)66049-X. ISBN 978-0444531674. PMID 17956815. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2017-09-25. Unknown parameter |deadurl= ignored (help); Explicit use of et al. in: |authors= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    79. Meikle, MB; Henry, JA; Griest, SE และคณะ (2012). (PDF). Ear and Hearing. 33 (2): 153–76. doi:10.1097/AUD.0b013e31822f67c0. PMID 22156949. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2017-01-25. Unknown parameter |deadurl= ignored (help); Explicit use of et al. in: |authors= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    80. Henry, JL; Wilson, PH (2000). The Psychological Management of Chronic Tinnitus: A Cognitive Behavioural Approach. Allyn and Bacon.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
    81. Landgrebe, M; Azevedo, A; Baguley, D; Bauer, C; Cacace, A; Coelho, C และคณะ (2012). "Methodological aspects of clinical trials in tinnitus: A proposal for international standard". Journal of Psychosomatic Research. 73 (2): 112–21. doi:10.1016/j.jpsychores.2012.05.002. PMC 3897200. PMID 22789414. Explicit use of et al. in: |authors= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    82. Pegge, S; Steens, S; Kunst, H; Meijer, F (2017). "Pulsatile Tinnitus: Differential Diagnosis and Radiological Work-Up". Current Radiology Reports. 5 (1): 5. doi:10.1007/s40134-017-0199-7. PMC 5263210. PMID 28203490.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    83. Hofmann, E; Behr, R; Neumann-Haefelin, T; Schwager, K (2013). "Pulsatile tinnitus: imaging and differential diagnosis". Deutsches Arzteblatt International. 110 (26): 451–58. doi:10.3238/arztebl.2013.0451. PMC 3719451. PMID 23885280.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    84. Sismanis, A (2011). (PDF). Current Opinion in Otolaryngology & Head and Neck Surgery. 19 (5): 348–57. doi:10.1097/MOO.0b013e3283493fd8. PMID 22552697. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2017-09-25. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    85. Elder, JA; Chou, CK (2003). "Auditory response to pulsed radiofrequency energy". Bioelectromagnetics. Suppl 6: S162-73. doi:10.1002/bem.10163. PMID 14628312.
    86. Lin, JC; Wang, Z (2007). "Hearing of microwave pulses by humans and animals: effects, mechanism, and thresholds". Health Physics. 92 (6): 621–28. doi:10.1097/01.HP.0000250644.84530.e2. PMID 17495664.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    87. ↑ Tunkel, D. E.; Bauer, C. A.; Sun, G. H.; Rosenfeld, R. M.; Chandrasekhar, S. S.; Cunningham, E. R.; Archer, S. M.; Blakley, B. W.; Carter, J. M.; Granieri, E. C.; Henry, J. A.; Hollingsworth, D.; Khan, F. A.; Mitchell, S.; Monfared, A.; Newman, C. W.; Omole, F. S.; Phillips, C. D.; Robinson, S. K.; Taw, M. B.; Tyler, R. S.; Waguespack, R.; Whamond, E. J. (2014-10-01). "Clinical Practice Guideline: Tinnitus". Otolaryngology - Head and Neck Surgery. 151 (2 Suppl): S1–S40. doi:10.1177/0194599814545325.
    88. Cianfrone, G; Pentangelo, D; Cianfrone, F; Mazzei, F; Turchetta, R; Orlando, MP; Altissimi, G (2011). (PDF). European Review for Medical and Pharmacological Sciences. 15 (6): 601–36. PMID 21796866. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2017-08-08. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    89. Palomar García, V; Abdulghani Martínez, F; Bodet Agustí, E; Andreu Mencía, L; Palomar Asenjo, V (2001-07). "Drug-induced otoxicity: current status". Acta Oto-Laryngologica. 121 (5): 569–72. doi:10.1080/00016480121545. PMID 11583387. Check date values in: |date= (help)
    90. Seligmann, H; Podoshin, L; Ben-David, J; Fradis, M; Goldsher, M (1996). "Drug-induced tinnitus and other hearing disorders". Drug Safety. 14 (3): 198–212. doi:10.2165/00002018-199614030-00006. PMID 8934581.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    91. ↑ Hoare, D; Kowalkowski, V; Knag, S; Hall, D (2011). "Systematic review and meta-analyses of randomized controlled trials examining tinnitus management". The Laryngoscope. 121: 1555–64. doi:10.1002/lary.21825. PMC 3477633. PMID 21671234.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    92. Hesser, H; Weise, C; V, Zetterquist Westin; Andersson, G (2011). "A systematic review and meta-analysis of randomized controlled trials of cognitive-behavioral therapy for tinnitus distress". Clinical Psychology Review. 31 (4): 545–53. doi:10.1016/j.cpr.2010.12.006. PMID 21237544.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    93. Ost, LG (2014-10). "The efficacy of Acceptance and Commitment Therapy: an updated systematic review and meta-analysis". Behaviour Research and Therapy. 61: 105–21. doi:10.1016/j.brat.2014.07.018. PMID 25193001. Check date values in: |date= (help)
    94. Henry, J; Zaugg, T; Myers, P; Kendall, C (2012). . Progressive Tinnitus Management: Clinical Handbook for Audiologists. US Department of Veterans Affairs, National Center for Rehabilitative Auditory Research. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2013-12-20. สืบค้นเมื่อ 2013-12-20. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
    95. Baldo, P; Doree, C; Molin, P; McFerran, D; Cecco, S (2012-09-12). "Antidepressants for patients with tinnitus". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 9: CD003853. doi:10.1002/14651858.CD003853.pub3. PMID 22972065.
    96. Savage, J; Cook, S; Waddell, A (2009-11-12). "Tinnitus". Clinical Evidence. 2009. PMC 2907768. PMID 21726476.
    97. Pichora-Fuller, MK; Santaguida, P; Hammill, A; Oremus, M; Westerberg, B; Ali, U; Patterson, C; Raina, P (2013-08). "Evaluation and Treatment of Tinnitus: Comparative Effectiveness [Internet]". PMID 24049842. Cite journal requires |journal= (help); Check date values in: |date= (help)
    98. Lavigne, P; Lavigne, F; Saliba, I (2015-06-23). "Intratympanic corticosteroids injections: a systematic review of literature". European Archives of Oto-Rhino-Laryngology. 273: 2271–8. doi:10.1007/s00405-015-3689-3. PMID 26100030.
    99. Penney, SE; Bruce, IA; Saeed, SR (2006). "Botulinum toxin is effective and safe for palatal tremor: a report of five cases and a review of the literature". J Neurology. 253 (7): 857–60. doi:10.1007/s00415-006-0039-9. PMID 16845571.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    100. Sweetman, Sean C., บ.ก. (2009). Martindale (36th ed. ed.). Pharmaceutical Press. p. 2277. ISBN 9780853698401.CS1 maint: extra text (link)
    101. Langguth, B; Salvi, R; Elgoyhen, AB (2009-12). "Emerging pharmacotherapy of tinnitus". Expert opinion on emerging drugs. 14 (4): 687–702. doi:10.1517/14728210903206975. PMC 2832848. PMID 19712015. Check date values in: |date= (help)
    102. Hoare, DJ; Searchfield, GD; A, El Refaie; Henry, JA (2014). "Sound therapy for tinnitus management: practicable options". Journal of the American Academy of Audiology. 25 (1): 62–75. doi:10.3766/jaaa.25.1.5. PMID 24622861.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    103. Hobson, J; Chisholm, E; El Refaie, A (2012-11-14). "Sound therapy (masking) in the management of tinnitus in adults". Cochrane Database of Systematic Reviews. 11: CD006371. doi:10.1002/14651858.CD006371.pub3. PMID 23152235.
    104. Phillips, JS; McFerran, D (2010). "Tinnitus Retraining Therapy (TRT) for tinnitus". Cochrane Database of Systematic Reviews (3): CD007330. doi:10.1002/14651858.CD007330.pub2. PMID 20238353.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    105. Meng, Z; Liu, S; Zheng, Y; Phillips, JS (2011-10-05). "Repetitive transcranial magnetic stimulation for tinnitus". The Cochrane Database of Systematic Reviews (10): CD007946. doi:10.1002/14651858.CD007946.pub2. PMID 21975776.
    106. Güntensperger, D; Thüring, C; Meyer, M; Neff, P; Kleinjung, T (2017). "Neurofeedback for Tinnitus Treatment - Review and Current Concepts". Frontiers in Aging Neuroscience. 9: 386. doi:10.3389/fnagi.2017.00386. PMC 5717031. PMID 29249959.
    107. Hilton, MP; Zimmermann, EF; Hunt, WT (2013-03-28). "Ginkgo biloba for tinnitus". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 3: CD003852. doi:10.1002/14651858.CD003852.pub3. PMID 23543524.
    108. Person, Osmar C; Puga, Maria ES; da Silva, Edina MK; Torloni, Maria R (2016-11-23). . Cochrane Database of Systematic Reviews. doi:10.1002/14651858.cd009832.pub2. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2016-11-26. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)
    109. Sanchez, TG; Rocha, CB (2011). "Diagnosis and management of somatosensory tinnitus: review article". Clinics. 66 (6): 1089–94. doi:10.1590/S1807-59322011000600028. PMC 3129953. PMID 21808880.CS1 maint: uses authors parameter (link)
    110. Heller, AJ (2003). "Classification and epidemiology of tinnitus". Otolaryngologic Clinics of North America. 36 (2): 239–48. doi:10.1016/S0030-6665(02)00160-3. PMID 12856294.
    111. Celik, N; Bajin, MD; Aksoy, S (2009). (PDF). Journal of International Advanced Otology. Ankara, Turkey: Mediterranean Society of Otology and Audiology. 5 (3): 363–69. ISSN 1308-7649. OCLC 695291085. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2013-12-21. สืบค้นเมื่อ 2013-02-02. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)
    112. Mills, RP; Albert, D; Brain, C (1986). "Tinnitus in childhood". Clinical Otolaryngology and Allied Sciences. 11 (6): 431–34.
    113. Ballantyne, JC (2009). Graham, J; Baguley, D (บ.ก.). Ballantyne's Deafness (Seventh ed.). Chichester: Wiley-Blackwell. OCLC 275152841.CS1 maint: uses editors parameter (link)
    114. Shetye, A; Kennedy, V (2010). (PDF). Archives of Disease in Childhood. 95 (8): 645–48. doi:10.1136/adc.2009.168252. PMID 20371585. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2017-09-29. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)

    แหล่งอ้างอิงอื่น

    • Snow, JB Jr. (2008). Dallos, Peter; Oertel, Donata (บ.ก.). 3.18 Tinnitus. The Senses: A Comprehensive Reference. 3: Audition. Elsevier. pp. 301–308.CS1 maint: uses editors parameter (link) CS1 maint: ref=harv (link)

    แหล่งข้อมูลอื่น

    การจำแนกโรค
    V · T · D
    ทรัพยากรภายนอก
    • MedlinePlus: 003043
    • eMedicine: ent/235
    • Patient UK: เสียงในหู
    คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ:
    เสียงในหู
    • "Tinnitus". London, UK: Deafness Research UK. 2012-10-22. สืบค้นเมื่อ 2012-11-02. Information about Tinnitus and the latest research work being done.*Baguley, David; Andersson, Gerhard; McFerran, Don; McKenna, Laurence (2013-03) [2004]. Tinnitus: A Multidisciplinary Approach (2nd ed.). Indianapolis, IN, USA: Wiley-Blackwell. ISBN 978-1-4051-9989-6. LCCN 2012032714. OCLC 712915603. Check date values in: |date= (help)
    • Hogan, Kevin; Battaglino, Jennifer (2010-05) [1998]. Tinnitus: Turning the Volume Down (Revised & Expanded ed.). Eden Prairie, MN, USA: 3000 Publishing. ISBN 9781934266038. OCLC 779877737. Check date values in: |date= (help)
    • Langguth, B.; Hajak, G.; Kleinjung, T.; Cacace, A.; Møller, A.R., บ.ก. (2007-12). Tinnitus : pathophysiology and treatment. Progress in brain research. 166 (1st ed.). Amsterdam ; Boston: Elsevier. ISBN 9780444531674. LCCN 2012471552. OCLC 648331153. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2007. สืบค้นเมื่อ 2012-11-05. Unknown parameter |deadurl= ignored (help); Check date values in: |date= (help)
    • Møller, Aage R; Langguth, Berthold; Ridder, Dirk; และคณะ, บ.ก. (2011). Textbook of Tinnitus. New York, NY, USA: Springer. doi:10.1007/978-1-60761-145-5. ISBN 9781607611448. LCCN 2010934377. OCLC 695388693 , 771366370 and 724696022. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2011. สืบค้นเมื่อ 2012-11-05. Unknown parameter |deadurl= ignored (help) (ต้องรับบริการ)
    • Tyler, Richard S. (2000). Tinnitus Handbook. A Singular audiology textbook. San Diego, CA, USA: Singular Publishing Group. ISBN 9781565939226. OCLC 471533235.

    กันยายน 06, 2021
    เส, ยงในห, บทความน, กล, าวถ, เส, ยงท, ได, นแต, ไม, จร, นอกร, างกาย, งอาจเป, นอาการของโรค, สำหร, เส, ยงซ, งห, นในสร, างข, นโดยกลไกการทำงาน, เส, ยงจากห, งกฤษ, tinnitus, เป, นเส, ยงท, ได, นแต, ไม, จร, นอกร, างกาย, โดยสามารถแบ, งเป, นแบบท, เส, ยงจร, หร, อแบบไม, แม. bthkhwamniklawthung esiyngthiidyinaetimmicring nxkrangkay sungxacepnxakarkhxngorkh sahrb esiyngsunghuchninsrangkhunodyklikkarthangan duthi esiyngcakhu esiynginhu 6 xngkvs Tinnitus epnesiyngthiidyinaetimmicring nxkrangkay 1 7 odysamarthaebngepnaebbthimiesiyngcring hruxaebbimmi 7 aembxykhrngcaxthibaywa huxuxhruxesiyngdngehmuxnothrsphth krading nalikapluk aetkxacepnesiyngkrxbaekrb esiyngfx hruxesiyngkrahum dngln 2 odynxykhrngmakthiepnesiyngkhnhruxesiyngdntri 3 esiyngxackhxyhruxdng tahruxsung xacmacakephiynghukhangediywhruxthngsxngkhang 2 dngepnbangkhrngbangkhrawhruxdngtlxd 8 odypktiaelw xakarcakhxy ekid 3 inkhnikhbangkhn esiyngcathaihsumesrahruxkngwl aelasamarthkwnsmathi 2 esiynginhuesiynginhubxykhrngmixakaridyinesiyngdngkring khxngnalikapluk othrsphthkarxxkesiyng ˈ t ɪ n ɪ t e s hrux t ɪ ˈ n aɪ t e s sakhawichaostsxnasikwithya ostwithyaxakaridyinesiyngthng thiimmiesiyngphaynxkrangkaycring 1 phawaaethrksxnsumesra witkkngwl immismathi 2 kartngtnkhxy ekid 3 saehtukaresiykaridyinehtuesiyngdng kartidechuxinhu orkhrabbhwichlxdeluxd orkhemniaeyr enuxngxkinsmxng ekhriyd 2 4 withiwinicchykhunxyukbxakar kartrwckaridyin kartrwcprasath 1 3 karrksaihkhaaenana pruksa ichekhruxngsrangesiyng ichekhruxngchwyfng 2 5 khwamchuk 12 5 5 karmiesiynginhuimichorkhaetepnxakarthixacmiehtuidhlayxyang 2 ehtusamythisudxyanghnungkkhuxkaresiykaridyinehtuesiyngdng 2 ehtuxun rwmthngkartidechuxinhu orkhhlxdeluxdaelahwic orkhemniaeyr enuxngxkinsmxng ekhriyd karidrbyabangxyang karbadecbthisirsainxdit aelakhihu 2 9 4 epnxakarthisamymakkwainphuthisumesra 3 karwinicchyxakarnimkcakhunxyukbkhabxkkhxngkhnikh aemkmiaebbkhathamhlayaebbthipraeminwakaridyinesiynginhurbkwninchiwitpracawnaekhihndwy 3 aelakmiwithikartrwckaridyin audiogram tlxdthungkartrwcthangprasath 1 3 thaphbpyhaxair aephthyxactrwcodyduphaphechnthithaodyexmxarix kartrwcsxbxun xacchwy echn inkrnithiesiynginhuekidtamcnghwakaretnhwic inbangkhrngbangkhraw aephthythiichhufngtrwcxacidyinesiyngcring sunginkrninikcaepnaebbthimiesiyngcring 3 withikarpxngknkkhuxeliyngesiyngdng 2 thamiehtuthiepnmulthan karrksaehtunnxacthaihxakarnidikhun 3 thaimechnnnaelw karrksapkticaepnkarpruksakbcitaephthy khuykbnkcitwithya 5 ephuxhawithildkarisic karsanukthungesiynginhu 10 aemkarelndntriephuxklbesiyng 11 hruxxupkrnsrangesiyngklb hruxekhruxngchwyfng kxacchwybangkrni 2 cnthungpi 2013 yngimmiyathimiprasiththiphl 3 epnxakarthisamy khuxekidkbprachakrpraman 10 15 aetkhnswnmakcathnrbidaelaepnpyhasakhyaekbukhkhlephiyngaekh 1 2 5 khaphasaxngkvswa tinnitus macakphasalatin khux tinnire sunghmaykhwamwa tirakhng thaesiyng 3 enuxha 1 xakar 1 1 kardaeninkhxngorkh 1 2 citic 2 ehtu 2 1 aebbimmiesiyngcring subjective 2 1 1 karesiykaridyin 2 1 2 pccy 2 2 aebbmiesiyngcring objective 2 3 aebbepncnghwa pulsatile 3 klikkhxngxakar 4 karwinicchy 4 1 ostwithya 4 2 citswnsastr 4 3 khwamrunaerng 4 4 aebbepncnghwa 4 5 karwinicchyaeykorkh 5 karpxngkn 6 karrksa 6 1 citwithya 6 2 ya 6 3 karrksawithixun 6 4 yasmuniphr 7 phyakrnorkh 8 khwamrabad 8 1 phuihy 8 2 edk 9 duephim 10 echingxrrthaelaxangxing 10 1 aehlngxangxingxun 11 aehlngkhxmulxunxakar aekikhesiynginhuxacidyincakhukhangediyw thngsxngkhang hruxwacakphayinsirsa khaphasaxngkvswa tinnitus epnkhabnglksnakhxngesiyngphayinsirsakhxngbukhkhlemuximmitwkratunthanghucring sungepnesiynghlayxyangaetthikhnikhbxkmakthisudkkhuxepnesiyngsungtaesiyngediyw aempktikhnikhcabxkwaepnesiyngehmuxntirakhng esiyngothrsphth aetinkhnikhxun caepnesiyngsunghnging esiynghung ehmuxninsayif esiyngfu esiynghm esiyngehmuxnlubaekwkhristl esiyngphiwpak esiyngnalika esiyngaekk esiyngdngkrahum esiyngcinghrid esiyngkbtnim esiyngtkaetn esiyngckcn thanxngephlng esiyngbip esiyngaech ehmuxnkratharxn esiyngkhlay esiyngkhn esiyngsungtaediywyaw echndngthiichephuxthdsxbkaridyin yngmikhnikhbxkdwywaepnesiynglmhruxesiyngkhlun 12 13 14 5 esiynginhuxaccaidyinepnkhrngepnkhrawhruxxaccaidyinxyangtxenuxng inkrnihlng nixacthaihepnthukkhmak inkhnikhbangkhn khwamdngkhxngesiyngxacepliyntamkarekhluxnihwkhxngihl sirsa lin khakrrikr aelata 15 khnikhodymakthiidyinesiynginhucaesiykaridyinipaelwepnbangswn 16 khuxbxykhrngcaimsamarthidyinxyangchdecnsungesiyngcring phaynxkrangkaythixyuinphisykhwamthiediywknkbesiyngthiidyininhu 17 sungthaihmikaresnxwa ehtuxyanghnungkhxngesiynginhuxaccaepnkartxbsnxngephuxtharngdul khxngesllprasathkaridyinin dorsal cochlear nucleus sungthaihmnthanganmakekinephuxchdechyesiyngthikhadhayipephraaimidyin 18 esiyngxacdngepnephiyngesiyngphunhlngkhxy cnkrathngepnesiyngthiyngidyinaememuxesiyngphaynxkdngmak esiynginhuaebbhnungthieriykwaesiynginhuetnepncnghwa pulsatile tinnitus epnkaridyinesiyngchiphcrhruxkarhdekrngklamenuxkhxngtnexng sungpktiepnesiyngcakkarkhybklamenuxikl hu hruxkarepliynaeplngphayinchxnghu hruxesiyngekiywkbkarihlewiynkhxngeluxdphayinkhxhruxibhna 19 kardaeninkhxngorkh aekikh enuxngcakkhwamtang inkarxxkaebbngansuksa khxmulekiywkbkardaeninkhxngorkhcungimkhxykhngesnkhngwa odythwip khwamchukkhxngorkhcaephimkhuntamxayuinphuihy swnkhwamrakhaytxesiyngthwipcaldipexng 20 21 22 citic aekikh esiynginhuaebbkhngyunxacthaihwitkkngwlaelasumesra 23 24 sphaphciticepnpccyihrakhayesiyngyingkwakhwamdngaelakhwamthiesiyngthiidyin 23 25 26 phuthirusukrakhayesiynginhumakkwacamipyhathangciticxyangsamyrwmthngkhwamsumesra khwamwitkkngwl pyhakarnxn aelakarimmismathi 23 27 28 45 khxngkhnikhthimiesiynginhu camiorkhwitkkngwlinchwnghnungkhxngchiwit 29 nganthangcitwithyaidtrwcduptikiriyaodykhwamepnthukkhtxesiynginhu TDR ephuxxthibaywa thaimkhnikhcungmixakarrunaerngimethakn 27 nganaesdngwa emuxidyinesiynginhuepnkhrngaerk karsrangphawakhxngesiyngenuxngkbsingerathiimnayindiinewlann caechuxmesiynginhukbxarmnechinglb echn khwamklwaelakhwamwitkkngwl nganaesdngwa emuxidyinesiynginhuinchwngaerk mikarprbphawaechuxmesiyngkbxarmnthiimnayindi echnkhwamklwaelakhwamwitkkngwlthiekidtxbsnxngtxsingerainewlann sungephimkarthangankhxngrabblimbikaelarabbprasathxisra aelwcungephimkhwamsanukaelakhwamrakhaytxesiynginhu 30 ehtu aekikhmiesiynginhusxngaebbkhuxaebbimmiesiyngcring khuxepnxtwisy aelaaebbmiesiyngcring khuxthiepnprwisy 3 aetodypkticaepnaebbimmiesiyngcring subjective tinnitus khuxkhnxunimsamarthidyinid 3 aebbimmiesiyngcringxaceriykepnkhaphasaxngkvsxun rwmthng tinnitus aurium nonauditory tinnitus aela nonvibratory tinnitusxyangirkdi inbangkrnisungnxymak khnxunxaccaidyinesiynginhukhxngphumixakarodyichxupkrn echn hufngaephthyepntn aelainbangkrnisungimnxythungkhnadnn aetkyngimsamy esiyngthiwasamarthwddwyimkhnxkhuodyepnesiyngcakhu SOAE nikcaepnaebbmiesiyngcring objective tinnitus 3 sungeriykepnkhaphasaxngkvsxun rwmthng pseudo tinnitus aela vibratory tinnitus aebbimmiesiyngcring subjective aekikh esiynginhuaebbimmiesiyngcringekidbxysud sungmiehtuhlayxyang aetthisamythisudkephraaesiykaridyin emuxekidcakorkhinhuchninhruxprasathhu auditory nerve nicaeriykwa otic tinnitus odykhawa otic macakkhaphasakrikaeplwa hu 31 sungepnphawathangostwithyahruxthangprasathwithyathixaccudchnwnodykartidechuxhruxya 13 aetehtuesiykaridyinthiekidbxysudkkhux karidrbesiyngdngekinsungthalayesllkhninhuchnin aelwkxesiynginhuemuxpraktwa esiynginhuimekiywkborkhinhuchninhruxprasathhu xakarkcaeriykwa nonotic tinnitus inkhnikh 30 xakarcaidrbxiththiphlcakrabbrbkhwamrusukthangkay yktwxyangechn samarthephimhruxldesiyngodykhybibhna sirsa hruxkhx 32 odyaebbnikcasamartheriykiddwywa somatic tinnitus hrux craniocervical tinnitus ephraakarkhybsirsaaelakhxethannthimiphl 31 mihlkthanephimkhuneruxy thiaesdngnywa esiynginhuepnphlkhxngkarepliynaeplngaebbphlastikkhxngrabbprasathklangekiywkbkaridyin sungechuxwaekidcakkhxmulthangprasathsmphsthiepliynipenuxngcakkaresiykaridyin 33 khux karesiykaridyincaepliynkartxbsnxngephuxtharngdul homeostatic response phayinrabbprasathklang aelwkxesiynginhu 34 karesiykaridyin aekikh ehtusamythisudkhxngesiynginhukkhuxkaresiykaridyinephraaidrbesiyngdngmakekinip aetkaresiykaridyinkxacxyuinrupaebbthixaphrangiw echn inkhnthithdsxbwaidyinepnpkti 34 karesiykaridyinyngmiehtutang kndwy inbrrdakhnikhthimiesiynginhu ehtuhlkkkhuxkhwamesiyhaythikhxekhliy 33 yathiepnphistxhusamarthepnehtuihekidesiynginhuthiimmicring ephraamnsamarththaihesiykaridyin hruxephimkhwamesiyhaythimixyuaelwenuxngcakkaridrbesiyngdng aelaxacekidaememuxichyainkhnadthiphicarnawaimepnphistxhu 35 yakwa 260 chnidmiraynganwa miphlkhangekhiyngepnesiynginhu 36 esiynginhuyngxacekidemuxhyudichyaebnosidxaesphinaeminkhnadthiichrksaorkh sungbangkhrngepnxakaryudeyuxkhxngkarkhadyaodyxackhngyunepnewlahlayeduxn 37 38 xyangirkdi esiynginhuinkrnicanwnmakkhasaehtuimid 2 pccy aekikh pccytang thixacmiswnihekidesiynginhurwmthng 39 pyhahuaelakaresiykaridyin karesiykaridyinenuxngcaksuxnaesiyng acoustic shock epnxakarthiekidemuxidyinesiyngdngaebbimkhadhwng esiyngdng 40 huchnklangxkesb huxkesb otitis otosclerosis otospongiosis epnkarecriyphidpktikhxngkradukiklhuchnklang karthanganphidpktikhxngthxhu sensorineural hearing loss epnkaresiykaridyinenuxngkbxwywahruxokhrngsranginhuchnin hruxesnprasathsmxngesnthi 8 hruxrabbprasathswnxun esiyngdng hutungehtusungxayu orkhemniaeyr karbwmnaexnodlimf endolymphatic hydrops superior canal dehiscence epnxakarminxythimiphltxkaridyinaelakarthrngtw ekidcakkarkrxnhruxkarimmikradukkhmbehnuxhlxdkungwngklmswnbnkhxngrabbkarthrngtw enuxngxkimraykhxngesllplxkimxilinthiesnprasathsmxngesnthi 8 Vestibular schwannoma sungthaihesiykaridyin ekidxakarni thrngtwidimdi mipyhakhwamdninhu xmphvksxmphatthiibhna prxthhruxtakwepnphis yathiepnphistxhupyhathangprasath Arnold Chiari malformation epnkhwamphidpktithangokhrngsrangkhxngsmxngnxy orkhplxkprasathesuxmaekhng karbadecbthisirsa temporomandibular joint dysfunction epnkarecbaelakarthanganphidpktikhxngklamenuxthiichekhiywaelakhxngkhxtxkhakrrikr giant cell arteritis epnkarxkesbkhxngesneluxdkhnadihyaelakhnadklanginsirsa odyechphaathisakha external carotid artery orkhthangemaethbxlisum karkhadwitaminbi12 41 phawaeluxdcangehtukhadthatuehlk khwamphidpktithangcitewch orkhsumesra orkhwitkkngwl pccyxun hlxdeluxdxkesb epnklumorkhthithalayesneluxdodykarxkesb sarkxxakarorkhcit prasathhlxn thikxesiynginhuchwkhrawodyepnphlkhangekhiyng 5 MeO DET 42 diisopropyltryptamine DiPT 43 karkhadyaebnosidxaesphin 37 38 khwamdninkaohlksirsa thitahruxsungekinodymiehtutang echn smxngxkesbhruxnahlxsmxngikhsnhlngrw aebbmiesiyngcring objective aekikh esiynginhuaebbmiesiyngcring khnxunksamarthidyin aelabangkhrngcamiehtucakklamenuxkratukrw hruxehtuthanghlxdeluxdtang bangkrnixacekidcakklamenuxkratukrxb huchnklang 44 miklikltharngdulthichwyaekpyhaniphayinhnungnathihlngekidkhun odypkticaekidphrxmkbkarldkhwamiwesiyngaelahuxux 45 esiyngcakhu SOAE sungepnesiyngkhwamthisungeba thisranginhuchnin aelasamarthwdthichxnghudwyimkhiwesiyng ksamarththaihekidesiynginhuiddwy 46 praeminwa canwnkhxngphumiesiynginhuthienuxngkb SOAE xyuthi 4 46 aebbepncnghwa pulsatile aekikh bangkhnidyinesiyngetnepncnghwakhukbchiphcrkhxngtn cungeriykwa pulsatile tinnitus hrux vascular tinnitus 47 48 epnesiynginhuthimicring epnphlkhxngkarihlewiynkhxngeluxdthiepliynip khuxekidkhwampnpwnikl hu odymiehtuechn orkhhlxdeluxdaedngaekhngaelaesiynghminesneluxdda venous hum 49 aetkxacepnesiyngthiimmicring sungekidcakkarsanukephimkhunthungkarihlewiynkhxngeluxdinhu 47 48 nxykhrngmakthiesiynginhuaebbepncnghwacaepnxakarkhxngsphawathiepnxntraytxchiwit echn hlxdeluxdaedngaekhrxthidopngphxng 50 hruxphnnghlxdeluxdaedngaekhrxthidlxk carotid artery dissection 51 esiynginhuaebbepncnghwaxacepntwbngchiphawahlxdeluxdxkesb odyechphaa giant cell arteritis xacepntwbngchikhwamdninkaohlksirsasungodyimthrabsaehtu IIH 52 hruxxacepnxakarkhxngkhwamphidpktithangesneluxdinkaohlksirsa echn sphawawirupkhxngesneluxdaedngaelaesneluxdda AVM 53 aeladngnncungkhwrtrwchaesiyngphidpktiinesneluxd bruit dwyklikkhxngxakar aekikhklikthiepnipidxyanghnungkhxngxakarkkhux esiyngcakhu khux huchninmiesllkhnepnphn odyesllkhnchnin IHC caepntwtrwccbesiyng aelaesllkhnchnnxk OHC caepliynaerngsnthiidrbbwkkbsyyancakrabbprasathklang ihipepnaerngdungthaiheyuxkhlumthithanekidkhwamaekhngxxnimethakn odyxacepnkrabwnkarkhyayesiyng odyechphaaemuxesiyngeba kartrwccbesiyngcaechuxmkbklikthiephimhruxldkarsnkhxngeyuxepnkrabwnkarpxnklbphanrabbprasathklang 54 45 sungkarpxnklbnipkticaprbihnxykwacudthicathaiheyuxsnexngephiyngelknxy cungthaihsamarthrbesiyngidiwaelaechphaaecaacngxyangnaxscrry aetthamixairepliynip kxacthaihkhapxnklbkhamcudthithaihekidkarsnexngidngay dngnn cungekidesiynginhukhun 55 45 klikthiepnipidxikxyanghnungkkhuxkhwamesiyhaytxesllrbesiyng esllniaemcasamarthsrangkhunihmidcak Deiters cells sungepnesllsnbsnunthixyukhang thaesiyhayinstwpik stweluxykhlan aelastwsaethinnasaethinbk aetkechuxwa instweliynglukdwynm caekidkhuninchwngkarekidexmbrioxethann khuxaem Deiters cell khxngstweliynglukdwynmcasamarthsrangesllkhunihmaelaxyuintaaehnngthiehmaa aetkyngimekhyphbwamnepliynklayepn esllrbesiyngykewninkarthdlxngthiephaaenuxeyux 56 57 dngnn thaesllkhnekidesiyhay echn ephraaidrbesiyngdngekin huxaccatungtxesiyngkhwamthibangchwng aetemuxekidxakaresiynginhu esllxaccasngkhxmulwamiesiyngphaynxkthikhwamthihnung sungkhwamcringimmixyangirkdi klikkhxngesiynginhuaebbimmiesiyngcringbxykhrngimchdecn aemcaimnaaeplkicwa karbadecbthihuchninodytrngcakxxakarni aetehtuxun thiprakt echn temporomandibular joint dysfunction aelaorkhfnxun kxthibayidyaknganwicyidesnxihaebngesiynginhuaebbimmiesiyngcringepnsxnghmwd khux otic tinnitus esiynginhuehtuhu sungekidcakphawa orkhtang inhuchninhruxesnprasathhu aela somatic tinnitus esiynginhuehtukay sungekidcakphawa orkhnxkhuaelaprasathhuodyyngekidphayinsirsahruxkhx aelaidihsmmtithanephimkhundwywa esiynginhuehtukay xacekidcaksyyanaethrkkhamwngcrprasathphayinsmxng ephraaesnprasathsirsaaelakhxwingekhaipinsmxngiklbriewnthimibthbathinkaridyin 58 xakarxacmiehtucakkarthanganthangprasathsungephimkhuninkansmxngswnthipramwlsyyanesiyng aelwthaihesllprasathkaridyinbangswnthanganmakekin multhankhxngthvsdinikkhux khnodymakthimixakarniidesiykaridyinipodybangswn 16 aelakhwamthiesiyngthiphwkekhaimidyin caiklkbkhwamthikhxngesiynginhuthiimmicring 17 aebbcalxngkhxngkaresiykaridyinaelasmxng snbsnunixediywa kartxbsnxngaebbtharngdulkhxngniwekhliysprasath dorsal cochlear nucleus caepnehtuihphwkmnthanganekinephuxchdechykhxmulesiyngthiimmixiktxip 18 xyangirkdi nganthbthwnwrrnkrrmpi 2016 samngamennwa miorkhepncanwnmakaemthiekidrwmknsungxacmibthbathkbesiynginhu aelathitxngprbkarbabdihekhakbxakartang odyechphaa 59 60 61 karwinicchy aekikhaemesiynginhuxaccaepnxakarhlkthikhnikhbxk aephthyhukhxcmukkmkcatrwcrangkayephuxhasaehtuthirksaid echn kartidechuxinhuchnklang enuxngxkthiprasathhu Vestibular schwannoma karkraaethkkraethuxn kradukngxkiklhuchnklang epntn kxnthdsxbkaridyinkhxngkhnikh 62 esiynginhucapraemindwykartrwclksnakaridyin audiogram echn khwamthumaehlmaelakhwamdngepntn bwkkbkarpraeminpyhathangcitthiekidrwmknechn khwamsumesra khwamwitkkngwl aelakhwamekhriydthismphnthkbkhwamrunaerngkhxngesiynginhukhxkahndwaxairepnesiynginhuaebberuxrng ethiybkbprasbkarnthimitamthrrmchati kkhuxkarmiesiynginhuxyangnxy 5 nathixyangnxy 2 khrngtxxathity 63 aetphuthimiesiynginhueruxrngbxykhrngkprasbpyhabxykwani odyxacmixyangtxenuxnghruxxyangepnpkti echn inewlaklangkhunsungesiynginsingaewdlxmminxyekinthicaklbesiynginhu ostwithya aekikh ephraaphumiesiynginhuodymakkesiykaridyindwy karthdsxbdwyesiyngsungtaediyw pure tone audiometry aesdngepnkrafkaridyin audiogram kxacchwywinicchyehtu thungaemkmiphuthiimesiykaridyindwyehmuxnknthimiesiynginhu krafkaridyinxacchwyihprbekhruxngchwyfngsahrbkhnthiesiykaridyinxyangsakhy odykhwamthumaehlmkhxngesiynginhubxykhrngcaxyuinphisyediywkbkaridyinthiesiyip citswnsastr aekikh radbkhwamdngthirusukimsbay LDL khxngklumkhnikhphawahuiwekinthiimesiykaridyin esnbn khiderimepliynkaridyinpkti esnlangyaw LDL khxngkhnikhklumni esnlangsn LDL khxngkhnpkti 64 karwdlksnatang khxngesiynginhurwmkhwamthumaehlmhruxkhwamthithaepnesiynginhuthiepnesiyngediyw hruxepnphisykhwamthiinkrniepnesiyngthikracayepnaethbkhwamthi khwamdngkhxngesiyngehnuxkhiderimidyinthikhwamthinn epnedsiebl aelaradbesiyngtasudthicaklbesiynginhunnidepntn 65 inkrniodymak phisykhwamthikhxngesiynginhucaxyuinrahwang 5 000 10 000 ehirts 66 aeladngrahwang 5 15 edsieblehnuxkhiderimidyin 67 twaeprthisakhyxikxyangkkhux residual inhibition sungepnkarrangbhruxkarhayipxyangchwkhrawkhxngesiynginhuhlngcakichesiyngklb masking rayahnung ephraakhawdnixacbngchiwa xupkrnsrangesiyngklbcamiprasiththiphaphinkarrksaaekhihn 68 69 aephthyxaccapraeminwamisphawaiwesiyngekin hyperacusis sungbxy ekidphrxmkbesiynginhudwyhruxim 70 71 singthiwdkkhux radbkhwamdngthirusukimsbay LDL odymihnwyepnedsiebl aelaepnradbkhwamdngehnuxkhiderimepliynkhxngkhwamthitang thimnusysamarthidyin epnphisykhwamtangrahwangkhiderimidyinthikhwamthinn kbkhwamdngthithaihimsbayphisykhwamtangthiaekhblnginphisykhwamthihnung echnni smphnthkbsphawaiwesiyngekinthiepnxtwisy 72 khiderimidyinpkti odythwipcakahndepn 0 20 edsiebl swnradbkhwamdngthithaihrusukimsbaypkticaxyuthi 85 90 edsieblodyminkwichakarthixangkhathung 100 edsiebl phisykhwamtangrahwangradbkhwamdngthiimsbaykbkhiderimidyinthi 55 edsieblhruxnxykwanncdwa epnsphawaiwesiyngekin 73 74 khwamrunaerng aekikh phawanibxykhrngcdradbkhwamrunaerngerimtngaet elknxy slight cnthung runaerngmak catastrophic tamphlthimnmi echn kwnkarnxn kwnkarphkphxn hruxkwnkickrrminchiwitpracawn 75 inkrnisud krnihnung chayphuhnungkhatwtayhlngcakhmxbxkwa rksaihhayimid 76 karpraeminthangcitwithyarwmthngkarwdkhwamrunaerngkhxngxakaraelakhwamthukkhthiekid echn lksnaaelakhwammaknxykhxngpyhaenuxngkbesiynginhu thiwdodyaebbkhathamsungidpraeminkhwamsmehtusmphlaelw 27 aebbkhathamehlaniwdkhwamthukkhthangicaelakhwamphikarthiekidenuxngcakesiynginhu rwmthngphltxkaridyin withichiwit aelacitic 77 78 79 xnung karpraeminkarichchiwitthwiprwmthngradbkhwamwitkkngwl khwamsumesra khwamekhriyd singthithaihekhriyd aelapyhakarnxn ksakhyinkarpraeminxakarnidwy ephraaesiynginhuxacmiphltxpyhaehlani hruxpyhaehlanixacthaihesiynginhuaeylng 80 odythwipaelw karpraeminthnghmdkephuxkahndradbkhwamthukkhaelakarrbkwnchiwittxbukhkhl kahndkartxbsnxngaelakarrbru khwamsanuktxesiynginhu ephuxprbwithikarrksaaelakarefasngektphl xyangirkdi ephraawithikarpraeminphlthiichtang kn bangkhrngkimsxdkhlxngkn aelaimmimtirwmkn dngthiphbinwrrnkrrmkaraephthytang cungthaihimsamarthepriybethiybprasiththiphlchx withikarrksatang id 81 aebbepncnghwa aekikh thaaephthytrwcphbesiyngthiekidcakeluxdthiihlxyangpnpwn bruit kartrwcodythaphaphechn transcranial doppler TCD hrux magnetic resonance angiography MRA xaccaepn 82 83 84 karwinicchyaeykorkh aekikh aehlngesiyngxun thifngkhlaykbesiynginhucatxngknxxk aehlngesiyngkhwamthisungthiruckkndirwmthngsnamaemehlkiffathiekidenuxngkbsayif tlxdcnwithikarsngsyyanesiyngtang eruxngthimkwinicchyphidephraakhlayesiynginhuxyanghnungkkhux esiyngkhlunwithyu khuxmikhnikhsungtrwcphbwasamarthidyinkhlunkhwamthiwithyuthimiesiyngaehlmaelafngkhlaykbesiynginhu 85 86 karpxngkn aekikh payetuxnihpxngknhutamkdhmaykhxngshrachxanackr karidrbesiyngdngnan xackxesiynginhu 87 dngnn karichxupkrnxudhuepntn kxacchwyyahlayxyangmiphistxhu odyxacephimkhwamesiyhaythiekidcakesiyngdng emuxichyathiepnphistxhu thaaephthyisicramdrawngkarichya echn khnadaelarayarahwangkaridya kcasamarthldkhwamesiyhayid 88 89 90 karrksa aekikhthamiehtuthiepnmulthan karrksaehtuxacthaihxakardikhun 3 imechnnnaelw withirksahlkcaepnkarpruksacitaephthyhruxkhuykbnkcitwithya 5 aelakarbabddwyesiyng sound therapy ephraayngimmiyathiidphl 3 citwithya aekikh karrksathimihlkthandisudsahrbesiynginhukkhuxkarbabdthangkhwamkhidaelaphvtikrrm CBT sungxacthaidthangxinethxrenthruxtwtxtw 5 91 sungchwyldkhwamekhriydenuxngkbesiynginhu 92 odypraoychnthiidduehmuxncaepnxisratanghakkbphlkarrksakhwamsumesrahruxkhwamwitkkngwl 91 karrksadwykaryxmrbaelakarihsyya ACT kduehmuxncamixnakhtinkarrksaxakarnidwy 93 aelaethkhnikhkarphxnkhlaykxacmipraoychn 3 krathrwngthharphansukshrth VA idphthnaraebiybkarrksaxakaresiynginhuthieriykwa Progressive Tinnitus Management 94 ya aekikh cnthungpi 2014 yngimmiyathiidphltxesiynginhuthiimthrabsaehtu 3 87 praoychnkhxngyaaeksumesrakyngimmihlkthanphx 95 hruxkhxng acamprosate sungpktiichrksakartidehla 96 aemcamihlkthanbangsahrbyaklumebnosidxaesphin aetkyngimphxephuxihich 3 yaknchkimpraktwamipraoychn 3 karchidsetxrxydekhainhuchnklangkduehmuxncaimmiprasiththiphldwy 97 98 karlxngchidchiwphisobthulinmduehmuxncaprasbkhwamsaercbanginkrnithimiesiynginhuaebbmiesiyngcringodymiehtucakephdanpaksn sungekidnxymak 99 ya caroverine kichdwyinpraethsimkipraethsephuxrksaxakarni 100 aethlkthanaesdngprasiththiphlkhxngyakxxnmak 101 karrksawithixun aekikh ekhruxngchwyfnghruxxupkrnsrangesiyngklb chwyihimsnicesiynginhuthikhwamthiodyechphaa aemcaepnwithithiimkhxymihlkthan aetkimmiphlesiy 3 102 103 mihlkthanebuxngtnsnbsnunkarrksaody tinnitus retraining therapy bang 3 104 swnkarkratunsmxngphankaohlkdwyaemehlk mihlkthansnbsnunnxymak 3 105 dngnn cungimaenana 87 odypi 2017 neurofeedback yngmihlkthancakdwamiphldihruxim 106 yasmuniphr aekikh aepakwy Ginkgo biloba ducaimmiphl 107 withyalyaephthyhukhxcmukxemrikn aenanaimihichxaharesrimkhuxemlaothninhruxsngkasiephuxbrrethaxakar 87 xnung nganthbthwnwrrnkrrmaebbkhxekhlnpi 2016 srupwa hlkthanimphxihthanxaharesrimkhuxsngkasiephuxbrrethaxakarthienuxngkbesiynginhu 108 phyakrnorkh aekikhaemcarksaihhaykhadimid phuthimiesiynginhupkticachinipexng khnikhswnnxyethannthiyngkhngepnpyhasakhy 5 khwamrabad aekikhphuihy aekikh esiynginhuekidinprachakrrxyla 10 15 5 khnxemrikaehnux 1 3 prasbkbxakarni 109 xakarcaekidkbphuihy 1 3 inchwngchiwit odyethiybkb 10 15 inbrrdakhnehlaniphumipyhaphxephuxiphahmx 110 edk aekikh esiynginhuechuxwa epnxakarinphuihy dngnn bxykhrngcungmxngkhaminedk edkthiesiykaridyinbxykhrngcamiesiynginhu aemcaimsamarthbxkwami hruxwamiphlxyangirtxchiwit 111 edkodythwipcaimbxkxakarniexng dngnnthabxkexng phuihyxaccaimkhxyfng 112 edkthibxkwamiesiynginhu camioxkassungkhuninkarmiorkhthanghuhruxthangprasaththiekiywkhxngkn echn imekrn orkhemniaeyrwyedk aelahuchnklangxkesbaebbmihnxngeruxrng 113 edkthimikhiderimidyinpktimikhwamchukorkhrahwang 12 36 aelainedkthiesiykaridyin 66 odyedk 3 10 cabxkwaesiyngrbkwnchiwit 114 duephim aekikhphawahuiwekin phltxsukhphaphcakesiyngechingxrrthaelaxangxing aekikh 1 0 1 1 1 2 1 3 Levine RA Oron Y 2015 Tinnitus Handbook of clinical neurology 129 pp 409 31 doi 10 1016 B978 0 444 62630 1 00023 8 PMID 25726282 2 00 2 01 2 02 2 03 2 04 2 05 2 06 2 07 2 08 2 09 2 10 2 11 Tinnitus 2014 09 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2015 06 19 subkhnemux 2015 05 22 Unknown parameter deadurl ignored help Check date values in date help 3 00 3 01 3 02 3 03 3 04 3 05 3 06 3 07 3 08 3 09 3 10 3 11 3 12 3 13 3 14 3 15 3 16 3 17 3 18 3 19 3 20 3 21 3 22 Baguley D McFerran D Hall D 2013 11 09 Tinnitus Lancet 382 9904 1600 07 doi 10 1016 S0140 6736 13 60142 7 PMID 23827090 4 0 4 1 Han BI Lee HW Kim TY Lim JS Shin KS 2009 03 Tinnitus characteristics causes mechanisms and treatments Journal of Clinical Neurology 5 1 11 19 doi 10 3988 jcn 2009 5 1 11 PMC 2686891 PMID 19513328 About 75 of new cases are related to emotional stress as the trigger factor rather than to precipitants involving cochlear lesions Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link 5 0 5 1 5 2 5 3 5 4 5 5 5 6 5 7 5 8 Langguth B Kreuzer PM Kleinjung T De Ridder D 2013 09 Tinnitus causes and clinical management Lancet Neurology 12 9 920 30 doi 10 1016 S1474 4422 13 70160 1 PMID 23948178 Check date values in date help Tinnitus sphthbyytixngkvs ithy ithy xngkvs chbbrachbnthitysthan khxmphiwetxr run 1 1 chbb 2545 aephthysastr esiynginhu 7 0 7 1 Snow 2008 3 18 1 Definition of Tinnitus p 303 Donnelly Kerry 2011 Kreutzer Jeffrey S DeLuca John Caplan Bruce b k Tinnitus Encyclopedia of Clinical Neuropsychology Springer p 2521 doi 10 1007 978 0 387 79948 3 ISBN 978 0 387 79947 6 CS1 maint uses editors parameter link Han BI Lee HW Kim TY Lim JS Shin KS 2009 03 Tinnitus characteristics causes mechanisms and treatments J Clin Neurol 5 1 11 19 doi 10 3988 jcn 2009 5 1 11 PMC 2686891 PMID 19513328 About 75 of new cases are related to emotional stress as the trigger factor rather than to precipitants involving cochlear lesions Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Lalwani Anil K Snow James B Jr 2001 29 DISORDERS OF SMELL TASTE AND HEARING in Braunwald Eugene Fauci Anthony S Kasper Dennis L Hauser Stephen L Longo Dan L Jameson J Larry b k Harrison s Principles of Internal Medicine 15th ed McGraw Hill HEARING DISORDERS OF THE SENSE OF HEARING Sensorineural Hearing Loss Tinnitus ISBN 0 07 007272 8 Missing or empty title help CS1 maint uses authors parameter link CS1 maint uses editors parameter link Harrison s Principles of Internal Medicine 2001 HEARING TREATMENT Signs of tinnitus Action on Hearing Loss subkhnemux 2018 08 19 13 0 13 1 Chan Y 2009 Tinnitus etiology classification characteristics and treatment Discovery Medicine 8 42 133 36 PMID 19833060 Tinnitus MedlinePlus NIH US National Library of Medicine 2016 05 18 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2018 07 28 Unknown parameter deadurl ignored help Simmons R Dambra C Lobarinas E Stocking C Salvi R 2008 Head Neck and Eye Movements That Modulate Tinnitus Seminars in Hearing 29 4 361 70 doi 10 1055 s 0028 1095895 PMC 2633109 PMID 19183705 16 0 16 1 Nicolas Puel C Faulconbridge RL Guitton M Puel JL Mondain M Uziel A 2002 Characteristics of tinnitus and etiology of associated hearing loss a study of 123 patients The International Tinnitus Journal 8 1 37 44 PMID 14763234 17 0 17 1 Knig O Schaette R Kempter R Gross M 2006 Course of hearing loss and occurrence of tinnitus Hearing Research 221 1 2 59 64 doi 10 1016 j heares 2006 07 007 PMID 16962270 18 0 18 1 Schaette R Kempter R 2006 Development of tinnitus related neuronal hyperactivity through homeostatic plasticity after hearing loss a computational model Eur J Neurosci 23 11 3124 38 doi 10 1111 j 1460 9568 2006 04774 x PMID 16820003 Tinnitus Ringing in the Ears Causes Symptoms Treatments Webmd com 2010 02 12 subkhnemux 2013 02 03 Baguley D g Andersson McFerran D McKenna L 2013 Tinnitus A Multidisciplinary Approach 2nd ed Blackwell Publishing Ltd pp 16 17 ISBN 978 1118488706 CS1 maint uses authors parameter link Gopinath B McMahon CM Rochtchina E Karpa MJ Mitchell P 2010 Incidence persistence and progression of tinnitus symptoms in older adults the Blue Mountains Hearing Study Ear and Hearing 31 3 407 12 doi 10 1097 AUD 0b013e3181cdb2a2 PMID 20124901 CS1 maint uses authors parameter link Shargorodsky J Curhan GC Farwell WR 2010 Prevalence and characteristics of tinnitus among US adults The American Journal of Medicine 123 8 711 18 doi 10 1016 j amjmed 2010 02 015 PMID 20670725 CS1 maint uses authors parameter link 23 0 23 1 23 2 Andersson G 2002 Psychological aspects of tinnitus and the application of cognitive behavioral therapy Clinical Psychology Review 22 7 977 90 doi 10 1016 s0272 7358 01 00124 6 PMID 12238249 CS1 maint uses authors parameter link Reiss M Reiss G 1999 Some psychological aspects of tinnitus Perceptual and Motor Skills 88 3 Pt 1 790 92 doi 10 2466 pms 1999 88 3 790 PMID 10407886 CS1 maint uses authors parameter link Baguley DM 2002 Mechanisms of tinnitus British Medical Bulletin 63 195 212 doi 10 1093 bmb 63 1 195 PMID 12324394 Henry JA Meikele MB 1999 Pulsed versus continuous tones for evaluating the loudness of tinnitus Journal of the American Academy of Audiology 10 5 261 72 PMID 10331618 CS1 maint uses authors parameter link 27 0 27 1 27 2 Henry JA Dennis KC Schechter MA 2005 General review of tinnitus Prevalence mechanisms effects and management Journal of Speech Language and Hearing Research 48 5 1204 35 doi 10 1044 1092 4388 2005 084 PMID 16411806 CS1 maint uses authors parameter link Davies A Rafie EA 2000 Epidemiology of Tinnitus in Tyler RS b k Tinnitus Handbook San Diego Singular pp 1 23 OCLC 42771695 CS1 maint uses authors parameter link Pattyn T Van Den Eede F Vanneste S Cassiers L Veltman DJ Van De Heyning P Sabbe BC 2015 Tinnitus and anxiety disorders A review Hear Res 333 255 65 doi 10 1016 j heares 2015 08 014 PMID 26342399 CS1 maint uses authors parameter link Jastreboff PJ Hazell JWP 2004 Tinnitus Retraining Therapy Implementing the neurophysiological model Cambridge Cambridge University Press OCLC 237191959 31 0 31 1 Robert Aaron Levine 1999 Somatic craniocervical tinnitus and the dorsal cochlear nucleus hypothesis American Journal of Otolaryngology 20 6 351 62 doi 10 1016 S0196 0709 99 90074 1 PMID 10609479 Rubinstein Barbara aelakhna 1990 Prevalence of Signs and Symptoms of Craniomandibular Disorders in Tinnitus Patients Journal of Craniomandibular Disorders 4 3 186 92 PMID 2098394 Explicit use of et al in authors help CS1 maint uses authors parameter link 33 0 33 1 Schecklmann Martin Vielsmeier Veronika Steffens Thomas Landgrebe Michael Langguth Berthold Kleinjung Tobias Andersson Gerhard 2012 04 18 Relationship between Audiometric Slope and Tinnitus Pitch in Tinnitus Patients Insights into the Mechanisms of Tinnitus Generation PLoS ONE 7 4 e34878 doi 10 1371 journal pone 0034878 34 0 34 1 Schaette R McAlpine D 2011 09 21 Tinnitus with a Normal Audiogram Physiological Evidence for Hidden Hearing Loss and Computational Model Journal of Neuroscience 31 38 13452 57 doi 10 1523 JNEUROSCI 2156 11 2011 Brown RD Penny JE Henley CM aelakhna 1981 Ototoxic drugs and noise Ciba Found Symp 85 151 71 PMID 7035098 Explicit use of et al in authors help CS1 maint uses authors parameter link Bekman Stas 6 What are some ototoxic drugs Stason org khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2012 10 19 subkhnemux 2012 10 26 Unknown parameter deadurl ignored help 37 0 37 1 Riba Michelle B Ravindranath Divy 2010 04 12 Clinical manual of emergency psychiatry Washington DC American Psychiatric Publishing Inc p 197 ISBN 978 1 58562 295 5 38 0 38 1 Delanty Norman 2001 11 27 Seizures medical causes and management Totowa N J Humana Press p 187 ISBN 978 0 89603 827 1 Crummer RW Hassan GA 2004 Diagnostic approach to tinnitus Am Fam Physician 69 1 120 06 PMID 14727828 CS1 maint uses authors parameter link Passchier Vermeer W Passchier WF 2000 Noise exposure and public health Environ Health Perspect 108 Suppl 1 Suppl 1 123 31 doi 10 2307 3454637 JSTOR 3454637 PMC 1637786 PMID 10698728 CS1 maint uses authors parameter link Stover editors Janos Zempleni John W Suttie Jesse F Gregory III Patrick J 2014 Handbook of vitamins Fifth edition ed Hoboken CRC Press p 477 ISBN 9781466515574 CS1 maint extra text authors list link Shulgin Alexander Shulgin Ann 1997 36 5 MEO DET TiHKAL the continuation Berkeley CA USA Transform Press ISBN 9780963009692 OCLC 38503252 subkhnemux 2012 10 27 Erowid Experience Vaults DiPT More Tripping amp Revelations 26540 Tinnitus American Academy of Otolaryngology Head and Neck Surgery 2012 04 03 subkhnemux 2012 10 26 45 0 45 1 45 2 What Causes Spontaneous Ringing In Our Ears ZidBits ZidBits Media 2013 02 26 subkhnemux 2015 03 19 46 0 46 1 Henry JA Dennis KC Schechter MA 2005 10 General review of tinnitus prevalence mechanisms effects and management Journal of Speech Language and Hearing Research 48 5 1204 35 doi 10 1044 1092 4388 2005 084 PMID 16411806 Check date values in date help 47 0 47 1 McFerran Don Magdalena Sereda Pulsatile tinnitus PDF Action on Hearing Loss Royal National Institute for Deaf People RNID subkhnemux 2018 07 22 48 0 48 1 Information and resources Our factsheets and leaflets Tinnitus Factsheets and leaflets RNID org uk subkhnemux 2012 10 26 Chandler JR 1983 Diagnosis and cure of venous hum tinnitus Laryngoscope 93 7 892 5 doi 10 1288 00005537 198307000 00009 PMID 6865626 Moonis G Hwang CJ Ahmed T Weigele JB Hurst RW 2005 Otologic manifestations of petrous carotid aneurysms AJNR Am J Neuroradiol 26 6 1324 27 PMID 15956490 CS1 maint uses authors parameter link Selim Magdy Caplan Louis R 2004 Carotid Artery Dissection Current Treatment Options in Cardiovascular Medicine 6 3 249 53 doi 10 1007 s11936 996 0020 z ISSN 1092 8464 PMID 15096317 lingkesiy txngrbbrikar Sismanis A Butts FM Hughes GB 2009 01 04 Objective tinnitus in benign intracranial hypertension An update The Laryngoscope 100 33 36 doi 10 1288 00005537 199001000 00008 CS1 maint uses authors parameter link Diamond Bruce J Mosley Joseph E 2011 Kreutzer Jeffrey S DeLuca John Caplan Bruce b k Arteriovenous Malformation AVM Encyclopedia of Clinical Neuropsychology Springer pp 249 252 doi 10 1007 978 0 387 79948 3 ISBN 978 0 387 79947 6 CS1 maint uses authors parameter link CS1 maint uses editors parameter link Purves Dale Augustine George J Fitzpatrick David Hall William C Lamantia Anthony Samuel McNamara James O White Leonard E b k 2008a 13 The Auditory System Neuroscience 4th ed Sinauer Associates Two Kinds of Hair Cells in the Cochlea p 330 ISBN 978 0 87893 697 7 CS1 maint uses editors parameter link Siegel J 2008 Dallos Peter Oertel Donata b k 3 15 Otoacoustic Emissions The Senses A Comprehensive Reference 3 Audition Elsevier 3 15 2 A Brief History of Otoacoustic Emission pp 239 240 Adding to his direct contributions the work of Gold was largely disregarded CS1 maint uses editors parameter link Yamasoba T Kondo K 2006 Supporting cell proliferation after hair cell injury in mature guinea pig cochlea in vivo Cell Tissue Res 325 1 23 31 doi 10 1007 s00441 006 0157 9 PMID 16525832 CS1 maint uses authors parameter link White PM Doetzlhofer A Lee YS Groves AK Segil N 2006 Mammalian cochlear supporting cells can divide and trans differentiate into hair cells Nature 441 7096 984 87 doi 10 1038 nature04849 PMID 16791196 CS1 maint uses authors parameter link Engmann Birk Ohrgerausche Tinnitus Ein lebenslanges Schicksal PTA Forum Supplement Pharmazeutische Zeitung 1997 July Moller AR 2016 Sensorineural Tinnitus Its Pathology and Probable Therapies International Journal of Otolaryngology 2016 2830157 doi 10 1155 2016 2830157 PMC 4761664 PMID 26977153 CS1 maint uses authors parameter link Sedley W Friston KJ Gander PE Kumar S Griffiths TD 2016 An Integrative Tinnitus Model Based on Sensory Precision Trends in Neurosciences 39 12 799 812 doi 10 1016 j tins 2016 10 004 PMC 5152595 PMID 27871729 CS1 maint uses authors parameter link Shore SE Roberts LE Langguth B 2016 Maladaptive plasticity in tinnitus triggers mechanisms and treatment Nature Reviews Neurology 12 3 150 60 doi 10 1038 nrneurol 2016 12 PMC 4895692 PMID 26868680 CS1 maint uses authors parameter link Crummer RW aelakhna 2004 Diagnostic Approach to Tinnitus Am Fam Physician 69 1 120 26 Explicit use of et al in last1 help Davis A 1989 The prevalence of hearing impairment and reported hearing disability among adults in Great Britain International Journal of Epidemiology 18 4 911 17 doi 10 1093 ije 18 4 911 Sheldrake J Diehl PU Schaette R 2015 Audiometric characteristics of hyperacusis patients Frontiers in Neurology 6 105 doi 10 3389 fneur 2015 00105 PMC 4432660 PMID 26029161 CS1 maint uses authors parameter link Henry JA 2000 Psychoacoustic Measures of Tinnitus J Am Acad Audiol 11 138 55 Vielsmeier V Lehner A Strutz J Steffens T Kreuzer PM Schecklmann M Landgrebe M Langguth B Kleinjung T 2015 The Relevance of the High Frequency Audiometry in Tinnitus Patients with Normal Hearing in Conventional Pure Tone Audiometry BioMed Research International 2015 302515 doi 10 1155 2015 302515 PMC 4637018 PMID 26583098 CS1 maint uses authors parameter link CE Basile Fournier P Hutchins S Hebert S 2013 Psychoacoustic assessment to improve tinnitus diagnosis PLOS One 8 12 e82995 Bibcode 2013PLoSO 882995B doi 10 1371 journal pone 0082995 PMC 3861445 PMID 24349414 CS1 maint uses authors parameter link Roberts LE 2007 Residual inhibition Progress in Brain Research Progress in Brain Research 166 487 95 doi 10 1016 S0079 6123 07 66047 6 ISBN 978 0444531674 PMID 17956813 CS1 maint uses authors parameter link Roberts LE Moffat G Baumann M Ward LM Bosnyak DJ 2008 Residual inhibition functions overlap tinnitus spectra and the region of auditory threshold shift Journal of the Association for Research in Otolaryngology 9 4 417 35 doi 10 1007 s10162 008 0136 9 PMC 2580805 PMID 18712566 CS1 maint uses authors parameter link Knipper M Van Dijk P Nunes I Ruttiger L Zimmermann U 2013 Advances in the neurobiology of hearing disorders recent developments regarding the basis of tinnitus and hyperacusis Progress in Neurobiology 111 17 33 doi 10 1016 j pneurobio 2013 08 002 PMID 24012803 CS1 maint uses authors parameter link Tyler RS Pienkowski M Roncancio ER Jun HJ Brozoski T Dauman N Dauman N Andersson G Keiner AJ Cacace AT Martin N Moore BC 2014 A review of hyperacusis and future directions part I Definitions and manifestations PDF American Journal of Audiology 23 4 402 19 doi 10 1044 2014 AJA 14 0010 PMID 25104073 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim PDF emux 2018 05 09 subkhnemux 2017 09 23 Unknown parameter deadurl ignored help CS1 maint uses authors parameter link Sherlock LaGuinn P 2005 Estimates of Loudness Loudness Discomfort and the Auditory Dynamic Range Normative Estimates Comparison of Procedures and Test Retest Reliability J Am Acad Audiol 16 85 100 doi 10 3766 jaaa 16 2 4 Sherlock LP Formby C 2005 Estimates of loudness loudness discomfort and the auditory dynamic range normative estimates comparison of procedures and test retest reliability Journal of the American Academy of Audiology 16 2 85 100 doi 10 3766 jaaa 16 2 4 PMID 15807048 CS1 maint uses authors parameter link Pienkowski M Tyler RS Roncancio ER Jun HJ Brozoski T Dauman N Coelho CB Andersson G Keiner AJ Cacace AT Martin N Moore BC 2014 A review of hyperacusis and future directions part II Measurement mechanisms and treatment American Journal of Audiology 23 4 420 36 doi 10 1044 2014 AJA 13 0037 PMID 25478787 CS1 maint uses authors parameter link McCombe A Baguley D Coles R McKenna L McKinney C Windle Taylor P 2001 Guidelines for the grading of tinnitus severity the results of a working group commissioned by the British Association of Otolaryngologists Head and Neck Surgeons 1999 PDF Clinical Otolaryngology and Allied Sciences 26 5 388 93 doi 10 1046 j 1365 2273 2001 00490 x PMID 11678946 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim PDF emux 2017 09 24 Unknown parameter deadurl ignored help CS1 maint uses authors parameter link James Jones s 80ft death jump after tinnitus torture BBC News 2015 12 02 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2015 12 04 subkhnemux 2015 12 02 Unknown parameter deadurl ignored help Langguth B Goodey R Azevedo A aelakhna 2007 Consensus for tinnitus patient assessment and treatment outcome measurement Tinnitus Research Initiative meeting Regensburg July 2006 Progress in Brain Research Progress in Brain Research 166 525 36 doi 10 1016 S0079 6123 07 66050 6 ISBN 978 0444531674 PMC 4283806 PMID 17956816 Explicit use of et al in authors help CS1 maint uses authors parameter link Meikle MB Stewart BJ Griest SE aelakhna 2007 Assessment of tinnitus measurement of treatment outcomes PDF Progress in Brain Research Progress in Brain Research 166 511 21 doi 10 1016 S0079 6123 07 66049 X ISBN 978 0444531674 PMID 17956815 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim PDF emux 2017 09 25 Unknown parameter deadurl ignored help Explicit use of et al in authors help CS1 maint uses authors parameter link Meikle MB Henry JA Griest SE aelakhna 2012 The tinnitus functional index development of a new clinical measure for chronic intrusive tinnitus PDF Ear and Hearing 33 2 153 76 doi 10 1097 AUD 0b013e31822f67c0 PMID 22156949 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim PDF emux 2017 01 25 Unknown parameter deadurl ignored help Explicit use of et al in authors help CS1 maint uses authors parameter link Henry JL Wilson PH 2000 The Psychological Management of Chronic Tinnitus A Cognitive Behavioural Approach Allyn and Bacon CS1 maint multiple names authors list link Landgrebe M Azevedo A Baguley D Bauer C Cacace A Coelho C aelakhna 2012 Methodological aspects of clinical trials in tinnitus A proposal for international standard Journal of Psychosomatic Research 73 2 112 21 doi 10 1016 j jpsychores 2012 05 002 PMC 3897200 PMID 22789414 Explicit use of et al in authors help CS1 maint uses authors parameter link Pegge S Steens S Kunst H Meijer F 2017 Pulsatile Tinnitus Differential Diagnosis and Radiological Work Up Current Radiology Reports 5 1 5 doi 10 1007 s40134 017 0199 7 PMC 5263210 PMID 28203490 CS1 maint uses authors parameter link Hofmann E Behr R Neumann Haefelin T Schwager K 2013 Pulsatile tinnitus imaging and differential diagnosis Deutsches Arzteblatt International 110 26 451 58 doi 10 3238 arztebl 2013 0451 PMC 3719451 PMID 23885280 CS1 maint uses authors parameter link Sismanis A 2011 Pulsatile tinnitus contemporary assessment and management PDF Current Opinion in Otolaryngology amp Head and Neck Surgery 19 5 348 57 doi 10 1097 MOO 0b013e3283493fd8 PMID 22552697 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim PDF emux 2017 09 25 Unknown parameter deadurl ignored help CS1 maint uses authors parameter link Elder JA Chou CK 2003 Auditory response to pulsed radiofrequency energy Bioelectromagnetics Suppl 6 S162 73 doi 10 1002 bem 10163 PMID 14628312 Lin JC Wang Z 2007 Hearing of microwave pulses by humans and animals effects mechanism and thresholds Health Physics 92 6 621 28 doi 10 1097 01 HP 0000250644 84530 e2 PMID 17495664 CS1 maint uses authors parameter link 87 0 87 1 87 2 87 3 Tunkel D E Bauer C A Sun G H Rosenfeld R M Chandrasekhar S S Cunningham E R Archer S M Blakley B W Carter J M Granieri E C Henry J A Hollingsworth D Khan F A Mitchell S Monfared A Newman C W Omole F S Phillips C D Robinson S K Taw M B Tyler R S Waguespack R Whamond E J 2014 10 01 Clinical Practice Guideline Tinnitus Otolaryngology Head and Neck Surgery 151 2 Suppl S1 S40 doi 10 1177 0194599814545325 Cianfrone G Pentangelo D Cianfrone F Mazzei F Turchetta R Orlando MP Altissimi G 2011 Pharmacological drugs inducing ototoxicity vestibular symptoms and tinnitus a reasoned and updated guide PDF European Review for Medical and Pharmacological Sciences 15 6 601 36 PMID 21796866 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim PDF emux 2017 08 08 Unknown parameter deadurl ignored help CS1 maint uses authors parameter link Palomar Garcia V Abdulghani Martinez F Bodet Agusti E Andreu Mencia L Palomar Asenjo V 2001 07 Drug induced otoxicity current status Acta Oto Laryngologica 121 5 569 72 doi 10 1080 00016480121545 PMID 11583387 Check date values in date help Seligmann H Podoshin L Ben David J Fradis M Goldsher M 1996 Drug induced tinnitus and other hearing disorders Drug Safety 14 3 198 212 doi 10 2165 00002018 199614030 00006 PMID 8934581 CS1 maint uses authors parameter link 91 0 91 1 Hoare D Kowalkowski V Knag S Hall D 2011 Systematic review and meta analyses of randomized controlled trials examining tinnitus management The Laryngoscope 121 1555 64 doi 10 1002 lary 21825 PMC 3477633 PMID 21671234 CS1 maint uses authors parameter link Hesser H Weise C V Zetterquist Westin Andersson G 2011 A systematic review and meta analysis of randomized controlled trials of cognitive behavioral therapy for tinnitus distress Clinical Psychology Review 31 4 545 53 doi 10 1016 j cpr 2010 12 006 PMID 21237544 CS1 maint uses authors parameter link Ost LG 2014 10 The efficacy of Acceptance and Commitment Therapy an updated systematic review and meta analysis Behaviour Research and Therapy 61 105 21 doi 10 1016 j brat 2014 07 018 PMID 25193001 Check date values in date help Henry J Zaugg T Myers P Kendall C 2012 Chapter 9 Level 5 Individualized Support Progressive Tinnitus Management Clinical Handbook for Audiologists US Department of Veterans Affairs National Center for Rehabilitative Auditory Research khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2013 12 20 subkhnemux 2013 12 20 Unknown parameter deadurl ignored help CS1 maint uses authors parameter link Baldo P Doree C Molin P McFerran D Cecco S 2012 09 12 Antidepressants for patients with tinnitus The Cochrane Database of Systematic Reviews 9 CD003853 doi 10 1002 14651858 CD003853 pub3 PMID 22972065 Savage J Cook S Waddell A 2009 11 12 Tinnitus Clinical Evidence 2009 PMC 2907768 PMID 21726476 Pichora Fuller MK Santaguida P Hammill A Oremus M Westerberg B Ali U Patterson C Raina P 2013 08 Evaluation and Treatment of Tinnitus Comparative Effectiveness Internet PMID 24049842 Cite journal requires journal help Check date values in date help Lavigne P Lavigne F Saliba I 2015 06 23 Intratympanic corticosteroids injections a systematic review of literature European Archives of Oto Rhino Laryngology 273 2271 8 doi 10 1007 s00405 015 3689 3 PMID 26100030 Penney SE Bruce IA Saeed SR 2006 Botulinum toxin is effective and safe for palatal tremor a report of five cases and a review of the literature J Neurology 253 7 857 60 doi 10 1007 s00415 006 0039 9 PMID 16845571 CS1 maint uses authors parameter link Sweetman Sean C b k 2009 Martindale 36th ed ed Pharmaceutical Press p 2277 ISBN 9780853698401 CS1 maint extra text link Langguth B Salvi R Elgoyhen AB 2009 12 Emerging pharmacotherapy of tinnitus Expert opinion on emerging drugs 14 4 687 702 doi 10 1517 14728210903206975 PMC 2832848 PMID 19712015 Check date values in date help Hoare DJ Searchfield GD A El Refaie Henry JA 2014 Sound therapy for tinnitus management practicable options Journal of the American Academy of Audiology 25 1 62 75 doi 10 3766 jaaa 25 1 5 PMID 24622861 CS1 maint uses authors parameter link Hobson J Chisholm E El Refaie A 2012 11 14 Sound therapy masking in the management of tinnitus in adults Cochrane Database of Systematic Reviews 11 CD006371 doi 10 1002 14651858 CD006371 pub3 PMID 23152235 Phillips JS McFerran D 2010 Tinnitus Retraining Therapy TRT for tinnitus Cochrane Database of Systematic Reviews 3 CD007330 doi 10 1002 14651858 CD007330 pub2 PMID 20238353 CS1 maint uses authors parameter link Meng Z Liu S Zheng Y Phillips JS 2011 10 05 Repetitive transcranial magnetic stimulation for tinnitus The Cochrane Database of Systematic Reviews 10 CD007946 doi 10 1002 14651858 CD007946 pub2 PMID 21975776 Guntensperger D Thuring C Meyer M Neff P Kleinjung T 2017 Neurofeedback for Tinnitus Treatment Review and Current Concepts Frontiers in Aging Neuroscience 9 386 doi 10 3389 fnagi 2017 00386 PMC 5717031 PMID 29249959 Hilton MP Zimmermann EF Hunt WT 2013 03 28 Ginkgo biloba for tinnitus The Cochrane Database of Systematic Reviews 3 CD003852 doi 10 1002 14651858 CD003852 pub3 PMID 23543524 Person Osmar C Puga Maria ES da Silva Edina MK Torloni Maria R 2016 11 23 Zinc supplements for tinnitus Cochrane Database of Systematic Reviews doi 10 1002 14651858 cd009832 pub2 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2016 11 26 Unknown parameter deadurl ignored help Sanchez TG Rocha CB 2011 Diagnosis and management of somatosensory tinnitus review article Clinics 66 6 1089 94 doi 10 1590 S1807 59322011000600028 PMC 3129953 PMID 21808880 CS1 maint uses authors parameter link Heller AJ 2003 Classification and epidemiology of tinnitus Otolaryngologic Clinics of North America 36 2 239 48 doi 10 1016 S0030 6665 02 00160 3 PMID 12856294 Celik N Bajin MD Aksoy S 2009 Tinnitus incidence and characteristics in children with hearing loss PDF Journal of International Advanced Otology Ankara Turkey Mediterranean Society of Otology and Audiology 5 3 363 69 ISSN 1308 7649 OCLC 695291085 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim PDF emux 2013 12 21 subkhnemux 2013 02 02 Unknown parameter deadurl ignored help Mills RP Albert D Brain C 1986 Tinnitus in childhood Clinical Otolaryngology and Allied Sciences 11 6 431 34 Ballantyne JC 2009 Graham J Baguley D b k Ballantyne s Deafness Seventh ed Chichester Wiley Blackwell OCLC 275152841 CS1 maint uses editors parameter link Shetye A Kennedy V 2010 Tinnitus in children an uncommon symptom PDF Archives of Disease in Childhood 95 8 645 48 doi 10 1136 adc 2009 168252 PMID 20371585 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim PDF emux 2017 09 29 Unknown parameter deadurl ignored help CS1 maint uses authors parameter link aehlngxangxingxun aekikh Snow JB Jr 2008 Dallos Peter Oertel Donata b k 3 18 Tinnitus The Senses A Comprehensive Reference 3 Audition Elsevier pp 301 308 CS1 maint uses editors parameter link CS1 maint ref harv link aehlngkhxmulxun aekikhkarcaaenkorkhV T DICD 10 H93 1ICD 9 CM 388 3MeSH D014012DiseasesDB 27662thrphyakrphaynxkMedlinePlus 003043eMedicine ent 235Patient UK esiynginhukhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb esiynginhu Tinnitus London UK Deafness Research UK 2012 10 22 subkhnemux 2012 11 02 Information about Tinnitus and the latest research work being done Baguley David Andersson Gerhard McFerran Don McKenna Laurence 2013 03 2004 Tinnitus A Multidisciplinary Approach 2nd ed Indianapolis IN USA Wiley Blackwell ISBN 978 1 4051 9989 6 LCCN 2012032714 OCLC 712915603 Check date values in date help Hogan Kevin Battaglino Jennifer 2010 05 1998 Tinnitus Turning the Volume Down Revised amp Expanded ed Eden Prairie MN USA 3000 Publishing ISBN 9781934266038 OCLC 779877737 Check date values in date help Langguth B Hajak G Kleinjung T Cacace A Moller A R b k 2007 12 Tinnitus pathophysiology and treatment Progress in brain research 166 1st ed Amsterdam Boston Elsevier ISBN 9780444531674 LCCN 2012471552 OCLC 648331153 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2007 subkhnemux 2012 11 05 Unknown parameter deadurl ignored help Check date values in date help Moller Aage R Langguth Berthold Ridder Dirk aelakhna b k 2011 Textbook of Tinnitus New York NY USA Springer doi 10 1007 978 1 60761 145 5 ISBN 9781607611448 LCCN 2010934377 OCLC 695388693 771366370 and 724696022 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2011 subkhnemux 2012 11 05 Unknown parameter deadurl ignored help txngrbbrikar Tyler Richard S 2000 Tinnitus Handbook A Singular audiology textbook San Diego CA USA Singular Publishing Group ISBN 9781565939226 OCLC 471533235 ekhathungcak https th wikipedia org w index php title esiynginhu amp oldid 9551297, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

    บทความ

    , อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม