โอกาเนสซอน
โอกาเนสซอน (อังกฤษ: Oganesson) เป็นชื่อที่ตั้งโดยสหภาพเคมีบริสุทธิ์และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศ สำหรับธาตุหลังแอกทิไนด์ที่มีเลขอะตอมเท่ากับ 118 และมีสัญลักษณ์คือ Og โอกาเนสซอนยังรู้จักกันในชื่อว่า เอคา-เรดอน หรือ ธาตุ 118 และบนตารางธาตุ มันถูกจัดให้อยู่ในบล็อก-p และเป็นธาตุตัวสุดท้ายบนคาบที่ 7 ปัจจุบัน โอกาเนสซอนเป็นธาตุสังเคราะห์เพียงตัวเดียวของธาตุหมู่ 18 มันยังเป็นธาตุที่มีเลขอะตอมและมวลอะตอมมากที่สุดเท่าที่ค้นพบในปัจจุบัน
ออกาเนสซอน | ||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ออกาเนสซอนในตารางธาตุ | ||||||||||||||||
ลักษณะปรากฏ | ||||||||||||||||
ไม่ทราบ | ||||||||||||||||
คุณสมบัติทั่วไป | ||||||||||||||||
ชื่อ สัญลักษณ์ และเลขอะตอม | ออกาเนสซอน, Og, 118 | |||||||||||||||
การออกเสียง | /ɒɡəˈnɛsɒn/ o-gə-nes-on | |||||||||||||||
อนุกรมเคมี | แก๊สมีตระกูล (คาดว่า) | |||||||||||||||
หมู่ คาบและบล็อก | 18 (แก๊สมีตระกูล), 7, p | |||||||||||||||
มวลอะตอมมาตรฐาน | [294] | |||||||||||||||
การจัดเรียงอิเล็กตรอน | [Rn] 5f14 6d10 7s2 7p6 (คาดว่า) 2, 8, 18, 32, 32, 18, 8 (คาดว่า) | |||||||||||||||
ประวัติ | ||||||||||||||||
การตั้งชื่อ | ตามชื่อยูริ ออกาเนสเซียน | |||||||||||||||
การทำนาย | นีลส์ บอร์ (1922) | |||||||||||||||
การค้นพบ | สถาบันร่วมเพื่อการวิจัยนิวเคลียร์ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ (2002) | |||||||||||||||
คุณสมบัติกายภาพ | ||||||||||||||||
สถานะ | ของแข็ง (คาดว่า) | |||||||||||||||
ความหนาแน่นของเหลวที่จุดหลอมเหลว | 4.9–5.1 (คาดว่า) g·cm−3 | |||||||||||||||
จุดเดือด | 350±30 K, 80±30 °C, 170±50 (คาดว่า) °F | |||||||||||||||
จุดวิกฤต | 439 K, 6.8 (extrapolated) MPa | |||||||||||||||
ความร้อนของการหลอมเหลว | 23.5 (คาดว่า) kJ·mol−1 | |||||||||||||||
ความร้อนของการกลายเป็นไอ | 19.4 (extrapolated) kJ·mol−1 | |||||||||||||||
คุณสมบัติอะตอม | ||||||||||||||||
สถานะออกซิเดชัน | −1, 0, +1, +2, +4, +6 (คาดว่า) | |||||||||||||||
พลังงานไอออไนเซชัน | ค่าที่ 1: 839.4 (คาดว่า) kJ·mol−1 | |||||||||||||||
ค่าที่ 2: 1563.1 (คาดว่า) kJ·mol−1 | ||||||||||||||||
รัศมีโควาเลนต์ | 157 (คาดว่า) pm | |||||||||||||||
จิปาถะ | ||||||||||||||||
เลขทะเบียน CAS | 54144-19-3 | |||||||||||||||
ไอโซโทปเสถียรที่สุด | ||||||||||||||||
บทความหลัก: ไอโซโทปของออกาเนสซอน | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
อ้างอิง |
อะตอมกัมมันตรังสีของโอกาเนสซอนมีความไม่เสถียรสูงมาก เนื่องด้วยค่ามวลที่สูง และนับตั้งแต่ พ.ศ. 2548 มีเพียงสามในสี่อะตอมของไอโซโทป 294Og ที่ถูกตรวจจับได้ แม้ว่านี่จะทำให้การสำรวจเพื่อระบุลักษณะสมบัติ และสารประกอบของธาตุเป็นไปได้ยาก แต่การคำนวณในทางทฤษฎีก็ไปตรงกับการทำนายจำนวนมาก รวมทั้งการคำนวณที่ไม่ได้ผลออกมาตรงกัน เช่น แม้ว่าโอกาเนสซอนจะอยู่ในหมู่ 18 มันอาจจะไม่ใช่แก๊สมีตระกูล ต่างกับธาตุอื่นๆในหมู่ 18 แต่เดิมมันถูกทำนายว่าเป็นแก๊ส ณ ภาวะมาตรฐาน แต่ปัจจุบัน มันถูกทำนายว่าจะเป็นของแข็ง เนื่องด้วยผลกระทบจากความสัมพันธ์ระหว่างธาตุเคมี
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2016 สหภาพเคมีบริสุทธิ์และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศได้เสนอชื่อ โอกาเนสซอน (oganesson; สัญลักษณ์ธาตุ Og) เป็นชื่อทางการของธาตุนี้ ชื่อ "โอกาเนสซอน" มาจากชื่อยูริ โอกาเนสเซียน นักฟิสิกส์นิวเคลียร์ชาวรัสเซีย
ประวัติ
การพยายามสังเคราะห์ที่ไม่ประสบผลสำเร็จ
ปลายปี พ.ศ. 2541 รอแบร์ต สมอลัญชุก นักฟิสิกส์ชาวโปแลนด์ ตีพิมพ์ผลการคำนวณของการหลอมรวมของนิวเคลียสอะตอมที่เกิดขึ้นระหว่างการสังเคราะห์ธาตุเคมีหนักยิ่งยวด รวมถึง อูนอูนออกเทียม การคำนวณของเขาให้ผลออกมาว่าเป็นไปได้ที่จะสร้างอูนอูนออกเทียมขึ้นมาจากการหลอมรวมตะกั่วและคริปทอนเข้าด้วยกัน ภายใต้ภาวะที่ถูกควบคุมไว้อย่างดี
ในปี พ.ศ. 2542 นักวิจัยที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอว์เรนซ์เบิร์กลีย์ ใช้การทำนายนี้สร้างอะตอมขึ้นมา และประกาศการค้นพบลิเวอร์มอเรียม และอูนอูนออกเทียม ในหนังสือ Physical Review Letters ต่อมาไม่นาน ผลการค้นพบก็ถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสารไซเอินซ์ นักวิจัยรายงานว่าเขาสร้างด้วยปฏิกิริยานี้
ปีต่อมา นักวิจัยได้ตีพิมพ์เอกสารเพิกถอนการค้นพบ หลังจากที่นักวิจัยในห้องปฏิบัติการอื่น ไม่สามารถสร้างอะตอมได้ด้วยวิธีเดียวกันนี้ และที่ห้องปฏิบัติการเบิร์กลีย์เองก็ไม่สามารถสร้างอะตอมขึ้นมาได้อีกครั้ง ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2545 ผู้อำนวยการของห้องปฏิบัติการได้ประกาศว่าการค้นพบธาตุสองตัวนั้น อยู่บนพื้นฐานของผลการวิจัยจากวิกเตอร์ นิมอฟ
รายงานการค้นพบ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การปรากฏ สมบัติ และปฏิกิริยาเคมี
อูนอูนออกเทียม คาดว่าเป็นสารบริสุทธิ์เสมอ และเป็นแก๊สที่ STP ไม่มีสี เป็นธาตุสังเคราะห์ เป็นธาตุกัมมันตรังสี และเป็นธาตุหนักยิ่งยวด (superheavy element)
ซึ่งเป็นผลผลิตจากการปะทะกันระหว่าง อะตอมของ แคลิฟอร์เนียม-249 กับ อิออนของ แคลเซียม-48 ดังสมการ
โอกาสการเกิดปฏิกิริยาฟิวชันน้อยมาก เพราะภาคตัดขวางพื้นที่ปฏิกิริยานิวเคลียร์เท่ากับ 0.5 pb (5×10−41 m2) มากกว่า อิออนของแคลเซียมซึ่งเท่ากับ 4×1019 m2 จึงเกิดปฏิกิริยาฟิวชันเพียง 3 ครั้งเท่านั้น
คณะวิจัยในดุบนาได้สังเกต การสลายตัวของอูนอูนออกเทียม-294 พบว่า มีครึ่งชีวิต 0.89 มิลลิวินาที โดยสลายตัวให้ รังสีแอลฟา แล้วกลายเป็น อูนอูนเฮกเซียม-290 เนื่องจากมีเพียง 3 นิวเคลียส เวลาครึ่งชีวิตจึงยังไม่แน่ชัด โดยมีความคลาดเคลื่อนในช่วง 0.89-0.31+1.07 ms
การระบุนิวเคลียสของ อูนอูนออกเทียม-294 ถูกพิสูจน์โดยการสังเคราะห์แยกนิวเคลียสลูก อูนอูนเฮกเซียม-290 ตามสมมติฐาน โดยวิธีกระหน่ำยิงอะตอม คูเรียม-245 ด้วยอิออน แคลเซียม-48 ดังสมการ
แล้วตรวจว่า อูนอูนเฮกเซียม-290 สลายตัวสัมพันธ์กับลูกโซ่การสลายตัวของนิวเคลียส อูนอูนออกเทียม-294
นิวเคลียสลูก อูนอูนเฮกเซียม-290 ไม่เสถียรอย่างมาก โดยสลายตัวด้วยครึ่งชีวิต 14 มิลลิวินาที กลายเป็น อูนอูนควอเดียม-286 ซึ่งอาจเกิดปฏิกิริยาฟิสชันด้วยตนเอง หรือไม่ก็สลายตัวให้รังสีแอลฟา กลายเป็น อูนอูนเบียม-282 ก่อนแล้วจึงเกิดปฏิกิริยาฟิสชันด้วยตนเอง
ประวัติการค้นพบและการศึกษา
เมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2549 (2006) คณะวิจัยจากสถาบันความร่วมมือเพื่อการวิจัยนิวเคลียร์ ดุบนา สหพันธรัฐรัสเซีย ประกาศผลการค้นพบ ซึ่งเขาตรวจสอบทางอ้อมกับ นิวเคลียสทั้งสามของ อูนอูนออกเทียม-294 (นิวเคลียสแรก เมื่อ พ.ศ. 2545 (2002) และอีกสองนิวเคลียส เมื่อ พ.ศ. 2548 (2005))
ปัจจุบันมีการสังเคราะห์แล้วเพียง 3 อะตอม
ดูเพิ่ม
- การค้นพบธาตุเคมี
- หมู่เกาะแห่งเสถียรภาพ
อ้างอิง
- Nash, Clinton S. (2005). "Atomic and Molecular Properties of Elements 112, 114, and 118". Journal of Physical Chemistry A. 109 (15): 3493–3500. doi:10.1021/jp050736o. PMID 16833687.
- ↑ Haire, Richard G. (2006). "Transactinides and the future elements". ใน Morss; Edelstein, Norman M.; Fuger, Jean (บ.ก.). The Chemistry of the Actinide and Transactinide Elements (3rd ed.). Dordrecht, The Netherlands: Springer Science+Business Media. p. 1724. ISBN 1-4020-3555-1.
- ↑ Bonchev, Danail; Kamenska, Verginia (1981). "Predicting the Properties of the 113–120 Transactinide Elements". J. Phys. Chem. 85: 1177–1186.
- ↑ Eichler, R.; Eichler, B., Thermochemical Properties of the Elements Rn, 112, 114, and 118 (PDF), Paul Scherrer Institut, สืบค้นเมื่อ 2010-10-23
- Han, Young-Kyu; Bae, Cheolbeom; Son, Sang-Kil; Lee, Yoon Sup (2000). "Spin–orbit effects on the transactinide p-block element monohydrides MH (M=element 113–118)". Journal of Chemical Physics. 112 (6): 2684. Bibcode:2000JChPh.112.2684H. doi:10.1063/1.480842.
- ↑ Kaldor, Uzi; Wilson, Stephen (2003). Theoretical Chemistry and Physics of Heavy and Superheavy Elements. Springer. p. 105. ISBN 140201371X. สืบค้นเมื่อ 2008-01-18.
- "Ununoctium". WebElements Periodic Table. สืบค้นเมื่อ 2007-12-09.
- doi:10.1103/PhysRevC.74.044602
This citation will be automatically completed in the next few minutes. You can jump the queue or expand by hand - Wieser, M.E. (2006). "Atomic weights of the elements 2005 (IUPAC Technical Report)". Pure Appl. Chem. 78 (11): 2051–2066. doi:10.1351/pac200678112051.
- "The Top 6 Physics Stories of 2006". Discover Magazine. 2007-01-07. สืบค้นเมื่อ 2008-01-18.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อNash2005
- "IUPAC Is Naming The Four New Elements Nihonium, Moscovium, Tennessine, And Oganesson". IUPAC. 2016-06-08. สืบค้นเมื่อ 2016-06-08.
- ↑ Smolanczuk, R. (1999). "Production mechanism of superheavy nuclei in cold fusion reactions". Physical Review C. 59 (5): 2634–2639. Bibcode:1999PhRvC..59.2634S. doi:10.1103/PhysRevC.59.2634.
- Ninov, Viktor (1999). "Observation of Superheavy Nuclei Produced in the Reaction of แม่แบบ:SimpleNuclide with แม่แบบ:SimpleNuclide". Physical Review Letters. 83 (6): 1104–1107. Bibcode:1999PhRvL..83.1104N. doi:10.1103/PhysRevLett.83.1104.
- Service, R. F. (1999). "Berkeley Crew Bags Element 118". Science. 284 (5421): 1751. doi:10.1126/science.284.5421.1751.
- Public Affairs Department (2001-07-21). "Results of element 118 experiment retracted". Berkeley Lab. สืบค้นเมื่อ 2008-01-18.
- Dalton, R. (2002). "Misconduct: The stars who fell to Earth". Nature. 420 (6917): 728–729. Bibcode:2002Natur.420..728D. doi:10.1038/420728a. PMID 12490902.
- Element 118 disappears two years after it was discovered. Physicsworld.com. Retrieved on 2012-04-02.
- Phil Schewe กับ Ben Stein. American Institute of Physics, 2006
- [http://link.aps.org/abstract/PRC/v74/e044602 Yu. Ts. Oganessian. Utyonkov, V.K.; Lobanov, Yu.V.; Abdullin, F.Sh.; Polyakov, A.N.; Sagaidak, R.N.; Shirokovsky, I.V.; Tsyganov, Yu.S.; Voinov, Yu.S.; Gulbekian, G.G.; Bogomolov, S.L.; B. N. Gikal, A. N. Mezentsev, S. Iliev; Subbotin, V.G.; Sukhov, A.M.; Subotic, K; Zagrebaev, V.I.; Vostokin, G.K.; Itkis, M. G.; Moody, K.J; Patin, J.B.; Shaughnessy, D.A.; Stoyer, M.A.; Stoyer, N.J.; Wilk, P.A.; Kenneally, J.M.; Landrum, J.H.; Wild, J.H.; and Lougheed, R.W. Synthesis of the isotopes of elements 118 and 116 in the 249Cf and 245Cm+48Ca fusion reactions. Physical Review C. vol.47 issue 4, 044602
- Katherine Sanderson. Nature journal) , 2006
- [http://discovermagazine.com/2007/jan/physics/article_view?b_start:int=1 Stone, Alex. The Top 6 Physics Stories of 2006, Discover Magazine, 04-03-2007
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: โอกาเนสซอน |
- Livermore press release about discovery 2008-09-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- WebElements.com
- Apsidium.com
- Reuters/ABC News 16 ตุลาคม 2006