fbpx
วิกิพีเดีย

ขี้หู

สิงหาคม 08, 2021

ขี้หู (อังกฤษ: earwax, cerumen) เป็นสิ่งคล้ายกับขี้ผึ้งที่ช่องหูของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ หลั่งออก ช่วยป้องกันผิวหนังภายในช่องหู ทำความสะอาด ช่วยหล่อลื่น และป้องกันเชื้อแบคทีเรีย รา แมลง และน้ำ

ขี้หู
(earwax, cerumen)
ขี้หูมนุษย์แบบเปียก
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก
MedlinePlus000979
ขี้หูแบบแห้ง

ขี้หูประกอบด้วยเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วลอกหลุดออกพร้อมกับสารคัดหลั่งของต่อมขี้หูและของต่อมไขมัน (sebaceous gland) ภายในช่องหูภายนอก องค์ประกอบทางเคมีรวมทั้งกรดไขมันลูกโซ่ยาวทั้งแบบอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว, แอลกอฮอล์, squalene และคอเลสเตอรอล ขี้หูที่มากเกินหรืออัดแน่นอาจกดทับแก้วหู อุดช่องหู อุดเครื่องช่วยฟัง แล้วทำให้ไม่ได้ยิน

สรีรวิทยา

 
ขี้หูในช่องหู
 
ขี้หูมนุษย์แบบเปียกบนไม้สำลี

ช่องหูแบ่งเป็นสองส่วน ส่วน 1/3 ภายนอกเป็นกระดูกอ่อน ส่วน 2/3 ภายในเป็นกระดูก ส่วนที่เป็นกระดูกอ่อนเป็นส่วนที่ผลิตขี้หู ซึ่งเป็นน้ำเหนียวที่ต่อมไขมันหลั่ง และน้ำเหนียวยิ่งกว่านั้นที่ต่อมซึ่งวิวัฒนาการมาจากต่อมเหงื่อ (modified apocrine sweat glands) คือต่อมขี้หูหลั่ง องค์ประกอบหลักก็คือผิวหนังที่ลอกหลุดออก โดยเฉลี่ย 60% จะเป็นเคราติน (keratin), 12-20% เป็นกรดไขมันลูกโซ่ยาวทั้งแบบอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว, แอลกอฮอล์, squalene และ 6-9% คอเลสเตอรอล

มีขี้หูสองแบบโดยกรรมพันธุ์ คือ แบบเปียกซึ่งเป็นยีนเด่น (dominant) และแบบแห้งซึ่งเป็นยีนด้อย (recessive) จนกระทั่งว่า นักมานุษยวิทยาสามารถใช้รูปแบบขี้หูเพื่อติดตามการย้ายถิ่นของมนุษย์ เช่น ของคนเอสกิโม คนเอเชียตะวันออกและกลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันในสหรัฐมักมีขี้หูแบบแห้ง (สีเทา เป็นแผ่น ๆ) คนแอฟริกาและคนเชื้อสายยุโรปมักมีแบบเปียก (สีน้ำผึ้งจนถึงสีน้ำตาลเข้ม เปียก และเหนียว ๆ) ในญี่ปุ่น คนไอนู (Ainu) มักจะมีแบบเปียก เทียบกับคนยะมะโตะ (Yamato) โดยมากของประเทศที่มีแบบแห้ง ขี้หูแบบเปียกต่างจากแบบแห้งโดยมีเม็ดเล็ก ๆ (granule) ที่เป็นลิพิดและสารสีมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น แบบเปียกมีลิพิด 50% แต่แบบแห้งมีแค่ 20%

ยีนโดยเฉพาะที่ทำให้ต่างกันก็ได้ระบุแล้ว คือเป็นคู่เบสคู่เดี่ยวที่เปลี่ยนไป (คือเป็นภาวะพหุสัณฐาน) ในยีนที่เรียกว่า ATP-binding cassette C11 gene (ABCC11) แบบแห้งจะมี adenine แบบฮอโมไซกัส ในขณะที่แบบเปียก จะมี guanine อย่างน้อยข้างหนึ่ง เพราะขี้หูแบบเปียกสัมพันธ์กับกลิ่นรักแร้ซึ่งแรงขึ้นเมื่อเหงื่อออก นักวิจัยจึงคาดว่า ยีนช่วยลดกลิ่นตัวหรือเหงื่อซึ่งเป็นประโยชน์แก่คนเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือผู้อยู่อาศัยในเขตอากาศหนาว

การทำความสะอาด

การทำความสะอาดช่องหูอาศัยการย้ายที่ของเนื้อเยื่อบุผิวคล้ายกับเป็นสายพานส่งวัสดุซึ่งการเคลื่อนขากรรไกรก็จะช่วยสนับสนุนด้วย คือ เซลล์ซึ่งเกิดตรงกลางแก้วหูจะย้ายที่ไปจากหลุมแก้วหู (umbo) ในอัตราใกล้กับที่เล็บมืองอก ไปยังผนังของช่องหู และก็ย้ายต่อไปยังปากช่องหู ขี้หูในช่องหูพร้อมกับผงละอองที่ติดอยู่ก็จะเคลื่อนตามออกไปด้วย การขยับกรามจะทำให้เศษที่ติดอยู่กับผนังช่องหูหลุดออก ทำให้หลุดออกจากหูได้ง่ายขึ้น

การหล่อลื่น

ขี้หูช่วยหล่อลื่นผิวหนังของช่องหูป้องกันไม่ให้แห้งสนิท คือต่อมไขมันจะหลั่งไขซึ่งมีลิพิดมากเป็นตัวหล่อลื่น ในขี้หูแบบเปียกเป็นอย่างน้อย ลิพิดเช่นนี้มีคอเลสเตอรอล, squalene, กรดไขมันลูกโซ่ยาวหลายอย่าง และแอลกอฮอล์

ฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย

แม้งานศึกษาที่ทำจนถึงคริสต์ทศวรรษ 1960 จะไม่พบหลักฐานสนับสนุนว่าขี้หูมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย แต่งานศึกษาต่อ ๆ มาก็พบฤทธิ์ต้านแบคทีเรียบางสายพันธุ์ รวมทั้ง Haemophilus influenzae (เป็นเหตุการติดเชื้อหลายชนิด), Staphylococcus aureus (เป็นเหตุการติดเชื้อผิวหนัง ทางเดินลมหายใจ และอาหารเป็นพิษ) และ Escherichia coli บางสายพันธุ์ (โดยบางอย่างเป็นเหตุอาหารเป็นพิษ) บางครั้งช่วยฆ่าเชื้อถึง 99%

ขี้หูมนุษย์สามารถยับยั้งการติดเชื้อราในหูสองสายพันธุ์อย่างสำคัญ

ฤทธิ์ต้านจุลชีพโดยหลักมาจากการมีกรดไขมันอิ่มตัว, lysozyme และความเป็นกรดเล็กน้อยราว ๆ 6.1 สำหรับบุคคลปกติ แต่ก็มีงานวิจัยที่พบว่า ขี้หูอาจช่วยให้จุลชีพเจริญเติบโต และมีตัวอย่างขี้หูที่พบแบคทีเรียหนาแน่นถึง 107 ตัว/กรัม

ขี้หูมากเกิน

ขี้หูมากเกินอาจทำให้ไม่ได้ยินเสียง และเครื่องช่วยฟังอาจทำให้ขี้หูอัดแน่น ซึ่งประเมินว่าเป็นเหตุของปัญหาเครื่องช่วยฟังในกรณี 60-80%

การกำจัดขี้หู

การขยับกรามช่วยทำความสะอาดช่องหูโดยธรรมชาติ วิทยาลัยวิทยาการหูคอจมูกอเมริกัน (AAO) จึงแนะนำไม่ให้เอาขี้หูออกยกเว้นเมื่อก่อปัญหา

แม้มีวิธีเอาขี้หูออกหลายอย่าง แต่ข้อดีข้อเสียก็ยังไม่เคยเปรียบเทียบ มีสารที่ทำให้ขี้หูนิ่ม แต่นี่อย่างเดียวยังไม่พอ วิธีเอาขี้หูออกที่สามัญที่สุดก็คือฉีดน้ำอุ่นด้วยกระบอกฉีดยา แพทย์หูคอจมูกอาจใช้ช้อนแคะหู (curette) ถ้าขี้หูอุดช่องหูเป็นบางส่วนและไม่ได้ติดอยู่กับผิวหนังของช่องหู ส่วนไม้ปั่นสำลีโดยมากจะดันขี้หูเข้าไปในช่องหูให้ลึกขึ้น และเอาขี้หูออกได้แต่ตรงปลาย ๆ ที่ติดกับสำลีเท่านั้น

การทำให้นิ่ม

การใช้สารทำให้นิ่มก่อนเอาขี้หูออกอาจมีผลเท่ากับไม่ทำ และสารชนิดต่าง ๆ เช่น น้ำหรือน้ำมัน ก็อาจไม่มีผลต่างกันมาก แต่ก็ไม่ได้ศึกษาพอให้สรุปได้อย่างชัดเจน อนึ่ง หลักฐานของการฉีดล้างหู (irrigation) และการแคะขี้หูออก (manual removal) ก็ค่อนข้างกำกวม

สารทำให้ขี้หูนิ่มซึ่งมีทั่วไปรวมทั้ง

ควรใช้สารทำให้ขี้หูนิ่ม 2-3 ครั้งต่อวัน 3-5 วันก่อนจะเอาขี้หูออก

การล้างหู

เมื่อทำขี้หูให้นิ่มแล้ว ก็จะสามารถล้างหูเอาขี้หูออกได้ แต่หลักฐานว่าการทำเช่นนี้มีผลดีก็ไม่ชัดเจน การล้างอาจทำด้วยใช้น้ำฉีด ซึ่งทำได้ทั้งในคลินิกและที่บ้าน หรืออาจใช้กระเปาะยางฉีดน้ำ (bulb syringe)

นักวิชาการได้อธิบายวิธีใช้กระบอกฉีดน้ำอย่างละเอียด และแนะนำให้ดึงหูขึ้นไปข้างหลัง เล็งปากกระเปาะฉีดน้ำขึ้นเล็กน้อยเข้าไปในหู เพื่อให้น้ำไหลลงเหมือนน้ำตกจากเพดานหู และให้น้ำยาไหลออกจากพื้นช่องหู ล้างเอาเศษขี้หูออก

น้ำที่ใช้ล้างหูปกติจะเป็นน้ำอุ่นน้ำเกลือ น้ำยาโซเดียมไบคาร์บอเนต หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชูเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

คนไข้ปกติจะชอบน้ำยาล้างที่มีอุณหภูมิเท่ากับร่างกาย เพราะการล้างหูด้วยน้ำยาที่อุ่นกว่าหรือเย็นกว่าอุณหภูมิร่างกายอาจทำให้เวียนหัวคลื่นไส้

ช้อนแคะหูและไม้ปั่นหัวสำลี

 
ไม้แคะหูทำด้วยไม้ไผ่
 
ไม้แคะหูโลหะ

ขี้หูสามารถเอาออกด้วยช้อนแคะหูหรือไม้แคะหู โดยใช้แคะให้ขี้หูหลุดออกจากผนังแล้วตักมันออกมาจากช่องหู ในประเทศตะวันตก มืออาชีพด้านสาธารณสุขเท่านั้นจะใช้ไม้แคะหู แต่ก็เป็นเรื่องปกติในยุโรปโบราณ และยังเป็นเรื่องปกติในเอเชียปัจจุบัน (รวมทั้งประเทศไทย) เพราะคนเอเชียโดยมากมีขี้หูแบบแห้ง จึงสามารถใช้ไม้ขูดเบา ๆ ทำให้ขี้หูหลุดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ที่แห้ง ๆ

คำแนะนำปกติจะไม่ให้ใช้ไม้ปั่นหัวสำลี เพราะจะดันขี้หูเข้าไปในหูให้ลึกขึ้น และถ้าใช้อย่างไม่ระมัดระวัง อาจทำให้แก้วหูทะลุ อนึ่ง การทำให้ช่องหูถลอก โดยเฉพาะเมื่อมีน้ำจากการว่ายน้ำหรืออาบน้ำ อาจทำให้ติดเชื้อ แม้สำลีเองก็อาจหลุดออกติดอยู่ในหู ดังนั้น ไม้ปั่นหัวสำลีควรใช้ทำความสะอาดหูภายนอกเท่านั้น

เทียนดูดหู

เทียนดูดหู เป็นขี้ผึ้งแท่งกลวงซึ่งจุดไฟที่ปลายข้างหนึ่ง และเอาปลาย (กลวง) อีกข้างหนึ่งใส่เข้าในหูเพื่อดูดสิ่งที่อยู่ในหูออก แพทย์ทางเลือกอาจอ้างว่า มันสามารถทำให้สุขภาพดี แต่แพทย์ปัจจุบันแนะนำไม่ให้ทำเพราะเสี่ยงอันตรายและไม่มีผลอะไร

ผู้สนับสนุนเชื่อว่า เศษสีเข้ม ๆ ที่เหลือจากการทำเช่นนี้เป็นขี้หูที่ดูดออกมา เป็นข้อพิสูจน์ว่าได้ผล แต่งานศึกษาต่าง ๆ ได้แสดงว่า เศษสีเข้มที่พบเป็นส่วนเหลือของการจุดเทียน ซึ่งมีไม่ว่าจะใส่เข้าในหูหรือไม่ เพราะเทียนทำจากใยฝ้ายและขี้ผึ้งซึ่งมีเศษเหลือเมื่อไหม้ แต่เศษเหลือที่ว่านี้จะมีสีน้ำตาลเหมือนกับขี้หู (ของบางคน) ทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเป็นขี้หู และเพราะเทียนเป็นแท่งกลวง ขี้ผึ้งร้อน ๆ อาจตกใส่ในช่องหูแล้วทำอันตรายแก่แก้วหู

วิทยาลัยวิทยาการหูคอจมูกอเมริกัน (AAO) กล่าวว่า เทียนดูดหูไม่ปลอดภัยเพื่อเอาขี้หูออก และไม่มีงานศึกษาที่มีกลุ่มควบคุมหรือเป็นวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนให้ใช้มันเยี่ยงนี้ ส่วนองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้บังคับใช้กฎหมายต่อต้านการขายเทียนดูดหูหลายครั้งเริ่มตั้งแต่ปี 1996 รวมทั้งยึดของและออกหมายไม่ให้ทำอีก

อนึ่ง ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ขายเพื่อ "ดูดหู" ก็ไม่สามารถเอาขี้หูออกด้วย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ (Jobson-Horne probe) ที่แพทย์ใช้

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจมี

 
การแคะหูในอินเดีย ภาพสีน้ำทึบ
 
หนังสือ De medicina

การสำรวจแพทย์ทั่วไปในอังกฤษทางไปรษณีย์ พบว่า เพียงแค่ 19% เอาขี้หูออกเอง เป็นปัญหาเพราะการเอาขี้หูออกเสี่ยง และแพทย์พยาบาลมักไม่ได้ฝึกเอาขี้หูออกพอ การล้างหูสามารถทำที่บ้านถ้ามีอุปกรณ์ที่จำเป็นและไม่ฉีดน้ำแรงเกิน วิธีการอื่น ๆ ควรให้บุคคลที่ฝึกวิธีนั้นมาดีพอทำ

นักวิชาการผู้หนึ่งแนะนำแพทย์ว่า "หลังจากเอาขี้หูออก ตรวจให้ทั่วว่าไม่มีเหลือ คำแนะนำนี้อาจดูเหลือเฟือ แต่บ่อยครั้งถูกเมิน" ซึ่งนักวิชาการอีกท่านหนึ่งก็ได้ยืนยัน เพราะได้สำรวจแพทย์ทั่วไป 320 รายแล้วพบว่า แพทย์เพียง 68% จะตรวจช่องหูว่ามีขี้หูเหลือหรือไม่หลังล้างหูแล้ว ดังนั้น การเอาขี้หูออกไม่หมดจึงเป็นภาวะแทรกซ้อน 30% เนื่องกับหัตถการนี้

ภาวะแทรกซ้อนอื่นรวมทั้งหูชั้นนอกอักเสบ (otitis externa) เพราะติดเชื้อแบคทีเรีย ตลอดจนเจ็บ รู้สึกหมุน (vertigo) เสียงในหู และแก้วหูทะลุ ข้อมูลจากงานศึกษานี้ทำให้เสนอว่าภาวะแทรกซ้อนสำคัญเนื่องกับหัตถการนี้เกิดในอัตรา 1/1,000 เมื่อฉีดล้างหู

หน่วยประกันภัยที่ไม่ต้องพิสูจน์ความผิดของนิวซีแลนด์มีกรณีเรียกร้องเพราะปัญหาเอาขี้หูออก 25% ในบรรดากรณีเรียกร้องเกี่ยวกับหูคอจมูก โดยแก้วหูทะลุเป็นปัญหาความพิการซึ่งสามัญที่สุด แม้มีอัตราสูงแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะการล้างขี้หูออกเป็นหัตถการที่ทำอย่างสามัญ นักวิชาการได้ประเมินว่า มีการล้างขี้หูออก 7,000 ครั้งต่อประชากร 100,000 คนต่อปีอาศัยการประมาณค่านอกช่วงของข้อมูลที่ได้จากเมืองเอดินบะระ

ประวัติ

ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 นักเขียนสารานุกรมชาวโรมัน Aulus Cornelius Celsus ได้บอกวิธีการเอาขี้หูออกไว้ในหนังสือ De Medicina

เมื่อบุคคลเริ่มไม่ค่อยได้ยินเสียง ซึ่งเกิดบ่อยมากหลังปวดหัวมานาน ขั้นแรก ควรตรวจดูหู เพราะถ้าไม่พบรอยแผลที่มีของแข็งติดด้านบน ก็จะพบขี้หูรวมกันแข็ง ๆ ถ้าเป็นของแข็ง ให้ใส่น้ำมันร้อนเข้าไป หรือสนิมเขียวของทองแดงผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำผักลีก (Allium ampeloprasum) หรือน้ำโซดาเล็กน้อยผสมกับกับไวน์น้ำผึ้ง และเมื่อของแข็งหลุดออกจากแผล ให้ล้างหูด้วยน้ำอุ่น ทำให้ตักออกด้วยไม้แคะหูได้ง่าย ถ้าเป็นขี้หูนิ่ม ก็สามารถเอาออกโดยวิธีเดียวกันด้วยไม้แคะหู แต่ถ้าแข็ง ให้หยอดน้ำส้มสายชูที่มีน้ำโซดาเล็กน้อย และเมื่อนิ่มแล้ว ก็ให้ล้างและทำความสะอาดดังที่กล่าวมาแล้ว อนึ่ง ควรล้างหูด้วย castoreum ผสมกับน้ำส้มสายชู กับน้ำมัน laurel (Laurus nobilis) และกับน้ำเปลือกหัวผักกาดอ่อน (Raphanus raphanistrum subsp. sativus) หรือน้ำแตงกวาผสมกับใบต้นกุหลาบบด การหยดน้ำผลองุ่นที่ยังไม่สุกผสมกับน้ำมันดอกกุหลาบก็ค่อนดีกับการไม่ได้ยินด้วย


การใช้

  • ในสมัยกลาง สารต่าง ๆ รวมทั้งขี้หูและปัสสาวะได้ใช้ทำสีให้เสมียนคัดลอกเขียนหนังสือที่มีรูปประกอบ
  • มันทาปากแรกอาจทำมาจากขี้หู หนังสือ แม่บ้านอเมริกันช่างประหยัด (American Frugal Housewife) กล่าวว่า "ไม่มีอะไรดีกว่าขี้หูเพื่อบรรเทาความเจ็บที่มาจากแผลตะปูหรือไม้เสียบ" และยังแนะนำให้ใช้ขี้หูเป็นมันทางปาก
  • ก่อนมีด้ายเคลือบมัน/ขี้ผึ้ง ช่างเย็บผ้าได้ใช้ขี้หูกันไม่ให้ปลายด้ายลุ่ย

สัตว์อื่น

มีปลาวาฬหลายชนิดที่สะสมขี้หูเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสามารถใช้ขนาดกำหนดอายุของวาฬที่ไม่มีฟัน

เชิงอรรถ

  1. Jobson-Horne probe เป็นช้อนแคะหูที่แพทย์หูคอจมูกใช้ ช้อนจะเจาะรูตรงกลางเพื่อให้สามารถแคะเอาทั้งขี้หูแห้งและเปียกที่อัดแน่นออกได้
  2. castoreum เป็นสิ่งที่หลั่งออกจากถุงแคสเตอร์ (castor sacs) ของบีเวอร์อเมริกาเหนือ (Castor canadensis) และของบีเวอร์ยุโรป (Castor fiber)

อ้างอิง

  1. . american-hearing.org. Chicago, Illinois: American Hearing Research Foundation. 2008. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2009-02-25. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)
  2. ↑ Okuda, I; Bingham, B; Stoney, P; Hawke, M (1991-06). "The organic composition of earwax". J Otolaryngol. (3): 212–5. PMID 1870171. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  3. Alvord, LS; Farmer, BL (1997-12). "Anatomy and orientation of the human external ear". Journal of the American Academy of Audiology. 8 (6): 383–90. PMID 9433684. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  4. ↑ Guest, JF; Greener, MJ; Robinson, AC; Smith, AF (2004-08). "Impacted cerumen: composition, production, epidemiology and management". QJM. 97 (8): 477–88. doi:10.1093/qjmed/hch082. PMID 15256605. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  5. ↑ Overfield, Theresa (1985). Biologic variation in health and illness: race, age, and sex differences. Menlo Park, Calif: Addison-Wesley, Nursing Division. p. 46. ISBN 0-201-12810-1. ... most common type in Whites and Blacks is dark brown and moist. Dry wax, most common in Orientals and Native Americans, is gray and dry. It is flaky and may form a thin mass that lies in the ear canal.
  6. Bass, EJ; Jackson, JF (1977-09). "Cerumen types in Eskimos". American Journal of Physical Anthropology. 47 (2): 209–10. doi:10.1002/ajpa.1330470203. PMID 910884. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  7. "Miscellaneous musings on the Ainu, I". Ahnenkult.com. สืบค้นเมื่อ 2014-04-28.
  8. Diep, Francie (2014-02-13). . Popsci.com. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2014-02-22. สืบค้นเมื่อ 2014-04-28.
  9. Online 'Mendelian Inheritance in Man' (OMIM) 117800
  10. Yoshiura, K; Kinoshita, A; Ishida, T และคณะ (2006-03). "A SNP in the ABCC11 gene is the determinant of human earwax type". Nature Genetics. 38 (3): 324–30. doi:10.1038/ng1733. PMID 16444273. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  11. Alberti, PW (1964-09). "Epithelial migration on the tympanic membrane". The Journal of Laryngology and Otology. 78: 808–30. doi:10.1017/s0022215100062800. PMID 14205963. Check date values in: |date= (help)
  12. Harvey, DJ (1989-09). "Identification of long-chain fatty acids and alcohols from human cerumen by the use of picolinyl and nicotinate esters". Biomedical & Environmental Mass Spectrometry. 18 (9): 719–23. doi:10.1002/bms.1200180912. PMID 2790258. Check date values in: |date= (help)
  13. Bortz, JT; Wertz, PW; Downing, DT (1990-11). "Composition of cerumen lipids". Journal of the American Academy of Dermatology. 23 (5 Pt 1): 845–9. doi:10.1016/0190-9622(90)70301-W. PMID 2254469. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  14. Nichols, AC; Perry, ET (1956-09). "Studies on the growth of bacteria in the human ear channel". The Journal of Investigative Dermatology. 27 (3): 165–70. doi:10.1038/jid.1956.22. PMID 13367525. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  15. Chai, TJ; Chai, TC (1980-10). "Bactericidal activity of cerumen". Antimicrobial Agents and Chemotherapy. 18 (4): 638–41. doi:10.1128/aac.18.4.638. PMC 284062. PMID 7447422. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  16. Stone, M; Fulghum, RS (1984). "Bactericidal activity of wet cerumen". The Annals of Otology, Rhinology, and Laryngology. 93 (2 Pt 1): 183–6. PMID 6370076.CS1 maint: uses authors parameter (link)
  17. Megarry, S; Pett, A; Scarlett, A; Teh, W; Zeigler, E; Canter, RJ (1988-08). "The activity against yeasts of human cerumen". The Journal of Laryngology and Otology. 102 (8): 671–2. doi:10.1017/s0022215100106115. PMID 3047287. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  18. Roland, PS; Marple, BF (1997-12). "Disorders of the external auditory canal". Journal of the American Academy of Audiology. 8 (6): 367–78. PMID 9433682. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  19. Campos, A; Betancor, L; Arias, A; Rodrıguez, C; Hernandez, AM; Lopez, AD; Sierra, A (1998-07). "Study of common aerobic flora of human cerumen". The Journal of Laryngology & Otology. 112 (7): 613–6. PMID 9775288. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  20. Chou, R; Dana, T; Bougatsos, C; และคณะ (2011-03). "Screening for Hearing Loss in Adults Ages 50 Years and Older: A Review of the Evidence for the U.S. Preventive Services Task Force". Evidence Syntheses, No. 83. U.S. Agency for Healthcare Research and Quality (AHRQ). สืบค้นเมื่อ 2013-07-05. Check date values in: |date= (help)
  21. Oliveira, RJ (1997-12). "The active earcanal". Journal of the American Academy of Audiology. 8 (6): 401–10. PMID 9433686. Check date values in: |date= (help)
  22. ↑ Schwartz, SR; Magit, AE; Rosenfeld, RM; Ballachanda, BB; Hackell, JM; Krouse, HJ; Lawlor, CM; Lin, K; Parham, K; Stutz, DR; Walsh, S; Woodson, EA; Yanagisawa, K; Cunningham ER, Jr (2017-01). "Clinical Practice Guideline (Update): Earwax (Cerumen Impaction) Executive Summary". Otolaryngology--head and neck surgery: official journal of American Academy of Otolaryngology-Head and Neck Surgery. 156 (1): 14–29. PMID 28045632. Check date values in: |date= (help)
  23. ↑ Clegg, AJ; Loveman, E; Gospodarevskaya, E; Harris, P; Bird, A; Bryant, J; Scott, DA; Davidson, P; Little, P; Coppin, R (2010-06). "The safety and effectiveness of different methods of earwax removal: a systematic review and economic evaluation". Health technology assessment (Winchester, England). 14 (28): 1–192. doi:10.3310/hta14280. PMID 20546687. Check date values in: |date= (help)
  24. Clegg, AJ; Loveman, E; Gospodarevskaya, E และคณะ (2010-06). "The safety and effectiveness of different methods of earwax removal: a systematic review and economic evaluation". Health Technol Assess. 14 (28): 1–192. doi:10.3310/hta14280. PMID 20546687. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  25. ↑ Sharp, JF; Wilson, JA; Ross, L; Barr-Hamilton, RM (1990-12). "Ear wax removal: a survey of current practice". BMJ. 301 (6763): 1251–3. doi:10.1136/bmj.301.6763.1251. PMC 1664378. PMID 2271824. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  26. ↑ "Ear wax". Tchain.com. สืบค้นเมื่อ 2010-05-02.
  27. Fraser, JG (1970-10). "The efficacy of wax solvents: in vitro studies and a clinical trial". The Journal of Laryngology and Otology. 84 (10): 1055–64. doi:10.1017/s0022215100072856. PMID 5476901. Check date values in: |date= (help)
  28. ↑ Wilson, PL; Roeser, RJ (1997-12). "Cerumen management: professional issues and techniques". Journal of the American Academy of Audiology. 8 (6): 421–30. PMID 9433688. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  29. Coppin, R; Wicke, D; Little, P (2011). "Randomized trial of bulb syringes for earwax: impact on health service utilization". Annals of Family Medicine. 9 (2): 110–4. doi:10.1370/afm.1229. PMC 3056857. PMID 21403136.CS1 maint: uses authors parameter (link)
  30. ↑ Blake, P; Matthews, R; Hornibrook, J (1998-11). "When not to syringe an ear". The New Zealand Medical Journal. 111 (1077): 422–4. PMID 9861921. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  31. ↑ Ernst, AA; Takakuwa, KM; Letner, C; Weiss, SJ (1999-09). "Warmed versus room temperature saline solution for ear irrigation: a randomized clinical trial". Annals of Emergency Medicine. 34 (3): 347–50. doi:10.1016/S0196-0644(99)70129-0. PMID 10459091. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  32. ↑ Bull, P. D. (2002). Lecture notes on diseases of the ear, nose, and throat (6th ed.). Oxford: Blackwell Science. pp. 26–27. ISBN 0-632-06506-0.
  33. . Audiology Supplies. 2015-11-04. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2016-03-04. Unknown parameter |deadurl= ignored (help)
  34. Seely, DR; Quigley, SM; Langman, AW (1996-10). "Ear candles--efficacy and safety". The Laryngoscope. 106 (10): 1226–9. doi:10.1097/00005537-199610000-00010. PMID 8849790. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  35. ↑ "Earwax". www.entnet.org. American Academy of Otolaryngology. สืบค้นเมื่อ 2012-04-23.
  36. "A non-randomized comparison of earwax removal with a 'do-it-yourself' ear vacuum kit and a Jobson-Horne probe". Clinical Otolaryngology. 2005. PMID 16209672.
  37. Leong, AC; Aldren, C (2005-08). "A non-randomized comparison of earwax removal with a 'do-it-yourself' ear vacuum kit and a Jobson-Horne probe". Clinical Otolaryngology. 30 (4): 320–3. doi:10.1111/j.1365-2273.2005.01020.x. PMID 16209672. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  38. Celsus, Aulus Cornelius; W.G. Spencer translation. "Book VI". De Medicina.
  39. "acetum et cum eo nitri paulum". Nitri is rendered as "soda" here, i.e. soda ash, though the word can refer to a variety of alkaline substances or to sodium nitrate. (http://www.archives.nd.edu/cgi-bin/words.exe?nitri http://www.history-science-technology.com/Notes/Notes%208.htm) Note that acidification of sodium carbonate yields sodium bicarbonate.
  40. "Iberian manuscripts (pigments)". Web.ceu.hu. สืบค้นเมื่อ 2014-04-28.
  41. Schwaab, M; Gurr, A; Neumann, A; Dazert, S; Minovi, A (2011-08). "Human antimicrobial proteins in ear wax". European Journal of Clinical Microbiology & Infectious Diseases. 30 (8): 997–1004. doi:10.1007/s10096-011-1185-2. PMID 21298458. Check date values in: |date= (help)
  42. The American frugal housewife ... - Google Books. Books.google.ca. 1841. p. 116. สืบค้นเมื่อ 2010-05-02.
  43. Beaudry, Mary C. . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2017-09-03. สืบค้นเมื่อ 2012-01-03.CS1 maint: uses authors parameter (link)
  44. Nelson, Craig S. . Cs.ucf.edu. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2011-06-29. สืบค้นเมื่อ 2010-06-20.
  45. Trumble, Stephen J; Robinson, Eleanor M; Berman-Kowalewski, Michelle; Potter, Charles W; Usenko, Sascha (2013). "Blue whale earplug reveals lifetime contaminant exposure and hormone profiles".CS1 maint: uses authors parameter (link)

แหล่งอ้างอิงอื่น ๆ

  • Roeser, RJ; Ballachanda, BB (1997-12). "Physiology, pathophysiology, and anthropology/epidemiology of human earcanal secretions". Journal of the American Academy of Audiology. 8 (6): 391–400. PMID 9433685. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)
  • Stone, M; Fulghum, RS (1984). "Bactericidal activity of wet cerumen". The Annals of Otology, Rhinology, and Laryngology. 93 (2 Pt 1): 183–6. PMID 6370076.CS1 maint: uses authors parameter (link)
  • Bøe, R; Silvola, J; Yang, J และคณะ (1999-09). "Human beta-defensin-1 mRNA is transcribed in tympanic membrane and adjacent auditory canal epithelium". Infection and Immunity. 67 (9): 4843–6. PMC 96817. PMID 10456939. Check date values in: |date= (help)CS1 maint: uses authors parameter (link)

เว็บไซต์

คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ:
ขี้หู
  • Ear wax and its treatment Deafness Research UK
  • Clinical practice guideline: Cerumen impaction (The American Academy of Otolaryngology - Head and Neck Surgery)
  • Outer ear infection: What helps if earwax builds up? (Pubmed Health)

สิงหาคม 08, 2021
งกฤษ, earwax, cerumen, เป, นส, งคล, ายก, บข, งท, องห, ของมน, ษย, และส, ตว, เล, ยงล, กด, วยนมอ, หล, งออก, วยป, องก, นผ, วหน, งภายในช, องห, ทำความสะอาด, วยหล, อล, และป, องก, นเช, อแบคท, เร, รา, แมลง, และน, earwax, cerumen, มน, ษย, แบบเป, ยกบ, ญช, จำแนกและล, งก, . khihu xngkvs earwax cerumen epnsingkhlaykbkhiphungthichxnghukhxngmnusyaelastweliynglukdwynmxun hlngxxk chwypxngknphiwhnngphayinchxnghu thakhwamsaxad chwyhlxlun aelapxngknechuxaebkhthieriy ra aemlng aelana 1 khihu earwax cerumen khihumnusyaebbepiykbychicaaenkaelalingkipphaynxkMedlinePlus000979khihuaebbaehng khihuprakxbdwyesllphiwhnngthitayaelwlxkhludxxkphrxmkbsarkhdhlngkhxngtxmkhihuaelakhxngtxmikhmn sebaceous gland phayinchxnghuphaynxk 2 xngkhprakxbthangekhmirwmthngkrdikhmnlukosyaw thngaebbximtwaelaimximtw aexlkxhxl squalene aelakhxelsetxrxl 2 khihuthimakekinhruxxdaennxackdthbaekwhu xudchxnghu xudekhruxngchwyfng aelwthaihimidyin enuxha 1 srirwithya 1 1 karthakhwamsaxad 1 2 karhlxlun 1 3 vththitanaebkhthieriy 2 khihumakekin 3 karkacdkhihu 3 1 karthaihnim 3 2 karlanghu 3 3 chxnaekhahuaelaimpnhwsali 3 4 ethiyndudhu 3 5 phawaaethrksxnthixacmi 4 prawti 4 1 karich 5 stwxun 6 echingxrrth 7 xangxing 7 1 aehlngxangxingxun 8 ewbistsrirwithya aekikh khihuinchxnghu khihumnusyaebbepiykbnimsali chxnghuaebngepnsxngswn swn 1 3 phaynxkepnkradukxxn swn 2 3 phayinepnkraduk swnthiepnkradukxxnepnswnthiphlitkhihu sungepnnaehniywthitxmikhmnhlng aelanaehniywyingkwannthitxmsungwiwthnakarmacaktxmehngux modified apocrine sweat glands khuxtxmkhihuhlng 3 xngkhprakxbhlkkkhuxphiwhnngthilxkhludxxk odyechliy 60 caepnekhratin keratin 12 20 epnkrdikhmnlukosyawthngaebbximtwaelaimximtw aexlkxhxl squalene aela 6 9 khxelsetxrxl 4 mikhihusxngaebbodykrrmphnthu khux aebbepiyksungepnyinedn dominant aelaaebbaehngsungepnyindxy recessive 5 cnkrathngwa nkmanusywithyasamarthichrupaebbkhihuephuxtidtamkaryaythinkhxngmnusy echn khxngkhnexskiom 6 khnexechiytawnxxkaelaklumchnphunemuxngxemrikninshrthmkmikhihuaebbaehng sietha epnaephn khnaexfrikaaelakhnechuxsayyuorpmkmiaebbepiyk sinaphungcnthungsinatalekhm epiyk aelaehniyw 5 inyipun khnixnu Ainu mkcamiaebbepiyk ethiybkbkhnyamaota Yamato odymakkhxngpraethsthimiaebbaehng 7 khihuaebbepiyktangcakaebbaehngodymiemdelk granule thiepnliphidaelasarsimakkwa yktwxyangechn aebbepiykmiliphid 50 aetaebbaehngmiaekh 20 4 yinodyechphaathithaihtangknkidrabuaelw 8 khuxepnkhuebskhuediywthiepliynip khuxepnphawaphhusnthan inyinthieriykwa ATP binding cassette C11 gene ABCC11 9 aebbaehngcami adenine aebbhxomisks inkhnathiaebbepiyk cami guanine xyangnxykhanghnung ephraakhihuaebbepiyksmphnthkbklinrkaersungaerngkhunemuxehnguxxxk nkwicycungkhadwa yinchwyldklintwhruxehnguxsungepnpraoychnaekkhnexechiytawnxxkechiyngehnuxphuxyuxasyinekhtxakashnaw 10 karthakhwamsaxad aekikh karthakhwamsaxadchxnghuxasykaryaythikhxngenuxeyuxbuphiwkhlaykbepnsayphansngwsdusungkarekhluxnkhakrrikrkcachwysnbsnundwy 11 khux esllsungekidtrngklangaekwhucayaythiipcakhlumaekwhu umbo inxtraiklkbthielbmuxngxk ipyngphnngkhxngchxnghu aelakyaytxipyngpakchxnghu khihuinchxnghuphrxmkbphnglaxxngthitidxyukcaekhluxntamxxkipdwy karkhybkramcathaihessthitidxyukbphnngchxnghuhludxxk thaihhludxxkcakhuidngaykhun karhlxlun aekikh khihuchwyhlxlunphiwhnngkhxngchxnghupxngknimihaehngsnith khuxtxmikhmncahlngikhsungmiliphidmakepntwhlxlun inkhihuaebbepiykepnxyangnxy liphidechnnimikhxelsetxrxl squalene krdikhmnlukosyawhlayxyang aelaaexlkxhxl 12 13 vththitanaebkhthieriy aekikh aemngansuksathithacnthungkhristthswrrs 1960 caimphbhlkthansnbsnunwakhihumivththitanaebkhthieriy 14 aetngansuksatx makphbvththitanaebkhthieriybangsayphnthu rwmthng Haemophilus influenzae epnehtukartidechuxhlaychnid Staphylococcus aureus epnehtukartidechuxphiwhnng thangedinlmhayic aelaxaharepnphis aela Escherichia coli bangsayphnthu odybangxyangepnehtuxaharepnphis bangkhrngchwykhaechuxthung 99 15 16 khihumnusysamarthybyngkartidechuxrainhusxngsayphnthuxyangsakhy 17 vththitanculchiphodyhlkmacakkarmikrdikhmnximtw lysozyme aelakhwamepnkrdelknxyraw 6 1 sahrbbukhkhlpkti 18 aetkminganwicythiphbwa khihuxacchwyihculchiphecriyetibot aelamitwxyangkhihuthiphbaebkhthieriyhnaaennthung 107 tw krm 19 khihumakekin aekikhkhihumakekinxacthaihimidyinesiyng aelaekhruxngchwyfngxacthaihkhihuxdaenn 20 sungpraeminwaepnehtukhxngpyhaekhruxngchwyfnginkrni 60 80 21 karkacdkhihu aekikhkarkhybkramchwythakhwamsaxadchxnghuodythrrmchati withyalywithyakarhukhxcmukxemrikn AAO cungaenanaimihexakhihuxxkykewnemuxkxpyha 22 aemmiwithiexakhihuxxkhlayxyang aetkhxdikhxesiykyngimekhyepriybethiyb 23 misarthithaihkhihunim aetnixyangediywyngimphx 24 withiexakhihuxxkthisamythisudkkhuxchidnaxundwykrabxkchidya 25 aephthyhukhxcmukxacichchxnaekhahu curette thakhihuxudchxnghuepnbangswnaelaimidtidxyukbphiwhnngkhxngchxnghu swnimpnsaliodymakcadnkhihuekhaipinchxnghuihlukkhun aelaexakhihuxxkidaettrngplay thitidkbsaliethann 26 karthaihnim aekikh karichsarthaihnimkxnexakhihuxxkxacmiphlethakbimtha aelasarchnidtang echn nahruxnamn kxacimmiphltangknmak 23 aetkimidsuksaphxihsrupidxyangchdecn xnung hlkthankhxngkarchidlanghu irrigation aelakaraekhakhihuxxk manual removal kkhxnkhangkakwm 23 sarthaihkhihunim sungmithwiprwmthng 27 namnthismkhwrtang osediymibkharbxentlalayinna hruxosediymibkharbxentaelakliesxrin sodium bicarbonate B P C Cerumol namnthwlisng namnsn aela dichlorobenzene Cerumenex triethanolamine polypeptide tang aela oleate condensate dxkkhiwestsungepnsarkrathaximlchn aelaepnswnprakxbxxkvththiinyarabaykhwrichsarthaihkhihunim 2 3 khrngtxwn 3 5 wnkxncaexakhihuxxk 28 karlanghu aekikh emuxthakhihuihnimaelw kcasamarthlanghuexakhihuxxkid aethlkthanwakarthaechnnimiphldikimchdecn 23 karlangxacthadwyichnachid sungthaidthnginkhlinikaelathiban hruxxacichkraepaayangchidna bulb syringe 29 nkwichakaridxthibaywithiichkrabxkchidnaxyanglaexiyd 28 30 aelaaenanaihdunghukhunipkhanghlng elngpakkraepaachidnakhunelknxyekhaipinhu ephuxihnaihllngehmuxnnatkcakephdanhu aelaihnayaihlxxkcakphunchxnghu langexaesskhihuxxknathiichlanghupkticaepnnaxun 30 naeklux 31 nayaosediymibkharbxent 32 hruxnaphsmnasmsaychuephuxpxngknkartidechux 30 khnikhpkticachxbnayalangthimixunhphumiethakbrangkay 31 ephraakarlanghudwynayathixunkwahruxeynkwaxunhphumirangkayxacthaihewiynhwkhlunis 25 30 chxnaekhahuaelaimpnhwsali aekikh imaekhahuthadwyimiph imaekhahuolha khihusamarthexaxxkdwychxnaekhahuhruximaekhahu odyichaekhaihkhihuhludxxkcakphnngaelwtkmnxxkmacakchxnghu 33 inpraethstawntk muxxachiphdansatharnsukhethanncaichimaekhahu aetkepneruxngpktiinyuorpobran aelayngepneruxngpktiinexechiypccubn rwmthngpraethsithy ephraakhnexechiyodymakmikhihuaebbaehng 5 cungsamarthichimkhudeba thaihkhihuhludxxkepnchinelkchinihythiaehng khaaenanapkticaimihichimpnhwsali ephraacadnkhihuekhaipinhuihlukkhun aelathaichxyangimramdrawng xacthaihaekwhuthalu 26 xnung karthaihchxnghuthlxk odyechphaaemuxminacakkarwaynahruxxabna xacthaihtidechux aemsaliexngkxachludxxktidxyuinhu dngnn impnhwsalikhwrichthakhwamsaxadhuphaynxkethann ethiyndudhu aekikh ethiyndudhu epnkhiphungaethngklwngsungcudifthiplaykhanghnung aelaexaplay klwng xikkhanghnungisekhainhuephuxdudsingthixyuinhuxxk aephthythangeluxkxacxangwa mnsamarththaihsukhphaphdi aetaephthypccubnaenanaimihthaephraaesiyngxntrayaelaimmiphlxair 22 34 phusnbsnunechuxwa esssiekhm thiehluxcakkarthaechnniepnkhihuthidudxxkma epnkhxphisucnwaidphl aetngansuksatang idaesdngwa esssiekhmthiphbepnswnehluxkhxngkarcudethiyn sungmiimwacaisekhainhuhruxim ephraaethiynthacakiyfayaelakhiphungsungmiessehluxemuxihm aetessehluxthiwanicamisinatalehmuxnkbkhihu khxngbangkhn thaihekhaicphididwaepnkhihu aelaephraaethiynepnaethngklwng khiphungrxn xactkisinchxnghuaelwthaxntrayaekaekwhuwithyalywithyakarhukhxcmukxemrikn AAO klawwa ethiyndudhuimplxdphyephuxexakhihuxxk aelaimmingansuksathimiklumkhwbkhumhruxepnwithyasastrthisnbsnunihichmneyiyngni 35 swnxngkhkarxaharaelayashrth FDA idbngkhbichkdhmaytxtankarkhayethiyndudhuhlaykhrngerimtngaetpi 1996 rwmthngyudkhxngaelaxxkhmayimihthaxik 35 xnung phlitphnthxun thikhayephux dudhu kimsamarthexakhihuxxkdwy odyechphaaemuxethiybkbxupkrn Jobson Horne probe A thiaephthyich 37 phawaaethrksxnthixacmi aekikh karaekhahuinxinediy phaphsinathub hnngsux De medicina karsarwcaephthythwipinxngkvsthangiprsniy 25 phbwa ephiyngaekh 19 exakhihuxxkexng epnpyhaephraakarexakhihuxxkesiyng aelaaephthyphyabalmkimidfukexakhihuxxkphx karlanghusamarththathibanthamixupkrnthicaepnaelaimchidnaaerngekin withikarxun khwrihbukhkhlthifukwithinnmadiphxthankwichakarphuhnungaenanaaephthywa hlngcakexakhihuxxk trwcihthwwaimmiehlux khaaenananixacduehluxefux aetbxykhrngthukemin 32 sungnkwichakarxikthanhnungkidyunyn 25 ephraaidsarwcaephthythwip 320 rayaelwphbwa aephthyephiyng 68 catrwcchxnghuwamikhihuehluxhruximhlnglanghuaelw dngnn karexakhihuxxkimhmdcungepnphawaaethrksxn 30 enuxngkbhtthkarniphawaaethrksxnxunrwmthnghuchnnxkxkesb otitis externa ephraatidechuxaebkhthieriy tlxdcnecb rusukhmun vertigo esiynginhu aelaaekwhuthalu khxmulcakngansuksanithaihesnxwaphawaaethrksxnsakhyenuxngkbhtthkarniekidinxtra 1 1 000 emuxchidlanghu 25 hnwypraknphythiimtxngphisucnkhwamphidkhxngniwsiaelndmikrnieriykrxngephraapyhaexakhihuxxk 25 inbrrdakrnieriykrxngekiywkbhukhxcmuk odyaekwhuthaluepnpyhakhwamphikarsungsamythisud 30 aemmixtrasungaetkimnaaeplkicephraakarlangkhihuxxkepnhtthkarthithaxyangsamy nkwichakaridpraeminwa mikarlangkhihuxxk 7 000 khrngtxprachakr 100 000 khntxpixasykarpramankhanxkchwngkhxngkhxmulthiidcakemuxngexdinbara 25 prawti aekikhinkhriststwrrsthi 1 nkekhiynsaranukrmchawormn Aulus Cornelius Celsus idbxkwithikarexakhihuxxkiwinhnngsux De Medicina 38 emuxbukhkhlerimimkhxyidyinesiyng sungekidbxymakhlngpwdhwmanan khnaerk khwrtrwcduhu ephraathaimphbrxyaephlthimikhxngaekhngtiddanbn kcaphbkhihurwmknaekhng thaepnkhxngaekhng ihisnamnrxnekhaip hruxsnimekhiywkhxngthxngaedngphsmnaphung hruxnaphklik Allium ampeloprasum hruxnaosdaelknxyphsmkbkbiwnnaphung aelaemuxkhxngaekhnghludxxkcakaephl ihlanghudwynaxun thaihtkxxkdwyimaekhahuidngay thaepnkhihunim ksamarthexaxxkodywithiediywkndwyimaekhahu aetthaaekhng ihhyxdnasmsaychuthiminaosdaelknxy 39 aelaemuxnimaelw kihlangaelathakhwamsaxaddngthiklawmaaelw xnung khwrlanghudwy castoreum B phsmkbnasmsaychu kbnamn laurel Laurus nobilis aelakbnaepluxkhwphkkadxxn Raphanus raphanistrum subsp sativus hruxnaaetngkwaphsmkbibtnkuhlabbd karhydnaphlxngunthiyngimsukphsmkbnamndxkkuhlabkkhxndikbkarimidyindwy karich aekikh insmyklang sartang rwmthngkhihuaelapssawaidichthasiihesmiynkhdlxkekhiynhnngsuxthimirupprakxb 40 mnthapakaerkxacthamacakkhihu 41 hnngsux aembanxemriknchangprahyd American Frugal Housewife klawwa immixairdikwakhihuephuxbrrethakhwamecbthimacakaephltapuhruximesiyb aelayngaenanaihichkhihuepnmnthangpak 42 kxnmidayekhluxbmn khiphung changeybphaidichkhihuknimihplaydayluy 43 stwxun aekikhmiplawalhlaychnidthisasmkhihuephimkhuneruxy sungsamarthichkhnadkahndxayukhxngwalthiimmifn 44 45 echingxrrth aekikh Jobson Horne probe epnchxnaekhahuthiaephthyhukhxcmukich chxncaecaarutrngklangephuxihsamarthaekhaexathngkhihuaehngaelaepiykthixdaennxxkid 36 castoreum epnsingthihlngxxkcakthungaekhsetxr castor sacs khxngbiewxrxemrikaehnux Castor canadensis aelakhxngbiewxryuorp Castor fiber xangxing aekikh Earwax american hearing org Chicago Illinois American Hearing Research Foundation 2008 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2009 02 25 Unknown parameter deadurl ignored help 2 0 2 1 Okuda I Bingham B Stoney P Hawke M 1991 06 The organic composition of earwax J Otolaryngol 3 212 5 PMID 1870171 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Alvord LS Farmer BL 1997 12 Anatomy and orientation of the human external ear Journal of the American Academy of Audiology 8 6 383 90 PMID 9433684 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link 4 0 4 1 Guest JF Greener MJ Robinson AC Smith AF 2004 08 Impacted cerumen composition production epidemiology and management QJM 97 8 477 88 doi 10 1093 qjmed hch082 PMID 15256605 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link 5 0 5 1 5 2 Overfield Theresa 1985 Biologic variation in health and illness race age and sex differences Menlo Park Calif Addison Wesley Nursing Division p 46 ISBN 0 201 12810 1 most common type in Whites and Blacks is dark brown and moist Dry wax most common in Orientals and Native Americans is gray and dry It is flaky and may form a thin mass that lies in the ear canal Bass EJ Jackson JF 1977 09 Cerumen types in Eskimos American Journal of Physical Anthropology 47 2 209 10 doi 10 1002 ajpa 1330470203 PMID 910884 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Miscellaneous musings on the Ainu I Ahnenkult com subkhnemux 2014 04 28 Diep Francie 2014 02 13 The Scent Of Your Earwax May Yield Valuable Information Popular Science Popsci com khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2014 02 22 subkhnemux 2014 04 28 Online Mendelian Inheritance in Man OMIM 117800 Yoshiura K Kinoshita A Ishida T aelakhna 2006 03 A SNP in the ABCC11 gene is the determinant of human earwax type Nature Genetics 38 3 324 30 doi 10 1038 ng1733 PMID 16444273 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Alberti PW 1964 09 Epithelial migration on the tympanic membrane The Journal of Laryngology and Otology 78 808 30 doi 10 1017 s0022215100062800 PMID 14205963 Check date values in date help Harvey DJ 1989 09 Identification of long chain fatty acids and alcohols from human cerumen by the use of picolinyl and nicotinate esters Biomedical amp Environmental Mass Spectrometry 18 9 719 23 doi 10 1002 bms 1200180912 PMID 2790258 Check date values in date help Bortz JT Wertz PW Downing DT 1990 11 Composition of cerumen lipids Journal of the American Academy of Dermatology 23 5 Pt 1 845 9 doi 10 1016 0190 9622 90 70301 W PMID 2254469 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Nichols AC Perry ET 1956 09 Studies on the growth of bacteria in the human ear channel The Journal of Investigative Dermatology 27 3 165 70 doi 10 1038 jid 1956 22 PMID 13367525 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Chai TJ Chai TC 1980 10 Bactericidal activity of cerumen Antimicrobial Agents and Chemotherapy 18 4 638 41 doi 10 1128 aac 18 4 638 PMC 284062 PMID 7447422 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Stone M Fulghum RS 1984 Bactericidal activity of wet cerumen The Annals of Otology Rhinology and Laryngology 93 2 Pt 1 183 6 PMID 6370076 CS1 maint uses authors parameter link Megarry S Pett A Scarlett A Teh W Zeigler E Canter RJ 1988 08 The activity against yeasts of human cerumen The Journal of Laryngology and Otology 102 8 671 2 doi 10 1017 s0022215100106115 PMID 3047287 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Roland PS Marple BF 1997 12 Disorders of the external auditory canal Journal of the American Academy of Audiology 8 6 367 78 PMID 9433682 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Campos A Betancor L Arias A Rodriguez C Hernandez AM Lopez AD Sierra A 1998 07 Study of common aerobic flora of human cerumen The Journal of Laryngology amp Otology 112 7 613 6 PMID 9775288 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Chou R Dana T Bougatsos C aelakhna 2011 03 Screening for Hearing Loss in Adults Ages 50 Years and Older A Review of the Evidence for the U S Preventive Services Task Force Evidence Syntheses No 83 U S Agency for Healthcare Research and Quality AHRQ subkhnemux 2013 07 05 Check date values in date help Oliveira RJ 1997 12 The active earcanal Journal of the American Academy of Audiology 8 6 401 10 PMID 9433686 Check date values in date help 22 0 22 1 Schwartz SR Magit AE Rosenfeld RM Ballachanda BB Hackell JM Krouse HJ Lawlor CM Lin K Parham K Stutz DR Walsh S Woodson EA Yanagisawa K Cunningham ER Jr 2017 01 Clinical Practice Guideline Update Earwax Cerumen Impaction Executive Summary Otolaryngology head and neck surgery official journal of American Academy of Otolaryngology Head and Neck Surgery 156 1 14 29 PMID 28045632 Check date values in date help 23 0 23 1 23 2 23 3 Clegg AJ Loveman E Gospodarevskaya E Harris P Bird A Bryant J Scott DA Davidson P Little P Coppin R 2010 06 The safety and effectiveness of different methods of earwax removal a systematic review and economic evaluation Health technology assessment Winchester England 14 28 1 192 doi 10 3310 hta14280 PMID 20546687 Check date values in date help Clegg AJ Loveman E Gospodarevskaya E aelakhna 2010 06 The safety and effectiveness of different methods of earwax removal a systematic review and economic evaluation Health Technol Assess 14 28 1 192 doi 10 3310 hta14280 PMID 20546687 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link 25 0 25 1 25 2 25 3 25 4 25 5 Sharp JF Wilson JA Ross L Barr Hamilton RM 1990 12 Ear wax removal a survey of current practice BMJ 301 6763 1251 3 doi 10 1136 bmj 301 6763 1251 PMC 1664378 PMID 2271824 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link 26 0 26 1 Ear wax Tchain com subkhnemux 2010 05 02 Fraser JG 1970 10 The efficacy of wax solvents in vitro studies and a clinical trial The Journal of Laryngology and Otology 84 10 1055 64 doi 10 1017 s0022215100072856 PMID 5476901 Check date values in date help 28 0 28 1 Wilson PL Roeser RJ 1997 12 Cerumen management professional issues and techniques Journal of the American Academy of Audiology 8 6 421 30 PMID 9433688 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Coppin R Wicke D Little P 2011 Randomized trial of bulb syringes for earwax impact on health service utilization Annals of Family Medicine 9 2 110 4 doi 10 1370 afm 1229 PMC 3056857 PMID 21403136 CS1 maint uses authors parameter link 30 0 30 1 30 2 30 3 30 4 Blake P Matthews R Hornibrook J 1998 11 When not to syringe an ear The New Zealand Medical Journal 111 1077 422 4 PMID 9861921 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link 31 0 31 1 Ernst AA Takakuwa KM Letner C Weiss SJ 1999 09 Warmed versus room temperature saline solution for ear irrigation a randomized clinical trial Annals of Emergency Medicine 34 3 347 50 doi 10 1016 S0196 0644 99 70129 0 PMID 10459091 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link 32 0 32 1 Bull P D 2002 Lecture notes on diseases of the ear nose and throat 6th ed Oxford Blackwell Science pp 26 27 ISBN 0 632 06506 0 Cerumen Management Protocol Template Audiology Supplies 2015 11 04 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2016 03 04 Unknown parameter deadurl ignored help Seely DR Quigley SM Langman AW 1996 10 Ear candles efficacy and safety The Laryngoscope 106 10 1226 9 doi 10 1097 00005537 199610000 00010 PMID 8849790 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link 35 0 35 1 Earwax www entnet org American Academy of Otolaryngology subkhnemux 2012 04 23 A non randomized comparison of earwax removal with a do it yourself ear vacuum kit and a Jobson Horne probe Clinical Otolaryngology 2005 PMID 16209672 Leong AC Aldren C 2005 08 A non randomized comparison of earwax removal with a do it yourself ear vacuum kit and a Jobson Horne probe Clinical Otolaryngology 30 4 320 3 doi 10 1111 j 1365 2273 2005 01020 x PMID 16209672 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Celsus Aulus Cornelius W G Spencer translation Book VI De Medicina acetum et cum eo nitri paulum Nitri is rendered as soda here i e soda ash though the word can refer to a variety of alkaline substances or to sodium nitrate http www archives nd edu cgi bin words exe nitri http www history science technology com Notes Notes 208 htm Note that acidification of sodium carbonate yields sodium bicarbonate Iberian manuscripts pigments Web ceu hu subkhnemux 2014 04 28 Schwaab M Gurr A Neumann A Dazert S Minovi A 2011 08 Human antimicrobial proteins in ear wax European Journal of Clinical Microbiology amp Infectious Diseases 30 8 997 1004 doi 10 1007 s10096 011 1185 2 PMID 21298458 Check date values in date help The American frugal housewife Google Books Books google ca 1841 p 116 subkhnemux 2010 05 02 Beaudry Mary C Bodkin Biographies khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2017 09 03 subkhnemux 2012 01 03 CS1 maint uses authors parameter link Nelson Craig S What can you tell us about whale ear wax Cs ucf edu khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2011 06 29 subkhnemux 2010 06 20 Trumble Stephen J Robinson Eleanor M Berman Kowalewski Michelle Potter Charles W Usenko Sascha 2013 Blue whale earplug reveals lifetime contaminant exposure and hormone profiles CS1 maint uses authors parameter link aehlngxangxingxun aekikh Roeser RJ Ballachanda BB 1997 12 Physiology pathophysiology and anthropology epidemiology of human earcanal secretions Journal of the American Academy of Audiology 8 6 391 400 PMID 9433685 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link Stone M Fulghum RS 1984 Bactericidal activity of wet cerumen The Annals of Otology Rhinology and Laryngology 93 2 Pt 1 183 6 PMID 6370076 CS1 maint uses authors parameter link Boe R Silvola J Yang J aelakhna 1999 09 Human beta defensin 1 mRNA is transcribed in tympanic membrane and adjacent auditory canal epithelium Infection and Immunity 67 9 4843 6 PMC 96817 PMID 10456939 Check date values in date help CS1 maint uses authors parameter link ewbist aekikhkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb khihuEar wax and its treatment Deafness Research UK Clinical practice guideline Cerumen impaction The American Academy of Otolaryngology Head and Neck Surgery Outer ear infection What helps if earwax builds up Pubmed Health ekhathungcak https th wikipedia org w index php title khihu amp oldid 9228648, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม