fbpx
วิกิพีเดีย

ดอกซีไซคลีน

สิงหาคม 16, 2021

ดอกซีไซคลีน (อังกฤษ: Doxycycline) เป็นยาปฏิชีวนะชนิดหนึ่งที่มีข้อบ่งใช้สำหรับรักษาโรคติดเชื้อหลายชนิดที่มีสาเหตุมาจากแบคทีเรียและโปรโตซัว ยานี้มีประโยชน์เป็นอย่างมากในการรักษาโรคปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย, สิว, การติดเชื้อคลามัยเดีย, ระยะเริ่มต้นของโรคไลม์, อหิวาตกโรค และซิฟิลิส นอกจากนี้ยังมีการใช้ดอกซีไซคลีนในการรักษามาลาเรีย ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อจำพวกโปรโตซัว โดยให้ยานี้ร่วมกับควินิน และอาจใช้ดอกซีไซคลีนเพื่อเป็นการป้องกันมาลาเรียสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคได้ ดอกซีไซคลีนเป็นยาปฏิชีวนะอีกชนิดหนึ่งที่มีการใช้อย่างแพร่หลายเนื่องจากมีราคาถูกและสามารถบริหารยาโดยการรับประทานได้ ในรายที่มีอาการของโรครุนแรงอาจจำเป็นต้องได้รับการบริหารยาโดยการฉีดเข้าหลอดเลือดดำ

ดอกซีไซคลีน
ข้อมูลทางคลินิก
การอ่านออกเสียง/ˌdɒksiˈsaɪklin/
dox-i-sye-kleen
ชื่อทางการค้าDoryx, Doxyhexal, Doxylin และอื่น ๆ
AHFS/Drugs.comDoxycycline
MedlinePlusa682063
ข้อมูลทะเบียนยา
  • TH Ya&You: Doxycycline
  • US FDA: Doxycycline
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์
  • AU: D
  • US: D (มีความเสี่ยง)
ช่องทางการรับยารับประทาน, ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
รหัส ATC
กฏหมาย
สถานะตามกฏหมาย
  • AU: S4 (ต้องใช้ใบสั่งยา)
  • UK: POM (Prescription only)
  • US: ℞-only
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์
ชีวประสิทธิผล100%
การจับกับโปรตีน90%
การเปลี่ยนแปลงยาLiver
ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ15–25 ชั่วโมง
การขับออกปัสสาวะ (40%)
ตัวบ่งชี้
เลขทะเบียน CAS
  • 564-25-0[CAS]
PubChem CID
  • 11256
DrugBank
  • DB00254  7
ChemSpider
  • 10482106  7
UNII
  • 334895S862
KEGG
  • D07876  7
ChEBI
  • CHEBI:50845  7
ChEMBL
  • CHEMBL1433  7
ECHA InfoCard100.008.429
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี
สูตรC22H24N2O8
มวลต่อโมล444.43 g/mol
แบบจำลอง 3D (JSmol)
  • Interactive image
  7 7 (what is this?)  (verify)
สารานุกรมเภสัชกรรม

ดอกซีไซคลีนเป็นยาปฏิชีวนะอีกชนิดหนึ่งที่มีขอบเขตการออกฤทธิ์กว้าง (Broad-spectrum antibiotic) โดยยานี้จะฆ่าแบคทีเรียและโปรโตซัวที่ไวต่อยานี้ด้วยการยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการขยายพันธุ์ของเซลล์ ทำให้เซลล์จุลชีพเป้าหมายตายไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม การใช้ดอกซีไซคลีนในการรักษานี้อาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นได้เช่นเดียวกันกับยาชนิดอื่น ๆ โดยอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นได้บ่อยจากการใช้ยานี้ ได้แก่ ท้องเสีย, คลื่นไส้, อาเจียน, ผื่นแดง, และผิวไวต่อแสงมากขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดผิวไหม้จากแสงแดด (sunburn) เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การใช้ดอกซีไซคลีนในหญิงตั้งครรภ์หรือในเด็กอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนสีของฟันทารกหรือเด็กเป็นสีเทาหรือน้ำตาลอย่างถาวรได้ ส่วนการใช้ยานี้ในหญิงที่กำลังให้นมบุตรนั้นค่อนข้างมีความปลอดภัย เนื่องจากดอกซีไซคลีนถูกขับออกทางน้ำนมได้น้อยมาก

ดอกซีไซคลีนได้รับการจดสิทธิบัตรในปี ค.ศ. 1957 และมีการผลิตเชิงพาณิชย์ในปี ค.ศ. 1967 และถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในยาสำคัญของรายการยาที่จำเป็นขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization's List of Essential Medicines) ซึ่งเป็นรายการยาที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงและมีความสำคัญเป็นลำดับแรกของระบบสุขภาพพื้นฐานของประชาชนในประเทศต่าง ๆ ในปัจจุบัน มีการผลิตดอกซีไซคลีนออกสู่ท้องตลาดยาเป็นจำนวนมากด้วยชื่อการค้าที่แตกต่างกันออกไป ทั่วไปแล้วมักมีราคาที่ค่อนข้างถูก โดยราคาสำหรับการขายส่งในประเทศกำลังพัฒนามีมูลค่าประมาณ 0.01 ถึง 0.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อแคปซูล สำหรับในสหรัฐอเมริกา ราคาเฉพาะค่ายาสำหรับการรักษาด้วยดอกซีไซคลีนเป็นระยะเวลา 10 วันนั้นมีค่าประมาณ 14 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเมื่อปี ค.ศ. 2014 พบว่ามีบางแหล่งที่มีการขายดอกซีไซคลีนเป็นราคาสูงมากถึง 3.00–10.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อแคปซูล

ประวัติและการค้นพบ

หลังจากมีการค้นพบเพนิซิลลิน ยาดังกล่าวได้เข้ามามีส่วนในการปฏิวัติการรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นอย่างมาก ในห้วงเวลานั้นบริษัทยาหลายบริษัทได้มุ่งเป้ามายังการคิดค้นพัฒนายาปฏิชีวนะชนิดใหม่โดยใช้กระบวนการการสำรวจทางชีวภาพ (Bioprospecting) เพื่อค้นหาโครงสร้างต้นแบบของยาปฏิชีวนะกันอย่างแพร่หลาย อเมริกันไซยานามิดถือเป็นหนึ่งบริษัทในจำนวนนี้ โดยในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1940 นักเคมีของบริษัทดังกล่าวได้ค้นพบคลอร์เตตราไซคลีน ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะชนิดแรกของกลุ่มเตตราซัยคลีนที่ถูกค้นพบ หลังจากนั้นไม่นานนัก นักวิทยาศาสตร์ของไฟเซอร์ได้ค้นพบยาปฏิชีวนะอีกชนิดหนึ่งในกลุ่มเดียวกันและถูกให้ชื่อว่าออกซิเตตราไซคลีน และต่อมาได้มีการผลิตยาดังกล่าวเพื่อการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ภายใต้ชื่อการค้า Terramycin ยาปฏิชีวนะทั้งสองชนิดที่ถูกค้นพบนี้ล้วนเป็นผลผลิตที่ได้จากธรรมชาติ เช่นเดียวกันกับเพนิซิลลินที่นักวิทยาศาสตร์ในขณะนั้นล้วนเชื่อว่า ยาปฏิชีวนะที่เป็นผลิตผลที่ได้จากธรรมชาตินี้ล้วนมีประสิทธิภาพในการรักษาที่สมบูรณ์แบบกว่ายาที่ได้จากแหล่งอื่น การปรับเปลี่ยนโครงสร้างของยาเหล่านี้อาจทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงจากเดิมก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิทยาศาสตร์ของไฟเซอร์ภายใต้การนำของลอยด์ คอนโอเวอร์ (Lloyd Conover) ได้ทำการดัดแปลงโครงสร้างของยาปฏิชีวนะสองชนิดดังข้างต้น ซึ่งนำไปสู่การค้นพบเตตราซัยคลีน ซึ่งถือเป็นยาปฏิชีวนะกึ่งสังเคราะห์ตัวแรกของกลุ่มนี้ ต่อมาในช่วงต้นของคริสต์ทศวรรษ 1960 ทีมวิจัยของชาร์ลี สตีเฟน (Charlie Stephens) ได้ทำการศึกษาดัดแปลงโครงสร้างของยาดังกล่าวจนได้อนุพันธุ์ของเตตราซัยคลีนที่มีความคงตัวและมีประสิทธิภาพเชิงเภสัชวิทยามากขึ้น โดยยาที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมวิจัยข้างต้นก็คือ ดอกซีไซคลีน โดยดอกซีไซคลีนได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1967

 
ปฏิกิริยาการสังเคราะห์ดอกซีไซคลีนจากออกซิเตตราไซคลีน โดยใช้โรเดียมเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา

ในขณะที่สิทธิบัตรของดอกซีไซคลีนใกล้ที่จะหมดอายุลงในช่วงต้นทศวรรษ 1970 สิทธิบัตรของยานี้ได้เป็นคดีความฟ้องร้องกันระหว่างไฟเซอร์กับอินเตอร์เนชันแนล เรคติไฟเออร์ (International Rectifier) ซึ่งคดีความดังกล่าวนั้นไม่สามารถหาข้อยุติได้จนถึงปี ค.ศ. 1983 จึงถือได้ว่าคดีการฟ้องร้องดังกล่าวเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับสิทธิบัตรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกาในขณะนั้น โดยศาลตัดสินให้ไฟเซอร์ชนะคดีในครั้งนี้ และอินเตอร์เนชันแนล เรคติไฟเออร์จำเป็นต้องจ่ายค่าปรับสำหรับการละเมิดสิทธิบัตรยานี้ อย่างไรก็ตาม แทนที่ไฟเซอร์จะเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินค่าปรับ กลับประสงค์ที่จะเข้าไปควบคุมกิจการด้านสัตวแพทย์และวัตถุเจือปนอาหาร (food additive) ของราเชลล์แลบอราทอรีส์ (Rachelle Laboratories) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทคู่ความแทน และอินเตอร์เนชันแนล เรคติไฟเออร์ก็ให้ความยินยอมในประเด็นนี้

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2013 องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้ออกรายงานการขาดแคลนดอกซีไซคลีนในรูปแบบยาฉีดและยาเม็ด เนื่องมาจากความต้องการในการใช้ดอกซีไซคลีนในรูปแบบดังกล่าวมีเพิ่มมากขึ้นและเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นในโรงงานที่ผลิตยานี้ บริษัทที่เกี่ยวข้องอย่างไมลาน (Mylan), แอคตาวิส (Actavis) และฮิกมะฮ์ ฟาร์มาซูติคอลส์ (Hikma Pharmaceuticals) รวมถึงผู้ผลิตหลักหลายรายที่ไม่ระบุชื่อได้หยุดการผลิตยาดังกล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ 2013 รวมไปถึงเทวา (Teva Pharmaceutical Industries) ที่หยุดผลิตไปในเดือนพฤษภาคม 2013 การขาดแคลนดอกซีไซคลีนในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ดีเท่าใดนัก เนื่องจากในขณะนั้นก็มีปัญหาการขาดแคลนยาปฏิชีวนะในกลุ่มเดียวกันอย่างเตตราไซคลีนด้วยเช่นกัน เป็นผลให้ราคาดอกซีไซคลีนในตลาดยาสหรัฐอเมริกาใน ค.ศ. 2013 และตอนต้นของ ค.ศ. 2014 เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก (จาก $20 เป็น มากกว่า $1,800 ต่อกระปุกที่มีขนาดบรรจุ 500 เม็ด) ก่อนจะลดลงมากลับเข้าสู่ภาวะปกติในภายหลัง

เภสัชวิทยา

 
ดอกซีไซคลีนชนิดแคปซูล ความแรง 100 มิลลิกรัม/แคปซูล ของสถาบันวัตสันฟาร์มาซูติคอลส์ (Watson Pharmaceuticals, Inc.)
ดูเพิ่มเติมที่: เตตราไซคลีน (กลุ่มยา) § กลไกการออกฤทธิ์

ดอกซีไซคลีนเป็นยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย (Bacteriostatic agent) เช่นเดียวกับยาปฏิชีวนะอื่นในกลุ่มเดียวกัน โดยยานี้จะออกฤทธิ์ยับยั้งหรือขัดขวางการสังเคราะห์โปรตีนที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของแบคทีเรีย ทั้งนี้ ดอกซีไซคลีนจัดเป็นยาปฏิชีวนะที่มีโครงสร้างเป็นสารประกอบเชิงซ้อนของไอออนโลหะที่ไม่มีความคงตัวในสภาวะกรดหรือในสภาวะที่มีค่าพีเอช (pH) สูง ถึงแม้ว่าดอกซีไซคลีนจะมีสัดส่วนของตัวยาที่ผ่านเข้าสู่ดูโอดีนัมและถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้มากกว่ายาปฏิชีวนะกลุ่มเตรตราไซคลีนชนิดอื่น ๆ ที่ถูกค้นพบก่อนหน้าก็ตาม นอกจากนี้ การดูดซึมดอกซีไซคลีนของดูโอดีนัมยังถูกรบกวนจากอาหารได้น้อยกว่ายาปฏิชีวนะอื่นในกลุ่มเตรตราไซคลีนที่ถูกค้นพบก่อนหน้า โดยความเข้มข้นของดอกซีไซคลีนจะลดลงประมาณร้อยละ 20 เมื่อรับประทานยาร่วมกับอาหาร ในขณะที่เตตราไซคลีนนั้นจะลดลงมากถึงร้อยละ 50

ยาปฏิชีวนะกลุ่มเตตราไซคลีนที่หมดอายุหรือที่อยู่ในสภาวะที่มีค่าพีเอชน้อยกว่า 2 นั้นมีรายงานว่าพบการเกิดพิษต่อไตจากแอนไฮโดร-4-อีพิเตเตราไซคลีน (anhydro-4-epitetracycline) ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการเสื่อมสลายของยาดังกล่าว และเป็นสาเหตุให้เกิดกลุ่มอาการแฟนโคนิ (Fanconi syndrome) ได้ ในกรณีของดอกซีไซคลีนซึ่งไม่มีหมู่ไฮดรอกซิลที่ตำแหน่งที่ 6 ทำให้การเสื่อมสลายของยานี้ไม่ก่อให้เกิดสารประกอบที่เป็นพิษต่อไตเช่นที่พบในยาปฏิชีวนะอื่นในกลุ่มเตตราไซคลีนที่ถูกค้นพบก่อนหน้า อย่างไรก็ตามควรใช้ ยาปฏิชีวนะในเตตราไซคลีน ซึ่งรวมไปถึงดอกซีไซคลีนด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเนื่องจากอาจทำให้ภาวะอะโซทีเมีย (azotemia) ของผู้ป่วยแย่ลงจากพิษของผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการเสื่อมสลายของยาดังกล่าว

การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์

นอกเหนือจากข้อบ่งชี้ทั่วไปสำหรับยาปฏิชีวนะทุกชนิดในกลุ่มเตตราไซคลีนแล้ว ดอกซีไซคลีนมักถูกใช้เพื่อรักษาโรคไลม์, ต่อมลูกหมากอักเสบติดเชื้อเรื้อรัง, โพรงอากาศอักเสบ, ภาวะอักเสบในอุ้งเชิงกราน สิวที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรีย, โรคโรซาเชีย (Rosacea), และการติดเชื้อแบคทีเรียสกุลริคเค็ทเซีย

เมื่อปี ค.ศ. 2004 ในแคนาดา ดอกซีไซคลีนได้ถูกกำหนดให้เป็นยาปฏิชีวนะทางเลือกแรกสำหรับการรักษาท่อปัสสาวะอักเสบที่มีสาเหตุมาจากแบคทีเรียที่ไม่ใช่สกุลโกโนคอคคอลและสกุลคลาไมเดีย โดยใช้ร่วมกับเซฟิกซิมในการรักษาหนองในที่ไม่ซับซ้อน

การใช้เพื่อต้านโปรโตซัว

ดอกซีไซคลีนถูกนำมาใช้เป็นยาสำหรับป้องกันการติดเชื้อมาลาเรียในผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคดังกล่าว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ยานี้สำหรับการรักษาโรคดังกล่าวได้ด้วย แต่ไม่ควรใช้ดอกซีไซคลีนเดี่ยว ๆ ในการรักษามาลาเรียในระยะแรกของการรักษา ถึงแม้ว่าเชื้อก่อโรคนั้น ๆ จะยังคงมีความไวต่อดอกซีไซคลีนก็ตาม เนื่องจากฤทธิ์ในการต้านมาลาเรียของดอกซีไซคลีนนั้นไม่อาจมีผลได้ในทันที ซึ่งเป็นผลมาจากกลไกการออกฤทธิ์ของดอกซีไซคลีนที่ต้องใช้เวลาสักระยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเหนี่ยวนำให้การแบ่งเซลล์ของเชื้อสาเหตุเกิดความผิดปกติ เนื่องจากความผิดปกติของโปรตีนสังเคราะห์ได้ยีนอะพิโคพลาสต์ ด้วยเหตุนี้ทำให้การรักษามาลาเรียด้วยดอกซีไซคลีนจึงมักให้ร่วมกับยาต้านมาลาเรียชนิดอื่น เช่น ควินีน เป็นต้น

การใช้เพื่อต้านแบคทีเรีย

โดยส่วนใหญ่แล้ว Moraxella catarrhalis, Brucella melitensis, Chlamydia pneumoniae, และ Mycoplasma pneumoniae นั้นเป็นแบคทีเรียที่มีความไวต่อดอกซีไซคลีน ในขณะที่ Haemophilus spp., Mycoplasma hominis, และ Pseudomonas aeruginosa บางสเตรนได้เกิดการพัฒนาสายพันธุ์ให้ดื้อต่อดอกซีไซคลีน ซึ่งมีความรุนแรงของการดื้อยาในระดับที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ ดอกซีไซคลีนยังเป็นยาปฏิชีวนะอีกชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาพิจารณาใช้เพื่อการป้องกันและรักษาโรคแอนแทรกซ์และโรคฉี่หนู และยังมีประสิทธิภาพดีในการรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเยอร์ซิเนีย เพสทิส (แบคทีเรียที่ทำให้เกิดการระบาดของกาฬโรคครั้งใหญ่ที่เรียกว่า กาฬมรณะ), โรคไลม์, โรคเออร์ลิชิโอสิส (Ehrlichiosis) และโรคไข้พุพองเทือกเขาร็อกกี (Rocky Mountain spotted fever)

ในปัจจุบัน ดอกซีไซคลีนมีข้อบ่งใช้สำหรับการรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียต่อไปนี้:

ในกรณีเชื้อก่อโรคเป็นแบคทีเรียแกรมลบ เมื่อการทดสอบถึงความไวของเชื้อก่อโรคแล้วพบว่ายังมีความไวต่อดอกซีไซคลีน อาจพิจารณาใช้ดอกซีไซคลีนในการรักษาโรคติดเชื้อเหล่านี้ได้:

อย่างไรก็ตาม แบคทีเรียแกรมบวกบางสายพันธุ์ได้มีการปรับตัวให้ดื้อต่อดอกซีไซคลีน ตัวอย่างเช่น เชื้อตัวอย่างราวร้อยละ 44 ของสายพันธุ์ Streptococcus pyogenes และมากกว่าร้อยละ 74 ของสายพันธุ์ S. faecalis นั้นได้มีการพัฒนาตนให้ดื้อต่อยาปฏิชีวนะในกลุ่มเตตราไซคลีน ดังนั้น หากจะพิจารณาใช้ดอกซีไซคลีนในการรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกต่อไปนี้ ควรมีการทดสอบถึงความไวของเชื้อก่อโรคดังกล่าวต่อดอกซีไซคลีนก่อนเสมอ:

ในบางกรณีที่ผู้ป่วยมีข้อห้ามใช้ต่อยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนิซิลลิน อาจพิจารณาใช้ดอกซีไซคลีนเป็นยาทางเลือกรองได้ สำหรับข้อบ่งใช้ต่อไปนี้:

  • ซิฟิลิส จากการติดเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum
  • โรคคุดทะราด ที่มีสาเหตุจากแบคทีเรีย Treponema pertenue
  • โรคติดเชื้อลิสเทอเรีย จากแบคทีเรียสายพันธุ์ Listeria monocytogenes
  • โรคติดเชื้อวินเซนต์ (Vincent's infection) ที่มีสาเหตุมาจากแบคทีเรีย Fusobacterium fusiforme
  • โรคแอคติโนมัยโคสิส จากการติดเชื้อแบคทีเรีย Actinomyces israelii
  • โรคติดเชื้อที่มีสาเหตุมาจากแบคทีเรียในสกุลคลอสทริเดียม

นอกจากนี้ ดอกซีไซคลีนยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาให้ใช้เป็นยาปฏิชีวนะทางเลือกรองที่ใช้สำหรับการรักษาสิวอักเสบรุนแรงจากการติดเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในบางข้อบ่งใช้นั้นไม่อาจใช้ดอกซีไซคลีนเดี่ยว ๆ ในการรักษาได้ เนื่องจากจะทำให้ประสิทธิภาพการรักษาไม่ดีเท่าที่ควรและทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการดื้อยาของเชื้อสาเหตุได้มากขึ้น จึงมักมีการใช้ดอกซีไซคลีนร่วมกับยาปฏิชีวนะอื่นในข้อบ่งใช้นั้น ๆ อาทิ โรคแท้งติดต่อ ซึ่งดอกซีไซคลีนจัดเป็นยาทางเลือกแรกแต่ต้องใช้การรักษาร่วมกับสเตรปโตมัยซิน และเป็นทางเลือกรองเมื่อให้การรักษาร่วมกับไรแฟมพิซิน (ไรแฟมพิน)

การใช้เพื่อต้านปรสิต

ดอกซีไซคลีนมีประสิทธิภาพดีในการฆ่าแบคทีเรียวอลบาเคียที่ดำรงชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยกัน (Symbiosis) อยู่ในระบบสืบพันธุ์ของปรสิตจำพวกนีมาโทดาอย่างพยาธิฟิลาเรีย (Filariasis) ทำให้ระบบสืบพันธุ์ของพวกนีมาโทดาปราศจากแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ และส่งผลกระทบต่อการขยายพันธุ์ของนีมาโทดนั้น ๆ จากการออกฤทธิ์ของดอกซีไซคลีนต่อแบคทีเรียในระบบสืบพันธุ์ของนีมาโทดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ทำให้สามารถลดการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อบางชนิดที่เกิดจากปรสิตเหล่านั้นลงได้ อาทิ โรคพยาธิตาบอด และ โรคเท้าช้าง เป็นต้น การศึกษาทางคลินิกในปี ค.ศ. 2005 พบว่า การรักษาด้วยดอกซีไซคลีนเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 8 สัปดาห์สามารถกำจัดตัวอ่อนไมโครฟิลาเรีย (microfilaria) ของหนอนพยาธิฟิลาเรียออกไปได้เกือบทั้งหมด

ความไวของจุลชีพต่อยา

ดอกซีไซคลีนถือเป็นยาปฏิชีวนะอีกชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพดีอย่างยิ่งในการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ รวมไปถึงการติดเชื้อในตา ที่มีสาเหตุมาจากแบคทีเรียสกุลChlamydia, Streptococcus, Ureaplasma, Mycoplasma และอื่น ๆ การวัดค่าความเข้มข้นยาที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ (MIC susceptibility test) ของดอกซีไซคลีนต่อแบคทีเรียบางชนิด ดังแสดงต่อไปนี้

  • Chlamydia psittaci : 0.03 μg/mL
  • Mycoplasma pneumoniae : 0.016 μg/mL – 2 μg/mL
  • Streptococcus pneumoniae : 0.06 μg/mL – 32 μg/mL

อาการไม่พึงประสงค์

อาการไม่พึงประสงค์และข้อควรระวังจากดอกซีไซคลีนนั้นมีความคล้ายคลึงกันกับยาปฏิชีวนะชนิดอื่นที่อยู่ในกลุ่มเตตราไซคลีน โดยการเกิดผื่นแบบอีริธีมาหลังจากผิวหนังได้รับการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงนั้นพบการเกิดในผู้ที่ใช้ดอกซีไซคลีนในการป้องกันมาลาเรียได้มากถึงร้อยละ 7.3–21.2 ทั้งนี้มีการศึกษาทางคลินิกซึ่งได้ทำการศึกษาประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันมาลาเรียของยาต้านมาลาเรียหลายชนิด การติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากยาที่ใช้ในการศึกษานี้พบว่า ดอกซีไซคลีนไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงทางผิวหนังมากกว่ายาอื่นที่ใช้ในการศึกษาจนถึงระดับที่มีนัยสำคัญทางสถิติ (ไม่มีการจำแนกชนิดของอาการข้างเคียงทางผิวหนัง) ผื่นที่เกิดขึ้นจากการได้รับดอกซีไซคลีนนั้นสามารถหายเป็นปกติได้เองหลังจากที่มีการหยุดใช้ยาดังกล่าวไประยะหนึ่ง นอกจากนี้แล้ว ดอกซีไซคลีนยังมีข้อดีกว่ายาปฏิชีวนะอื่นในกลุ่มเดียวกันคือ ไม่ก่อให้การทำงานของไตบกพร่องจากผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการเสื่อมสลายของตัวยา

อาการไม่พึงประสงค์ที่แสดงต่อไปนี้เป็นเพียงอาการไม่พึงประสงค์ที่มีอุบัติการณ์การเกิดสูงกว่า 0.1% (> 1/1,000) ซึ่งอาจมีการเกิดปฏิกิริยาการแพ้ยาดอกซีไซคลีนขึ้นได้ แต่มีอุบัติการณ์การเกิดค่อนข้างต่ำ (<1/1,000; น้อยกว่า 0.1%) แต่ส่วนใหญ่มักมีอาการรุนแรง

อวัยวะที่ได้รับผลกระทบ ความถี่ตามเกณฑ์ CIOMS ชนิดของอาการไม่พึงประสงค์
การทดสอบในห้องปฏิบัติการ พบได้ไม่มาก การเพิ่มขึ้นของระดับยูเรียในเลือด
ความผิดปกติของเลือด พบได้ไม่มาก โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก, เกล็ดเลือดต่ำ, นิวโตรฟิลในเลือดต่ำ และอีโอสิโนฟิลในเลือดสูง
ความผิดปกติของระบบประสาท พบได้ไม่มาก ปวดศีรษะ
ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร พบได้ไม่มาก

ไม่รุนแรง:อาการแสบร้อนช่องปาก, คลื่นไส้, อาเจียน, คอหอยอักเสบ
รุนแรง: กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ และลำไส้ใหญ่อักเสบที่ไม่ได้มีสาเหตุจากการติดเชื้อจุลชีพ, เยื่อบุช่องปากอักเสบ

ความผิดปกติของผิวหนัง พบได้ไม่มาก ผื่นนูนแบนและผื่นอีริธีมา, ผิวหนังไวต่อแสง
อื่น ๆ บ่อยมาก ฟันมีความไวต่อความร้อนมากผิดปกติ

อันตรกิริยา

การรับประทานยาดอกซีไซคลีนร่วมกับอาหาร, ยาลดกรด, อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของแคลเซียม, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็ก, ยาระบายที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียม อาจส่งผลลดประสิทธิภาพในการรักษาของดอกซีไซคลิน เนื่องจากอาหาร, ยา หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังข้างต้นจะทำให้ดอกซีไซคลีนถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้น้อยลง

...อาหารสามารถลดการดูดซึมดอกซีไซคลินลงได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยการดูดซึมยากลุ่มเตตราไซคลีนนั้นจะเกิดขึ้นในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนบน มีรายงานว่าผลิตภัณฑ์จากนม, อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์, โซเดียมไบคาร์บอเนต, เกลือแคลเซียมและแมกนีเซียม, ยาระบายที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียมและธาตุเหล็ก มีกลไกที่มีผลต่อการดูดซึมของยากลุ่มนี้ ผ่านการเกิดคีเลชันและเพิ่มพีเอชในกระเพาะอาหาร ... จากเหตุผลดังกล่าว จึงควรแนะนำให้แนะนำผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยดอกซีไซคลีนควรรับประทานในขณะท้องว่าง...

ในอดีตเป็นที่เชื่อกันว่าดอกซีไซคลีนทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของฮอร์โมนคุมกำเนิดลดลง เนื่องจากการกระตุ้น CYP450 แต่การศึกษาวิจัยล่าสุดกลับพบว่า ยาปฏิชีวนะในกลุ่มเตตราไซคลีนส่วนใหญ่ (รวมถึงดอกซีไซคลีน) นั้นไม่ได้มีผลรบกวนประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของฮอร์โมนดังกล่าวให้ลดต่ำลงจนถึงระดับที่มีนัยสำคัญทางสถิติแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แพทย์หลายคนยังคงแนะนำให้ใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วยสำหรับคนมีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยดอกซีไซคลีนในขณะที่กำลังรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์

การใช้ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร

ดอกซีไซคลีนได้รับการจัดระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์จากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาให้อยู่ในระดับ D เช่นเดียวกันกับยาปฏิชีวนะชนิดอื่น ๆ ในกลุ่มเตตราไซคลีน เนื่องจากยาปฏิชีวนะในกลุ่มดังกล่าวมีผลในการขัดขวางการพัฒนาของกระดูกและฟันของตัวอ่อนในครรภ์ รวมไปถึงทารกแรกเกิดและเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 8 ปี ดังนั้น ดอกซีไซคลีนจึงมีข้อห้ามใช้ในกลุ่มประชากรดังกล่าว ยกเว้น ในกรณีใช้สำหรับการรักษาโรคแอนแทรกซ์ หรือมีข้อห้ามใช้ที่รุนแรงต่อยาปฏิชีวนะอื่น หรือรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอื่นแล้วไม่ได้ผล

ดอกซีไซคลีนเป็นยาปฏิชีวนะที่ไม่ถูกขับออกทางน้ำนมหรือถูกขับออกได้น้อยมาก ทั้งนี้ แม้จะพบการเกิดอาการไม่พึงประสงค์กับฟันและกระดูกของเด็กที่ได้รับการบริหารยาปฏิชีวนะกลุ่มเตตราไซคลีนโดยตรง แต่ผลกระทบเหล่านี้ไม่ได้รับการบันทึกไว้ในทารกที่อาจได้รับยาดังกล่าวผ่านนมแม่ แม้ว่าปริมาณยากลุ่มดังกล่าวที่ถูกขับออกมาในน้ำนมจะมีปริมาณที่น้อยมาก แต่ในทางทฤษฎีแล้ว ทารกที่รับประทานนมแม่ในขณะที่แม่ได้รับการรักษาด้วยยากลุ่มดังกล่าวก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ ถึงแม้จะอยู่ในระดับที่เล็กน้อยก็ตาม

การศึกษาวิจัย

 
แผนภาพจำลองการศึกษาระบบ Tet-ON ที่ใช้ดอกซีไซคลีนเหนี่ยวนำให้เกิดการแสดงออกของทรานส์ยีนใน short hairpin RNA (shRNA)

เมื่อใช้ดอกซีไซคลีนในขนาดต่ำว่าขนาดที่มีผลในการต้านจุลชีพ ยานี้จะมีคุณสมบัติในการยับยั้งเอนไซม์เมทริกซ์เมทัลโลโปรติเอส (martrix metalloproteinases: MMPs) ทำให้มีการนำดอกซีไซคลีนมาใช้ในระบบการทดลองต่าง ๆ เพื่อมุ่งหวังผลการยับยั้งดังกล่าว เช่น การใช้เพื่อยับยั้งการเกิดกระจกตาถลอกซ้ำซ้อน (Recurrent corneal erosion; CRE) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีรายงานถึงความสำเร็จในการใช้ดอกซีไซคลีนในการรักษาผู้ป่วยโรค LAM (lymphangioleiomyomatosis) รายหนึ่ง ซึ่งเป็นโรคที่มีพยากรณ์โรครุนแรงและเสียชีวิตได้ง่าย และการศึกษาในหนูทดลองอีกการศึกษาหนึ่งพบว่าดอกซีไซคลีนสามารถบรรเทาอาการของโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวผิดปกติ ซึ่งเป็นโรคที่เป็นผลเสียจากการที่มีความดันโลหิตสูงต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้น บางการศึกษาพบว่าการใช้ดอกซีไซคลีนในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มีอาการคงที่แล้ว สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของปอดได้

นอกจากที่กล่าวมาดังข้างต้น ดอกซีไซคลีนยังถูกนำมาใช้ในการศึกษา "tet-on" (การแสดงออกของยีนที่ถูกกระตุ้นโดยดอกซีไซคลีน) และ "tet-off" (การแสดงออกของยีนที่ถูกยับยั้งไว้โดยดอกซีไซคลีน) ซึ่งเป็นการศึกษาการถอดรหัสพันธุกรรมที่ถูกควบคุมโดยเตตราไซคลีน (Tetracycline-controlled transcriptional activation) เพื่อควบคุมการแสดงออกของยีนทรานส์ในจุลชีพและเซลล์เพาะเลี้ยง ซึ่งการใช้ดอกซีไซคลีนในการศึกษาทดลองดังกล่าวจะมีความคงตัวมากกว่าการใช้เตตราไซคลีน

การศึกษาทดลองอื่น ๆ ที่มีการใช้ดอกซีไซคลีน ได้แก่:

การใช้ดอกซีไซคลีนเป็นตัวทำปฏิกิริยา

ดอกซีไซคลีนและยาปฏิชีวนะชนิดอื่น ๆ ในกลุ่มเตตราไซคลีนมักถูกนำมาใช้เป็นมักถูกนำมาใชเป็นตัวทำปฏิกิริยาทั้งการศึกษาวิจัยด้านชีวการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับแบคทีเรียทั้งนอก (in vitro) และในร่างกายมนุษย์ (in vivo) รวมไปถึงการศึกษาในจุลชีพและเซลล์ยูคาริโอตอื่น ๆ ที่สามารถเหนี่ยวนำให้เกิดการแสดงออกของโปรตีนโดยการใช้วิธีการการควบคุมการถอดรหัสพันธุกรรมด้วยเตตราไซคลีน (Tetracycline-controlled transcriptional activation) กลไกการออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียของยากลุ่มเตตราไซคลีนอาศัยการรบกวนการแปรรหัสพันธุกรรมของโปรตีนในแบคทีเรีย ซึ่งจะทำลายความสามารถในการเจริญและซ่อมแซมตัวเองจุลินทรีย์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การยับยั้งการแปรรหัสพันธุกรรมโปรตีนในไมโทคอนเดรียของเซลล์ยูคาริโอตที่ใช้ในการทดลองจะส่งผลให้ระบบเมแทบอลิซึมทำงานผิดพลาด และนำไปสู่ผลกระทบที่อาจสร้างความเสียหายกับผลการทดลองได้ นอกจากนี้ บางการศึกษายังพบว่า ดอกซีไซคลีนอาจมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็งบางชนิดได้

สังคมและวัฒนธรรม

หลังจากสิทธิบัตรยาดอกซีไซคลินของไฟเซอร์สิ้นสุดลง บริษัทยาและเคมีภัณฑ์หลายบริษัทได้ทำการผลิตดอกซีไซคลีนภายใต้ชื่อการค้าที่แตกต่างกันออกสู่ตลาดยาเป็นจำนวนมาก และมีการใช้ยาปฏิชีวนะชนิดนี้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ในปัจจุบัน ดอกซีไซคลีนถูกจัดให้เป็นหนึ่งในยาสำคัญของรายการยาที่จำเป็นขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization's List of Essential Medicines) ซึ่งเป็นรายการยาที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงและมีความสำคัญเป็นลำดับแรกของระบบสุขภาพพื้นฐานของประชาชนในประเทศต่าง ๆ และมีราคาถูก โดยราคาสำหรับการขายส่งในประเทศกำลังพัฒนานั้นมีมูลค่าประมาณ 0.01–0.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อแคปซูล

อ้างอิง

  1. ↑ "Doxycycline calcium". The American Society of Health-System Pharmacists. จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 September 2015. สืบค้นเมื่อ Aug 18, 2015.
  2. Nelson, ML; Levy, SB (December 2011). "The history of the tetracyclines". Annals of the New York Academy of Sciences. 1241: 17–32. doi:10.1111/j.1749-6632.2011.06354.x. PMID 22191524.
  3. Fischer, Janos; Ganellin, C. Robin (2006). Analogue-based Drug Discovery (ภาษาอังกฤษ). John Wiley & Sons. p. 489. ISBN 9783527607495.
  4. Corey, E.J. (2013). Drug discovery practices, processes, and perspectives. Hoboken, N.J.: John Wiley & Sons. p. 406. ISBN 9781118354469.
  5. ↑ "WHO Model List of Essential Medicines (19th List)" (PDF). World Health Organization. April 2015. (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 13 December 2016. สืบค้นเมื่อ 8 December 2016.
  6. ↑ Hamilton, Richard J. (2011). Tarascon pharmacopoeia (2011 library ed., 2011 ed., 12th ed.). Sudbury, MA: Jones & Bartlett Learning. p. 79. ISBN 9781449600679.
  7. ↑ "Doxycycline". International Medical Products Price Guide. สืบค้นเมื่อ 16 January 2018.
  8. "Officials Question the Rising Costs of Generic Drugs". New York Times. Oct 7, 2014. จากแหล่งเดิมเมื่อ 28 October 2015. สืบค้นเมื่อ 22 September 2015.
  9. ↑ Nelson ML; Levy SB (Dec 2011). "The history of the tetracyclines". Ann N Y Acad Sci. 1241: 17–32. doi:10.1111/j.1749-6632.2011.06354.x. PMID 22191524.
  10. Axel Kleemann; Jürgen Engel (1982). Pharmazeutische Wirkstoffe: Synthesen, Patente, Anwendungen (2nd ed.). Stuttgart, New York: Thieme. p. 339–40. ISBN 3-13-558402-X.
  11. Justima US Law (1980). . 545 (F. Supp. ed.). C.D. Cal. p. 486. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-02-24. สืบค้นเมื่อ 2018-03-01.
  12. ↑ The Associated Press, 6 July 1983 Pfizer to Get Rachelle Units 6 มีนาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน The New York Times.
  13. . CDC Health Alert Network. 12 June 2013. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-02-15. สืบค้นเมื่อ 2018-03-01.
  14. . American Society of Health-System Pharmacists. 12 December 2014. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-01-01. สืบค้นเมื่อ 2018-03-01.
  15. . American Society of Health-System Pharmacists. 12 November 2014. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-01-01. สืบค้นเมื่อ 2018-03-01.
  16. . Consumer Reports News. 4 February 2013. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-01-01. สืบค้นเมื่อ 2018-03-01.
  17. . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2014-12-31. สืบค้นเมื่อ 2018-03-01.
  18. Rosenthal, Elisabeth (7 October 2014). . The New York Times. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 23 February 2017.
  19. Eric Palmer (13 March 2014). . Fierce Pharma Manufacturing. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-01-01. สืบค้นเมื่อ 2018-03-01.
  20. "Costco Drug Information". จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2016. สืบค้นเมื่อ July 31, 2016.
  21. "Doxycycline Hyclate Prices and Doxycycline Hyclate Coupons". GoodRx. จากแหล่งเดิมเมื่อ 28 July 2016. สืบค้นเมื่อ July 31, 2016.
  22. "DAN 5440 DAN 5440 (Doxycycline 100 mg)" (ภาษาอังกฤษ). Drug.com. สืบค้นเมื่อ 2 March 2018.
  23. Flower, R.; Rang, H. P.; Dale, M. M.; Ritter, J. M.; Henderson, G. (2012). Rang & Dale's Pharmacology. Edinburgh: Churchill Livingstone. ISBN 978-0-7020-3471-8.
  24. Agwuh, KN; MacGowan, A (2006). "Pharmacokinetics and pharmacodynamics of the tetracyclines including glycylcyclines". J. Antimicrob. Chemother. 58 (2): 256–265. doi:10.1093/jac/dkl224. PMID 16816396.
  25. World Health Organization (1991). . Environmental health criteria. p. 119. ISBN 92-4-157119-5. ISSN 0250-863X. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2011-05-10. สืบค้นเมื่อ 2018-03-02.
  26. ↑ David A. Williams; Thomas L. Lemke (2002). Foye's Principles of Medicinal Chemistry (5th ed.). Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins. ISBN 9781451175721.
  27. ↑ Goodman & Gilman's The Pharmacological Basis of Therapeutics, 12ed, Laurence L. Brunton, Bruce A. Chabner, Björn C. Knollmann
  28. Sweet RL, Schachter J, Landers DV, Ohm-Smith M, Robbie MO (1988). "Treatment of hospitalized patients with acute pelvic inflammatory disease: comparison of cefotetan plus doxycycline and ana doxycycline". Am. J. Obstet. Gynecol. 158 (3 Pt 2): 736–41. PMID 3162653.
  29. Gjønnaess H; Holten E (1978). "Doxycycline (Vibramycin) in pelvic inflammatory disease". Acta Obstet Gynecol Scand. 57 (2): 137–9. doi:10.3109/00016347809155893. PMID 345730.
  30. Määttä M; Kari O; Tervahartiala T; และคณะ (2006). "Tear fluid levels of MMP-8 are elevated in ocular rosacea—treatment effect of oral doxycycline". Graefes Arch. Clin. Exp. Ophthalmol. 244 (8): 957–62. doi:10.1007/s00417-005-0212-3. PMID 16411105.
  31. Quarterman MJ, Johnson DW, Abele DC, Lesher JL, Hull DS, Davis LS (1997). "Ocular rosacea. Signs, symptoms, and tear studies before and after treatment with doxycycline". Arch Dermatol. 133 (1): 49–54. doi:10.1001/archderm.133.1.49. PMID 9006372.
  32. Walker DH, Paddock CD, Dumler JS (November 2008). "Emerging and re-emerging tick-transmitted rickettsial and ehrlichial infections". Med. Clin. North Am. 92 (6): 1345–61, x. doi:10.1016/j.mcna.2008.06.002. PMID 19061755.
  33. Michael L. Rekart (December 2014). "Doxycycline: "New" treatment of choice for genital chlamydia infections". จากแหล่งเดิมเมื่อ 2 February 2017.
  34. Dahl EL, Shock JL, Shenai BR, Gut J, DeRisi JL, Rosenthal PJ (2006). "Tetracyclines specifically target the apicoplast of the malaria parasite Plasmodium falciparum". Antimicrob. Agents Chemother. 50 (9): 3124–31. doi:10.1128/AAC.00394-06. PMC 1563505. PMID 16940111.
  35. Lalloo DG; Shingadia D; Pasvol G; และคณะ (February 2007). "UK malaria treatment guidelines". J. Infect. 54 (2): 111–21. doi:10.1016/j.jinf.2006.12.003. PMID 17215045.
  36. "Doxycycline spectrum of bacterial susceptibility and Resistance" (PDF). (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 1 February 2014. สืบค้นเมื่อ 4 May 2012.
  37. Stoddard, Robyn A.; Galloway, Renee L.; Guerra, Marta A. (July 10, 2015). "Leptospirosis - Chapter 3". wwwnc.cdc.gov (ภาษาอังกฤษ). Atlanta, GA: Centers for Disease Control and Prevention. จากแหล่งเดิมเมื่อ 9 April 2017. สืบค้นเมื่อ April 16, 2017.
  38. Nadelman RB, Luger SW, Frank E, Wisniewski M, Collins JJ, Wormser GP (1992). "Comparison of cefuroxime axetil and doxycycline in the treatment of early Lyme disease". Annals of Internal Medicine. 117 (4): 273–80. doi:10.7326/0003-4819-117-4-273. PMID 1637021.
  39. Luger SW; Paparone P; Wormser GP; และคณะ (March 1995). "Comparison of cefuroxime axetil and doxycycline in treatment of patients with early Lyme disease associated with erythema migrans". Antimicrob. Agents Chemother. 39 (3): 661–7. doi:10.1128/AAC.39.3.661. PMC 162601. PMID 7793869.
  40. Nadelman RB; Nowakowski J; Fish D; และคณะ (2001). "Prophylaxis with single-dose doxycycline for the prevention of Lyme disease after an Ixodes scapularis tick bite". N. Engl. J. Med. 345 (2): 79–84. doi:10.1056/NEJM200107123450201. PMID 11450675. จากแหล่งเดิมเมื่อ 5 January 2008.
  41. Karlsson M, Hammers-Berggren S, Lindquist L, Stiernstedt G, Svenungsson B (1994). "Comparison of intravenous penicillin G and oral doxycycline for treatment of Lyme neuroborreliosis". Neurologe. 44 (7): 1203–7. doi:10.1212/WNL.44.7.1203. PMID 8035916.
  42. Weinstein RS (1996). "Human ehrlichiosis". Am Fam Physician. 54 (6): 1971–6. PMID 8900357.
  43. Karlsson U, Bjöersdorff A, Massung RF, Christensson B (2001). "Human granulocytic ehrlichiosis—a clinical case in Scandinavia". Scand. J. Infect. Dis. 33 (1): 73–4. doi:10.1080/003655401750064130. PMID 11234985.
  44. ↑ U.S. Food and Drug Administration. 14 December 2012. Doxycycline, ANDA no. 065055 Label. 19 เมษายน 2014 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  45. ↑ U.S. Food and Drug Administration. 16 July 2008.Doxycycline, ANDA no. 065454 Label 19 ตุลาคม 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  46. Anderson A, Bijlmer H, Fournier PE, Graves S, Hartzell J, Kersh GJ, Limonard G, Marrie TJ, Massung RF, McQuiston JH, Nicholson WL, Paddock CD, Sexton DJ (2013). "Diagnosis and management of Q fever—United States, 2013: recommendations from CDC and the Q Fever Working Group". MMWR Recomm. Rep. 62: 1–30. PMID 23535757. จากแหล่งเดิมเมื่อ 19 April 2014.
  47. Okada T, Morozumi M, Tajima T, Hasegawa M, Sakata H, Ohnari S, Chiba N, Iwata S, Ubukata K (2012). "Rapid effectiveness of minocycline or doxycycline against macrolide-resistant Mycoplasma pneumoniae infection in a 2011 outbreak among Japanese children". Clin Infect Dis. 55 (12): 1642–9. doi:10.1093/cid/cis784. PMID 22972867.
  48. "Lyme disease. Treatment". จากแหล่งเดิมเมื่อ 10 June 2016.
  49. William Cameron. "Comparison of doxycycline–streptomycin, doxycycline–rifampin, and ofloxacin–rifampin in the treatment of brucellosis: a randomized clinical trial". สืบค้นเมื่อ 23 August 2014.
  50. Hoerauf A, Mand S, Fischer K, และคณะ (2003). "Doxycycline as a novel strategy against bancroftian filariasis-depletion of Wolbachia endosymbionts from Wuchereria bancrofti and stop of microfilaria production". Med. Microbiol. Immunol. 192 (4): 211–6. doi:10.1007/s00430-002-0174-6. PMID 12684759.
  51. Taylor MJ, Makunde WH, McGarry HF, Turner JD, Mand S, Hoerauf A (2005). "Macrofilaricidal activity after doxycycline treatment of Wuchereria bancrofti: a double-blind, randomised placebo-controlled trial". Lancet. 365 (9477): 2116–21. doi:10.1016/S0140-6736(05)66591-9. PMID 15964448.
  52. "Doxycycline hyclate Susceptibility and Minimum Inhibitory Concentration (MIC) Data" (PDF). toku-e.com. สืบค้นเมื่อ April 16, 2017.
  53. Center for Global Health, Centers for Disease Control and Prevention (2011). . The American Journal of Tropical Medicine and Hygiene. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 5 July 2012. สืบค้นเมื่อ 17 May 2012.
  54. Center for Drug Evaluation and Research (November–December 2004). . Food and Drug Administration. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 29 May 2007. สืบค้นเมื่อ 31 January 2008.
  55. Información de prospectos autorizados. . สืบค้นเมื่อ 15 September 2008.
  56. PubMed Health (July 1, 2016). "Doxycycline (By mouth)". U.S. National Library of Medicine. จากแหล่งเดิมเมื่อ 11 November 2013. สืบค้นเมื่อ July 16, 2016.
  57. Kshirsagar Kshirsagar N A, Ankalesaria P S. (1987). . J Postgrad Med (serial online). 33 (3): 117. ISSN 0022-3859. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2016-08-18. สืบค้นเมื่อ July 16, 2016.
  58. Archer JS; Archer DF (2002). "Oral contraceptive efficacy and antibiotic interaction: a myth debunked". J. Am. Acad. Dermatol. 46 (6): 917–23. doi:10.1067/mjd.2002.120448. PMID 12063491.
  59. Dréno B, Bettoli V, Ochsendorf F, Layton A, Mobacken H, Degreef H (November–December 2004). "European recommendations on the use of oral antibiotics for acne". Eur J Dermatol. 14 (6): 391–9. PMID 15564203.
  60. DeRossi SS; Hersh EV (2002). "Antibiotics and oral contraceptives". Dent. Clin. North Am. 46 (4): 653–64. doi:10.1016/S0011-8532(02)00017-4. PMID 12436822.
  61. Mylonas, I (January 2011). "Antibiotic chemotherapy during pregnancy and lactation period: aspects for consideration". Archives of gynecology and obstetrics. 283 (1): 7–18. doi:10.1007/s00404-010-1646-3. PMID 20814687.
  62. Chung, AM; Reed, MD; Blumer, JL (2002). "Antibiotics and breast-feeding: a critical review of the literature". Paediatric drugs. 4 (12): 817–37. doi:10.2165/00128072-200204120-00006. PMID 12431134.
  63. Dursun D, Kim MC, Solomon A, Pflugfelder SC (2001). "Treatment of recalcitrant recurrent corneal erosions with inhibitors of matrix metalloproteinase-9, doxycycline and corticosteroids". Am. J. Ophthalmol. 132 (1): 8–13. doi:10.1016/S0002-9394(01)00913-8. PMID 11438047.
  64. Moses MA, Harper J, Folkman J (2006). "Doxycycline treatment for lymphangioleiomyomatosis with urinary monitoring for MMPs". N. Engl. J. Med. 354 (24): 2621–2. doi:10.1056/NEJMc053410. PMID 16775248.
  65. Errami M, Galindo CL, Tassa AT, Dimaio JM, Hill JA, Garner HR (2007). "Doxycycline attenuates isoproterenol- and transverse aortic banding- induced cardiac hypertrophy in mice". J Pharmacol Exp Ther. 324 (3): 1196–203. doi:10.1124/jpet.107.133975. PMID 18089841.
  66. Dalvi PS; Singh A; Trivedi HR; และคณะ (2011). "Effect of doxycycline in patients of moderate to severe chronic obstructive pulmonary disease with stable symptoms". Ann Thorac Med. 6 (4): 221–6. doi:10.4103/1817-1737.84777. PMC 3183640. PMID 21977068. จากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2012.
  67. ↑ Gossen M, Freundlieb S, Bender G, Müller G, Hillen W, Bujard H (1995). "Transcriptional activation by tetracyclines in mammalian cells". Science. 268 (5218): 1766–1769. doi:10.1126/science.7792603. PMID 7792603.
  68. Leung, E; Landa, G (September 2013). "Update on current and future novel therapies for dry age-related macular degeneration". Expert review of clinical pharmacology. 6 (5): 565–79. doi:10.1586/17512433.2013.829645. PMID 23971874.
  69. Saraiva IH, Jones RN, Erwin M, Sader HS (1997). "[Evaluation of antimicrobial sensitivity of 87 clinical isolates of vancomycin-resistant enterococci]". Rev Assoc Med Bras (ภาษาโปรตุเกส). 43 (3): 217–22. doi:10.1590/S0104-42301997000300009. PMID 9497549.
  70. Dibb WL; Digranes A (1981). "Characteristics of 20 human Pasteurella isolates from animal bite wounds". Acta Pathol Microbiol Scand [B]. 89 (3): 137–41. PMID 7315339.
  71. Greenwald RA (December 2011). "The road forward: the scientific basis for tetracycline treatment of arthritic disorders". Pharmacol. Res. 64 (6): 610–3. doi:10.1016/j.phrs.2011.06.010. PMID 21723947.
  72. Raza M, Ballering JG, Hayden JM, Robbins RA, Hoyt JC (2006). "Doxycycline decreases monocyte chemoattractant protein-1 in human lung epithelial cells". Exp. Lung Res. 32 (1–2): 15–26. doi:10.1080/01902140600691399. PMID 16809218.
  73. Chodosh S, Tuck J, Pizzuto D (1988). "Comparative trials of doxycycline versus amoxicillin, cephalexin and enoxacin in bacterial infections in chronic bronchitis and asthma". Scand J Infect Dis Suppl. 53: 22–8. PMID 3047855.
  74. Joks R; Durkin HG (December 2011). "Non-antibiotic properties of tetracyclines as anti-allergy and asthma drugs". Pharmacol. Res. 64 (6): 602–9. doi:10.1016/j.phrs.2011.04.001. PMID 21501686.
  75. Bachelez H, Senet P, Cadranel J, Kaoukhov A, Dubertret L (2001). "The use of tetracyclines for the treatment of sarcoidosis". Arch Dermatol. 137 (1): 69–73. doi:10.1001/archderm.137.1.69. PMID 11176663. จากแหล่งเดิมเมื่อ 7 April 2008.
  76. El Sayed F, Dhaybi R, Ammoury A (2006). "Subcutaneous nodular sarcoidosis and systemic involvement successfully treated with doxycycline". J Med Liban. 54 (1): 42–4. PMID 17044634.
  77. Mishra GP, Mulani JD. "Doxycycline: An Old Drug With A New Role In Idiopathic Pulmonary Fibrosis" 23 กรกฎาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. International Journal of Pharma and Bio Sciences. V1 (2) 2010. ISSN 0975-6299.
  78. Moullan N, Mouchiroud L, Wang X, Ryu D, Williams EG, Mottis A, Jovaisaite V, Frochaux MV, Quiros PM, Deplancke B, Houtkooper RH, Auwerx J (2015). "Tetracyclines Disturb Mitochondrial Function across Eukaryotic Models: A Call for Caution in Biomedical Research". Celll Reports. 10 (10): 1681–91. doi:10.1016/j.celrep.2015.02.034. PMID 25772356.
  79. Chatzispyrou IA, Held NM, Mouchiroud L, Auwerx J, Houtkooper RH (2015). "Tetracycline antibiotics impair mitochondrial function and its experimental use confounds research". Cancer Research. 75 (21): 4446–9. doi:10.1158/0008-5472.CAN-15-1626. PMID 26475870.
  80. Ali, Isra; Alfarouk, Khalid Omer; Reshkin, Stephan Joel; Ibrahim, Muntaser Eltayeb (2017). "Doxycycline as Potential Anti-cancer Agent". Anti-Cancer Agents in Medicinal Chemistry. 17 (12): 1617–1623. doi:10.2174/1871520617666170213111951. PMID 28270076.
  81. drugs.com. . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-05-16. สืบค้นเมื่อ April 29, 2015.

แหล่งข้อมูลอื่น

คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ:
ดอกซีไซคลีน
  • "Doxycycline". Drug Information Portal. U.S. National Library of Medicine.
  • The Anti-Wolbachia Consortium uses drugs like doxycycline to treat parasitic diseases


สิงหาคม 16, 2021
ดอกซ, ไซคล, งกฤษ, doxycycline, เป, นยาปฏ, วนะชน, ดหน, งท, อบ, งใช, สำหร, บร, กษาโรคต, ดเช, อหลายชน, ดท, สาเหต, มาจากแบคท, เร, ยและโปรโตซ, ยาน, ประโยชน, เป, นอย, างมากในการร, กษาโรคปอดอ, กเสบจากเช, อแบคท, เร, การต, ดเช, อคลาม, ยเด, ระยะเร, มต, นของโรคไลม, อห, ว. dxksiiskhlin xngkvs Doxycycline epnyaptichiwnachnidhnungthimikhxbngichsahrbrksaorkhtidechuxhlaychnidthimisaehtumacakaebkhthieriyaelaoprotsw 1 yanimipraoychnepnxyangmakinkarrksaorkhpxdxkesbcakechuxaebkhthieriy siw kartidechuxkhlamyediy rayaerimtnkhxngorkhilm xhiwatkorkh aelasifilis 1 nxkcakniyngmikarichdxksiiskhlininkarrksamalaeriy sungepnorkhthiekidcakkartidechuxcaphwkoprotsw odyihyanirwmkbkhwinin aelaxacichdxksiiskhlinephuxepnkarpxngknmalaeriysahrbphuthimikhwamcaepntxngedinthangekhaphunthithimikarrabadkhxngorkhid 1 dxksiiskhlinepnyaptichiwnaxikchnidhnungthimikarichxyangaephrhlayenuxngcakmirakhathukaelasamarthbriharyaodykarrbprathanid inraythimixakarkhxngorkhrunaerngxaccaepntxngidrbkarbriharyaodykarchidekhahlxdeluxdda 1 dxksiiskhlinkhxmulthangkhlinikkarxanxxkesiyng ˌ d ɒ k s i ˈ s aɪ k l i n dox i sye kleenchuxthangkarkhaDoryx Doxyhexal Doxylin aelaxun AHFS Drugs comDoxycyclineMedlinePlusa682063khxmulthaebiynyaTH Ya amp You Doxycycline US FDA DoxycyclineradbkhwamesiyngtxtharkinkhrrphAU D US D mikhwamesiyng chxngthangkarrbyarbprathan chidekhahlxdeluxdda 1 rhs ATCJ01AA02 WHO A01AB22kthmaysthanatamkthmayAU S4 txngichibsngya UK POM Prescription only US onlykhxmulephschclnsastrchiwprasiththiphl100 karcbkboprtin90 karepliynaeplngyaLiverkhrungchiwitthangchiwphaph15 25 chwomngkarkhbxxkpssawa 40 twbngchichuxtamrabb IUPAC 4S 4aR 5S 5aR 6R 12aS 4 Dimethylamino 3 5 10 12 12a pentahydroxy 6 methyl 1 11 dioxo 1 4 4a 5 5a 6 11 12a octahydrotetracene 2 carboxamideelkhthaebiyn CAS564 25 0 CAS PubChem CID11256DrugBankDB00254 7ChemSpider10482106 7UNII334895S862KEGGD07876 7ChEBICHEBI 50845 7ChEMBLCHEMBL1433 7ECHA InfoCard100 008 429khxmulthangkayphaphaelaekhmisutrC 22H 24N 2O 8mwltxoml444 43 g molaebbcalxng 3D JSmol Interactive imageSMILES CN C C H 3C O C C N O C O C 4 O C O C2 C O c1c cccc1O C H C C H 2 C H O C H 34InChI InChI 1S C22H24N2O8 H2O c1 7 8 5 4 6 9 25 11 8 16 26 12 10 7 17 27 14 15 24 2 3 18 28 13 21 23 31 20 30 22 14 32 19 12 29 h4 7 10 14 15 17 25 27 29 32H 1 3H3 H2 23 31 1H2 t7 10 14 15 17 22 m0 s1 7Key XQTWDDCIUJNLTR CVHRZJFOSA N 7 7 7 what is this verify saranukrmephschkrrmdxksiiskhlinepnyaptichiwnaxikchnidhnungthimikhxbekhtkarxxkvththikwang Broad spectrum antibiotic 1 odyyanicakhaaebkhthieriyaelaoprotswthiiwtxyanidwykarybyngkarsngekhraahoprtinthicaepntxkardarngchiwitaelakarkhyayphnthukhxngesll thaihesllculchiphepahmaytayipinthisud 1 2 xyangirktam karichdxksiiskhlininkarrksanixackxihekidxakarimphungprasngkhkhunidechnediywknkbyachnidxun odyxakarimphungprasngkhthiekidkhunidbxycakkarichyani idaek thxngesiy khlunis xaeciyn phunaedng aelaphiwiwtxaesngmakkhun thaihmikhwamesiyngthicaekidphiwihmcakaesngaedd sunburn ephimkhun 1 nxkcakni karichdxksiiskhlininhyingtngkhrrphhruxinedkxacthaihekidkarepliynsikhxngfntharkhruxedkepnsiethahruxnatalxyangthawrid 1 swnkarichyaniinhyingthikalngihnmbutrnnkhxnkhangmikhwamplxdphy enuxngcakdxksiiskhlinthukkhbxxkthangnanmidnxymak 1 dxksiiskhlinidrbkarcdsiththibtrinpi kh s 1957 aelamikarphlitechingphanichyinpi kh s 1967 3 4 aelathukcdwaepnhnunginyasakhykhxngraykaryathicaepnkhxngxngkhkarxnamyolk World Health Organization s List of Essential Medicines sungepnraykaryathimiprasiththiphaphaelakhwamplxdphysungaelamikhwamsakhyepnladbaerkkhxngrabbsukhphaphphunthankhxngprachachninpraethstang 5 inpccubn mikarphlitdxksiiskhlinxxksuthxngtladyaepncanwnmakdwychuxkarkhathiaetktangknxxkip thwipaelwmkmirakhathikhxnkhangthuk 1 6 odyrakhasahrbkarkhaysnginpraethskalngphthnamimulkhapraman 0 01 thung 0 04 dxllarshrthtxaekhpsul 7 sahrbinshrthxemrika rakhaechphaakhayasahrbkarrksadwydxksiiskhlinepnrayaewla 10 wnnnmikhapraman 14 dxllarshrth xyangirktam cakkhxmulemuxpi kh s 2014 phbwamibangaehlngthimikarkhaydxksiiskhlinepnrakhasungmakthung 3 00 10 00 dxllarshrthtxaekhpsul 1 8 enuxha 1 prawtiaelakarkhnphb 2 ephschwithya 3 karichpraoychnthangkaraephthy 3 1 karichephuxtanoprotsw 3 2 karichephuxtanaebkhthieriy 3 3 karichephuxtanprsit 3 4 khwamiwkhxngculchiphtxya 4 xakarimphungprasngkh 4 1 xntrkiriya 4 2 karichinhyingtngkhrrphaelaihnmbutr 5 karsuksawicy 5 1 karichdxksiiskhlinepntwthaptikiriya 6 sngkhmaelawthnthrrm 7 xangxing 8 aehlngkhxmulxunprawtiaelakarkhnphb aekikhhlngcakmikarkhnphbephnisillin yadngklawidekhamamiswninkarptiwtikarrksaorkhthiekidcakkartidechuxaebkhthieriyinchwngsngkhramolkkhrngthi 2 epnxyangmak inhwngewlannbristhyahlaybristhidmungepamayngkarkhidkhnphthnayaptichiwnachnidihmodyichkrabwnkarkarsarwcthangchiwphaph Bioprospecting ephuxkhnhaokhrngsrangtnaebbkhxngyaptichiwnaknxyangaephrhlay xemriknisyanamidthuxepnhnungbristhincanwnni odyinchwngplaykhristthswrrsthi 1940 nkekhmikhxngbristhdngklawidkhnphbkhlxrettraiskhlin sungepnyaptichiwnachnidaerkkhxngklumettrasykhlinthithukkhnphb 9 hlngcaknnimnannk nkwithyasastrkhxngifesxridkhnphbyaptichiwnaxikchnidhnunginklumediywknaelathukihchuxwaxxksiettraiskhlin aelatxmaidmikarphlityadngklawephuxkarcahnayechingphanichyphayitchuxkarkha Terramycin yaptichiwnathngsxngchnidthithukkhnphbnilwnepnphlphlitthiidcakthrrmchati echnediywknkbephnisillinthinkwithyasastrinkhnannlwnechuxwa yaptichiwnathiepnphlitphlthiidcakthrrmchatinilwnmiprasiththiphaphinkarrksathismburnaebbkwayathiidcakaehlngxun karprbepliynokhrngsrangkhxngyaehlanixacthaihprasiththiphaphkhxngyaldlngcakedimkepnid xyangirktam thimnkwithyasastrkhxngifesxrphayitkarnakhxnglxyd khxnoxewxr Lloyd Conover idthakarddaeplngokhrngsrangkhxngyaptichiwnasxngchniddngkhangtn sungnaipsukarkhnphbettrasykhlin sungthuxepnyaptichiwnakungsngekhraahtwaerkkhxngklumni txmainchwngtnkhxngkhristthswrrs 1960 thimwicykhxngcharli stiefn Charlie Stephens idthakarsuksaddaeplngokhrngsrangkhxngyadngklawcnidxnuphnthukhxngettrasykhlinthimikhwamkhngtwaelamiprasiththiphaphechingephschwithyamakkhun odyyathithukphthnakhunodythimwicykhangtnkkhux dxksiiskhlin odydxksiiskhlinidrbkarrbrxngcakxngkhkarxaharaelayakhxngshrthxemrikainpi kh s 1967 9 ptikiriyakarsngekhraahdxksiiskhlincakxxksiettraiskhlin odyichorediymepntwerngptikiriya 10 inkhnathisiththibtrkhxngdxksiiskhliniklthicahmdxayulnginchwngtnthswrrs 1970 siththibtrkhxngyaniidepnkhdikhwamfxngrxngknrahwangifesxrkbxinetxrenchnaenl erkhtiifexxr International Rectifier 11 sungkhdikhwamdngklawnnimsamarthhakhxyutiidcnthungpi kh s 1983 cungthuxidwakhdikarfxngrxngdngklawepnkhdithiekiywenuxngkbsiththibtrthiihythisudinprawtisastrshrthxemrikainkhnann 12 odysaltdsinihifesxrchnakhdiinkhrngni aelaxinetxrenchnaenl erkhtiifexxrcaepntxngcaykhaprbsahrbkarlaemidsiththibtryani xyangirktam aethnthiifesxrcaeriykrxngkhaesiyhayepnenginkhaprb klbprasngkhthicaekhaipkhwbkhumkickardanstwaephthyaelawtthuecuxpnxahar food additive khxngraechllaelbxrathxris Rachelle Laboratories sungepnbristhyxykhxngbristhkhukhwamaethn aelaxinetxrenchnaenl erkhtiifexxrkihkhwamyinyxminpraednni 12 ineduxnkrkdakhm kh s 2013 xngkhkarxaharaelayakhxngshrthxemrikaidxxkrayngankarkhadaekhlndxksiiskhlininrupaebbyachidaelayaemd enuxngmacakkhwamtxngkarinkarichdxksiiskhlininrupaebbdngklawmiephimmakkhunaelaekidpyhabangxyangkhuninorngnganthiphlityani 13 brisththiekiywkhxngxyangimlan Mylan aexkhtawis Actavis aelahikmah farmasutikhxls Hikma Pharmaceuticals rwmthungphuphlithlkhlayraythiimrabuchuxidhyudkarphlityadngklawineduxnkumphaphnth 2013 rwmipthungethwa Teva Pharmaceutical Industries thihyudphlitipineduxnphvsphakhm 2013 14 15 karkhadaekhlndxksiiskhlininkhrngniekidkhuninchwngewlathiimdiethaidnk enuxngcakinkhnannkmipyhakarkhadaekhlnyaptichiwnainklumediywknxyangettraiskhlindwyechnkn 16 epnphlihrakhadxksiiskhlinintladyashrthxemrikain kh s 2013 aelatxntnkhxng kh s 2014 ephimsungkhuncakedimepnxyangmak cak 20 epn makkwa 1 800 txkrapukthimikhnadbrrcu 500 emd 17 18 19 kxncaldlngmaklbekhasuphawapktiinphayhlng 20 21 ephschwithya aekikh dxksiiskhlinchnidaekhpsul khwamaerng 100 millikrm aekhpsul khxngsthabnwtsnfarmasutikhxls Watson Pharmaceuticals Inc 22 duephimetimthi ettraiskhlin klumya klikkarxxkvththi dxksiiskhlinepnyaptichiwnathixxkvththiybyngkarecriyetibotkhxngaebkhthieriy Bacteriostatic agent echnediywkbyaptichiwnaxuninklumediywkn odyyanicaxxkvththiybynghruxkhdkhwangkarsngekhraahoprtinthicaepntxkardarngchiwitkhxngaebkhthieriy 23 thngni dxksiiskhlincdepnyaptichiwnathimiokhrngsrangepnsarprakxbechingsxnkhxngixxxnolhathiimmikhwamkhngtwinsphawakrdhruxinsphawathimikhaphiexch pH sung thungaemwadxksiiskhlincamisdswnkhxngtwyathiphanekhasuduoxdinmaelathukdudsumekhasukraaeseluxdidmakkwayaptichiwnaklumetrtraiskhlinchnidxun thithukkhnphbkxnhnaktam nxkcakni kardudsumdxksiiskhlinkhxngduoxdinmyngthukrbkwncakxaharidnxykwayaptichiwnaxuninklumetrtraiskhlinthithukkhnphbkxnhna odykhwamekhmkhnkhxngdxksiiskhlincaldlngpramanrxyla 20 emuxrbprathanyarwmkbxahar inkhnathiettraiskhlinnncaldlngmakthungrxyla 50 24 yaptichiwnaklumettraiskhlinthihmdxayuhruxthixyuinsphawathimikhaphiexchnxykwa 2 nnmiraynganwaphbkarekidphistxitcakaexnihodr 4 xiphietetraiskhlin anhydro 4 epitetracycline sungphlitphnththiekidcakkaresuxmslaykhxngyadngklaw 25 26 aelaepnsaehtuihekidklumxakaraefnokhni Fanconi syndrome id 27 inkrnikhxngdxksiiskhlinsungimmihmuihdrxksilthitaaehnngthi 6 thaihkaresuxmslaykhxngyaniimkxihekidsarprakxbthiepnphistxitechnthiphbinyaptichiwnaxuninklumettraiskhlinthithukkhnphbkxnhna 26 xyangirktamkhwrich yaptichiwnainettraiskhlin sungrwmipthungdxksiiskhlindwykhwamramdrawnginphupwythiepnorkhitenuxngcakxacthaihphawaxaosthiemiy azotemia khxngphupwyaeylngcakphiskhxngphlitphnththiekidcakkaresuxmslaykhxngyadngklaw 27 karichpraoychnthangkaraephthy aekikhnxkehnuxcakkhxbngchithwipsahrbyaptichiwnathukchnidinklumettraiskhlinaelw dxksiiskhlinmkthukichephuxrksaorkhilm txmlukhmakxkesbtidechuxeruxrng ophrngxakasxkesb phawaxkesbinxungechingkran 28 29 siwthimisaehtucakkartidechuxaebkhthieriy orkhorsaechiy Rosacea 30 31 aelakartidechuxaebkhthieriyskulrikhekhthesiy 32 emuxpi kh s 2004 inaekhnada dxksiiskhlinidthukkahndihepnyaptichiwnathangeluxkaerksahrbkarrksathxpssawaxkesbthimisaehtumacakaebkhthieriythiimichskulokonkhxkhkhxlaelaskulkhlaimediy odyichrwmkbesfiksiminkarrksahnxnginthiimsbsxn 33 karichephuxtanoprotsw aekikh dxksiiskhlinthuknamaichepnyasahrbpxngknkartidechuxmalaeriyinphuthimikhwamcaepntxngedinthangekhaipinphunthithimikarrabadkhxngorkhdngklaw nxkcakniyngsamarthichyanisahrbkarrksaorkhdngklawiddwy aetimkhwrichdxksiiskhlinediyw inkarrksamalaeriyinrayaaerkkhxngkarrksa thungaemwaechuxkxorkhnn cayngkhngmikhwamiwtxdxksiiskhlinktam enuxngcakvththiinkartanmalaeriykhxngdxksiiskhlinnnimxacmiphlidinthnthi sungepnphlmacakklikkarxxkvththikhxngdxksiiskhlinthitxngichewlaskraya odyechphaaxyangyingkarehniywnaihkaraebngesllkhxngechuxsaehtuekidkhwamphidpkti enuxngcakkhwamphidpktikhxngoprtinsngekhraahidyinxaphiokhphlast 34 dwyehtunithaihkarrksamalaeriydwydxksiiskhlincungmkihrwmkbyatanmalaeriychnidxun echn khwinin epntn 35 karichephuxtanaebkhthieriy aekikh odyswnihyaelw Moraxella catarrhalis Brucella melitensis Chlamydia pneumoniae aela Mycoplasma pneumoniae nnepnaebkhthieriythimikhwamiwtxdxksiiskhlin inkhnathi Haemophilus spp Mycoplasma hominis aela Pseudomonas aeruginosa bangsetrnidekidkarphthnasayphnthuihduxtxdxksiiskhlin sungmikhwamrunaerngkhxngkarduxyainradbthiaetktangknxxkipinaetlaphunthi 36 nxkcakni dxksiiskhlinyngepnyaptichiwnaxikchnidhnungthithuknamaphicarnaichephuxkarpxngknaelarksaorkhaexnaethrksaelaorkhchihnu 37 aelayngmiprasiththiphaphdiinkarrksaorkhthiekidcakkartidechuxaebkhthieriyeyxrsieniy ephsthis aebkhthieriythithaihekidkarrabadkhxngkalorkhkhrngihythieriykwa kalmrna orkhilm 38 39 40 41 orkhexxrlichioxsis Ehrlichiosis 42 43 aelaorkhikhphuphxngethuxkekharxkki Rocky Mountain spotted fever 44 inpccubn dxksiiskhlinmikhxbngichsahrbkarrksaorkhtidechuxaebkhthieriytxipni 44 45 inkrniechuxkxorkhepnaebkhthieriyaekrmlb emuxkarthdsxbthungkhwamiwkhxngechuxkxorkhaelwphbwayngmikhwamiwtxdxksiiskhlin xacphicarnaichdxksiiskhlininkarrksaorkhtidechuxehlaniid 44 45 kartidechux Escherichia coli kartidechux Enterobacter aerogenes edimchux Aerobacter aerogenes kartidechuxaebkhthieriyinskulchieklla kartidechuxaebkhthieriyinskulxsienotaebkhetxr edimchuxskul Mima aela Herellea kartidechuxinrabbthangedinhayicthimisaehtumacakaebkhthieriy Haemophilus influenzae kartidechuxinrabbthangedinhayicaelarabbthangedinpssawathimisaehtumacakaebkhthieriyskulekhlbsillaxyangirktam aebkhthieriyaekrmbwkbangsayphnthuidmikarprbtwihduxtxdxksiiskhlin twxyangechn echuxtwxyangrawrxyla 44 khxngsayphnthu Streptococcus pyogenes aelamakkwarxyla 74 khxngsayphnthu S faecalis nnidmikarphthnatnihduxtxyaptichiwnainklumettraiskhlin dngnn hakcaphicarnaichdxksiiskhlininkarrksaorkhthiekidcakkartidechuxaebkhthieriyaekrmbwktxipni khwrmikarthdsxbthungkhwamiwkhxngechuxkxorkhdngklawtxdxksiiskhlinkxnesmx 44 45 kartidechuxinrabbthangedinhayicswnbnthimisaehtumacakaebkhthieriy Streptococcus pneumoniae edimchux Diplococcus pneumoniae kartidechuxkhxngphiwhnngaelaenuxeyuxxxnthimisaehtumacakaebkhthieriy Staphylococcus aureus sungrwmthungkartidechuxaebkhthieriy methicillin resistant Staphylococcus aureus dwy aexnaethrksthimisaehtumacakkartidechuxaebkhthieriy Bacillus anthracisinbangkrnithiphupwymikhxhamichtxyaptichiwnaklumephnisillin xacphicarnaichdxksiiskhlinepnyathangeluxkrxngid sahrbkhxbngichtxipni 44 45 sifilis cakkartidechuxaebkhthieriy Treponema pallidum orkhkhudtharad thimisaehtucakaebkhthieriy Treponema pertenue orkhtidechuxlisethxeriy cakaebkhthieriysayphnthu Listeria monocytogenes orkhtidechuxwinesnt Vincent s infection thimisaehtumacakaebkhthieriy Fusobacterium fusiforme orkhaexkhtionmyokhsis cakkartidechuxaebkhthieriy Actinomyces israelii orkhtidechuxthimisaehtumacakaebkhthieriyinskulkhlxsthriediym nxkcakni dxksiiskhlinyngidrbkarrbrxngcakxngkhkarxaharaelayakhxngshrthxemrikaihichepnyaptichiwnathangeluxkrxngthiichsahrbkarrksasiwxkesbrunaerngcakkartidechuxaebkhthieriyxikdwy 44 45 xyangirktam inbangkhxbngichnnimxacichdxksiiskhlinediyw inkarrksaid enuxngcakcathaihprasiththiphaphkarrksaimdiethathikhwraelathaihekidkhwamesiyngtxkarduxyakhxngechuxsaehtuidmakkhun cungmkmikarichdxksiiskhlinrwmkbyaptichiwnaxuninkhxbngichnn xathi orkhaethngtidtx sungdxksiiskhlincdepnyathangeluxkaerkaettxngichkarrksarwmkbsetrpotmysin aelaepnthangeluxkrxngemuxihkarrksarwmkbiraefmphisin iraefmphin 49 karichephuxtanprsit aekikh dxksiiskhlinmiprasiththiphaphdiinkarkhaaebkhthieriywxlbaekhiythidarngchiwitaebbphungphaxasykn Symbiosis xyuinrabbsubphnthukhxngprsitcaphwknimaothdaxyangphyathifilaeriy Filariasis thaihrabbsubphnthukhxngphwknimaothdaprascakaebkhthieriythiepnpraoychn aelasngphlkrathbtxkarkhyayphnthukhxngnimaothdnn cakkarxxkvththikhxngdxksiiskhlintxaebkhthieriyinrabbsubphnthukhxngnimaothdthiklawmakhangtnni thaihsamarthldkaraephrkracaykhxngorkhtidechuxbangchnidthiekidcakprsitehlannlngid xathi orkhphyathitabxd aela orkhethachang epntn 50 karsuksathangkhlinikinpi kh s 2005 phbwa karrksadwydxksiiskhlinepnrayaewlatxenuxng 8 spdahsamarthkacdtwxxnimokhrfilaeriy microfilaria khxnghnxnphyathifilaeriyxxkipidekuxbthnghmd 51 khwamiwkhxngculchiphtxya aekikh dxksiiskhlinthuxepnyaptichiwnaxikchnidhnungthimiprasiththiphaphdixyangyinginkarrksaorkhtidtxthangephssmphnth orkhtidechuxinrabbthangedinhayic rwmipthungkartidechuxinta thimisaehtumacakaebkhthieriyskulChlamydia Streptococcus Ureaplasma Mycoplasma aelaxun karwdkhakhwamekhmkhnyathiybyngkarecriyetibotkhxngaebkhthieriyid MIC susceptibility test khxngdxksiiskhlintxaebkhthieriybangchnid dngaesdngtxipni 52 Chlamydia psittaci 0 03 mg mL Mycoplasma pneumoniae 0 016 mg mL 2 mg mL Streptococcus pneumoniae 0 06 mg mL 32 mg mLxakarimphungprasngkh aekikhxakarimphungprasngkhaelakhxkhwrrawngcakdxksiiskhlinnnmikhwamkhlaykhlungknkbyaptichiwnachnidxunthixyuinklumettraiskhlin odykarekidphunaebbxirithimahlngcakphiwhnngidrbkarsmphskbaesngaeddodytrngnnphbkarekidinphuthiichdxksiiskhlininkarpxngknmalaeriyidmakthungrxyla 7 3 21 2 thngnimikarsuksathangkhliniksungidthakarsuksaprasiththiphaphinkarrksaaelapxngknmalaeriykhxngyatanmalaeriyhlaychnid kartidtamxakarimphungprasngkhcakyathiichinkarsuksaniphbwa dxksiiskhlinimkxihekidphlkhangekhiyngthangphiwhnngmakkwayaxunthiichinkarsuksacnthungradbthiminysakhythangsthiti immikarcaaenkchnidkhxngxakarkhangekhiyngthangphiwhnng phunthiekidkhuncakkaridrbdxksiiskhlinnnsamarthhayepnpktiidexnghlngcakthimikarhyudichyadngklawiprayahnung 53 nxkcakniaelw dxksiiskhlinyngmikhxdikwayaptichiwnaxuninklumediywknkhux imkxihkarthangankhxngitbkphrxngcakphlitphnththiekidcakkaresuxmslaykhxngtwya 54 xakarimphungprasngkhthiaesdngtxipniepnephiyngxakarimphungprasngkhthimixubtikarnkarekidsungkwa 0 1 gt 1 1 000 sungxacmikarekidptikiriyakaraephyadxksiiskhlinkhunid aetmixubtikarnkarekidkhxnkhangta lt 1 1 000 nxykwa 0 1 aetswnihymkmixakarrunaerng 55 xwywathiidrbphlkrathb khwamthitameknth CIOMS chnidkhxngxakarimphungprasngkhkarthdsxbinhxngptibtikar phbidimmak karephimkhunkhxngradbyueriyineluxdkhwamphidpktikhxngeluxd phbidimmak olhitcangcakemdeluxdaedngaetk ekldeluxdta niwotrfilineluxdta aelaxioxsionfilineluxdsungkhwamphidpktikhxngrabbprasath phbidimmak pwdsirsakhwamphidpktikhxngrabbthangedinxahar phbidimmak imrunaerng xakaraesbrxnchxngpak khlunis xaeciyn khxhxyxkesbrunaerng kraephaaxaharaelalaisxkesb aelalaisihyxkesbthiimidmisaehtucakkartidechuxculchiph eyuxbuchxngpakxkesbkhwamphidpktikhxngphiwhnng phbidimmak phunnunaebnaelaphunxirithima phiwhnngiwtxaesngxun bxymak fnmikhwamiwtxkhwamrxnmakphidpkti xntrkiriya aekikh karrbprathanyadxksiiskhlinrwmkbxahar yaldkrd xaharesrimthimiswnphsmkhxngaekhlesiym phlitphnthesrimxaharthimiswnphsmkhxngthatuehlk yarabaythimiswnphsmkhxngaemkniesiym xacsngphlldprasiththiphaphinkarrksakhxngdxksiiskhlin enuxngcakxahar ya hruxphlitphnthesrimxahardngkhangtncathaihdxksiiskhlinthukdudsumekhasukraaeseluxdidnxylng 56 xaharsamarthldkardudsumdxksiiskhlinlngidxyangminysakhy odykardudsumyaklumettraiskhlinnncaekidkhuninkraephaaxaharaelalaiselkswnbn miraynganwaphlitphnthcaknm xalumieniymihdrxkisd osediymibkharbxent ekluxaekhlesiymaelaaemkniesiym yarabaythimiswnphsmkhxngaemkniesiymaelathatuehlk miklikthimiphltxkardudsumkhxngyaklumni phankarekidkhielchnaelaephimphiexchinkraephaaxahar cakehtuphldngklaw cungkhwraenanaihaenanaphupwythimikhwamcaepntxngidrbkarrksadwydxksiiskhlinkhwrrbprathaninkhnathxngwang 57 inxditepnthiechuxknwadxksiiskhlinthaihprasiththiphaphinkarkhumkaenidkhxnghxromnkhumkaenidldlng enuxngcakkarkratun CYP450 aetkarsuksawicylasudklbphbwa yaptichiwnainklumettraiskhlinswnihy rwmthungdxksiiskhlin nnimidmiphlrbkwnprasiththiphaphinkarkhumkaenidkhxnghxromndngklawihldtalngcnthungradbthiminysakhythangsthitiaetxyangid xyangirktam aephthyhlaykhnyngkhngaenanaihichkarkhumkaenidwithixunrwmdwysahrbkhnmikhwamcaepntxngidrbkarrksadwydxksiiskhlininkhnathikalngrbprathanyaemdkhumkaenidchnidhxromnrwmephuxpxngknkartngkhrrphthiimphungprasngkh 58 59 60 karichinhyingtngkhrrphaelaihnmbutr aekikh dxksiiskhlinidrbkarcdradbkhwamesiyngtxtharkinkhrrphcakxngkhkarxaharaelayakhxngshrthxemrikaihxyuinradb D echnediywknkbyaptichiwnachnidxun inklumettraiskhlin enuxngcakyaptichiwnainklumdngklawmiphlinkarkhdkhwangkarphthnakhxngkradukaelafnkhxngtwxxninkhrrph rwmipthungtharkaerkekidaelaedkthimixayunxykwa 8 pi 61 dngnn dxksiiskhlincungmikhxhamichinklumprachakrdngklaw ykewn inkrniichsahrbkarrksaorkhaexnaethrks hruxmikhxhamichthirunaerngtxyaptichiwnaxun hruxrksadwyyaptichiwnaxunaelwimidphl 44 dxksiiskhlinepnyaptichiwnathiimthukkhbxxkthangnanmhruxthukkhbxxkidnxymak thngni aemcaphbkarekidxakarimphungprasngkhkbfnaelakradukkhxngedkthiidrbkarbriharyaptichiwnaklumettraiskhlinodytrng aetphlkrathbehlaniimidrbkarbnthukiwintharkthixacidrbyadngklawphannmaem aemwaprimanyaklumdngklawthithukkhbxxkmainnanmcamiprimanthinxymak aetinthangthvsdiaelw tharkthirbprathannmaeminkhnathiaemidrbkarrksadwyyaklumdngklawkyngmikhwamesiyngtxkarekidxakarimphungprasngkh thungaemcaxyuinradbthielknxyktam 62 karsuksawicy aekikh aephnphaphcalxngkarsuksarabb Tet ON thiichdxksiiskhlinehniywnaihekidkaraesdngxxkkhxngthransyinin short hairpin RNA shRNA emuxichdxksiiskhlininkhnadtawakhnadthimiphlinkartanculchiph yanicamikhunsmbtiinkarybyngexnismemthriksemthloloprtiexs martrix metalloproteinases MMPs thaihmikarnadxksiiskhlinmaichinrabbkarthdlxngtang ephuxmunghwngphlkarybyngdngklaw echn karichephuxybyngkarekidkracktathlxksasxn Recurrent corneal erosion CRE epntn 63 nxkcakniyngmiraynganthungkhwamsaercinkarichdxksiiskhlininkarrksaphupwyorkh LAM lymphangioleiomyomatosis rayhnung sungepnorkhthimiphyakrnorkhrunaerngaelaesiychiwitidngay 64 aelakarsuksainhnuthdlxngxikkarsuksahnungphbwadxksiiskhlinsamarthbrrethaxakarkhxngorkhklamenuxhwichnatwphidpkti sungepnorkhthiepnphlesiycakkarthimikhwamdnolhitsungtxenuxngepnrayaewlananodyimidrbkarrksathiehmaasm 65 yingipkwann bangkarsuksaphbwakarichdxksiiskhlininphupwyorkhpxdxudkneruxrngthimixakarkhngthiaelw samarthephimprasiththiphaphinkarthangankhxngpxdid 66 nxkcakthiklawmadngkhangtn dxksiiskhlinyngthuknamaichinkarsuksa tet on karaesdngxxkkhxngyinthithukkratunodydxksiiskhlin aela tet off karaesdngxxkkhxngyinthithukybyngiwodydxksiiskhlin sungepnkarsuksakarthxdrhsphnthukrrmthithukkhwbkhumodyettraiskhlin Tetracycline controlled transcriptional activation ephuxkhwbkhumkaraesdngxxkkhxngyinthransinculchiphaelaesllephaaeliyng 67 sungkarichdxksiiskhlininkarsuksathdlxngdngklawcamikhwamkhngtwmakkwakarichettraiskhlin 67 karsuksathdlxngxun thimikarichdxksiiskhlin idaek karrksaorkhcxtaesuxm Macular degeneration 68 karrksaorkhtidechuxthiekidcakexnethxorkhxkhkhsthiduxtxaewnokhmysin 69 karrksaaephltidechuxthiekidcakkarkdkhxngstw aephltidechuxaebkhthieriy Pasteurella multocida aela Pasteurella pneumotropica 70 karrksakhxxkesbrumatxyddwydxksiiskhlinaethnmioniskhlin yathngsxngaesdngihehnthungprasiththiphaphinkarrksaorkhnixyangphxpraman 71 karxkesberuxrngkhxngorkhpxd hlxdlmfxyxkesb hxbhud sistik ifobrsis hlxdlmxkesb 72 73 sungthngdxksiiskhlinaelamioniskhlinmiprasiththiphaphinkarrksaorkhhxbhud xnenuxngmacakphumitanthaninrabbphumikhumkn 74 karrksasarkhxyodsis sarcoidosis 75 76 karrksaphngphudthipxdthiimthrabsaehtukarekid Idiopathic pulmonary fibrosis IPF 77 karichdxksiiskhlinepntwthaptikiriya aekikh dxksiiskhlinaelayaptichiwnachnidxun inklumettraiskhlinmkthuknamaichepnmkthuknamaichepntwthaptikiriyathngkarsuksawicydanchiwkaraephthythiekiywkhxngkbaebkhthieriythngnxk in vitro aelainrangkaymnusy in vivo rwmipthungkarsuksainculchiphaelaesllyukharioxtxun thisamarthehniywnaihekidkaraesdngxxkkhxngoprtinodykarichwithikarkarkhwbkhumkarthxdrhsphnthukrrmdwyettraiskhlin Tetracycline controlled transcriptional activation klikkarxxkvththitanechuxaebkhthieriykhxngyaklumettraiskhlinxasykarrbkwnkaraeprrhsphnthukrrmkhxngoprtininaebkhthieriy sungcathalaykhwamsamarthinkarecriyaelasxmaesmtwexngculinthriydngklaw xyangirktam karybyngkaraeprrhsphnthukrrmoprtininimothkhxnedriykhxngesllyukharioxtthiichinkarthdlxngcasngphlihrabbemaethbxlisumthanganphidphlad aelanaipsuphlkrathbthixacsrangkhwamesiyhaykbphlkarthdlxngid 78 79 nxkcakni bangkarsuksayngphbwa dxksiiskhlinxacmivththiinkartanmaerngbangchnidid 80 sngkhmaelawthnthrrm aekikhhlngcaksiththibtryadxksiiskhlinkhxngifesxrsinsudlng bristhyaaelaekhmiphnthhlaybristhidthakarphlitdxksiiskhlinphayitchuxkarkhathiaetktangknxxksutladyaepncanwnmak aelamikarichyaptichiwnachnidniknxyangaephrhlaythwolk 81 inpccubn dxksiiskhlinthukcdihepnhnunginyasakhykhxngraykaryathicaepnkhxngxngkhkarxnamyolk World Health Organization s List of Essential Medicines sungepnraykaryathimiprasiththiphaphaelakhwamplxdphysungaelamikhwamsakhyepnladbaerkkhxngrabbsukhphaphphunthankhxngprachachninpraethstang 5 aelamirakhathuk 1 6 odyrakhasahrbkarkhaysnginpraethskalngphthnannmimulkhapraman 0 01 0 04 dxllarshrthtxaekhpsul 7 xangxing aekikh 1 00 1 01 1 02 1 03 1 04 1 05 1 06 1 07 1 08 1 09 1 10 1 11 1 12 Doxycycline calcium The American Society of Health System Pharmacists ekb cakaehlngedimemux 23 September 2015 subkhnemux Aug 18 2015 Nelson ML Levy SB December 2011 The history of the tetracyclines Annals of the New York Academy of Sciences 1241 17 32 doi 10 1111 j 1749 6632 2011 06354 x PMID 22191524 Fischer Janos Ganellin C Robin 2006 Analogue based Drug Discovery phasaxngkvs John Wiley amp Sons p 489 ISBN 9783527607495 Corey E J 2013 Drug discovery practices processes and perspectives Hoboken N J John Wiley amp Sons p 406 ISBN 9781118354469 5 0 5 1 WHO Model List of Essential Medicines 19th List PDF World Health Organization April 2015 ekb PDF cakaehlngedimemux 13 December 2016 subkhnemux 8 December 2016 6 0 6 1 Hamilton Richard J 2011 Tarascon pharmacopoeia 2011 library ed 2011 ed 12th ed Sudbury MA Jones amp Bartlett Learning p 79 ISBN 9781449600679 7 0 7 1 Doxycycline International Medical Products Price Guide subkhnemux 16 January 2018 Officials Question the Rising Costs of Generic Drugs New York Times Oct 7 2014 ekb cakaehlngedimemux 28 October 2015 subkhnemux 22 September 2015 9 0 9 1 Nelson ML Levy SB Dec 2011 The history of the tetracyclines Ann N Y Acad Sci 1241 17 32 doi 10 1111 j 1749 6632 2011 06354 x PMID 22191524 Axel Kleemann Jurgen Engel 1982 Pharmazeutische Wirkstoffe Synthesen Patente Anwendungen 2nd ed Stuttgart New York Thieme p 339 40 ISBN 3 13 558402 X Justima US Law 1980 Pfizer Inc v International Rectifier Corp 545 F Supp ed C D Cal p 486 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2015 02 24 subkhnemux 2018 03 01 12 0 12 1 The Associated Press 6 July 1983 Pfizer to Get Rachelle Units Archived 6 minakhm 2016 thi ewyaebkaemchchin The New York Times Nationwide Shortage of Doxycycline Resources for Providers and Recommendations for Patient Care CDC Health Alert Network 12 June 2013 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2015 02 15 subkhnemux 2018 03 01 Doxycycline Capsules and Tablets American Society of Health System Pharmacists 12 December 2014 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2015 01 01 subkhnemux 2018 03 01 Doxycycline Hyclate Injection American Society of Health System Pharmacists 12 November 2014 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2015 01 01 subkhnemux 2018 03 01 FDA reports shortage of doxycycline antibiotic What are your options Consumer Reports News 4 February 2013 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2015 01 01 subkhnemux 2018 03 01 Sudden increase in cost of common drug concerns many khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2014 12 31 subkhnemux 2018 03 01 Rosenthal Elisabeth 7 October 2014 Officials Question the Rising Costs of Generic Drugs The New York Times khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 23 February 2017 Eric Palmer 13 March 2014 Hikma hits the jackpot with doxycycline shortage Fierce Pharma Manufacturing khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2015 01 01 subkhnemux 2018 03 01 Costco Drug Information ekb cakaehlngedimemux 4 March 2016 subkhnemux July 31 2016 Doxycycline Hyclate Prices and Doxycycline Hyclate Coupons GoodRx ekb cakaehlngedimemux 28 July 2016 subkhnemux July 31 2016 DAN 5440 DAN 5440 Doxycycline 100 mg phasaxngkvs Drug com subkhnemux 2 March 2018 Flower R Rang H P Dale M M Ritter J M Henderson G 2012 Rang amp Dale s Pharmacology Edinburgh Churchill Livingstone ISBN 978 0 7020 3471 8 Agwuh KN MacGowan A 2006 Pharmacokinetics and pharmacodynamics of the tetracyclines including glycylcyclines J Antimicrob Chemother 58 2 256 265 doi 10 1093 jac dkl224 PMID 16816396 World Health Organization 1991 Principles and methods for the assessment of nephrotoxicity associated with exposure to chemicals Environmental health criteria p 119 ISBN 92 4 157119 5 ISSN 0250 863X khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2011 05 10 subkhnemux 2018 03 02 26 0 26 1 David A Williams Thomas L Lemke 2002 Foye s Principles of Medicinal Chemistry 5th ed Philadelphia Lippincott Williams amp Wilkins ISBN 9781451175721 27 0 27 1 Goodman amp Gilman s The Pharmacological Basis of Therapeutics 12ed Laurence L Brunton Bruce A Chabner Bjorn C Knollmann Sweet RL Schachter J Landers DV Ohm Smith M Robbie MO 1988 Treatment of hospitalized patients with acute pelvic inflammatory disease comparison of cefotetan plus doxycycline and ana doxycycline Am J Obstet Gynecol 158 3 Pt 2 736 41 PMID 3162653 Gjonnaess H Holten E 1978 Doxycycline Vibramycin in pelvic inflammatory disease Acta Obstet Gynecol Scand 57 2 137 9 doi 10 3109 00016347809155893 PMID 345730 Maatta M Kari O Tervahartiala T aelakhna 2006 Tear fluid levels of MMP 8 are elevated in ocular rosacea treatment effect of oral doxycycline Graefes Arch Clin Exp Ophthalmol 244 8 957 62 doi 10 1007 s00417 005 0212 3 PMID 16411105 Quarterman MJ Johnson DW Abele DC Lesher JL Hull DS Davis LS 1997 Ocular rosacea Signs symptoms and tear studies before and after treatment with doxycycline Arch Dermatol 133 1 49 54 doi 10 1001 archderm 133 1 49 PMID 9006372 Walker DH Paddock CD Dumler JS November 2008 Emerging and re emerging tick transmitted rickettsial and ehrlichial infections Med Clin North Am 92 6 1345 61 x doi 10 1016 j mcna 2008 06 002 PMID 19061755 Michael L Rekart December 2014 Doxycycline New treatment of choice for genital chlamydia infections ekb cakaehlngedimemux 2 February 2017 Dahl EL Shock JL Shenai BR Gut J DeRisi JL Rosenthal PJ 2006 Tetracyclines specifically target the apicoplast of the malaria parasite Plasmodium falciparum Antimicrob Agents Chemother 50 9 3124 31 doi 10 1128 AAC 00394 06 PMC 1563505 PMID 16940111 Lalloo DG Shingadia D Pasvol G aelakhna February 2007 UK malaria treatment guidelines J Infect 54 2 111 21 doi 10 1016 j jinf 2006 12 003 PMID 17215045 Doxycycline spectrum of bacterial susceptibility and Resistance PDF ekb PDF cakaehlngedimemux 1 February 2014 subkhnemux 4 May 2012 Stoddard Robyn A Galloway Renee L Guerra Marta A July 10 2015 Leptospirosis Chapter 3 wwwnc cdc gov phasaxngkvs Atlanta GA Centers for Disease Control and Prevention ekb cakaehlngedimemux 9 April 2017 subkhnemux April 16 2017 Nadelman RB Luger SW Frank E Wisniewski M Collins JJ Wormser GP 1992 Comparison of cefuroxime axetil and doxycycline in the treatment of early Lyme disease Annals of Internal Medicine 117 4 273 80 doi 10 7326 0003 4819 117 4 273 PMID 1637021 Luger SW Paparone P Wormser GP aelakhna March 1995 Comparison of cefuroxime axetil and doxycycline in treatment of patients with early Lyme disease associated with erythema migrans Antimicrob Agents Chemother 39 3 661 7 doi 10 1128 AAC 39 3 661 PMC 162601 PMID 7793869 Nadelman RB Nowakowski J Fish D aelakhna 2001 Prophylaxis with single dose doxycycline for the prevention of Lyme disease after an Ixodes scapularis tick bite N Engl J Med 345 2 79 84 doi 10 1056 NEJM200107123450201 PMID 11450675 ekb cakaehlngedimemux 5 January 2008 Karlsson M Hammers Berggren S Lindquist L Stiernstedt G Svenungsson B 1994 Comparison of intravenous penicillin G and oral doxycycline for treatment of Lyme neuroborreliosis Neurologe 44 7 1203 7 doi 10 1212 WNL 44 7 1203 PMID 8035916 Weinstein RS 1996 Human ehrlichiosis Am Fam Physician 54 6 1971 6 PMID 8900357 Karlsson U Bjoersdorff A Massung RF Christensson B 2001 Human granulocytic ehrlichiosis a clinical case in Scandinavia Scand J Infect Dis 33 1 73 4 doi 10 1080 003655401750064130 PMID 11234985 44 0 44 1 44 2 44 3 44 4 44 5 44 6 U S Food and Drug Administration 14 December 2012 Doxycycline ANDA no 065055 Label Archived 19 emsayn 2014 thi ewyaebkaemchchin 45 0 45 1 45 2 45 3 45 4 U S Food and Drug Administration 16 July 2008 Doxycycline ANDA no 065454 Label Archived 19 tulakhm 2013 thi ewyaebkaemchchin Anderson A Bijlmer H Fournier PE Graves S Hartzell J Kersh GJ Limonard G Marrie TJ Massung RF McQuiston JH Nicholson WL Paddock CD Sexton DJ 2013 Diagnosis and management of Q fever United States 2013 recommendations from CDC and the Q Fever Working Group MMWR Recomm Rep 62 1 30 PMID 23535757 ekb cakaehlngedimemux 19 April 2014 Okada T Morozumi M Tajima T Hasegawa M Sakata H Ohnari S Chiba N Iwata S Ubukata K 2012 Rapid effectiveness of minocycline or doxycycline against macrolide resistant Mycoplasma pneumoniae infection in a 2011 outbreak among Japanese children Clin Infect Dis 55 12 1642 9 doi 10 1093 cid cis784 PMID 22972867 Lyme disease Treatment ekb cakaehlngedimemux 10 June 2016 William Cameron Comparison of doxycycline streptomycin doxycycline rifampin and ofloxacin rifampin in the treatment of brucellosis a randomized clinical trial subkhnemux 23 August 2014 Hoerauf A Mand S Fischer K aelakhna 2003 Doxycycline as a novel strategy against bancroftian filariasis depletion of Wolbachia endosymbionts from Wuchereria bancrofti and stop of microfilaria production Med Microbiol Immunol 192 4 211 6 doi 10 1007 s00430 002 0174 6 PMID 12684759 Taylor MJ Makunde WH McGarry HF Turner JD Mand S Hoerauf A 2005 Macrofilaricidal activity after doxycycline treatment of Wuchereria bancrofti a double blind randomised placebo controlled trial Lancet 365 9477 2116 21 doi 10 1016 S0140 6736 05 66591 9 PMID 15964448 Doxycycline hyclate Susceptibility and Minimum Inhibitory Concentration MIC Data PDF toku e com subkhnemux April 16 2017 Center for Global Health Centers for Disease Control and Prevention 2011 Doxycycline for Malaria Chemoprophylaxis and Treatment Report from the CDC Expert Meeting on Malaria Chemoprophylaxis The American Journal of Tropical Medicine and Hygiene khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 5 July 2012 subkhnemux 17 May 2012 Center for Drug Evaluation and Research November December 2004 European recommendations on the use of oral antibiotics for acne Food and Drug Administration khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 29 May 2007 subkhnemux 31 January 2008 Informacion de prospectos autorizados Agencia espanola de medicamentos y productos sanitarios subkhnemux 15 September 2008 PubMed Health July 1 2016 Doxycycline By mouth U S National Library of Medicine ekb cakaehlngedimemux 11 November 2013 subkhnemux July 16 2016 Kshirsagar Kshirsagar N A Ankalesaria P S 1987 Effect of food on doxycycline absorption J Postgrad Med serial online 33 3 117 ISSN 0022 3859 khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2016 08 18 subkhnemux July 16 2016 Archer JS Archer DF 2002 Oral contraceptive efficacy and antibiotic interaction a myth debunked J Am Acad Dermatol 46 6 917 23 doi 10 1067 mjd 2002 120448 PMID 12063491 Dreno B Bettoli V Ochsendorf F Layton A Mobacken H Degreef H November December 2004 European recommendations on the use of oral antibiotics for acne Eur J Dermatol 14 6 391 9 PMID 15564203 DeRossi SS Hersh EV 2002 Antibiotics and oral contraceptives Dent Clin North Am 46 4 653 64 doi 10 1016 S0011 8532 02 00017 4 PMID 12436822 Mylonas I January 2011 Antibiotic chemotherapy during pregnancy and lactation period aspects for consideration Archives of gynecology and obstetrics 283 1 7 18 doi 10 1007 s00404 010 1646 3 PMID 20814687 Chung AM Reed MD Blumer JL 2002 Antibiotics and breast feeding a critical review of the literature Paediatric drugs 4 12 817 37 doi 10 2165 00128072 200204120 00006 PMID 12431134 Dursun D Kim MC Solomon A Pflugfelder SC 2001 Treatment of recalcitrant recurrent corneal erosions with inhibitors of matrix metalloproteinase 9 doxycycline and corticosteroids Am J Ophthalmol 132 1 8 13 doi 10 1016 S0002 9394 01 00913 8 PMID 11438047 Moses MA Harper J Folkman J 2006 Doxycycline treatment for lymphangioleiomyomatosis with urinary monitoring for MMPs N Engl J Med 354 24 2621 2 doi 10 1056 NEJMc053410 PMID 16775248 Errami M Galindo CL Tassa AT Dimaio JM Hill JA Garner HR 2007 Doxycycline attenuates isoproterenol and transverse aortic banding induced cardiac hypertrophy in mice J Pharmacol Exp Ther 324 3 1196 203 doi 10 1124 jpet 107 133975 PMID 18089841 Dalvi PS Singh A Trivedi HR aelakhna 2011 Effect of doxycycline in patients of moderate to severe chronic obstructive pulmonary disease with stable symptoms Ann Thorac Med 6 4 221 6 doi 10 4103 1817 1737 84777 PMC 3183640 PMID 21977068 ekb cakaehlngedimemux 22 March 2012 67 0 67 1 Gossen M Freundlieb S Bender G Muller G Hillen W Bujard H 1995 Transcriptional activation by tetracyclines in mammalian cells Science 268 5218 1766 1769 doi 10 1126 science 7792603 PMID 7792603 Leung E Landa G September 2013 Update on current and future novel therapies for dry age related macular degeneration Expert review of clinical pharmacology 6 5 565 79 doi 10 1586 17512433 2013 829645 PMID 23971874 Saraiva IH Jones RN Erwin M Sader HS 1997 Evaluation of antimicrobial sensitivity of 87 clinical isolates of vancomycin resistant enterococci Rev Assoc Med Bras phasaoprtueks 43 3 217 22 doi 10 1590 S0104 42301997000300009 PMID 9497549 Dibb WL Digranes A 1981 Characteristics of 20 human Pasteurella isolates from animal bite wounds Acta Pathol Microbiol Scand B 89 3 137 41 PMID 7315339 Greenwald RA December 2011 The road forward the scientific basis for tetracycline treatment of arthritic disorders Pharmacol Res 64 6 610 3 doi 10 1016 j phrs 2011 06 010 PMID 21723947 Raza M Ballering JG Hayden JM Robbins RA Hoyt JC 2006 Doxycycline decreases monocyte chemoattractant protein 1 in human lung epithelial cells Exp Lung Res 32 1 2 15 26 doi 10 1080 01902140600691399 PMID 16809218 Chodosh S Tuck J Pizzuto D 1988 Comparative trials of doxycycline versus amoxicillin cephalexin and enoxacin in bacterial infections in chronic bronchitis and asthma Scand J Infect Dis Suppl 53 22 8 PMID 3047855 Joks R Durkin HG December 2011 Non antibiotic properties of tetracyclines as anti allergy and asthma drugs Pharmacol Res 64 6 602 9 doi 10 1016 j phrs 2011 04 001 PMID 21501686 Bachelez H Senet P Cadranel J Kaoukhov A Dubertret L 2001 The use of tetracyclines for the treatment of sarcoidosis Arch Dermatol 137 1 69 73 doi 10 1001 archderm 137 1 69 PMID 11176663 ekb cakaehlngedimemux 7 April 2008 El Sayed F Dhaybi R Ammoury A 2006 Subcutaneous nodular sarcoidosis and systemic involvement successfully treated with doxycycline J Med Liban 54 1 42 4 PMID 17044634 Mishra GP Mulani JD Doxycycline An Old Drug With A New Role In Idiopathic Pulmonary Fibrosis Archived 23 krkdakhm 2011 thi ewyaebkaemchchin International Journal of Pharma and Bio Sciences V1 2 2010 ISSN 0975 6299 Moullan N Mouchiroud L Wang X Ryu D Williams EG Mottis A Jovaisaite V Frochaux MV Quiros PM Deplancke B Houtkooper RH Auwerx J 2015 Tetracyclines Disturb Mitochondrial Function across Eukaryotic Models A Call for Caution in Biomedical Research Celll Reports 10 10 1681 91 doi 10 1016 j celrep 2015 02 034 PMID 25772356 Chatzispyrou IA Held NM Mouchiroud L Auwerx J Houtkooper RH 2015 Tetracycline antibiotics impair mitochondrial function and its experimental use confounds research Cancer Research 75 21 4446 9 doi 10 1158 0008 5472 CAN 15 1626 PMID 26475870 Ali Isra Alfarouk Khalid Omer Reshkin Stephan Joel Ibrahim Muntaser Eltayeb 2017 Doxycycline as Potential Anti cancer Agent Anti Cancer Agents in Medicinal Chemistry 17 12 1617 1623 doi 10 2174 1871520617666170213111951 PMID 28270076 drugs com Drugs com international availability for doxycycline khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2015 05 16 subkhnemux April 29 2015 aehlngkhxmulxun aekikhkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb dxksiiskhlinexksarkakbya Doxycycline Drug Information Portal U S National Library of Medicine Research webpage of Mark Taylor who has pioneered the use of doxycycline as an antihelmintic The Anti Wolbachia Consortium uses drugs like doxycycline to treat parasitic diseasesekhathungcak https th wikipedia org w index php title dxksiiskhlin amp oldid 9566427, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม